มีใครที่โหยหาอดีตเหมือนกันบ้าง

มีใครที่โหยหาอดีตเหมือนกันบ้าง

เครื่องคอมพิวเตอร์สีขาวอมเหลืองตัวเก่าที่วางอยู่มุมซอกห้องเก็บของ ที่ซึ่งอดีตของมันเคยเป็นคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยอยู่ในช่วงหนึ่ง สมัยที่คนยังเล่นโปรแกรมเชทที่เรียกคนว่า Pirch , MSN ยุคที่หนุ่มสาวยังเป็นนักบล็อคเกอร์กัน หากถามเด็กวัยรุ่นสมัยนี้อาจจะส่ายหน้าไม่รู้จักกันเป็นแถว ๆ แต่ข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นยุคแห่งการรุ่งเรืองหลาย ๆ  ด้าน เช่นอินเตอร์เน็ตยุคต้นที่หลายคนต้องลุ้นว่ามันจะต่อติดไหม เปิดรูปแต่ล่ะทีเดินเข้าครัวไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมาแล้วรูปยังโหลดได้แค่ครึ่งดียว จะทำรายงานกันแคชต่ล่ะทีต้องไปคลุกอยู่ที่บ้านเพื่อนที่มีฐานะหน่อยเนื่องจากที่บ้านมันมีอินเตอร์เน็ต หรือแม้จะฟังเพลงเรายังต้องฟังผ่านวินแอมป์

ไอ้ที่เกริ่นมาทั้งหมดข้าพเจ้าพูดถึงเด็กที่เกิดในยุคก่อน 2530 ซึ่งข้าพเจ้าก็อยู่ในขวบช่วงปีนั้นด้วย จนถึงทุกวันนี้ปาเข้าไปกว่า 30 ปี จะเป็นด้วยเพราะอายุผู้เขียนเองใกล้ที่จะถึงเลข 3 แล้วก็เป็นได้ ที่มานั่งนึกถึงภูมิหลังครั้งยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งทุกวันนี้ข้าพเจ้าโหยหามันอยู่

เริ่มจากในดึกคืนหนึ่งข้าพเจ้ามีโอกาศได้เปิดรูปเก่า ๆ จากคอมเครื่องเก่าที่มันเคยผ่านร้อนหนาวกันมาในยุคที่คอมพิวเตอร์ธรรมดา ๆ ราคาเกินครึ่งแสน โดยในฮาร์ดดิสนั้นยังคงบันทึกรูปต่าง ๆ หลายกิจกรรมที่เราทำอะไรที่มันบ้าบิ่นกับเพื่อน ๆ ข้าพเจ้านั่งจ้องแววตาคู่นั้นแล้วรู้สึกว่าหากเปรียบเทียบกับปัจจุบันมันช่างแตกต่างเหลือเกิน ในวัยนั้นข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่ามันมีความสุขเหลือเกิน ทุกข์สุดก็แค่กลับบ้านดึกโดนแม่ด่า หรือได้คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ศูนย์ ซึ่งหากเปรียบกับชีวิตที่ย่างก้าวเข้าสู่วัยทำงาน มันมีภาระหน้าที่อะไรมากมาย ที่ตัวข้าพเจ้าเป็นคนก่อขึ้นมาทั้งนั้น

ถึงแม้ว่าเราจะเอาเวลาในช่วงวัยรุ่นกลับมาไม่ได้ แต่เรายังบันทึกหยุดเวลาความทรงจำอันงดงามนนั้นไว้ในรูปถ่าย หรืออาจจะเป็นหนังสือเล่มเก่า ดอกไม้แห้งที่เราพับไว้ในหน้ากลางของหนังสือเล่มหนา หรือแม้กระทั้งการ์ดอวยพรในวันปีใหม่ และในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งวันใดเราโหยหาอดีตเราสามารถหยิบมันขึ้นมาดูชื่นชม เพื่อที่จะใช้มันเป็นพลังในการต่อสู่ในโลกของผู้ใหญ่ ที่มันโหดร้ายและแสนหดหู่สำหรับข้าพเจ้า


. . . . . . . . . . . . .

World

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่