สวัสดีค่ะ
...ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่าเป็นครั้งแรกของการเขียน Blog ใน Pantip นะคะ หากผิดพลาดหรือมีความเวิ่นเว้อประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เราจะขอเล่าประสบการณ์การสมัครแอร์โฮสเตส ของสายการบินตะวันออกกลาง ระดับ 5 ดาว ที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันนะคะ ทั้งในประเทศไทยและประเทศฮ่องกงค่ะ ตอนนี้เราอายุ 28 ปีบริบูรณ์ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยสมัครแอร์มา 5 ครั้งค่ะ เป็นสายการบิน Qatar Airways 3 ครั้ง (รวม event ล่าสุด) และ Emirates (2 ครั้ง) เนื่องด้วยเป็นคนตรงๆ คิดไม่น่าจะเหมาะกับสายเอเชียสักเท่าไหร่ แต่เรื่องวันนี้เน้น QR ล้วนๆๆๆๆแบบเข้มข้นเลยค่ะ
เริ่นต้นครั้งที่ 1
Bangkok Jan 30th 2013
ย้อนวัยการสมัคร Cabin crew ครั้งแรกในชีวิต คือสายการบินการ์ต้าเลยค่ะ ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบโทจากอังกฤษ และย้ายไปอยู่ฮ่องกง เป็นช่วงว่างงาน ว้าเหว่ เลิกกับแฟน วันๆเล่นแต่ Hay Day ทีนี้จะหางานอะไรที่เราพอจะพุ่งตัวเข้าไปขายตัวเองกับบริษัทได้เลยทันที และด้วยทักษะภาษาอังกฤษที่มีพร้อม เลยหนีไม่พ้นงาน Cabin Crew นั่นเองค่ะ ตอนนั้นส่ง CV ไป ก็ได้ Invitation มาค่ะ นัดวันที่ 30 Jan 2013 จองตั๋วบินกลับมาที่กรุงเทพ ตื่นตี4 แต่งหน้า+ทำผม อย่างเต็มที่ รอบนั้นขั้นตอนเป็นดังนี้
1. พบปะคณะกรรมการเพื่อลงทะเบียน
รอบนี้จะเดินไปส่งเอกสารหลักฐาน พบปะพูดคุยแบบ chitchat นิดหน่อย ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ความสดใส เมื่อได้หมายเลขก็เข้าประจำที่ได้เลยค่ะ
2. เปิดประตูสู่โลกการ์ต้า
ช่วงนี้จะเป็น Presentation ค่ะ ระเบียบต่างๆ การคิดเงินเดือน บลาๆๆๆ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไปปปปปป
3. จากนั้นทำ English Test ต่อเลยค่ะ
ถ้าถามว่าข้อสอบเป็นไงยากมั้ย อันนี้ต้องขอโทษเลยค่ะ คือจำไม่ได้จริงๆ แต่ระหว่างที่ทำข้อสอบ Recruiter ก็จะเรียก Candidate แต่ละคนออกมาเพื่อเอื้อมแตะให้ถึง Requirement ซึ่งก็คือ 212 cm และจะเชคผิวหน้า ผิวพรรณ ให้ declare birthmark/ protruding mole/ scar/ tattoo รอบนั้นใครติดขนตาปลอมมา ให้ดึงออกตรงนั้นเลยค่ะ คอนแทคเลนส์สีๆก็ห้ามมม ถุงน่องก็ไม่ได้ งานผิวต้องมาาาาา งานจริงต้องมี งานดีต้องโชว์ อะไรแบบนี้ 5555
4. จากนั้นทำข้อสอบเสร็จ ก็พักผ่อนตามอัธยาศัยระหว่างตรวจข้อสอบค่ะ และเรียกเข้าห้องอีกครั้ง คนที่ถูกประกาศหมายเลขจะได้ไปต่อ ถ้าหมายเลขเราไม่ได้ออกมาจากปากเค้า ก็เก็บประเป๋ากลับบ้านค่ะ ก็มีผู้บาดเจ็บ ล้มหายกันไปในรอบนี้ แต่เรายัง ไปต่อค่ะ!!!!!
