[CR] Maskเดย์ Maskกันแค่ร้อยเดียว(ไม่ถึงด้วยซ้ำ)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้เราจะมารีวิวผงสมุนไพรพอกหน้าที่เราเคยทดลองใช้มานะ พอดีตอนพอกเราถ่ายรูปไว้ดูเป็นก่อนกับหลังใช้ เลยกะจะมาเขียนบทสรุปลงกระทู้นี้ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะได้เอาสูตรไปปรับใช้กัน
ก่อนอื่นเลยเราขอบอกไว้ก่อนว่าเราเป็นคนหน้ามันและเป็นสิวอักเสบค่อนข้างบ่อย แล้วที่บ้านเราแม่กับพี่สาวจะชอบใช้พวกสมุนไพรมาพอกหน้า แต่เราชอบใช้ครีมทาหน้ามากกว่าเพราะสำหรับเราพอใช้พวกนี้มันเห็นผลเร็วมากก แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราหยุดใช้ไปเพราะครีมทาหน้าที่เราใช้มันดันหมด แล้วแถวบ้านก็ไม่มีขายเลยต้องรอไปซื้อห้าง(ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโง่นิดๆว่าทำไมไม่ซื้อตุนไว้-*-) ปรากฎว่าพอผ่านไปซักพักพวกสิวมันก็ขึ้นมาอีก เราเลยถือโอกาสลองยี่ห้ออื่นที่ซื้อสะดวกกว่าดูว่ามีอันไหนใช้แทนครีมทาหน้าประจำได้บ้าง แต่พอใช้แล้วดันแพ้หมดเลยค่ะ.....
ตอนนั้นแม่กับพี่สาวเลยอยากให้เราลองหันมาพอกพวกสมุนไพรแบบที่เค้าใช้ เพราะโอกาสแพ้มันน้อยมากแล้วมันเป็นของจากธรรมชาติด้วย ก็น่าจะดีต่อผิวหน้าเรามากกว่าพวกครีมที่เราใช้ เลยหักมาซบอกสมุนไพรที่หาได้ไม่ยากอยู่ใกล้ๆตัวของเรานี้เอง ราคาแค่ซองละ35บาทเท่านั้น!!
มาดูกันว่าสมุนไพรที่เราใช้พอกมีอยู่4แบบ มีอะไรบ้าง!!

1.ผงขมิ้น+นม+น้ำผึ้ง
ตัวแรกที่เราลองใช้เป็นผงขัดหน้าขมิ้น เราเลือกขมิ้นเพราะแม่เราก็แนะนำมาอีกทีแหละ จริงๆคุณนายแนะนำมานานล่ะแต่เราก็ไม่ยอมใช้ซะที5555 ก็เรากลัวหน้าเหลืองอ่ะT^T แต่พอถึง ณ จุดๆนี้..... จุดที่หน้าเราไม่ไหวแล้ว... ก็ขอทำตัวเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังท่านแม่หน่อยก็แล้วกันเนอะ^^
ประโยชน์ผงขมิ้น   ลดการอักเสบของสิวแถมยังใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคันได้อีกด้วย และถ้าขัดผิดเป็นประจำละก็จะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส่ อย่างที่รู้กันว่าสิวนั้นเกิดจากแบคทีเรีย P.acne ที่ทำให้เกิดการอักเสบหรือบวมแดง  ซึ่งก็ได้มีการวิจัยว่าขมิ้นชันสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้ ยังมีการวิจัยอื่นที่บอกอีกว่าขมิ้นชันช่วยปรับสภาพผิวเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

