เพื่อนผมมีอาการท้องเสียตั้งแต่กลางคืนวันศุกร์ที่ 2 กย. (ถ่ายเป็นสิบรอบ) พอวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2559 เช้าเลยโทรฯมาขอให้ช่วยพาไปหาหมอ เค้าเคยไปรักษาคออักเสบที่ รพ.BNH นี้มาแล้ว ถึงจะแพงแต่ก็ดี เลยไว้วางใจที่จะไปหาอีก ผมขับรถไปรับเพื่อนจากคอนโดแถวลาดพร้าว ฝ่ารถติดไปถึงรพ.ราวๆ สิบโมง เพื่อนก็ไปแจ้งที่ เคาเตอร์พยาบาลแผนกอายุรกรรมว่ามีอาการท้องเสีย จากนั้นพยาบาลและเจ้าหน้าที่ก็ให้นั่งรอหมอเรียกตรวจ พอถึงคิวตรวจ ก็เข้าตรวจ เสร็จแล้ว เพื่อนออกมาบอกว่า คุณหมอให้ฉีดยาสองเข็ม แล้วมียาทานเอากลับบ้าน เราสองคนก็นั่งรอพยาบาลมาตามไปฉีดยา แต่!!!! ความหมายนั้นมันคือ การให้ยาทางเส้นเลือดโดยผ่านน้ำเกลือ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการให้ยานี้
ทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดแต่ว่าเดี๋ยวอาการคงจะดีขึ้นหลังจากนอนให้ยาแล้ว รอซักพักนึง พยาบาลก็มาตามตัวเพื่อนเราไปนอนบนเตียงในห้องพักรอดูอาการ ซึ่งเหตุมันก็เกิดที่ห้องพักนี้หละครับ
ในห้องพักรอดูอาการ เป็นห้องไม่กว้างมาก มีสองเตียงนอนสำหรับคนไข้อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อนผมนอนเตียงนอกใกล้กับช่องประตู ระหว่างนอนรอซักพัก พยาบาลก็เอาน้ำเกลือมา เจาะเข็มให้น้ำเกลือเพื่อนทางเส้นเลือด แล้วก็ฉีดยาเข้าไปด้วย
ทีแรกก็ไม่มีอะไร นอนไปได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็มีคนไข้ชายรูปร่างท้วม เดินเข้ามากับภรรยา แล้วมานอนเตียงข้างๆ พร้อมกับอาการไอ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเค้าเป็นอะไร พักใหญ่ๆ หมอเจ้าของไข้คองคนไข้ชายคนนั้น เดินเข้ามาบอกว่า เค้าเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วก็อธิบายต่างๆนานๆ
ผมกับเพื่อน ตกใจมาก เพราะ เราอยู่ในห้องแคบๆด้วยกัน เตีบงใกล้กัน แล้วเค้าก็ไอตลอด ผมจึงของหน้ากากอนามัยมาปิดปากเพื่อนผมและผม ระหว่างนั้นพยาบาลเข้ามาดูน้ำเกลือ เพื่อนผมยังถผามเลยว่า แบบนี้จะไม่ติดไข้หวัดเหรอ เพราะตัวเพื่อนผมก็อ่อนแอ เนื่องจากท้องเสียอยู่ ทางพยาบาลก็บอกแบบยิ้มๆว่าไม่ติดหรอกค่ะ เค้าเองยังไม่ติดเลย เออ..นะ คิดได้ไง แต่ละคนภูมิต้านทานมันไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากันนะครับ คุณพยาบาล)
เราสองคนก็ได้แต่หวังในใจว่าคงไม่ติดหวัดหรอก แค่ชั่วโมงเดียว !!!!
หลังจากคนไข้ชายคนนั้นรับทราบข้อมูลจากคุณหมอแล้ว เค้าก็ออกไปรอรับยา ส่วนเพื่อนผมกับผมยังต้องนอนรอให้น้ำเกลือหมดก่อน อีกพักใหญ่
น้ำเกลือหมดแล้ว เรารีบออกจากห้องนั้นมาทันที
คิดว่าคงจะไม่ติดหวัดหรอก แต่ !!!!!!! มันสายไปแล้ว หลังจากส่งเพื่อนกลับบ้าน เพื่อนโทรฯมาบอกว่า เค้ารู้สึกคัดจมูก แล้วมีน้ำมูกเขียวๆ จนถึงวันนี้ เสียงอุ้อี้มาก สรุปว่าเป็นหวัด
ผมอยากถามหาความรับผิดชอบหน่อยครับ รพ.ออกจะไฮโซ แพงก็แพง แต่ทำไมไม่ระวังอะไรเลย ให้คนป่วยที่เป็นโรคที่ติดต่อได้มาพักปะปนกับคนป่วยทั่วไปแบบนี้เหรอครับ
ผมส่งอีเมล์ไปแจ้ง มีพนักงานลูกค้าสัมพันธ์โทรฯมา ผมก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังไป แล้วเค้าก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีก รอจนข้ามวัน จนป่านนี้ยังเงียบสนิท
ผมได้ส่งอีเมล์ไปแจ้งอีกรอบแล้วว่าเพื่อนผมติดหวัดมานะ ทางรพ.จะว่าอย่างไร ก็ได้แต่ความเงียบ
ไม่มีความรับผิดชอบใดๆปรากฏให้เห็น
บอกตรงๆว่าคงไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแน่ อยากให้ผู้บริหารระดับสูงได้อ่านและรับทราบเรื่องไว้ด้วยนะครับ ถึงแม้คุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยก็ตามที
พาเพื่อนไปหาหมอที่ BNH รักษาท้องเสีย กลับได้ไข้หวัดติดมาด้วย โดยความประมาทของทางรพ.
ทางเราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดแต่ว่าเดี๋ยวอาการคงจะดีขึ้นหลังจากนอนให้ยาแล้ว รอซักพักนึง พยาบาลก็มาตามตัวเพื่อนเราไปนอนบนเตียงในห้องพักรอดูอาการ ซึ่งเหตุมันก็เกิดที่ห้องพักนี้หละครับ
ในห้องพักรอดูอาการ เป็นห้องไม่กว้างมาก มีสองเตียงนอนสำหรับคนไข้อยู่ใกล้ๆกัน เพื่อนผมนอนเตียงนอกใกล้กับช่องประตู ระหว่างนอนรอซักพัก พยาบาลก็เอาน้ำเกลือมา เจาะเข็มให้น้ำเกลือเพื่อนทางเส้นเลือด แล้วก็ฉีดยาเข้าไปด้วย
ทีแรกก็ไม่มีอะไร นอนไปได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็มีคนไข้ชายรูปร่างท้วม เดินเข้ามากับภรรยา แล้วมานอนเตียงข้างๆ พร้อมกับอาการไอ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเค้าเป็นอะไร พักใหญ่ๆ หมอเจ้าของไข้คองคนไข้ชายคนนั้น เดินเข้ามาบอกว่า เค้าเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วก็อธิบายต่างๆนานๆ
ผมกับเพื่อน ตกใจมาก เพราะ เราอยู่ในห้องแคบๆด้วยกัน เตีบงใกล้กัน แล้วเค้าก็ไอตลอด ผมจึงของหน้ากากอนามัยมาปิดปากเพื่อนผมและผม ระหว่างนั้นพยาบาลเข้ามาดูน้ำเกลือ เพื่อนผมยังถผามเลยว่า แบบนี้จะไม่ติดไข้หวัดเหรอ เพราะตัวเพื่อนผมก็อ่อนแอ เนื่องจากท้องเสียอยู่ ทางพยาบาลก็บอกแบบยิ้มๆว่าไม่ติดหรอกค่ะ เค้าเองยังไม่ติดเลย เออ..นะ คิดได้ไง แต่ละคนภูมิต้านทานมันไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากันนะครับ คุณพยาบาล)
เราสองคนก็ได้แต่หวังในใจว่าคงไม่ติดหวัดหรอก แค่ชั่วโมงเดียว !!!!
หลังจากคนไข้ชายคนนั้นรับทราบข้อมูลจากคุณหมอแล้ว เค้าก็ออกไปรอรับยา ส่วนเพื่อนผมกับผมยังต้องนอนรอให้น้ำเกลือหมดก่อน อีกพักใหญ่
น้ำเกลือหมดแล้ว เรารีบออกจากห้องนั้นมาทันที
คิดว่าคงจะไม่ติดหวัดหรอก แต่ !!!!!!! มันสายไปแล้ว หลังจากส่งเพื่อนกลับบ้าน เพื่อนโทรฯมาบอกว่า เค้ารู้สึกคัดจมูก แล้วมีน้ำมูกเขียวๆ จนถึงวันนี้ เสียงอุ้อี้มาก สรุปว่าเป็นหวัด
ผมอยากถามหาความรับผิดชอบหน่อยครับ รพ.ออกจะไฮโซ แพงก็แพง แต่ทำไมไม่ระวังอะไรเลย ให้คนป่วยที่เป็นโรคที่ติดต่อได้มาพักปะปนกับคนป่วยทั่วไปแบบนี้เหรอครับ
ผมส่งอีเมล์ไปแจ้ง มีพนักงานลูกค้าสัมพันธ์โทรฯมา ผมก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังไป แล้วเค้าก็บอกว่าจะติดต่อกลับมาอีก รอจนข้ามวัน จนป่านนี้ยังเงียบสนิท
ผมได้ส่งอีเมล์ไปแจ้งอีกรอบแล้วว่าเพื่อนผมติดหวัดมานะ ทางรพ.จะว่าอย่างไร ก็ได้แต่ความเงียบ
ไม่มีความรับผิดชอบใดๆปรากฏให้เห็น
บอกตรงๆว่าคงไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแน่ อยากให้ผู้บริหารระดับสูงได้อ่านและรับทราบเรื่องไว้ด้วยนะครับ ถึงแม้คุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยก็ตามที