แชร์วิธีเก็บเงินของเราเอง เผื่อใครจะนำไปปรับใช้ และเผื่อใครอยากแนะนำเราเพิ่มเติมก็จะขอบคุณยิ่ง

ยิ้ม พื้นฐานของเรา

เราเป็นแม่บ้าน + ทำงานประจำด้วย มีลูกวัยเตาะแตะ 1 คน สามี 1 คน สามีให้เงินเราเป็นรายเดือน
เราไม่สามารถเก็บเงินแบบเป๊ะๆ ได้ และจะให้เรากันงบฉุกเฉินเท่านั้นเท่านี้ บอกเลยเราทำไม่ได้  
เราอยู่กทม. มีบ้านเอง ไม่ต้องเช่า ค่ารักษาพยาบาลเบิกได้

ideas ของเรา

ต้องแบ่งค่าใช้จ่ายเป็นส่วนๆ และต้องเก็บเงิน ต้องใช้หนี้ ดังนั้น จึงต้องวางแผนใช้จ่าย และวางแผนประหยัด

วิธีการของเรา

เราเริ่มศึกษาวิธีการประหยัดจาก internet รวบรวมข้อมูล ได้ไอเดียมากมาย (ขอให้ผลบุญกลับไปที่ผู้แชร์ข้อมูลไว้ด้วย ขอให้เจริญๆ)
ได้ข้อมูลแล้วเรามานั่งคิดว่าอะไรเหมาะกับชีวิตเรา อะไรไม่เหมาะ แล้วสรุปว่าจะทดลองใช้วิธีไหนบ้างที่น่าจะมีโอกาสสำเร็จสำหรับชีวิตเรา
เมื่อได้วิธีแล้วเราก็ทดลองทำ ลองผิดลองถูกระยะนึง อันไหนลองแล้วไม่ได้ก็มาคิดว่าเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่จริงๆ เราก็เลิก เพราะบางวิธีเราก็ยังไม่พร้อมขนาดนั้นทำแล้วลำบากไป

เวลาผ่านไป.............เราหาวิธีที่คิดว่าเหมาะกับเราแล้ว ...........เราเลยอยากแชร์เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง

วิธีที่เราคิดว่าเหมาะกับเรา และเราทำสำเร็จในระดับที่เราพึงพอใจ

บอกก่อนว่าไม่ใช่วิธีพิสดารอะไร ก็วิธีเดิมๆที่กรูรูหลายๆท่าน แนะนำไว้นั่นแหละค่ะ

1. แบ่งเงินเป็นส่วนในวันเงินเดือนออก
    - หักอัตโนมัติ เป็นหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ของที่ทำงาน 2600 บาท (เอาไว้ใช้ตอนเกษียณ)
    - ค่ากับข้าว/รายจ่ายประจำวัน 10000 (300 ต่อวัน สำรองอีก 1000 )
    - ค่าของใช้ในบ้าน 2500/เดือน
    - ค่าน้ำ/ไฟ/โทรศัพท์ 4500/เดือน
    - ค่าใช้จ่าย ที่จ่ายเท่ากันตายตัวทุกเดือน  (XX) แบ่งแยกไว้เป็นก้อนๆ
    - เงินสามีให้ เก็บทั้งหมด (เพราะไม่อยากประมาท วันไหนไม่มีเขาเราจะได้อยู่ได้ ไม่เดือดร้อน เราจึงใช้จ่ายเฉพาะเงินของเราพยายามให้พอให้ได้)


2. แบ่งเงินซื้อสลากออมสินในวันเงินเดือนออก 2000 - 3000 บาท แล้วแต่เดือน (รู้ว่าไม่คุ้ม แต่ถ้าให้ฝากประจำหรือซื้อทองเราลองแล้วไม่สำเร็จ เราซื้อสลากออมสินเราไม่ถอนจึงสำเร็จ ฉนั้น วิธีนี้จึงเหมาะกับเรา)

3. ทำกับข้าวกินเอง
เราจ่ายตลาด+ทำกับข้าว แบบวันเว้นวัน ทำ 3-4 อย่าง ทำทุำว้นมันเหนื่อยไป เก็บใส่ถุงเท่าๆกับที่เราซื้อกินแล้วเข้าตู้เย็นไว้ เลือกหยิบออกมาอุ่นกินแต่ละมื้อ บางมื้ออาจเสริมด้วยไข่เจียว ไข่ตุ๋น ง่ายๆบ้าง จะได้ไม่เบื่อ