วิธีทำครีมพอก: เราใช้ขมิ้นผงผสมกับน้ำผึ้งแล้วก็นมค่ะเราแนะนำ ให้ซื้อเป็นน้ำผึ้งหลอดจากเซเว่นอ่ะ  ไม่แพงมากสะดวกด้วย ส่วนเวลาผสมเราค่อยๆใส่นมลงไปในผงขมิ้นแล้วค่อยๆคน อารมณ์เหมือนเวลาผสมน้ำกับแป้งเย็นเลย5555 แบบเราก็กะพอให้มันเป็นครีมๆพอทาหน้าได้ แต่ผสมให้มันเหลวนิดนึงเพราะเรายังต้องใส่น้ำผึ้งลงไปผสมอีก เสร็จแล้วก็พอกหน้าไว้10นาที (อย่านานกว่านี้นะเดี๋ยวหน้าเหลืองเกิน) แล้วล้างออก สูตรนี้ อาทิตย์ละครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ครั้งก็พอนะคะ

คำเตือน!!!!
-บางทีบางคนก็แพ้ขมิ้นแบบผงนะคะ อย่างพี่สาวเราตอนแรกๆเค้าก็ลองพอกขมิ้นผงของแม่เหมือนกัน สรุปแพ้เฉยเลย แต่เท่าที่ลองค้นในเน็ต ถ้าไม่สามารถใช้แบบผงได้ หันมาใช้แบบสดก็ดีเหมือนกัน
-อย่างสุดท้ายคือเรื่องหน้าเหลืองค่ะ5555 สีของขมิ้นเป็นอะไรที่ติดทนติดนานสุดๆ!! ขนาดเราพอกทิ้งไว้แค่10นาทีหน้ายังเหลืองเลยอ่ะ แม่เราก็แนะนำมาอีกทีว่าให้ใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดแล้วจะออก แต่ตอนพอกก็พอกพร้อมแม่ไง คุณนายเลยยึดขวดน้ำมันมะพร้าวหายเข้าห้องไปเฉย = = สุดท้ายเราเลยลองเอารีมูฟเวอร์เช็ดๆดู ก็ออกเหมือนกันนะ ใช้ได้อยู่ๆ
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ตอนที่พอกจะรู้สึกหน้าแห้งหน่อยๆ เราก็ขัดวนๆ ไปค่ะ ช่วงแรกๆที่ลองสูตรนี้ยังไม่ค่อยเห็นผลค่ะ พอทำเป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าหน้าสว่างขึ้น กระจ่างใสขึ้นเห็นได้ชัดสิวที่อักเสบหลังจากที่พอกหน้าไปก็จะลดลงค่ะ
ส่วนตัวให้  7/10 คะแนน (เรื่องคะแนนของเราขอบอกไว้ก่อนน้าว่ามันเป็นความคิดเห็นของเราเท่านั้น คะแนนพวกนี้มันก็ต่างกันไปในแต่ละคนอยู่แล้วเนอะ) แล้วก็ขอหักเรื่องหน้าเหลืองค่ะ5555 ยังไม่หลุดจากประเด็นนี้ซักที ถึงใช้น้ำมันมะพร้าวกับรีมูฟเวอร์เช็ดออกได้ แต่สำหรับเรามันค่อนข้างเสียเวลา(ความขี้เกียจส่วนตัวล้วนๆ) แถมสีขมิ้นมันเข้าไปติดในเล็บด้วยยยยย จะเช็ดก็เช็ดไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องตัดเล็บที่อุตสาห์ไว้มาสักพักแล้วTT //ร้องไห้หนักมากก

2.ทานาคา+มะนาว
ตัวที่สองเป็นทานาคาที่สาวพม่านิยมใช้กัน ตอนแรกเราก็รู้แค่ว่าทานาคาช่วยให้ผิวมันเนียนๆนุ่มๆตามฉบับสาวพม่า แต่พอลองหาข้อมูลเพิ่มดูถึงได้รู้ว่ามันช่วยลดสิว,ผดผื่น,จุดด่างดำ แล้วก็ฝ้า เห็นงี้แล้วเลยต้องลองจัดซักหน่อย  
ประโยชน์ ทานาคามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมาก และมีสาร OPC และ Curcuminoid ทำให้ทานาคามีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะต่อต้านความเสื่อมของเซลล์และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว ด้วยคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และช่วยลดผดผื่นคัน ลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้า มีฤทธิ์ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน และยังช่วยป้องกันการทำลายผิวจากรังสียูวีอีกด้วย

