สวัสดีทุกท่านครับ ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นมาในช่วงเดือน พ.ค. อาจจะช้าไปหน่อย
แต่ก็อยากมาเขียนรีวิวไว้ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ท่านอื่นที่มีแผนจะไปกัน
ทริปของผมอาจจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก และถ้ามีข้อมูลผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยครับ
ผมได้จองตั๋วบินไปกับหางแดงไว้ตั้งแต่ปลายปี 58 และเลือกช่วงเวลาเดินทางที่ พ.ค.
เพราะไม่อยากไปแออัดมากในช่วงไฮซีซั่น ไม่ได้เน้นเที่ยวธรรมชาติมาก เพราะตั้งใจอยู่ในโตเกียวเป็นหลัก
วันที่1
ถึงโตเกียววันแรก เป็นช่วงกลางคืนแล้ว อากาศหนาวประมาณนึงเลยครับ
ภายในสนามบินผมเลือกซื้อตั๋ว Tokyo Subway 72-hour Ticket จากเค้าน์เตอร์ ซึ่งตั๋วครอบคลุมรถไฟใต้ดินเกือบทั้งหมดในโตเกียว
โดยตั๋วนี้สามารถใช้นั่งรถไฟสาย Keisei Skyliner เข้ามาในเมืองได้ ซึ่งที่พักของผมอยู่ที่ Iriya ครับ ไปต่อรถไฟใต้ดินเอา
งงกับตู้ขายของอัตโนมัตินิดหน่อย หยอดซื้อขนมปังกับน้ำกิน มีแบตฯสำรองขายด้วย

ถึงที่พัก สวยมากครับ Toco Tokyo Heritage Hostel
ผมเลือกนอนพักห้องรวม 10เตียง ด้วยต้องการประหยัด
ยูยะซังพนักงานต้อนรับก็อัธยาสัยดี ให้คำแนะนำดีมากครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/pages/Toco-Tokyo-Heritage-Hostel/130754270318975?fref=ts

มาเที่ยวทั้งทีก็ไม่อยากรีบนอน ออกมานั่งทานราเมงร้านอร่อยที่ยูยะซังแนะนำ เป็นร้านขายราเมงแห้งอย่างเดียว
ผมยืนอยู่หน้าตู้สั่งอาหารนานอยู่ เพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก หันไปถามสาวจ้าวชาวญี่ปุ่นก็แล้ว(ซึ่งเค้าไม่พูดอังกฤษ) ก็เลยสุ่มไปราคานึง
วันที่2
ผมเลือกมาเดินเที่ยววัดเซ็นโซจิก่อนเป็นที่แรก
ซึ่งระหว่างทางต้องมาต่อรถไฟที่ Ueno เป็นสวนสาธารณะและสวนสัตว์


วัดเซ็นโซจิ ด้วยความบังเอิญวันนี้เป็นวันที่ชาวญี่ปุ่นมีจัดเทศกาลแห่อะไรซักอย่าง จึงค่อนข้างคึกคักและคนเยอะมากเป็นพิเศษ
มีร้านค้ามาตั้งแผงกันมากมาย




ชิมครับ


มันคือแป้งชุบแป้งทอดครับ ลองชิมไปไม้นึง คงไม่ต้องอธิบายนะ(ขอโทษลุงด้วยนะครับ ที่ถ่ายติดมาแบบนี้ T-T)


เข้าสู่ช่วงเย็น ผมมาถึงยานากะกินซ่า เป็นตลาดเก่าเล็กๆ บางร้านก็คนแออัด คิวยาวมาก

ที่นี่เหมือนจะมีแมวเปนสัญลักษณ์ครับ คาเฟ่แมว ของฝากเกี่ยวกับแมว


มีกลุ่มคุณลุงใจดียืนสอนการเล่นของเล่นโบราณอยู่

กลางคืนผมยังฝากท้องกับร้านแฟมิลี่มาร์ทได้อีก ตกใจมาก ที่ร้านสะดวกซื้อยังมีข้าวกล่อง อาหารสดหลากหลาย มีให้เลือกกินเยอะแยะไปหมด

