เราเพิ่งเข้าไปทำงานบริษัทใหม่ เจอเพื่อนร่วมงานผู้ชายคนหนึ่งดูท่าทางนิสัยดี พอเริ่มรู้จักพูดคุยก็รู้สึกว่าเราสองคนมีความชอบหลายๆอย่างคล้าย อ้อ ! ลืมบอกไปว่าวันแรกๆที่เรามาทำงานเค้าบอกเราว่าเค้าคุ้นหน้าเรา เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่ๆ ตัวเราเองก็ถูกชะตาเพื่อนคนนี้ แต่ไม่ได้คิดเกินเลยอะไร ตั้งแต่เรามาทำงานทุกเช้าเค้าจะเป็นคนพูดทักทายเราก่อนเสมอ ตอนเย็นเวลาที่เค้าจะกลับบ้านบางวันก็รอกลับพร้อมเรา เพราะบ้านอยู่ทางเดียวกัน เราก็เริ่มสนิทมากขึ้นพูดแซวกันได้ จนได้ไปแฮงเอ้าท์กันหลังเลิกงานบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปกันแค่สองคน ก็รู้มาว่าเค้ามีแฟนแล้ว แต่อยู่ไกลกัน ไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่ ส่วนตัวเราเองเราก็เลิกกับแฟนได้สักพัก ก็พูดคุยอัพเดตชีวิตทั่วไป แต่เค้าก็แอบถามเราว่าเฮิร์ทหรือเปล่าที่เพิ่งเลิกกับแฟนมา
จนกระทั่งเพื่อนเราคนนี้มาบอกว่าได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก เค้าเลยต้องลาออกจากบริษัท เราเองก็ใจหายมากๆเลยค่ะ เพราะเค้าเป็นเพื่อนที่น่าจะสนิทสุด แต่ก็ไม่ได้สนิทขนาดว่ามีเบอร์ มีไลน์ส่วนตัว หรือเคยไปไหนกันสองคน แค่สนิทในที่ทำงานเฉยๆ
แต่ในช่วงระยะหลังที่เพื่อนเราคนนี้ใกล้ลาออก เราเริ่มสงสัยในท่าทีของเค้าค่ะ เค้าดูตัวติดเรามากขึ้น ซึ่งเราเองก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนให้มากที่สุดก่อนที่เค้าจะไปเรียนต่อเหมือนกัน แต่สำหรับเราเราก็คิดตามประสาเพื่อนนะ หลังๆเรารู้สึกว่าเพื่อนคนนี้จะคอยถามเรามากเป็นพิเศษว่าเป็นไงบ้างวันนี้ บางวันถ้าทำงานยุ่งๆไม่ได้ทักทายกัน เค้าถึงกับเดินมาข้างหลังเรา เอาตัวมาใกล้ๆแล้วก็ทักทายอะไรแบบนี้ หรือตอนเลิกงานเค้าก็จะเดินมานั่งเก้าอี้ตัวข้างเราแล้วก็รอเราปิดคอมพ์ จะได้กลับพร้อมกันอะไรประมาณนี้ ระหว่างทางกลับบ้านเคยมีอยู่วันหนึ่งเรานั่งคุยกันการทำงาน เรื่องทัศนคติ การใช้ชีวิตโน้นนี่ที่ป้ายรถเมล์เกือบสองชั่วโมง เหมือนคุยกันถูกคอมาก เวลาไปร้านไหนดึกๆ เค้าจะทักไลน์เรามา (แอดจากไลน์กรุ้ปออฟฟิศ) ถามว่าถึงบ้านยังไรงี้ ซึ่งเพื่อนคนอื่นไม่ได้สนใจ ทำแบบนี้กับเราเลย 555 เราเองก็รู้สึกดีนะ อยู่กับคนนี้แล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง แต่เค้าก็มีแฟนแล้วไง ซึ่งเราก็รู้ดี ไม่ได้ทำอะไรไม่เหมาะสม มีอยู่วันหนึ่งช่วงใกล้สุดท้ายที่เค้าจะทำงานที่นี่ ตอนเช้าเค้าซื้อขนมมาฝากเราด้วย เราก็ตกใจว่าเห้ยซื้อมาให้ทำไม เค้าบอกว่าให้เป็นของขวัญวันที่เค้าจะออกไง เราก็งง เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็มอง 5555 ซึ่งไอ้ขนมที่เค้าซื้อมาให้น่ะเป็นขนมร้านประจำที่เราชอบซื้อมากินตอนเช้า