วิธีทำครีมพอก : ตักทานาคาขึ้นมาประมาณ1ช้อนกว่าๆ แล้วบีบมะนาวที่ผ่าครึ่งซีกผสมลงไป มะนาวที่เพื่อนๆใช้อาจไม่ต้องใช้ตามนี้เป๊ะๆ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าลูกมะนาวที่เราใช้กับของเพื่อนๆมันขนาดเท่ากันรึเปล่า 555555 เราขอแนะว่าให้ค่อยๆบีบมะนาวทีละเสี้ยวเล็กๆ แล้วลองคนๆดูว่าพอเป็นเนื้อครีมรึยัง แล้วก็อย่าใส่มะนาวเยอะเกินนะเดี๋ยวมันไม่เกาะหน้า  จากนั้นพอกทิ้งไว้15-20นาทีแล้วล้างออก

คำเตือน!!!
-เวลาเพื่อนๆซื้อทานาคาต้องดูให้แน่ใจก่อนน้าว่าเป็นของแท้ เพราะมีของปลอมไม่ก็แบบผสมออกมาขายเยอะ
เหมือนกัน ส่วนใหญ่แหล่งที่ขายแบบแท้ๆจะอยู่โซนภาคเหนือนะ เพราะทานาคาที่เราใช้ก็ซื้อตอนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน
วิธีพิสูจน์ว่าของแท้รึเปล่า คือบีบมะนาวลงไปผสมกับทานาคาเลยค่ะถ้าเป็นของปลอมมันจะขึ้นฟองฟู่ๆ แต่ตอนบีบของเรามันก็ปกตินะ เลยรอดตัวไป
-ถ้าหน้าของเพื่อนๆมีสิว ตอนใช้อย่าขัดหน้าเด็ดขาดเลยนะ!!! เพราะคนเป็นสิวแล้วใช้ทานาคาขัดมันจะยิ่งเป็นหนักขึ้น แต่ถ้าเพื่อนๆเป็นคนหน้าใสๆอยู่แล้วก็ขัดได้ตามสบายเลยจ้า

ผลลัพธ์ที่ได้คือ หน้าขาวใส หลุมตื้นขึ้น และสิวหายไปด้วย! ถ้าพอกทุกวัน แล้วคุณจะรู้ว่าตัวนี้เด็ดจริง เหมาะมากสำหรับคนที่อยากลดสิวและหน้าใสกิ๊งไปด้วยเลย สูตรนี้ลดจุดด่างดำด้วยนะจ้ะ
ส่วนตัวเราให้ 8/10 คะแนน  แล้วก็ขอหักออกหน่อยเรื่องผงทานาคา เพราะเราว่าถ้าไม่ใช่แถบภาคเหนือเราคงไม่กล้าซื้อง่ะ เพราะกลัวเป็นของปลอม เลยรู้สึกลำบากหน่อยเวลาที่จะซื้อใหม่ ถ้าเพื่อนๆมีร้านที่ขายทานาคาแท้ๆแบบไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ ก็ฝากเม้นบอกเราทีน้า

3.ดินสอพอง+น้ำผึ้ง
ตัวที่สามคือดินสอพอง ที่ลองตัวนี้ไม่ใช่อะไร มันเหลือจากตอนเล่นสงกรานต์5555(ความประหยัดนี้) เห็นดินสอพองมันก็เอามาพอกหน้าได้ด้วยเลยจัดไปเลยจ้า
ประโยชน์ ดินสอพองมันช่วยรักษาสิวได้ด้วยนะ แถมยังลดสิวเสี้ยนได้อีกด้วย ขอโทษนะดินสอพองที่มองข้ามเธอไป55555  ดินสอพองถือเป็นสมุนไพรเย็น ใช้แก้พิษร้อนกับร่างกาย ถอนพิษอักเสบ แก้ผด ผื่น และคัน และที่พิเศษคือเป็นยาห้ามเหงื่อนอกจากไม่ทำให้ร่างกายเหนียวเหนอะจากอากาศ ร้อนแล้ว ยังทำให้ร่างกายเย็นสบาย มีสรรพคุณช่วยขจัดสิวเสี้ยน ลดอาการปวดบวมจากการอักเสบเขียวช้ำ ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น เมื่อนำมาผสมกับสมุนไพรแล้วนำมาขัดผิว ขัดตัว พอกหน้า จะได้ผลดียิ่งขึ้น

