สวัสดีครับ เรื่องนี้ ผมยังจำได้ดี ไม่มีลืม มันเกิดขึ้น ในวันปิยะมหาราช เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
แผนคือ ผมตั้งใจจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไป ขอแฟนแต่งงานครับ โดยที่เธอไม่รู้ กะจะเซอร์ไพรส์ ว่างั้นเถอะ
เราคบกันมา 4 ปีละ ณ. ตอนั้น จนผมคิดแล้วล่ะ ว่าเธอคนนี้ล่ะที่ใช่ เธอเป็นอะไรอย่างที่ฝัน ผมเลยคิดแผนของผมคนเดียว
เพื่อให้เป็นไปตามแผน ดังนั้น ผมเลยไม่เคย พุดถึงเรื่องการแต่งงานเลย กะจะ พูดทีเดียว แล้ว ปัง จุดพลุกระดาษสีชมพู วุ้งวิ้ง ตกลงมาใส่หัว
ช่วงนี้ ก็ต้องทนฟังคำบ่น หน่อย เช่น ไปงานแต่งเพื่อน จะมีคำถาม “เมื่อไหร่ เราจะได้แต่งมั่งน้า” ผมต้องนั่งเอา ฮ๋ำ เอ้ย หูทวนลม กันไป พร้อมประโยคเด็ด “เรายังไม่พร้อมเลย” แต่ใจข้างใน อยากจะเข้าไปกอด พร้อมบอกว่า ป่ะๆๆ แล้วพาเข้ากระท่อมกลางป่า ไม่ใช่ละ
ครอบครัวผมก็ถามกันบ่อยว่า แต่งๆ ได้แล้ว คนนี้ล่ะดีแล้ว ผมก็เก็บแผนการณ์ เอาไว้ในใจคนเดียว จนใกล้วันประจัญบาน ผมนั่ง Print ข้อความ “Will You Marry me” เพื่อจะแปะไว้ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์
โทรหา แม่ผม บอกแผนการนัดแนะกันเรียบร้อย
เธอเป็นคนเมืองมะขามหวาน ส่วนผมสะพานข้ามแม่น้ำแคว มาป๊ะกันที่ เมืองบางกอก แผนการณ์วันนั้นคือ ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ จากบางกอก ไป นัดเจอกับครอบครัว ที่เพชรบูรณ์ โดยที่ ให้ครอบครัวผมรอที่ Big C ก่อน เพราะครอบครัวผม ไม่เคยเดินทางไปบ้านว่าที่พ่อตาเลยสักครั้ง
ให้ทัพหน้าคือผมเข้าไปก่อน จากนั้น ให้แม่สมทบ ตามไปเมื่อได้สัญญาณบุก พร้อมกำชับว่า ห้ามบอกแฟนผมเด็ดขาดนะแม่..
แม่ตอบว่า เอาเลยไอ้หนู.. แม่พร้อม
ถึงวันจริง แฟนผมกลับบ้านไปแล้ว โดยที่เธอยังไม่รู้แผนการณ์ ผมบอกว่าจะกลับบ้านไปหาแม่ เช่นกัน ( เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะครับ เธออยู่คอนโด ผมอยู่กับลุง แต่ไปไหนมาไหน ต้องบอกกัน) เธอคงเชื่อ ณ ตอนนั้นผมคิดแบบนั้น
พอถึงวันจริง เวลา 4.30 ตื่นขึ้นมา พร้อมลุย เกียมของใส่เป้ กระดาษ Print มาหลายแผ่นกระดาษกาว กล้องพร้อม ลุย....
เดินทางมาเรื่อยๆ แวะเติมน้ำมัน ก็โทรถามที่บ้านว่า ถึงไหนแล้ว ไม่หลงนะ “สบายมากไอ้หนู” แม่บอก
ผมเดินทางมาเกือบถึง ปากซอยเข้าบ้านแฟนละ ประมาณ 8.00 นิดๆ จอดรถแปะกระดาษข้อความที่หน้ารถ พร้อมลุย
สิ่งที่ผมคิดไว้ครับ โดยปกติเธอจะนอนตื่นสายในวันหยุด งานนี้มี 10 โมงแน่ๆ
ภาพมาเป็นฉากๆ ดังนี้ “ผมขี่รถเข้าไปในบ้าน แม่ยายหรือพ่อตามาเปิดประตูรั้ว พอเห็นผม ตกใจรอบแรก เฮ้ยมาได้ไง จากนั้น แม่ยายเดินไปตามแฟนผมลงมา เธอเดินลงมาพร้อมด้วย สภาพ งัวเงีย หัวฟู ขยี้ตาในชุดนอน หน้าตาไร้เครื่องสำอางค์ เมื่อเห็นผม เธอจะต้องถามว่า
“อ่าวมาได้ไง ไหนบอกว่ากลับบ้าน เอ๊ะ นั่นกระดาษอะไร มีข้อความด้วย เธอเดินตรงมาอ่านข้อความ พร้อมตกใจ และ ร้องไห้ และตอบ ตกลง เธอเข้ามากอดผม ” Happy Ending จากนั้น ผมโทรตามครอบครัว ที่รออยู่ Big C ให้ตามมาสมทบ เพราะผมคิดว่า เหตุการณ์สำคัญแบบนี้ พาพ่อแม่กับแม่ฝั่งผม มาขอเป็นทางการ เลยดีกว่า ให้เกียรติ ครอบครัวและแฟนด้วย
คิดได้ดังนี้ ผมก็ยิ้มฝ้างในหมวกกันน็อกคนเดียว ฮ่าๆๆ พร้อมขี่มอเตอร์ไซค์ คู่ใจมาเรื่อยๆ
ตัดฉับมาที่ ฉากชีวิตจริง...