บางทีก็มีแอบหวั่นๆบ้างตามประสาผู้หญิงพอใครมาทำอะไรดีๆให้หน่อย แต่เราก็ระลึกไว้เสมอว่าเค้าคือเพื่อน เค้ามีแฟนแล้วจ้ะ มีอยู่วันหนึ่งเค้ามาชวนเราหาไรกินหลังเลิกงาน (มีเพื่อนๆคนอื่นๆด้วย) แล้วพวกเพื่อนผู้ชายก็กินเหล้ากันไง เค้าก็ระบายในวงเหล้ากับพวกผู้ชายนั้นแหละว่าไม่ค่อยได้ติดต่อกับแฟนเลยอยู่ไกลกัน เราก็ฟังๆแล้วก็มีพูดแนะนำมุมมองผู้หญิงให้เค้าฟังบ้างเรื่องแฟนเค้าน่ะ ประมาณว่าอย่าคิดมากไรงี้ แล้วเค้าก็มีโมเม้นท์ที่ทำให้เราแปลกใจคือ เค้ารู้ว่าเราแพ้ควันบุหรี่ พวกผู้ชายคนอื่นมันสูบบุหรี่กัน ควันมันลอยมาทางเรา เค้าก็ยืนอยู่ใกล้ๆ เอามือปัดควันให้แบบเนียน ! อันนี้ทำให้เราเริ่มเอะใจแรก
ทีนี้พอเค้าลาออกเตรียมไปเมืองนอก เรามาทำงานโดยที่ไม่มีเค้าวันแรก รู้สึกโหวงๆมาก เหมือนขาดไรไป มองไปทางไหนก็มีแต่ความเคยชินว่าเมื่อก่อนมีเค้าวนเวียนอยู่รอบตัวเรา ไปกินข้าวผ่านแต่ละร้านก็นึกถึงเค้าตลอด จนเริ่มมาถามใจตัวเองว่า อ้าวเห้ย ! นี่กูรู้สึกอะไรป่าวเนี่ย เอาแล้วๆๆ อยากไลน์ไปถามว่าเป็นไงบ้างก็ไม่กล้า 555 เริ่มรู้สึกทรมาน ที่ผ่านมาเราเผลอรู้สึกอะไรไปป่าววะ
แล้วมันมีความบังเอิญอย่างหนึ่งคือ ระหว่างทางกลับบ้านปกติกลับพร้อมเค้าอันนี้เรากลับคนเดียว ก็เหงาๆอ่ะ จู่ๆเค้าก็ทักไลน์มาปรึกษาว่าเครียดเรื่องที่จะไปเรียนต่อนี่แหละ เราเลยนัดเจอกันแปปนึงตามป้ายรถเมล์ 55 เราก็ให้คำปรึกษา พูดให้กำลังใจเค้า หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน (เราเองก็ดีใจที่ได้เจอเค้านะ) พอกลางดึกเค้าก็ไลน์มาขอบคุณเรา แล้วก็บอกว่าไว้ว่างๆเผื่อเจอกันไปดูหนังนู้นนี่.... แล้วอีกสัก 5 นาทีต่อมาก็ส่งมาเพิ่มว่า เรื่องดูหนังล้อเล่นนะ มันมากไป 555 ! อ่อมมมมม.... เอาแล้วไงไอตอนแรกเราไม่ค่อยสับสน ทีนี้สับสนใหญ่เลย เริ่มลังเลในความรู้สึกตัวเองแล้ว ดันสงสัยในท่าทีของเค้าอีก
คุณผู้ชายคะ ทำไมการชวนเพื่อนผู้หญิงร่วมงานไปดูหนังมันดูไม่ดีเหรอคะ 55 อะไรมันมากไปเหรออออ คือถ้าเค้าไม่มีประโยคนี้เราอาจไม่ค่อยเอะใจอะไรไง นั่งคิดไปคิดมา เค้าก็ปฏิบัติกับเราเหมือนเพื่อนทั่วไปแหละมั้ง ไม่ได้ส่งสัญญาณจีบอะไรเลย เราเล่าให้เพื่อนฟัง มันก็บอกว่าเค้าอาจ 'รู้สึกดี' กับเมิงนะ เราก็งงว่าเลเวลรู้สึกดีนี่ผู้ชายเค้ารู้สึกกันประมาณไหน ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกอยากคุยกับเพื่อนคนนี้ อยู่ด้วยสบายใจเฉยๆ แบบนี้ก็คือ 'รู้สึกดี' ใช่ไหม โอ้ย งง ตกลงเราชอบมันมั้ยเนี่ย แล้วสิ่งที่เค้าทำอ่ะ มันมีความพิเศษอะไรอยู่หรือเปล่า
ความ 'รู้สึกดี' กับ 'รู้สึกชอบ' ของผู้ชายต่างกันยังไงคะ?