วิธีทำครีมพอก : เอาดินสอพองมาผสมน้ำให้มันเหลวนิดนึง เพราะเราจะใส่น้ำผึ้งผสมลงไปด้วย จากนั้นพอกทิ้งไว้15-20นาทีแล้วล้างออก
อันนี้มีทิปหน่อยนะคะ เจ้าตัวพอกสูตรนี้ถ้าเป็นคนหน้ามันให้พอกสัปดาห์ละ3ครั้งจะดีมาก แต่ถ้าผิวแห้งแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอจ้า

คำเตือน!!!
-เวลาเพื่อนๆใช้ดินสอพองพอกหน้า อย่าใช้ดินสอพอกเดี่ยวๆพอกหน้า ควรผสมอย่างอื่นลงไปด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้คือ สิวอักเสบลดลงเพราะตัวดินสอพอง บวกกับน้ำผึ้งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และสมานผิวหน้าให้ใสกิ๊งอีกด้วย อ้ออ ! สูตรนี้ลดหน้ามันด้วยน้า
สูตรนี้ให้ 6/10 คะแนน แล้วหักออกเรื่องการเห็นผล ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่สำหรับเราใน 4 ตัวนี้ดินสอพองเห็นผลช้าที่สุดเลยอ่ะ


ต่อมาตัวสุดท้ายค่า จะไม่พูดถึงลูกรักตัวนี้ก้คงไม่ได้ ผู้กอบกู้หน้าเราให้กลับมาสวยปังจนสิวไม่กล้ามาย่างกรายบนหน้าเรา แต่นแต่นแต๊น!!!! มันคืออออ “ผงเปลือกมังคุด” นั่นเองค่า ตัวนี้ต้องมอบความดีงามทุกอย่างให้เค้าจิงๆค่ะ เราจะโชว์สรรพคุณความดีงาม อลังการของขุ่นแม่ผงเปลือกมังคุดให้เพื่อนได้รับรู้กันค่ะ เปลือกมังคุดมีสารช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวกระชับ ลดการเกิดฝ้า ลดกระ ลดจุดด่างดำ ลดรอยหมองคล้ำ ช่วยลดผดผื่นคัน ช่วยสมานแผล ทำให้แผลแห้งเร็วนอกจากนี้ยังใช้ในการลดกลิ่นตัวได้ด้วย สำหรับใครที่มีสิวนะคะ เปลือกมังคุดช่วยได้ค่า เพราะเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติในการยัยยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และยังออกฤทธิ์ต้านสิวอักเสบได้ดีอีกด้วย ยังมีอีกนะคะ ยังไม่หมดเท่านี้ค่า ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ช่วยชะลอความแก่ชราของเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าแลดูสดใส และสุขภาพดี (Anti-Aging) ทำให้ผิวพรรณเต่งตึงกระชับ (Skin Firming & Tightening) ช่วยสมานผิวเพราะมังคุดมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิวได้และยังออกฤทธิ์ต้านเชื้อสิวอักเสบได้ดีถึงร้อยละ 77.8 กระชับรูขุมขน (Astringent) ได้ดี ลดปริมาณเม็ดสีที่ผิวหนัง ทำให้ผิวขาว เนียน กระจ่างใส (Pigmentations Lightening) อย่างเป็นธรรมชาติ