ผมขี่รถเข้าซอยมาเลี้ยวเข้าบ้าน เจอรั้ว เอ๊ะ ทำไม รั้วเปิด มันต้องปิดสิวะ อ๊ะ เผื่อพ่อตาแม่ยาย ตื่นเช้าวันนี้ เลี้ยวหักเข้าไปในบ้าน ภาพที่เห็นทำเอาผมนี่เอง ที่เกือบเป็นฝ่ายเสียน้ำตา
รถกระบะ ทะเบียนเมืองกาญจน์ จอดอยู่ เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ ภาพนี้บอกอะไร บอกว่า พ่อกับแม่ ผมมาถึงแล้ว แผนการ พังพินาศหมด ผมจอดรถได้ ถอดหมวกกันน็อก ด้วยสภาพ อิดโรย ความกระชุ่มกระชวยมันหายไปสิ้นเลย
จากนั้น แฟนผมก็เดินลงมา พร้อมด้วย เสื้อผ้า ทรงผมและใบหน้าเปื้อนยิ้ม ภายใต้การรองพื้นและกรีดตา ทาลิปสติก มาพร้อมเรียกได้ว่า สวยครบลงมาเลยล่ะ พร้อมคำทักทาย
“มาแล้วเหรอ ฮ่าๆๆๆ เหนื่อยมั้ยจ๊ะ อุ๊ยมีข้อความแปะด้วย (อันนี้เธอไม่รู้)” จากนั้น เธอก็มาถ่ายรูป พร้อมบอกว่า “แต่งคร่า ขอบคุณนะคะ ที่ตั้งใจทำมาให้” แล้วก็มาสวมกวด ยังดีวะ ยังได้อยู่ในแผนบ้างนิดหน่อย
หลังจากผมอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็ทำตามพิธีการ ต่อไป คือ ให้ผู้ใหญ่ ทาบทาม คุยกัน จนได้ พันยา มาครอบครองแบบถูกต้องตามประเพณี Happy Ending
อยากรู้มั้ยครับ ว่าทำไม คนที่เซอร์ไพรส์คือผมเอง อันนี้ผมถาม แฟนผมมา เธอเล่าให้ฟังว่า
ในคืนวันศุกร์ ตอนที่เธออยู่ที่บ้านเธอแล้ว แม่ผมโทรไปหาเธอ พร้อมถามว่า “หนู พรุ่งนี้อยู่บ้านป่าว อยู่แน่ป่าว พ่อกับแม่ล่ะ อยู่ป่าว อยู่แน่หน่า (สำเนียง เหน่อเมืองกาญจน์)”
แฟนผมเลยสงสัย เพราะทุกที ไม่ถามแบบนี้ เลยถามกลับไปว่า แม่ถามแปลกๆ นะคะ มีอะไรหรือปล่าวคะ
แม่ผม ปล่าวไม่มีอะไรหรอก แค่ถามดูเฉยๆ สักพัก คุยเรื่องอื่น ถามอีกรอบ พรุ่งนี้ อยู่บ้านแน่นะ
แฟนผมเลยคะยั้นคะยอ แบบนี้ ไม่ปกติ แม่เล่ามาเลย ค่ะ
สุดท้ายแผนผม เกือบทั้งหมด ยกเว้น ข้อความบนกระดาษ ก็ถูกส่งผ่านไปยัง แฟนผม เรียบร้อยยย ฮ่าๆๆ
เธอเลยตื่นมาอาบน้ำรอตั้งแต่ 6 โมงเช้า แล้วคนที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือผมเอง ฮ่าๆๆ
ใครมี ประสบการณ์เซอร์ไพรส์ แบบแผนล่มแบบนี้ เอามาแบ่งปันกันบ้างนะครับ รออ่านอยู่นะครับ..