จนกระทั่งเพื่อนเราคนนี้มาบอกว่าได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก เค้าเลยต้องลาออกจากบริษัท เราเองก็ใจหายมากๆเลยค่ะ เพราะเค้าเป็นเพื่อนที่น่าจะสนิทสุด แต่ก็ไม่ได้สนิทขนาดว่ามีเบอร์ มีไลน์ส่วนตัว หรือเคยไปไหนกันสองคน แค่สนิทในที่ทำงานเฉยๆ
แต่ในช่วงระยะหลังที่เพื่อนเราคนนี้ใกล้ลาออก เราเริ่มสงสัยในท่าทีของเค้าค่ะ เค้าดูตัวติดเรามากขึ้น ซึ่งเราเองก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนให้มากที่สุดก่อนที่เค้าจะไปเรียนต่อเหมือนกัน แต่สำหรับเราเราก็คิดตามประสาเพื่อนนะ หลังๆเรารู้สึกว่าเพื่อนคนนี้จะคอยถามเรามากเป็นพิเศษว่าเป็นไงบ้างวันนี้ บางวันถ้าทำงานยุ่งๆไม่ได้ทักทายกัน เค้าถึงกับเดินมาข้างหลังเรา เอาตัวมาใกล้ๆแล้วก็ทักทายอะไรแบบนี้ หรือตอนเลิกงานเค้าก็จะเดินมานั่งเก้าอี้ตัวข้างเราแล้วก็รอเราปิดคอมพ์ จะได้กลับพร้อมกันอะไรประมาณนี้ ระหว่างทางกลับบ้านเคยมีอยู่วันหนึ่งเรานั่งคุยกันการทำงาน เรื่องทัศนคติ การใช้ชีวิตโน้นนี่ที่ป้ายรถเมล์เกือบสองชั่วโมง เหมือนคุยกันถูกคอมาก เวลาไปร้านไหนดึกๆ เค้าจะทักไลน์เรามา (แอดจากไลน์กรุ้ปออฟฟิศ) ถามว่าถึงบ้านยังไรงี้ ซึ่งเพื่อนคนอื่นไม่ได้สนใจ ทำแบบนี้กับเราเลย 555 เราเองก็รู้สึกดีนะ อยู่กับคนนี้แล้วสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง แต่เค้าก็มีแฟนแล้วไง ซึ่งเราก็รู้ดี ไม่ได้ทำอะไรไม่เหมาะสม มีอยู่วันหนึ่งช่วงใกล้สุดท้ายที่เค้าจะทำงานที่นี่ ตอนเช้าเค้าซื้อขนมมาฝากเราด้วย เราก็ตกใจว่าเห้ยซื้อมาให้ทำไม เค้าบอกว่าให้เป็นของขวัญวันที่เค้าจะออกไง เราก็งง เพื่อนร่วมงานคนอื่นก็มอง 5555 ซึ่งไอ้ขนมที่เค้าซื้อมาให้น่ะเป็นขนมร้านประจำที่เราชอบซื้อมากินตอนเช้า
บางทีก็มีแอบหวั่นๆบ้างตามประสาผู้หญิงพอใครมาทำอะไรดีๆให้หน่อย แต่เราก็ระลึกไว้เสมอว่าเค้าคือเพื่อน เค้ามีแฟนแล้วจ้ะ มีอยู่วันหนึ่งเค้ามาชวนเราหาไรกินหลังเลิกงาน (มีเพื่อนๆคนอื่นๆด้วย) แล้วพวกเพื่อนผู้ชายก็กินเหล้ากันไง เค้าก็ระบายในวงเหล้ากับพวกผู้ชายนั้นแหละว่าไม่ค่อยได้ติดต่อกับแฟนเลยอยู่ไกลกัน เราก็ฟังๆแล้วก็มีพูดแนะนำมุมมองผู้หญิงให้เค้าฟังบ้างเรื่องแฟนเค้าน่ะ ประมาณว่าอย่าคิดมากไรงี้ แล้วเค้าก็มีโมเม้นท์ที่ทำให้เราแปลกใจคือ เค้ารู้ว่าเราแพ้ควันบุหรี่ พวกผู้ชายคนอื่นมันสูบบุหรี่กัน ควันมันลอยมาทางเรา เค้าก็ยืนอยู่ใกล้ๆ เอามือปัดควันให้แบบเนียน ! อันนี้ทำให้เราเริ่มเอะใจแรก