วันที่3
วันนี้มาโตเกียว วันพีซทาวเวอร์ครับ ซึ่งมาได้โดยลงที่สถานี Akabanebashi และเดินต่อเพียงนิดเดียวเท่านั้น
เป็นแฟนเรื่องนี้ก็คงพลาดไม่ได้

ค่าเข้า 3200เยน เข้ามาพบกลุ่มหมวกฟางกำลังปาร์ตี้ต้อนรับเรากันก่อนเลย


ภายในก็จะตกแต่งด้วยธีมวันพีซและมีซุ้มกิจกรรมต่างๆ ให้เล่น(ข้างในห้ามถ่ายนะ)



ภัตตาคารของซันจิ


ชมการแสดง

ร้านขายของที่ระลึก

ช่วงเย็นผมมาที่โอไดบะ(ต้องซื้อตั๋วรถไฟแยกเฉพาะ)
ผมลงตั้งแต่ช่วงอ่าวโอไดบะไล่ไปถึงฟูจิทีวีเพื่อชมบรรยากาศ แล้วค่อยกลับขึ้นรถไฟใหม่อีกครั้ง

ตามรอยเรื่องดิจิม่อนแอดเวนเจอร์ซะหน่อย ฮ่าๆ


ลงที่สถานี telecom ครับ มาแช่ออนเซนที่ oedo onsen

วันที่มาเหมือนจะมีแคมเปญที่จัดคู่กับการ์ตูนเรื่องโอโซมัตสึซังที่กำลังเป็นที่ฮ็อตฮิตในหมู่สาวๆ ตอนนั้นพอดี น้องๆ เด็กวัยรุ่นผู้ ญ มากันเยอะมากก

เจ้าหน้าที่จะให้สายรัดข้อมือเรา พร้อมเปลี่ยนชุดยูกาตะ ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าออนเซนที่นี่นั้นจะไม่อนุญาติให้ผู้มีรอยสักลงแช่นะครับ
เมื่อเข้าไปภายใน สายรัดข้อมือนี้จะทำหน้าที่เป็นบัตรเครดิต แล้วมาชำระค่าใช้จ่ายตอนออกทีเดียว

ภายใน

Gundam RX- 78 หน้า DiverCity Tokyo Plaza
วันที่4
วันนี้ฝนตกเบาๆ พอฝนเริ่มปรอย ทุกคนหยิบร่มออกมากาง
ผมกลายเป็นแกะดำตัวเดียว ที่ไม่เตรียมพร้อม
ตลาดปลาสึกิจิ ไม่ได้มาประมูลปลาอะไรหรอกครับ มาเพื่อกินอย่างเดียวเลยครับ ฮ่าๆ





มาถึงย่านอากิฮาบาระช่วงสายๆ เดินช็อปของครับ




ร้านอาหารตรงหัวมุม มีสั่งเมนูจับคู่ราคาประหยัด ซัด2

มุม 18+

น้องเหมดเยอะมากครับ ยืนกันทุกหัวมุมถนน
วันที่5
สั่งลาก่อนกลับ จานร้อน yoshinoya สาขาของญี่ปุ่นนี่ ผมชอบมากครับ อร่อย เลยแวะมาสั่งลาด้วยข้าวหน้าปลาไหล(ครั้งแรกเปิดประตูไม่เป็น)