เคยตั้งใจ จะเซอร์ไพรส์เค้า แต่เรากับเซอร์ไพรส์เองมั้ยครับ
แผนคือ ผมตั้งใจจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไป ขอแฟนแต่งงานครับ โดยที่เธอไม่รู้ กะจะเซอร์ไพรส์ ว่างั้นเถอะ
เราคบกันมา 4 ปีละ ณ. ตอนั้น จนผมคิดแล้วล่ะ ว่าเธอคนนี้ล่ะที่ใช่ เธอเป็นอะไรอย่างที่ฝัน ผมเลยคิดแผนของผมคนเดียว
เพื่อให้เป็นไปตามแผน ดังนั้น ผมเลยไม่เคย พุดถึงเรื่องการแต่งงานเลย กะจะ พูดทีเดียว แล้ว ปัง จุดพลุกระดาษสีชมพู วุ้งวิ้ง ตกลงมาใส่หัว
ช่วงนี้ ก็ต้องทนฟังคำบ่น หน่อย เช่น ไปงานแต่งเพื่อน จะมีคำถาม “เมื่อไหร่ เราจะได้แต่งมั่งน้า” ผมต้องนั่งเอา ฮ๋ำ เอ้ย หูทวนลม กันไป พร้อมประโยคเด็ด “เรายังไม่พร้อมเลย” แต่ใจข้างใน อยากจะเข้าไปกอด พร้อมบอกว่า ป่ะๆๆ แล้วพาเข้ากระท่อมกลางป่า ไม่ใช่ละ
ครอบครัวผมก็ถามกันบ่อยว่า แต่งๆ ได้แล้ว คนนี้ล่ะดีแล้ว ผมก็เก็บแผนการณ์ เอาไว้ในใจคนเดียว จนใกล้วันประจัญบาน ผมนั่ง Print ข้อความ “Will You Marry me” เพื่อจะแปะไว้ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์
โทรหา แม่ผม บอกแผนการนัดแนะกันเรียบร้อย
เธอเป็นคนเมืองมะขามหวาน ส่วนผมสะพานข้ามแม่น้ำแคว มาป๊ะกันที่ เมืองบางกอก แผนการณ์วันนั้นคือ ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ จากบางกอก ไป นัดเจอกับครอบครัว ที่เพชรบูรณ์ โดยที่ ให้ครอบครัวผมรอที่ Big C ก่อน เพราะครอบครัวผม ไม่เคยเดินทางไปบ้านว่าที่พ่อตาเลยสักครั้ง
ให้ทัพหน้าคือผมเข้าไปก่อน จากนั้น ให้แม่สมทบ ตามไปเมื่อได้สัญญาณบุก พร้อมกำชับว่า ห้ามบอกแฟนผมเด็ดขาดนะแม่..
แม่ตอบว่า เอาเลยไอ้หนู.. แม่พร้อม
ถึงวันจริง แฟนผมกลับบ้านไปแล้ว โดยที่เธอยังไม่รู้แผนการณ์ ผมบอกว่าจะกลับบ้านไปหาแม่ เช่นกัน ( เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะครับ เธออยู่คอนโด ผมอยู่กับลุง แต่ไปไหนมาไหน ต้องบอกกัน) เธอคงเชื่อ ณ ตอนนั้นผมคิดแบบนั้น
พอถึงวันจริง เวลา 4.30 ตื่นขึ้นมา พร้อมลุย เกียมของใส่เป้ กระดาษ Print มาหลายแผ่นกระดาษกาว กล้องพร้อม ลุย....
เดินทางมาเรื่อยๆ แวะเติมน้ำมัน ก็โทรถามที่บ้านว่า ถึงไหนแล้ว ไม่หลงนะ “สบายมากไอ้หนู” แม่บอก
ผมเดินทางมาเกือบถึง ปากซอยเข้าบ้านแฟนละ ประมาณ 8.00 นิดๆ จอดรถแปะกระดาษข้อความที่หน้ารถ พร้อมลุย
สิ่งที่ผมคิดไว้ครับ โดยปกติเธอจะนอนตื่นสายในวันหยุด งานนี้มี 10 โมงแน่ๆ
ภาพมาเป็นฉากๆ ดังนี้ “ผมขี่รถเข้าไปในบ้าน แม่ยายหรือพ่อตามาเปิดประตูรั้ว พอเห็นผม ตกใจรอบแรก เฮ้ยมาได้ไง จากนั้น แม่ยายเดินไปตามแฟนผมลงมา เธอเดินลงมาพร้อมด้วย สภาพ งัวเงีย หัวฟู ขยี้ตาในชุดนอน หน้าตาไร้เครื่องสำอางค์ เมื่อเห็นผม เธอจะต้องถามว่า
“อ่าวมาได้ไง ไหนบอกว่ากลับบ้าน เอ๊ะ นั่นกระดาษอะไร มีข้อความด้วย เธอเดินตรงมาอ่านข้อความ พร้อมตกใจ และ ร้องไห้ และตอบ ตกลง เธอเข้ามากอดผม ” Happy Ending จากนั้น ผมโทรตามครอบครัว ที่รออยู่ Big C ให้ตามมาสมทบ เพราะผมคิดว่า เหตุการณ์สำคัญแบบนี้ พาพ่อแม่กับแม่ฝั่งผม มาขอเป็นทางการ เลยดีกว่า ให้เกียรติ ครอบครัวและแฟนด้วย
คิดได้ดังนี้ ผมก็ยิ้มฝ้างในหมวกกันน็อกคนเดียว ฮ่าๆๆ พร้อมขี่มอเตอร์ไซค์ คู่ใจมาเรื่อยๆ
ตัดฉับมาที่ ฉากชีวิตจริง...
