แค่อยากเล่าให้ฟัง ครั้งหนึ่ง ที่ วังเวียง

ท๊าด้า !!!!  ออกตัวก่อนนะคะ. กระทู้นี่กระทู้แรก ใช้ ip ตัวเองไม่ได้ยืมเพื่อนคะ
ตั้งกระทู้เพื่ออยากจะแชร์ประสบการณ์ ของเราและเพื่อนๆ พี่ๆ
รูปภาพถ่ายจากกล้องมือถือ i phone 6s แล้วกล้อง gopro บางส่วน
หากพิมพ์ผิดหรือผิดพลาดยังไง. ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลย เราพิมพ์ในมือถือนะคะ 🙏🏻🙏🏻
***เราไปเที่ยวผ่านมาค่อนข้างจะนานแล้วเพราะตอนแรกไม่คิดว่าจะมารีวิว
พอดีเราจะไปฟลูมูล เดือนตุลาเลย สมัคร pantip เพื่อจะรีวิว แต่ไหนก็สมัครแล้วเลย.
รีวิวอันนี้ก่อนแล้วกันเนอะ อาจมีบางส่วนหลงลืมไปบ้าง และบางที่ที่เราไม่ได้แวะไป
แอบเสียดายอยู่คะ แต่อาจมีทริปไปตามเก็บรายละเอียดทีหลังเนอะ ***
***เจ้าของกระทู้อายุ 23 แล้วคะ ทำงานแล้วเนอะแปะเพื่อ (กันคนมาม่า) 😁😁
#ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีพี่ๆทั้ง2 คน ที่พาเราไปเที่ยวด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻😊😊
    ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเดี๋ยวเราจะแจ้งตอนท้ายนะคะ
เริ่มกันเล๊ยยยยยยย


ไปวังเวียงด้วยกันไหม???????
-เป็นคำพูดที่เพื่อนเราชวนแบบตั้งตัวไม่ทัน "ตอบตกลงสิคะ จะรออะไร?"
วางแผนลางานกระทันหัน ศึกษาข้อมูล เปิดพี่พันรัวๆกลัวไปไม่ถูก เพราะเป็นการท่องเที่ยวครั้งแรก ที่ตัวเองได้เดินทางไปที่อื่น ที่ไม่ไช่ภายในจังหวัด ตื่นเต้น
ในทริปนี้เราเดินทางกัน 6 คน มี พี่ที่ทำงานเป็นไกด์ให้ในการเดินทางครั้งนี้ เฮ้ออออออ. โล่งคะ มีคนนำทาง


                  สิ่งที่ต้องเตรียม คือ

1.พลาสปอร์ต ที่เราพึ่งทำใหม่ๆสดๆ ร้อน ๆได้ก่อนวันเดินทาง 1 วันถ้วน เกือบ ไม่ได้ไปแล้วไหมละ T-T
2.เงิน อันนี้ไม่มีก็คงไม่ได้สินะ 555
3.สำภาระ เครื่องใช้ต่างๆ กระเป๋ากันน้ำเอย กล้องถ่ายรูป เอย เสื้อผ้า เอาไปตามสะดวกเลย
4.ร่างกายและก็ใจ คะ.
5.ปากกา อันนี้สำคัญสุดคะ. เพราะเราต้องใช้กรอกใบ ตม. ถ้าจะไปหาเอาข้างหน้าลำบากหน่อยนะ. ^^
-->>ครบหมดแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลย. Go go go
เราเดินทาง กันตอนเช้าโดยวางแพลนกันไว้ว่าจะเอารถไปจอดไว้ที่หนองคายแล้วขึ้นรถบัสข้ามไปเวียงจันทร์เพื่อไปขึ้นรถตู้ที่จะพาเราไปวังเวียง