4. เอาอาหารมากินเองที่ทำงาน
         อันนี้ไม่ได้ตั้งใจประหยัด แต่เป็นความโชคดีของเราอย่างประหลาด ที่มีผลพลอยได้เป็นการประหยัดซะงั้น เพราะหลังๆเราสุขภาพไม่ค่อยดี เลยดูแลเรื่องอาหาร คุณเชื่อไหมเราสุขภาพดีขึ้นมาก จากที่ต้องหาหมอเป็นประจำเรื้อรังเพราะภูมิแพ้ หลังๆ หมอนัดห่างขึ้น เราสุขภาพดีขึ้นมากภูมิแพ้ไม่เป็นซะงั้น เราเลยสรุปเอาว่าสงสัยเป็นความสะอาดของอาหาร (ทั้ง ผัก ผลไม้ ผงชูรส) +++ร้านหรูบางทีมันก็หรูแค่หน้าร้าน+++
         เราตักแบ่งมาทุกวัน แรกๆ ทำๆ ลืมๆ แต่สัก 1 เดือนผ่านไปก็จะไม่ลืม เพราะสมองมันเรียนรู้แระว่าดีเลิศ ต้องเอาไปทุกวัน

5. จ่ายตลาดถ้าได้ทอนแบ๊ง 50 กับเหรียญ 10 เราเก็บ  (เก็บได้หลักพันเอาไปซื้อสลากออมสินเก็บไว้เหมือนเดิม)
    แรกๆ คิดว่า จะพอได้ไง แต่เหลือเชื่อ พอค่าาาาาา   300 บาทต่อวัน แถมเก็บแบ๊ง 50 กับเหรียญ 10 ยังพอเลย (แม่ค้าขายอาหารนี่กำไรมหาศาลเลย แก็สขึ้นนิดเดียวโวยวายยังกะจะอดตาย)  (เวลา 2 สัปดาห์เราเก็บแบ๊ง 50 ได้ 1000 บาท )
    เวลาจ่ายตลาดจะลุ้นว่าแม่ค้าจะทอนแบ๊ง 50 ไหม ลุ้นๆๆๆๆ สนุกดี
    เงินค่ากับข้าว ถ้าเหลือสิ้นเดือน จะหยอดกระปุก
    เราจะสำรวจตู้เย็นก่อนออกจากบ้าน ในวันที่ต้องจ่ายตลาด จะได้รู้ว่าในตู้มีอะไรเหลือบ้าง เป็นการจัดสรรวัตถุดิบให้ไม่ต้องเหลือทิ้ง
    วิธีป้องกันการลืมก็คือ เราตั้งโทรศัพท์ให้เตือนตอนเช้า

6. ค่าของใช้ในบ้าน ค่าน้ำ/ไฟ/โทรศัพท์
    ถ้าเหลือก็เก็บแยกไว้ สำหรับซื้อเสื้อผ้า และอื่นๆ ปีละครั้ง (กระเป๋า รองเท้า เราใช้ของแบรนเนมพอสมควร แต่ไม่แพงเกิน 15000 บาท เพราะมันใช้ทนดีไม่ต้องซื้อบ่อย และมีเท่าที่ใช้ไม่ซื้อพร่ำเพรื่อ ส่วนเสื้อผ้าก็ซื้อแบบเรียบๆ ใส่ได้หลายโอกาสและมียี่ห้อ เพราะใช้คุ้ม เส้นได้คงทน (ความคิดส่วนตัวนะ)) ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหรอก เพราะตัวนึงใส่นานมาก ปรับใส่อย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ดูเชย เพียงแต่ไม่เลิศโดดเด่นเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เป็นไรสำหรับเรา    

7. หยอดกระปุกออมสินกับลูกก่อนมาทำงานทุกวัน  (ก็เอาเงิน 300 บาท/วันนั่นแหละ)
    เป็นการสอนลูกให้แบ่งเก็บก่อนใช้ไปในตัว จึงหยอดตอนเช้า เหลือมาหยอดมันไม่ค่อยเหลือ 555+
    เราหยอดเท่าจำนวนวันที่ วันที่ 1 เราให้ลูกหยอด 1 บาท วันที่ 25 ก็หยอด 25 บาท ทำทุกวัน
    ก่อนจะหยิบตังค์มาช่วยกันหยอดเราจะพูดว่า "ลูกวันนี้แม่มีเงิน XXX บาท แม่แบ่งเก็บออมก่อนใช้ XX บาท เรามาช่วยกันหยอดกระปุกนะลูกเก็บไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น"  เราท่องขึ้นใจเลยเพราะพูดทุกเช้า (การพูดแบบนี้ทุกวันเรารู้สึกว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายในจิตใจเรา แต่เราอธิบายไม่เป็น)

8. ทำงานบ้านเองทุกอย่าง ไม่ต้องไปจ้างใคร

เช่น ล้างรถ ตัดหญ้า ตัดแต่งตันไม้ รถน้ำต้นไม้ ใส่ปุ๋ย ปัด กวาด เช็ด ถู เช็ดกระจก หุงข้าว ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า ล้างห้องน้ำ
    แบ่งเวลาทำ ทยอยทำ ไม่ต้องทำทีเดียวหมดมันจะท้อแท้ใจ ลองกำหนดตารางคร่าวๆ ว่าวันไหนทำอะไรส่วนทำมากน้อยแค่ไหนนี่ช่างมันแล้วแต่ว่าเหนื่อยแค่ไหน แต่ต้องทำทุกวันนะ  เช่น
- รีดผ้ารีดน้อยเปลืองไฟกว่าก็จริง แต่รีดมากเราก็เหนื่อยจนเครียด เราเลยรีดวันละ 3-4 ชิ้น แล้วแต่อารมย์ เปลืองไฟก็ช่างมันดีกว่าอารมย์เสีย
- ตัดหญ้ารอบบ้านเหนื่อยไป ทยอยตัดเฉพาะข้างบ้านก่อน วันหลังค่อยตัดหน้าบ้าน