ผมขี่รถเข้าซอยมาเลี้ยวเข้าบ้าน เจอรั้ว เอ๊ะ ทำไม รั้วเปิด มันต้องปิดสิวะ อ๊ะ เผื่อพ่อตาแม่ยาย ตื่นเช้าวันนี้ เลี้ยวหักเข้าไปในบ้าน ภาพที่เห็นทำเอาผมนี่เอง ที่เกือบเป็นฝ่ายเสียน้ำตา
รถกระบะ ทะเบียนเมืองกาญจน์ จอดอยู่ เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ ภาพนี้บอกอะไร บอกว่า พ่อกับแม่ ผมมาถึงแล้ว แผนการ พังพินาศหมด ผมจอดรถได้ ถอดหมวกกันน็อก ด้วยสภาพ อิดโรย ความกระชุ่มกระชวยมันหายไปสิ้นเลย
จากนั้น แฟนผมก็เดินลงมา พร้อมด้วย เสื้อผ้า ทรงผมและใบหน้าเปื้อนยิ้ม ภายใต้การรองพื้นและกรีดตา ทาลิปสติก มาพร้อมเรียกได้ว่า สวยครบลงมาเลยล่ะ พร้อมคำทักทาย
“มาแล้วเหรอ ฮ่าๆๆๆ เหนื่อยมั้ยจ๊ะ อุ๊ยมีข้อความแปะด้วย (อันนี้เธอไม่รู้)” จากนั้น เธอก็มาถ่ายรูป พร้อมบอกว่า “แต่งคร่า ขอบคุณนะคะ ที่ตั้งใจทำมาให้” แล้วก็มาสวมกวด ยังดีวะ ยังได้อยู่ในแผนบ้างนิดหน่อย
หลังจากผมอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็ทำตามพิธีการ ต่อไป คือ ให้ผู้ใหญ่ ทาบทาม คุยกัน จนได้ พันยา มาครอบครองแบบถูกต้องตามประเพณี Happy Ending
อยากรู้มั้ยครับ ว่าทำไม คนที่เซอร์ไพรส์คือผมเอง อันนี้ผมถาม แฟนผมมา เธอเล่าให้ฟังว่า
ในคืนวันศุกร์ ตอนที่เธออยู่ที่บ้านเธอแล้ว แม่ผมโทรไปหาเธอ พร้อมถามว่า “หนู พรุ่งนี้อยู่บ้านป่าว อยู่แน่ป่าว พ่อกับแม่ล่ะ อยู่ป่าว อยู่แน่หน่า (สำเนียง เหน่อเมืองกาญจน์)”
แฟนผมเลยสงสัย เพราะทุกที ไม่ถามแบบนี้ เลยถามกลับไปว่า แม่ถามแปลกๆ นะคะ มีอะไรหรือปล่าวคะ
แม่ผม ปล่าวไม่มีอะไรหรอก แค่ถามดูเฉยๆ สักพัก คุยเรื่องอื่น ถามอีกรอบ พรุ่งนี้ อยู่บ้านแน่นะ
แฟนผมเลยคะยั้นคะยอ แบบนี้ ไม่ปกติ แม่เล่ามาเลย ค่ะ
สุดท้ายแผนผม เกือบทั้งหมด ยกเว้น ข้อความบนกระดาษ ก็ถูกส่งผ่านไปยัง แฟนผม เรียบร้อยยย ฮ่าๆๆ
เธอเลยตื่นมาอาบน้ำรอตั้งแต่ 6 โมงเช้า แล้วคนที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือผมเอง ฮ่าๆๆ
ใครมี ประสบการณ์เซอร์ไพรส์ แบบแผนล่มแบบนี้ เอามาแบ่งปันกันบ้างนะครับ รออ่านอยู่นะครับ..