ที่หน้าด่านหนองคาย+บนรถบัสข้ามสะพาน


วันที่ 19 พฤษภาคม
เราขับรถออกจาก ขอนแก่น 6:00 น. ไปถึงด่านพรมแดนที่หนองคายประมาณ 9:00 น . โดยนัดกับพี่อีก2คนไว้ที่ด่าน บริเวณหน้าด่านจะมีที่ฝากรถ คิดค่าจอดวันละ100บาท มีคนเฝ้าตลอดคะ อุ่นใจแน่นอน
หลังจากฝากรถเสร็จ ก็สอบถามราคาค่ารถตู้กับพี่เค้าก่อนนะคะ เราได้เรทราคามา พี่เค้าบอกว่า "ไม่เกิน 3000 นะถ้าเกินนั้น ห้าม!!!"
พอถึงหน้าด่านก็จะมีพี่ๆโชเฟอร์ทั้งหลายมารุม เราอย่างกับเราเป็นเซเลป. 5555 โดยมีแจ้งเรทราคา สูงๆทั้งนั้น 3500 บ้าง 4000 ก็มี นะเออ  เตรียมตัวกันไปดีๆ พอได้รถตู้ตามราคาที่ตกลง ก็กรอกเอกสาร ถ่ายรูป เรียบร้อยก็รวม       พลาสปอร์ตกันเพื่อไปยื่นซื้อ บัตร one way ticket  คล้ายๆบัตร bts บ้านเรานี่แหละ ผ่านด่านกันมาครบแล้วก็ซื้อตั๋วรถบัสเพื่อข้ามประเทศกัน เพราะรถตู้รอเราอยูฝั่งโน้น -->
พอข้ามด่านไปเราก็จัดแจง แลกเงิน ซื้อซิมกันให้เรียบร้อย จะได้ไม่เสียเวลาแวะที่อื่น นั่งยาวๆกันไปเลยคะ รถตู้ที่เราขึ้นกว้างมากคะ นั่งได้สบายกันเลย แอร์เย็น หลับกันยาวๆงานนี้ ตลอดสองข้างทางมีอะไรให้เราตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะวิวบ้าน วิว ภูเขา วิวหน้าผา วิวทางโค้ง คือโค้งคะ โค้งขึ้นเขาเยอะมากกกกกก. แต่วิวสวย ให้อภัยคะ.คนขับรถพี่เค้าใจดีมากคะ ชวนคุยตลอดทาง
ก่อนจะถึงก็มีแวะที่พักรถให้ยืดแข่งยืดขากันนิดหน่อย ก็แวะเติมสเบียง จิบกาแฟ
***ร้านกาแฟ


แล้วเดินทางต่อกันเลยคะ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง กว่าๆ เรามาถึงประมาน บ่าย 3โมง รถตู้มาส่งหน้าที่พัก
*รูปที่พักเราไม่ได้ถ่ายไว้ เอาเป็นทางทีเดินลงไปละกัน


*ที่พักที่เราพักเราจองล่วงหน้านะคะ 4 วัน 3 คืนแต่คือไม่ต้องจองก่อนก็ได้ถ้าเราไปช่วงที่ไม่ไช่วันหยุดยาว หรือเทศกาลของทางฝั่งบ้านเรา ที่พักว่างเพียบแต่ละห้องก็มีหลายเลทราคากันไปเนาะ เดินเลือกหากันได้เลย. เลจอาจจะถูกกว่าจองก่อนอีก รูปที่พักเราไม่ได้ถ่ายมาด้วย
ที่พักเราชื่อว่า poppula  จะอยู่ข้างมินิมาท แถวๆทางเดินลงไปสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองคะ ถ้าเดินลงมาจะมองเห็นพอดี ห้องพัก สะอาด เตียงใหญ่ แอร์เย็น มีทีวี. แต่ไม่มีตู้คะ. โอเคไม่เป็นปัญหา เรากองไว้ได้ อุ้ยยย

ต่อๆ พอเช็คอินเก็บของเสร็จสรรพ เราก็เดินหา one day trip
รอบนี้ที่เราไปกัน พี่ๆที่พาเราไปเค้าปล่อย.     ฟรีสไตร์คะคือใครอยากไปที่ไหนอยากไปทริปอะไรก็ไปกัน ไม่บังคับ ตอนเย็นเจอกันทีเดียว. 5555
เรากับเพื่อนอีกคนก็เลยเอาตามทริปดีกว่า เพราะยังไม่เคยมา. เราต้องหาที่พึ่ง