ทีนี้พอเค้าลาออกเตรียมไปเมืองนอก เรามาทำงานโดยที่ไม่มีเค้าวันแรก รู้สึกโหวงๆมาก เหมือนขาดไรไป มองไปทางไหนก็มีแต่ความเคยชินว่าเมื่อก่อนมีเค้าวนเวียนอยู่รอบตัวเรา ไปกินข้าวผ่านแต่ละร้านก็นึกถึงเค้าตลอด จนเริ่มมาถามใจตัวเองว่า อ้าวเห้ย ! นี่กูรู้สึกอะไรป่าวเนี่ย เอาแล้วๆๆ อยากไลน์ไปถามว่าเป็นไงบ้างก็ไม่กล้า 555 เริ่มรู้สึกทรมาน ที่ผ่านมาเราเผลอรู้สึกอะไรไปป่าววะ
แล้วมันมีความบังเอิญอย่างหนึ่งคือ ระหว่างทางกลับบ้านปกติกลับพร้อมเค้าอันนี้เรากลับคนเดียว ก็เหงาๆอ่ะ จู่ๆเค้าก็ทักไลน์มาปรึกษาว่าเครียดเรื่องที่จะไปเรียนต่อนี่แหละ เราเลยนัดเจอกันแปปนึงตามป้ายรถเมล์ 55 เราก็ให้คำปรึกษา พูดให้กำลังใจเค้า หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน (เราเองก็ดีใจที่ได้เจอเค้านะ) พอกลางดึกเค้าก็ไลน์มาขอบคุณเรา แล้วก็บอกว่าไว้ว่างๆเผื่อเจอกันไปดูหนังนู้นนี่.... แล้วอีกสัก 5 นาทีต่อมาก็ส่งมาเพิ่มว่า เรื่องดูหนังล้อเล่นนะ มันมากไป 555 ! อ่อมมมมม.... เอาแล้วไงไอตอนแรกเราไม่ค่อยสับสน ทีนี้สับสนใหญ่เลย เริ่มลังเลในความรู้สึกตัวเองแล้ว ดันสงสัยในท่าทีของเค้าอีก
คุณผู้ชายคะ ทำไมการชวนเพื่อนผู้หญิงร่วมงานไปดูหนังมันดูไม่ดีเหรอคะ 55 อะไรมันมากไปเหรออออ คือถ้าเค้าไม่มีประโยคนี้เราอาจไม่ค่อยเอะใจอะไรไง นั่งคิดไปคิดมา เค้าก็ปฏิบัติกับเราเหมือนเพื่อนทั่วไปแหละมั้ง ไม่ได้ส่งสัญญาณจีบอะไรเลย เราเล่าให้เพื่อนฟัง มันก็บอกว่าเค้าอาจ 'รู้สึกดี' กับเมิงนะ เราก็งงว่าเลเวลรู้สึกดีนี่ผู้ชายเค้ารู้สึกกันประมาณไหน ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกอยากคุยกับเพื่อนคนนี้ อยู่ด้วยสบายใจเฉยๆ แบบนี้ก็คือ 'รู้สึกดี' ใช่ไหม โอ้ย งง ตกลงเราชอบมันมั้ยเนี่ย แล้วสิ่งที่เค้าทำอ่ะ มันมีความพิเศษอะไรอยู่หรือเปล่า