5. Group Discussion
รอบนี้คือความกังวลของผู้เข้าสมัครทุกคนค่ะ คนพูดเยอะไม่ผ่านก็มี คนพูดน้อยผ่านก็มา คนที่ไม่พูดเลยก็ผ่าน...แบบนี้ก็ได้หรอ 5555 ส่วนกรุ๊ปเรามี 10 คนได้ค่ะ ให้พูดถึงศิลปะวัฒนธรรมของไทยที่จะนำเสนอมีอะไรยังไงบ้าง นี่เราก็พูดถึงดนตรี พูดไป 2-3 ประโยคงี้ แค่ครั้งเดียว กรรมการจะเวินวนๆๆๆๆ รอบๆๆๆๆ และสังเกตการทุกอย่างค่ะ หลายๆคนชอบพูดว่า ดวงล้วนๆๆๆๆๆๆ แม้กระทั่งสาวแอร์การ์ต้าเองก็พูดคำนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นไหว้พระ และพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไว้ค่ะ
6. ประกาศผล
ใช้เวลาไม่นานมากค่ะ ก็เรียกเข้าห้องมาประกาศหมายเลข มีเลขเราก็ไปต่อ ไม่มีก็เก็บของม้วนเสื่อกลับบ้าน และเราก็เป็นแบบหลังค่ะ ม้วนเสื่อผืนหมอน2ใบ กลับประเทศฮ่องกง เพราะอะไรหนะหรอ ก็เพราะว่า มี Open day ของ Qatar Airways ต่อที่ฮ่องกง ในวันที่ 4 Feb 2013 อ่ะสิคะท่านผู้ช๊มมมมมมมม
อันนี้ยาวละ เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะคะ เล่าตอนไป Walk-in ที่ฮ่องกง และเราผ่านไปจนถึงรอบสุดท้ายแบบรอ Medical check-up แต่ชีวิตกับพลิกผัน จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาต่อตอน 2 ค่ะ
ชีวิตหลังงาน Open Day ของสายการบิน Qatar Airways (Bangkok 3-5 Sep 16)
เราจะขอเล่าประสบการณ์การสมัครแอร์โฮสเตส ของสายการบินตะวันออกกลาง ระดับ 5 ดาว ที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันนะคะ ทั้งในประเทศไทยและประเทศฮ่องกงค่ะ ตอนนี้เราอายุ 28 ปีบริบูรณ์ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยสมัครแอร์มา 5 ครั้งค่ะ เป็นสายการบิน Qatar Airways 3 ครั้ง (รวม event ล่าสุด) และ Emirates (2 ครั้ง) เนื่องด้วยเป็นคนตรงๆ คิดไม่น่าจะเหมาะกับสายเอเชียสักเท่าไหร่ แต่เรื่องวันนี้เน้น QR ล้วนๆๆๆๆแบบเข้มข้นเลยค่ะ
เริ่นต้นครั้งที่ 1
ย้อนวัยการสมัคร Cabin crew ครั้งแรกในชีวิต คือสายการบินการ์ต้าเลยค่ะ ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบโทจากอังกฤษ และย้ายไปอยู่ฮ่องกง เป็นช่วงว่างงาน ว้าเหว่ เลิกกับแฟน วันๆเล่นแต่ Hay Day ทีนี้จะหางานอะไรที่เราพอจะพุ่งตัวเข้าไปขายตัวเองกับบริษัทได้เลยทันที และด้วยทักษะภาษาอังกฤษที่มีพร้อม เลยหนีไม่พ้นงาน Cabin Crew นั่นเองค่ะ ตอนนั้นส่ง CV ไป ก็ได้ Invitation มาค่ะ นัดวันที่ 30 Jan 2013 จองตั๋วบินกลับมาที่กรุงเทพ ตื่นตี4 แต่งหน้า+ทำผม อย่างเต็มที่ รอบนั้นขั้นตอนเป็นดังนี้
