ขออนุญาตพูดถึงบ้านเกิดตัวเองนะครับ:-
การถือกำเนิดของเมืองอุดรธานีมาจากเหตุผลทางการเมืองล้วนๆ เป็นการเมืองระหว่างสามประเทศ คือลาวที่อยู่ในอาณัติของฝรั่งเศสในช่วงนั้น ไทย และฝรั่งเศส ไทยเกิดข้อพิพาทกับฝรั่งเศสชายแดนบริเวณลำน้ำโขงและบรรลุข้อตกลงกันว่า กองทัพสยามที่อยู่หนองคายตอนนั้นต้องไปตั้งในทำเลอื่นในรัศมีที่ห่างจากชายแดนลาว50 กิโลเมตร นั่นคือจุดกำเนิดของเมืองอุดรธานี ที่มีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมที่คุมมณฑลอุดรในตอนนั้นย้ายจากหนองคายมาตั้งเมืองอุดรในปัจจุบัน
อุดรฯ มีนักการเมืองสายประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ และเผด็จการที่ถือกำเนิดแลอาศัยอยู่มากพอสมควร อย่างจอมพลประภาส จารุเสถียร หรือนักการเมืองระดับโลกอย่าง “ลุงโฮ” โอจิมินห์ ก็เคยมาพำนักอาศัยในอุดรฯ ระยะหนึ่งในระหว่างเตรียมงานปฏิวัติกู้ชาติเวียดนาม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอย่างพันเอกสมคิด ศรีสังคม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างประจวบ ไชยสาสน์ ขุนพลภูพานอย่างเตียง ศิริขันธ์ก็เคยมาสอนหนังสืออยู่ที่อุดรฯ
อุดรธานีสมัยก่อนเป็นเมืองใหญ่มีจำนวนสส.ได้เยอะมากจึงเป็นที่หมายตาของพรรคการเมืองต่างๆ และในอดีตพรรคขวัญใจของชาวอุดรฯ ก็คือพรรคเดียวกันที่เป็นขวัญใจชาวกรุงเทพฯ แทบจะเรียกได้ว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ในภาคอีสาน รมต.หญิงคนแรกของจังหวัดหรือของภาคอีสาน(ยังไม่ได้เช็ค)คุณเตือนใจ นุอุปละเป็นส.ส.หญิงหลายสมัยของประชาธิปัตย์
สมัยนายพิศาล มูลศาสตร์สาธรเป็นผู้ว่าฯ อุดรฯ และพลโทเปรม ติณสูลานนท์เป็นแม่ทัพภาคที่2 ชาวอุดรฯ ถูกเกณฑ์ไปต้อนรับพลโทเปรมยิ่งใหญ่ไม่แพ้นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นเลยทีเดียว ผมเป็นเด็กบ้านนอกเคยถูกเกณฑ์ไปต้อนรับพลโทเปรมสองครั้ง(นั่งรถฟรี) และนี่คือเส้นทางทางการเมืองของนายทหารที่ชื่อพลโทเปรม ติณสูลานนท์ และนี่คือสายสัมพันธ์ทางการเมืองระยะต้นของเขากับ “ปลัดฮิตาชิ” นายพิศาล มูลศาสตร์สาธร ที่เป็นกุนซือคู่ใจพลเอกเปรมมาตลอดเส้นทางการเมือง ที่ไต่ระดับจากผู้ว่าฯ เมืองภูธรอย่างอุดรฯ ขึ้นไปเป็นถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยในระยะเวลาที่แทบไม่น่าเชื่อ ฉายา” ปลัดฮิ” มาจากโทรทัศน์ยี่ห้อ “ฮิตาชิ” ที่เปิดปุ๊บได้สัญญาณปั๊บ เหนือกว่าทีวีอื่นๆ ในสมัยนั้น เปรียบได้กับคำสั่งหรือความต้องการของพลเอกเปรม สั่งตอนไหนเวลาไหน นายพิศาลก็จะสนองปั๊บและเกิดผลทันที ชาวอุดรฯ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์สนับสนุนพลเอกเปรม เป็นตรรกะทางการเมืองที่ลงตัวในยามนั้น และเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเชื้อเพลิงผลักดันส่งพลเอกเปรมเป็นดาวประดับฟ้าการเมืองไทย พลเอกเปรมย้ายสำมะโนครัวจากสงขลามาอยู่โคราช เป็นการตอบแทนเชิงจิตวิทยา