สุดท้ายเดินทางกลับด้วย Skyliner เจ้าเดิม เมื่อเจ้าของที่นั่งที่ผมนั่งผิดอยู่เข้ามาทัก ผมจึงรู้ตัวว่าขามาก็นั่งผิดครับ แหกตลอดทริป
ของฝากหลายๆ อย่างก็สามารถมาซื้อภายในสนามบินนาริตะได้นะครับ มีให้เลือกมากมาย
ทริปของผมก็จบลงเพียงเท่านี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ ขอบคุณครับ
ผมเองยังมีอีกหลายที่ไม่ได้ไป หากมีโอกาสอีกก็จะไปซ่อมครับ
[CR] Review เที่ยวญี่ปุ่น 5วัน 4คืน ครั้งแรก คนเดียว ไปมั่วซั่วตั้วมั่ว เน้นสตรีทฟู้ด ตามรอยการ์ตูนดัง
แต่ก็อยากมาเขียนรีวิวไว้ เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ท่านอื่นที่มีแผนจะไปกัน
ทริปของผมอาจจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก และถ้ามีข้อมูลผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยครับ
ผมได้จองตั๋วบินไปกับหางแดงไว้ตั้งแต่ปลายปี 58 และเลือกช่วงเวลาเดินทางที่ พ.ค.
เพราะไม่อยากไปแออัดมากในช่วงไฮซีซั่น ไม่ได้เน้นเที่ยวธรรมชาติมาก เพราะตั้งใจอยู่ในโตเกียวเป็นหลัก
วันที่1
ถึงโตเกียววันแรก เป็นช่วงกลางคืนแล้ว อากาศหนาวประมาณนึงเลยครับ
ภายในสนามบินผมเลือกซื้อตั๋ว Tokyo Subway 72-hour Ticket จากเค้าน์เตอร์ ซึ่งตั๋วครอบคลุมรถไฟใต้ดินเกือบทั้งหมดในโตเกียว
โดยตั๋วนี้สามารถใช้นั่งรถไฟสาย Keisei Skyliner เข้ามาในเมืองได้ ซึ่งที่พักของผมอยู่ที่ Iriya ครับ ไปต่อรถไฟใต้ดินเอา
งงกับตู้ขายของอัตโนมัตินิดหน่อย หยอดซื้อขนมปังกับน้ำกิน มีแบตฯสำรองขายด้วย
ถึงที่พัก สวยมากครับ Toco Tokyo Heritage Hostel
ผมเลือกนอนพักห้องรวม 10เตียง ด้วยต้องการประหยัด
ยูยะซังพนักงานต้อนรับก็อัธยาสัยดี ให้คำแนะนำดีมากครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มาเที่ยวทั้งทีก็ไม่อยากรีบนอน ออกมานั่งทานราเมงร้านอร่อยที่ยูยะซังแนะนำ เป็นร้านขายราเมงแห้งอย่างเดียว
ผมยืนอยู่หน้าตู้สั่งอาหารนานอยู่ เพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก หันไปถามสาวจ้าวชาวญี่ปุ่นก็แล้ว(ซึ่งเค้าไม่พูดอังกฤษ) ก็เลยสุ่มไปราคานึง
วันที่2
ผมเลือกมาเดินเที่ยววัดเซ็นโซจิก่อนเป็นที่แรก
ซึ่งระหว่างทางต้องมาต่อรถไฟที่ Ueno เป็นสวนสาธารณะและสวนสัตว์
วัดเซ็นโซจิ ด้วยความบังเอิญวันนี้เป็นวันที่ชาวญี่ปุ่นมีจัดเทศกาลแห่อะไรซักอย่าง จึงค่อนข้างคึกคักและคนเยอะมากเป็นพิเศษ
มีร้านค้ามาตั้งแผงกันมากมาย
ชิมครับ
มันคือแป้งชุบแป้งทอดครับ ลองชิมไปไม้นึง คงไม่ต้องอธิบายนะ(ขอโทษลุงด้วยนะครับ ที่ถ่ายติดมาแบบนี้ T-T)