1. พบปะคณะกรรมการเพื่อลงทะเบียน
รอบนี้จะเดินไปส่งเอกสารหลักฐาน พบปะพูดคุยแบบ chitchat นิดหน่อย ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ความสดใส เมื่อได้หมายเลขก็เข้าประจำที่ได้เลยค่ะ
2. เปิดประตูสู่โลกการ์ต้า
ช่วงนี้จะเป็น Presentation ค่ะ ระเบียบต่างๆ การคิดเงินเดือน บลาๆๆๆ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไปปปปปป
3. จากนั้นทำ English Test ต่อเลยค่ะ
ถ้าถามว่าข้อสอบเป็นไงยากมั้ย อันนี้ต้องขอโทษเลยค่ะ คือจำไม่ได้จริงๆ แต่ระหว่างที่ทำข้อสอบ Recruiter ก็จะเรียก Candidate แต่ละคนออกมาเพื่อเอื้อมแตะให้ถึง Requirement ซึ่งก็คือ 212 cm และจะเชคผิวหน้า ผิวพรรณ ให้ declare birthmark/ protruding mole/ scar/ tattoo รอบนั้นใครติดขนตาปลอมมา ให้ดึงออกตรงนั้นเลยค่ะ คอนแทคเลนส์สีๆก็ห้ามมม ถุงน่องก็ไม่ได้ งานผิวต้องมาาาาา งานจริงต้องมี งานดีต้องโชว์ อะไรแบบนี้ 5555
4. จากนั้นทำข้อสอบเสร็จ ก็พักผ่อนตามอัธยาศัยระหว่างตรวจข้อสอบค่ะ และเรียกเข้าห้องอีกครั้ง คนที่ถูกประกาศหมายเลขจะได้ไปต่อ ถ้าหมายเลขเราไม่ได้ออกมาจากปากเค้า ก็เก็บประเป๋ากลับบ้านค่ะ ก็มีผู้บาดเจ็บ ล้มหายกันไปในรอบนี้ แต่เรายัง ไปต่อค่ะ!!!!!
5. Group Discussion
รอบนี้คือความกังวลของผู้เข้าสมัครทุกคนค่ะ คนพูดเยอะไม่ผ่านก็มี คนพูดน้อยผ่านก็มา คนที่ไม่พูดเลยก็ผ่าน...แบบนี้ก็ได้หรอ 5555 ส่วนกรุ๊ปเรามี 10 คนได้ค่ะ ให้พูดถึงศิลปะวัฒนธรรมของไทยที่จะนำเสนอมีอะไรยังไงบ้าง นี่เราก็พูดถึงดนตรี พูดไป 2-3 ประโยคงี้ แค่ครั้งเดียว กรรมการจะเวินวนๆๆๆๆ รอบๆๆๆๆ และสังเกตการทุกอย่างค่ะ หลายๆคนชอบพูดว่า ดวงล้วนๆๆๆๆๆๆ แม้กระทั่งสาวแอร์การ์ต้าเองก็พูดคำนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นไหว้พระ และพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไว้ค่ะ
6. ประกาศผล
ใช้เวลาไม่นานมากค่ะ ก็เรียกเข้าห้องมาประกาศหมายเลข มีเลขเราก็ไปต่อ ไม่มีก็เก็บของม้วนเสื่อกลับบ้าน และเราก็เป็นแบบหลังค่ะ ม้วนเสื่อผืนหมอน2ใบ กลับประเทศฮ่องกง เพราะอะไรหนะหรอ ก็เพราะว่า มี Open day ของ Qatar Airways ต่อที่ฮ่องกง ในวันที่ 4 Feb 2013 อ่ะสิคะท่านผู้ช๊มมมมมมมม
อันนี้ยาวละ เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะคะ เล่าตอนไป Walk-in ที่ฮ่องกง และเราผ่านไปจนถึงรอบสุดท้ายแบบรอ Medical check-up แต่ชีวิตกับพลิกผัน จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาต่อตอน 2 ค่ะ