การแตกหักของชาวอุดรฯ กับประชาธิปัตย์เกิดขึ้นเมื่อ “พ่อใหญ่จิ๋ว” พลเอกชวลิต ก้าวขึ้นมาบนถนนการเมืองเข็นโครงการ “อีสานเขียว” พวกเขาสนับสนุนประชาธิปัตย์มานานนับศตวรรษ ผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันยังไม่เคยเห็น มีแต่สัญญาที่ว่างเปล่า แต่เมื่อโครงการอีสานเขียวมีรูปธรรมให้เห็น ชาวอุดรฯ ไม่ลังเลที่จะสลัดประชาธิปัตย์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ในอุดรธานีเริ่มร่อยหรอ และสูญพันธ์ไปในที่สุดเมื่อโครงการสามสิบบาทเป็นรูปธรรม พรรคประชาธิปัตย์ตอบแทนชาวอุดรฯ ที่เคยสนับสนุนที่แม้บางสมัยพรรคเกือบกวาดที่นั่งเกือบทุกเขตด้วยการบอกว่า “คนอีสานเห็นแก่เงิน ไม่เข้าใจระบอบการเมือง”
ในช่วงที่พธม. กำลังกร่างทั่วราชอาณาจักร ฮึกเหิมไปเปิดปราศัยประเดิมที่หอประชุมวิทยาลัยครูอุดรธานีจนเกิดเหตุการณ์ “ปิดประตูตีแมว” มาแล้ว พธม. มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างฐานหรือควบคุมจังหวัดอุดรธานีอันเป็นเสมือนจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคอีสานให้ได้(สมัยนั้นยังไม่มีเสื้อแดง) พยายามไปเปิดปราศัยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกชาวอุดรฯ ขับไล่ออกมาทุกครั้ง อย่างกรณีที่พธม. ไปเปิดเวทีปราศัยที่ตลาดสดบ้านห้วย ชาวอุดรฯ ก็พร้อมใจกันเปิดเวทีปราศัยอีกฟากฝั่งของถนนหันลำโพงชนกันไม่กี่สิบเมตรโดยชาวบ้านผลัดกันขึ้นไปปราศัยแข่ง หงษ์ทอง ดาวอุดร นักร้องก็เคยขึ้นเวทีแห่งนี้ หรือกรณีสุดท้ายที่ปะทะกันที่หนองประจักษ์ระหว่างพธม. กับชาวอุดรฯ นับตั้งแต่นั้นมาพธม.ก็ขยาดที่จะไปปราศัยที่อุดรฯ
ในอดีต คนอุดรธานีส่วนใหญ่เคยให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสิบปีแล้วหันมาให้การสนับสนุนพรรคไทยรักไทย ระยะเวลาที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทยยังน้อยกว่าที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ ดังนั้นการมองว่าคนอุดรหรือเหมารวมว่าคนอีสานเห็นแก่เงิน ขายเสียงนั้นก็ควรจะลองทบทวนมองให้ละเอียดกว่านี้ ผมเชื่อว่าในอนาคต หากมีพรรคการเมืองใดที่ทำสัญญาประชาคมให้เป็นรูปธรรมและดีกว่าโครงการที่พรรคไทยรักไทยเคยทำเอาไว้ ผมเชื่อในฐานะลูกอีสานคนหนึ่งว่าคนอุดรฯและคนอีสานคงจะไม่ลังเลเลยที่จะผละจากพรรคเพื่อไทยไปสนับสนุนพรรคนั้น
ปล. อย่าแปลกใจเลยนะครับ ผมคืออดีตสาวกพรรคประชาธิปัตย์
....การเมือง ประชาธิปัตย์ คนเสื้อแดง และอุดรธานี...