เปลือกมังคุดประกอบด้วยสารธรรมชาติ  ซึ่งมี คุณสมบัติเด่น 4 ประการ คือ
1. ระงับการเจริญของเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุสิว
2. ต้านการอักเสบ
3. ต้านอนุมูลอิสระ
4. ช่วยสมานผิว กระชับรูขุมขน

พี่เปลือกมังคุดแกเล่นใหญ่จิงๆคะ แค่นี้ก้เพื่อนๆก้รับรู้ถึงความอลังการในสรรพคุณของเปลือกมังคุดกันแล้วใช่มั้ยค่ะ ต่อไปมาดูวิธีที่เราใช้กันเลยค่ะ ง่ายๆ ตามสไตล์ชะนีขี้เกียจแต่อยากสวยยย
หลังจากล้างหน้าให้สะอาดนะค่ะ เราก้เอาผงเปลือกมังคุดนี่แหละค่ะ ผสมกับน้ำ แล้วทาให้ทั่วหน้าเลยค่ะ แต่ถ้าหากเป็นสิวอักเสบ ห้าม ขัดโดยเด็ดขาดนะคะ ให้ใช้เป็นการพอกผิวแทน เพื่อไม่ให้เชื้อสิวลามไปทั่วใบหน้า และเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผิวหน้ามากเกินไป พอกทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ระวังด้วยนะคะ เดี๋ยวจากสวยจะกลายเป็นซวยแทนค่ะ5555555 ง่ายใช่มั้ยละคะ เราชอบอันนี้ที่สุดเลยค่า แบบว่ารักเลยค่ะ หน้าเรานี่ใสแข่งกับกระจกได้เลยอ่ะ แถมสิวที่อักเสบพอวันต่อมาก็ลดลงด้วย รอยสิวก็หายด้วยนะเอ้อ ที่ประทับใจคือรูขุมขนก็ตื้นขึ้นด้วยยย ความดีงามนี้ เรื่องคะแนนคงไม่ต้องบอกนะคะ เต็ม10ให้100000000000000000000เลยค่ะ  เพื่อนลองไปทำดูนะคะ ดีจิงไม่ใช้สแตนอินค่ะ(เกี่ยวปะ)5555 อันนี้เราเชียร์สุดใจค่ะ เจอของดีแล้วอยากบอกต่อมากมาย

ยังไงก็ฝากเพื่อนๆกระทู้นี้ไว้ด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนทำตามเรารับรองสวยชนะทุกเวทีแน่นอนค่ะ ใครมีอะไรเด็ดๆคอมเม้นแชร์กันได้นะคะ ช่วยแชร์กระทู้เราเยอะด้วยน้า-3- คนอื่นจะได้สวยเหมือนเรา(ความมั่น)5555 เพื่อนๆชอบสูตรไหนกันบ้างเอ่ย? แต่เราชอบผงจากเปลือกมังคุดมากที่สุด เพราะเราเห็นผลชัดเจนที่สุด สิวเราจากที่หัวเป็นหนอง พอเช้าวันต่อมาก็แห้งไม่มีหัวสิวเลย ต้องขอบคุณพี่สาวมา ณ ที่นี้รักค่ะ มีของดีน่าจะบอกกันดีๆแต่แรก-3- อ้อ! อย่าลืมว่าการพอกหน้าไม่ควรพอกบ่อยๆน้า เพราะจะทำให้หน้าบางและไวต่อแสง อาทิตย์ละครั้งสองครั้งพอ แล้วหลังจากที่พอกหน้า ควรทากันแดดและบำรุงผิวหน้าด้วยนะคะ
ใครที่ลองเอาสูตรไปใช้ก็มาเม้นบอกผลลัพธ์กันได้นะ หรือใครที่มีสูตรอื่นๆที่น่าสนใจก็เม้นไว้ได้เหมือนกัน เราเป็นกำลังใจทุกคนที่กำลังจะคัมแบคความงามของตัวเองนะคะ