เราไปของบริษัททัวร์น้ำทิพย์ คะ ไม่รู้ชื่อถูกไหม โดยทริปที่เราไป จะมี
-ห่วงยางลอดถ้ำ
-ถ้ำช้าง
-พายเรือคายัค
เราไปในราคาเงินไทยประมาณ 390 บาท
เราเลือกไม่ไปบลูลากูลเพราะคิดว่ายังเหลืออีกวันไม่รู้จะไปไหน เพราะจบที่พายเรือ ร่างก็แทบพังแล้วคะ. 555  ถ้ารวมบลูลากูล 790 บาท
ได้วันเดย์แล้วก็ได้เวลาเดินเล่นคะ. ส่องคะส่อง 555 วันที่เราเดินทางก่อนที่จะถึงวันหยุดยาวของบ้านเรา คนไทยเลยยังไม่เยอะ
60% มีแต่ฝรั่ง  ตาน้ำข้าว งานดีเยอะมาก นี่หละจุดประสงค์ 55
20% เป็นของติ่งๆ เกาหลี ขาวๆหน้าเอาะๆ
20% ที่เหลือก็ชาวไทยและลาวเนี่ยแหละคะ เจอจีนนิดหน่อย มาลงเป็นกรุ๊ปๆ
ที่วังเวียงจะขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอาหารสุด ๆ คือใครเคยไปแล้วจะรู้คะ ที่เราชอบก็ส้มตำนี่แหละ อร่อยสุดละใส่กะปิด้วย แปลกๆดี  เผลออยากลองฝีมือร้านอาหาร
สั่งสปาเก็ตตี้คือ แบบ บ้านเราอร่อยกว่าคะ คิดถึงเซเว่นเลยพี่. T T อิ่มท้องแล้ว ทริปพรุ่งนี้พร้อมก็เดินหา แลนด์มาร์คประจำวังเวียง สายย่อ คงไม่มีใครไม่รู้จัก นะคะ ไช่คะ. "ซากุระบาร์ ". อยู่ 3คืน ไปกัน 3คืน. เมาทุกคืน 555.  
เดินออกมาจากซอยโรงแรม ถัดไปอีกซอย ถ้าใครหาไม่เจอ ให้ลองหาร้าน บะหมี่ชายสี่คะ .    สีเหลืองๆ เด่นๆ. ที่ฝากท้องอีกร้านนึงของเรา โอเคกินได้ ผ่าน !!!ถัดไปอีกจะเจอร้านอาหารไทย.ที่เราชอบมากเลยคะ แต่ไม่ได้ค่ารีวิวอะไรนะ ชอบเลยบอกต่อ เฉยๆ



ร้านชื่อ ครัวไท เจ้าของร้านเป็นคนไทยคะ ที่จำได้เพราะเพื่อนเราเป็นคนทักว่าลุงไส่หมวกของร้านตะวันแดง คนเยอะคะ ส่วนมากเป็นคนไทยเพราะอาหารรสจัด ถูกปากเลยคะ ตกจานนึงประมาณ 80 บาท โอเค. ยอมจ่าย 555.
พอเดินเลยร้านนี้ไปก็ถึงละ ซาร์กุระบาร์



หาแลนด์มาร์คเจอแล้ว เราก็พากันเดินเล่น ไปตาม ถนน ใกล้ๆที่พัก เลยเดินไปเจอวัด คิดว่า คืนวันศุกร์ เป็นวันวิสาขบูชา ว่าจะมาเวียนเทียนสุดท้ายไม่ได้ไป. แฮร่ๆ.


เราไหว้พระ ขอพรกันนิดหน่อย ก็กลับ ทีพักแยกย้ายอาบน้ำ พักผ่อน เพราะ 6โมงนัดกับพี่ๆไว้ ที่ แพ ตรงแม่น้ำซองคะ.

ตอนเย็นๆคนเยอะ จิบเบียร์ ฟังเพลงเพลินดีคะ. นั่งเล่นเอาเท้าจุ่มน้ำ ส่อง หนุ่มเกา สาวเกา พายคายัค ผ่านหน้าชิวๆ
ฟังหนุ่มๆ ตาน้ำข้าวคุยกันเพลินดีคะ
บรรยากาศยามเย็น สูดอากศเต็มปอดโอ้ยฟินนน



บอลลูน จะมีช่วงเช้า ประมาณ 6โมง
ตอนเย็น น่าจะ 5-6 โมงนี่แหละคะ ค่าขึ้น น่าจะ 1500 นะคะถ้าจำไม่ผิด ยืนดูเอาก็ได้คะ. ทริปนี้ ประหยัดงบ



เผลอแปปเดียว เวลาผ่านไป เร็วมาก นั่งเผาหัว ด้วยเบียร์ลาวคนละ ขวด แล้วหาอะไรลองท้องก็
เคลื่อนทัพไปจุดหมายของเรา 5555.