เข้าสู่ช่วงเย็น ผมมาถึงยานากะกินซ่า เป็นตลาดเก่าเล็กๆ บางร้านก็คนแออัด คิวยาวมาก
ที่นี่เหมือนจะมีแมวเปนสัญลักษณ์ครับ คาเฟ่แมว ของฝากเกี่ยวกับแมว
มีกลุ่มคุณลุงใจดียืนสอนการเล่นของเล่นโบราณอยู่
กลางคืนผมยังฝากท้องกับร้านแฟมิลี่มาร์ทได้อีก ตกใจมาก ที่ร้านสะดวกซื้อยังมีข้าวกล่อง อาหารสดหลากหลาย มีให้เลือกกินเยอะแยะไปหมด
วันที่3
วันนี้มาโตเกียว วันพีซทาวเวอร์ครับ ซึ่งมาได้โดยลงที่สถานี Akabanebashi และเดินต่อเพียงนิดเดียวเท่านั้น
เป็นแฟนเรื่องนี้ก็คงพลาดไม่ได้
ค่าเข้า 3200เยน เข้ามาพบกลุ่มหมวกฟางกำลังปาร์ตี้ต้อนรับเรากันก่อนเลย
ภายในก็จะตกแต่งด้วยธีมวันพีซและมีซุ้มกิจกรรมต่างๆ ให้เล่น(ข้างในห้ามถ่ายนะ)
ภัตตาคารของซันจิ
ชมการแสดง
ร้านขายของที่ระลึก
ช่วงเย็นผมมาที่โอไดบะ(ต้องซื้อตั๋วรถไฟแยกเฉพาะ)
ผมลงตั้งแต่ช่วงอ่าวโอไดบะไล่ไปถึงฟูจิทีวีเพื่อชมบรรยากาศ แล้วค่อยกลับขึ้นรถไฟใหม่อีกครั้ง
ตามรอยเรื่องดิจิม่อนแอดเวนเจอร์ซะหน่อย ฮ่าๆ
ลงที่สถานี telecom ครับ มาแช่ออนเซนที่ oedo onsen
วันที่มาเหมือนจะมีแคมเปญที่จัดคู่กับการ์ตูนเรื่องโอโซมัตสึซังที่กำลังเป็นที่ฮ็อตฮิตในหมู่สาวๆ ตอนนั้นพอดี น้องๆ เด็กวัยรุ่นผู้ ญ มากันเยอะมากก
เจ้าหน้าที่จะให้สายรัดข้อมือเรา พร้อมเปลี่ยนชุดยูกาตะ ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าออนเซนที่นี่นั้นจะไม่อนุญาติให้ผู้มีรอยสักลงแช่นะครับ
เมื่อเข้าไปภายใน สายรัดข้อมือนี้จะทำหน้าที่เป็นบัตรเครดิต แล้วมาชำระค่าใช้จ่ายตอนออกทีเดียว
ภายใน
Gundam RX- 78 หน้า DiverCity Tokyo Plaza
วันที่4
วันนี้ฝนตกเบาๆ พอฝนเริ่มปรอย ทุกคนหยิบร่มออกมากาง
ผมกลายเป็นแกะดำตัวเดียว ที่ไม่เตรียมพร้อม
ตลาดปลาสึกิจิ ไม่ได้มาประมูลปลาอะไรหรอกครับ มาเพื่อกินอย่างเดียวเลยครับ ฮ่าๆ
มาถึงย่านอากิฮาบาระช่วงสายๆ เดินช็อปของครับ
ร้านอาหารตรงหัวมุม มีสั่งเมนูจับคู่ราคาประหยัด ซัด2
มุม 18+
น้องเหมดเยอะมากครับ ยืนกันทุกหัวมุมถนน
วันที่5
สั่งลาก่อนกลับ จานร้อน yoshinoya สาขาของญี่ปุ่นนี่ ผมชอบมากครับ อร่อย เลยแวะมาสั่งลาด้วยข้าวหน้าปลาไหล(ครั้งแรกเปิดประตูไม่เป็น)
สุดท้ายเดินทางกลับด้วย Skyliner เจ้าเดิม เมื่อเจ้าของที่นั่งที่ผมนั่งผิดอยู่เข้ามาทัก ผมจึงรู้ตัวว่าขามาก็นั่งผิดครับ แหกตลอดทริป
ของฝากหลายๆ อย่างก็สามารถมาซื้อภายในสนามบินนาริตะได้นะครับ มีให้เลือกมากมาย
ทริปของผมก็จบลงเพียงเท่านี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ ขอบคุณครับ
ผมเองยังมีอีกหลายที่ไม่ได้ไป หากมีโอกาสอีกก็จะไปซ่อมครับ