การถือกำเนิดของเมืองอุดรธานีมาจากเหตุผลทางการเมืองล้วนๆ เป็นการเมืองระหว่างสามประเทศ คือลาวที่อยู่ในอาณัติของฝรั่งเศสในช่วงนั้น ไทย และฝรั่งเศส ไทยเกิดข้อพิพาทกับฝรั่งเศสชายแดนบริเวณลำน้ำโขงและบรรลุข้อตกลงกันว่า กองทัพสยามที่อยู่หนองคายตอนนั้นต้องไปตั้งในทำเลอื่นในรัศมีที่ห่างจากชายแดนลาว50 กิโลเมตร นั่นคือจุดกำเนิดของเมืองอุดรธานี ที่มีกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมที่คุมมณฑลอุดรในตอนนั้นย้ายจากหนองคายมาตั้งเมืองอุดรในปัจจุบัน
อุดรฯ มีนักการเมืองสายประชาธิปไตย คอมมิวนิสต์ และเผด็จการที่ถือกำเนิดแลอาศัยอยู่มากพอสมควร อย่างจอมพลประภาส จารุเสถียร หรือนักการเมืองระดับโลกอย่าง “ลุงโฮ” โอจิมินห์ ก็เคยมาพำนักอาศัยในอุดรฯ ระยะหนึ่งในระหว่างเตรียมงานปฏิวัติกู้ชาติเวียดนาม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอย่างพันเอกสมคิด ศรีสังคม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างประจวบ ไชยสาสน์ ขุนพลภูพานอย่างเตียง ศิริขันธ์ก็เคยมาสอนหนังสืออยู่ที่อุดรฯ
อุดรธานีสมัยก่อนเป็นเมืองใหญ่มีจำนวนสส.ได้เยอะมากจึงเป็นที่หมายตาของพรรคการเมืองต่างๆ และในอดีตพรรคขวัญใจของชาวอุดรฯ ก็คือพรรคเดียวกันที่เป็นขวัญใจชาวกรุงเทพฯ แทบจะเรียกได้ว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ในภาคอีสาน รมต.หญิงคนแรกของจังหวัดหรือของภาคอีสาน(ยังไม่ได้เช็ค)คุณเตือนใจ นุอุปละเป็นส.ส.หญิงหลายสมัยของประชาธิปัตย์
สมัยนายพิศาล มูลศาสตร์สาธรเป็นผู้ว่าฯ อุดรฯ และพลโทเปรม ติณสูลานนท์เป็นแม่ทัพภาคที่2 ชาวอุดรฯ ถูกเกณฑ์ไปต้อนรับพลโทเปรมยิ่งใหญ่ไม่แพ้นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นเลยทีเดียว ผมเป็นเด็กบ้านนอกเคยถูกเกณฑ์ไปต้อนรับพลโทเปรมสองครั้ง(นั่งรถฟรี) และนี่คือเส้นทางทางการเมืองของนายทหารที่ชื่อพลโทเปรม ติณสูลานนท์ และนี่คือสายสัมพันธ์ทางการเมืองระยะต้นของเขากับ “ปลัดฮิตาชิ” นายพิศาล มูลศาสตร์สาธร ที่เป็นกุนซือคู่ใจพลเอกเปรมมาตลอดเส้นทางการเมือง ที่ไต่ระดับจากผู้ว่าฯ เมืองภูธรอย่างอุดรฯ ขึ้นไปเป็นถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยในระยะเวลาที่แทบไม่น่าเชื่อ ฉายา” ปลัดฮิ” มาจากโทรทัศน์ยี่ห้อ “ฮิตาชิ” ที่เปิดปุ๊บได้สัญญาณปั๊บ เหนือกว่าทีวีอื่นๆ ในสมัยนั้น เปรียบได้กับคำสั่งหรือความต้องการของพลเอกเปรม สั่งตอนไหนเวลาไหน นายพิศาลก็จะสนองปั๊บและเกิดผลทันที ชาวอุดรฯ สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์สนับสนุนพลเอกเปรม เป็นตรรกะทางการเมืองที่ลงตัวในยามนั้น และเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเชื้อเพลิงผลักดันส่งพลเอกเปรมเป็นดาวประดับฟ้าการเมืองไทย พลเอกเปรมย้ายสำมะโนครัวจากสงขลามาอยู่โคราช เป็นการตอบแทนเชิงจิตวิทยา