(เราทำ To do list ในแต่ละวัน เหมือนเป็นภารกิจแต่ละวัน ว่าจะทำไรบ้าง)

9. เราไม่ดูทีวี
    อันนี้เป็นนิสัยติดตัวมาแต่เด็ก เลยไม่ค่อยเสียเวลาไปกับการนั่งดูทีวี มีเวลาเยอะแยะจากการไม่จมอยู่หน้าทีวี

10. หารายได้เสริม
      10.1 โดยการขายของออนไลน์      อันนี้ทำเล่นๆ สนุกๆ ไม่ได้จริงจังเพราะไม่มีเวลาขนาดนั้น 555+ ของที่ขายแบ่งเป็น 3 แบบ
              - ของที่ไม่ได้ใช้แล้วอย่างแน่นอน โพสต์ขายมือ 2
              - ของใหม่ เวลาไปซื้อของแล้วเจอของที่เราใช้อยู่แล้ว ลดราคาถูกๆ ซื้อติดมือเกินๆ มานิดหน่อยแล้วโพสต์ขายทำกำไรไม่ต้องมาก เพราะเน้นสนุก
              - ของใหม่ ที่น่าจะขายได้ เวลาไปห้างแล้วเจอลดราคามากๆ ถ่ายรูปโพสต์ขายเลย ถ้ามีคนซื้อโอนเงินมา เราก็แวะซื้อก่อนออกจากห้าง ได้กำไรไม่มากแต่สนุกมาก
      10.2 โดยการทำขนมขายยามว่าง (ยังว่างอีกเนอะ)
              อันนี้ไม่ได้ทำประจำเช่นกัน ทำเป็นครั้งคราวตามออร์เดอร์เท่านั้น ไม่ได้ทำไปวางขาย ทำขายให้เฉพาะคนติดอกติดใจในรสชาติ เอาไปเป็นของฝาก ทำบุญบ้าน จัดประชุม จัดงานต่างๆ แจกปีใหม่/เทศกาล ฯลฯ บางทีคนขอสั่งแต่ไม่ว่างก็ไม่ได้ทำขายให้ ได้กำไรตามสมควรไม่มากมายแต่ใจรักมว๊ากกกกก

เงินที่ได้จากรายได้เสริม ก็....................เก็บซิคะ รออะไร

11. ปรับไลฟ์ไสต์ของตัวเอง
      - อย่าไปตามกระแสสังคม/แฟชั้นมาก.....มันปอกลอกคุณให้เหลือแต่ตัว
      - ใช้ชีวิตง่ายๆ ประโยชน์สูง ประหยัดสุดแบบคุ้มค่า
      - มีสติ อย่าหลงกับคุณค่าปลอม นึกถึงคุณค่าแท้ไว้
      - ท่องไว้ว่า ทุกอย่างล้วนชั่วคราว
      - พึ่งตนเองให้มากที่สุด เพราะ พึ่งใครไม่หนึ่งเหมือนพึงตน
      

12. ถ้าว่างๆ ไม่รู้จะทำไร ก็นั่งหาความรู้โน่นนี่ไปเรื่อยๆ เปือยๆ  
    เช่น วิธีซ่อมแซมของเล็กๆ น้อยๆ  (แต่เราไม่ DIY นะ เพราะไม่ถนัด ไม่เคยทำได้งาม) วิธีดูแลสุขภาพ  วิธีดูแลบ้าน/สวน วิธีเลี้ยงลูก

13. ปลูกผักสวนครัวเล็กน้อยที่เราเลือกปลูก ได้แก่ ต้นหอม กระเพราะ โหรพา มะกรูด ตระไคร้ มะเขือพวง  ลูกหม่อน ของพวกนี้ไม่ต้องดูแลมาก ใช้เล็กๆน้อยๆ ในครัว ปลูกติดๆ ไว้ ไม่เสียหลาย



****สุดท้าย ***
   เราเขียนไว้เผื่อเป็นประโยชน์ให้ใครเอาไปปรับใช้ค่ะ  ส่วนใครจะช่วยแนะนำให้เรามีโอกาสพัฒนาตัวเองมากขึ้นก็ขอบคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ
   สำหรับเราการทำแบบนี้ ไม่ได้อึดอัดเลยค่ะ ตรงกันข้ามสนุกดีค่ะ

** แก้ไข พิมพ์ผิดๆถูกๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่