ตอนแรกคือแอบถ่ายนางในรูป เผลอแปป ได้ ig นางมาเฉย
คนไส่แว่นชื่อ จองจิน อีกคนจำชื่อไม่ได้ แต่ประเด็นคือนาง 30 แล้วจร้า
หน้าเด็กไปอีกกกก


มองเข้าไปด้านในเราจะเห็น เวที อยู่ตรงกลาง หรือเรียกง่ายๆก็โต๊ะไม้ตัวใหญ่ ๆ. เอาไว้โชว์ เสต็ป ให้คนขึ้นไปแด๊นๆ กันบนนั้น นั่นแหละคะ. บางทีโดนเบียดเกือบตกโต๊ะ. โต๊ะแข็งเเรงมากคะ. ขึ้นได้ทีเป็น สิบๆคน
เดินเข้าไปได้เรา ก็จองเสา หาที่สิงคะ


เอาที่ใกล้พัดลมคะ สงสัยคืนนี้ต้องเสียเหงื่อคะ


ที่นี่จะมีฟรีดริ้ง 2ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม หลังจากนั้น ก็ต้อง
ซื้อคะ. จ่ายซะบ้าง. อย่า!!!  แ_ก ฟรีอย่างเดียว
รสชาติคล้ายๆ เอาเหล้า แสงโสมผสมกับสไปร์ น้ำส้ม โค๊กแล้วแต่เราจะเลือก เดินหยิบได้เลยคะ 1 คน 1แก้ว แต่เดินได้หลายรอบ เนาะ
ซื้อวอดก้า 2 แก้วได้เสื้อเป็นที่ระทึก มา 1 ตัว
ไช่คะ พิมพ์ไม่ผิดหรอก. ระทึกจริง. สีคะที่ระทึก อารมณ์ คล้ายจะไปงานฟลูมูน เลยคะสีเจ็บมาก





พอดึก คนเริ่มเยอะ เหล้าฟรีเริ่มออกฤธิ์ คุยกับเค้าไปทั่วเลยคะ คุยมั่วไปหมด  
ฝรั่งที่มาที่นี่ ส่วนมากจะมาเที่ยว โซนเอเชีย ลากยาวหลายประเทศทีเดียวเอาให้คุ้มมากันทีเป็นเดือนๆ บางคนก็พึ่งมาจากไทย. แล้วมาที่ลาว. ต่อไปจะไป พม่า แล้วก็เวียดนาม ทริปสุดท้าย แล้วค่อยกลับประเทศ
ส่วนเกาหลี เหมือนมีคนที่ประเทศนางทำรีวิวเที่ยวที่วังเวียงคะ นางเลยมากันเยอะ รายละเอียดไม่รู้เยอะ จับใจความได้แค่นี้



ถ้าอยากให้สนุกๆเราแนะนำให้ดึงเพื่อนคะ. แล้วดึงมาเยอะๆ รวมให้ได้เป็นวงกลมกลุ่มใหญ่ ใครผ่านมาดึงมากลางวงเลยคะ ให้ออกเสต็ป ใครไม่เต้นห้ามออกจากวง ชอบใคร หมายตาใครไว้. เนียนได้เลยคะ. ถูๆไถๆ. ได้แค่นี้ก็เอา. 😁😁😁



ทุกคนเฟรนลี่มากๆ ส่วนตัวเราชอบคืนแรกนะ สนุก ได้เพื่อนใหม่เยอะ คุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สนุกดี ที่นี่เรายังได้เจอเพื่อนคนไทย อีก2 คน คือตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นเกาหลี เลยไม่กล้าชวนคุย พอรู้ว่าคนไทยก็ลากมาเข้ากลุ่มเลยคะ. เพื่อนใหม่ มากัน 2คนเหมือนกันนางมาจาก กทม ภาษานี่เป๊ะเราเลยลากมาเป็นล่ามภาษาและก็เลยชวนพวกเธอไป  One day trip หุหุ เจอสายเดียวกัน มีการนัดทริปต่อไปด้วย

*คือเพื่อนเราดูนางสิ แหม !!!  เบะปากมองบน คนที่แพ้ก็นกกันไป. 555. แค่คุยไม่มีเกินเลยคะ คืนนี้ อิอิ


หนุ่มเกาหลีมีแต่หน้าใส งานดี มาก ผิวนางดี ทั้ง
หญิงทั้งชาย น่ารักคะ. อยากได้ใคร เอ้ย. อยากรู้จักใคร พุ่งไปเลยคะ ขอ ถ่าย รูป นางก็ friendly
เจอกันตอนกลางวัน เข้ามาทัก บางทีเราก็จำไม่ค่อยได้เลยว่าใคร ได้แต่ยิ้มอ่อน เบาๆ เซไฮกันไป 555



เที่ยงคืนเป๊ง บาร์ปิด โบกมือลา บ๊ายๆ แยกย้ายกลับที่พัก พักผ่อน กานนน ลุยใหม่พรุ่งนี้ ......มีต่อคะ