การแตกหักของชาวอุดรฯ กับประชาธิปัตย์เกิดขึ้นเมื่อ “พ่อใหญ่จิ๋ว” พลเอกชวลิต ก้าวขึ้นมาบนถนนการเมืองเข็นโครงการ “อีสานเขียว” พวกเขาสนับสนุนประชาธิปัตย์มานานนับศตวรรษ ผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันยังไม่เคยเห็น มีแต่สัญญาที่ว่างเปล่า แต่เมื่อโครงการอีสานเขียวมีรูปธรรมให้เห็น ชาวอุดรฯ ไม่ลังเลที่จะสลัดประชาธิปัตย์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ในอุดรธานีเริ่มร่อยหรอ และสูญพันธ์ไปในที่สุดเมื่อโครงการสามสิบบาทเป็นรูปธรรม พรรคประชาธิปัตย์ตอบแทนชาวอุดรฯ ที่เคยสนับสนุนที่แม้บางสมัยพรรคเกือบกวาดที่นั่งเกือบทุกเขตด้วยการบอกว่า “คนอีสานเห็นแก่เงิน ไม่เข้าใจระบอบการเมือง”
ในช่วงที่พธม. กำลังกร่างทั่วราชอาณาจักร ฮึกเหิมไปเปิดปราศัยประเดิมที่หอประชุมวิทยาลัยครูอุดรธานีจนเกิดเหตุการณ์ “ปิดประตูตีแมว” มาแล้ว พธม. มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างฐานหรือควบคุมจังหวัดอุดรธานีอันเป็นเสมือนจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคอีสานให้ได้(สมัยนั้นยังไม่มีเสื้อแดง) พยายามไปเปิดปราศัยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกชาวอุดรฯ ขับไล่ออกมาทุกครั้ง อย่างกรณีที่พธม. ไปเปิดเวทีปราศัยที่ตลาดสดบ้านห้วย ชาวอุดรฯ ก็พร้อมใจกันเปิดเวทีปราศัยอีกฟากฝั่งของถนนหันลำโพงชนกันไม่กี่สิบเมตรโดยชาวบ้านผลัดกันขึ้นไปปราศัยแข่ง หงษ์ทอง ดาวอุดร นักร้องก็เคยขึ้นเวทีแห่งนี้ หรือกรณีสุดท้ายที่ปะทะกันที่หนองประจักษ์ระหว่างพธม. กับชาวอุดรฯ นับตั้งแต่นั้นมาพธม.ก็ขยาดที่จะไปปราศัยที่อุดรฯ
ในอดีต คนอุดรธานีส่วนใหญ่เคยให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสิบปีแล้วหันมาให้การสนับสนุนพรรคไทยรักไทย ระยะเวลาที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทยยังน้อยกว่าที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ ดังนั้นการมองว่าคนอุดรหรือเหมารวมว่าคนอีสานเห็นแก่เงิน ขายเสียงนั้นก็ควรจะลองทบทวนมองให้ละเอียดกว่านี้ ผมเชื่อว่าในอนาคต หากมีพรรคการเมืองใดที่ทำสัญญาประชาคมให้เป็นรูปธรรมและดีกว่าโครงการที่พรรคไทยรักไทยเคยทำเอาไว้ ผมเชื่อในฐานะลูกอีสานคนหนึ่งว่าคนอุดรฯและคนอีสานคงจะไม่ลังเลเลยที่จะผละจากพรรคเพื่อไทยไปสนับสนุนพรรคนั้น
ปล. อย่าแปลกใจเลยนะครับ ผมคืออดีตสาวกพรรคประชาธิปัตย์