คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
จขกท หมายถึงกรณีของประชาชนที่ยากจน ไร้งานทำระยะยาว จนต้องรับสวัสดิการของรัฐซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยเหลืออันดับแรกเลย สำหรับผู้ "ยากจน" นั้นหมายถึง เงินสวัสดิการของรัฐที่จะได้รับต่อเดือน (กรณีที่ตกงานระยะสั้นจะได้รับเงินระหว่างตกงานอยู่แล้วระยะหนึ่งระหว่าง 1- 2ปี)
เงินสวัสดิการนี้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับ อาหารประจำวัน ค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้าและเครื่องใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าสำหรับทำความร้อนในหน้าหนาว ค่าไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้าน เช่น สำหรับการหุงต้ม ค่าเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นในบ้าน (แถมด้วยว่า ถ้าเก่าขอซื้อใหม่แทนได้ด้วย) ค่าศึกษา บันเทิง และ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ที่ได้จากรัฐแล้วยังไม่พอ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นดังนี้
แยกเป็น 2 กรณีครับ
กรณีแรก สำหรับผู้ยากจนที่ไม่มีรายได้และอาศัยสวัสดิการเงินเลี้ยงดูจากรัฐตามที่ผมอธิบายข้างต้นแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าคนเหล่านี้ยังมีที่อยู่อาศัยแต่ไม่มีเงินพอที่จะจับจ่ายซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร จะมีองค์กรการกุศล (ในเยอรมนี) เรียกว่า Tafeln ซึ่งแปลว่า มื้ออาหาร ซึ่งจะตั้งอยู่ทุกเมือง
องค์กรนี้จะแจกจ่ายวัตถุดิบหรือเข้าของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับประจำวัน สบู่ ยาสีฟัน อื่นๆ นอกเหนือจากอาหาร อาหารและเครื่องใช้เหล่านี้ทางองค์กรได้รับบริจาคมาจากห้าง supermarket ต่างๆ ที่อยู่ในเมืองนั้นๆ โดยที่นำสินค้าที่หมดอายุแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพที่ใช้ได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้รับบริจาคมามอบแก่องค์กรกุศลเหล่านี้เพื่อแจกจ่ายต่อผู้ยากไร้ต่อไป
กรณีที่สอง ได้แก่ผู้ยากไร้ที่แม้แต่ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือที่เรียกกันว่า ผู้ร่อนเร่ค่ำไหนนอนที่นั่นเพียงหาที่คุ้มหัวนอนได้เท่านั้น คนเหล่านี้จะต้องการอาหารที่ทำสำเร็จแล้ว หรืออาหารร้อนในหน้าหนาว ได้แก่ ซุป น้ำชา กาแฟ จะมีผู้บริจาคองค์กรการกุศลเช่นกัน อย่างเช่น Caritas
องค์กรเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่งในประเทศ
นอกเหนือจากนั้นแล้วก็เหมือนเมืองไทยคือ โบสถ์ ทุกแห่งสามารถเข้าไปขออาหารหรือที่พึ่งพิงได้เสมอ
ที่ผมกล่าวมานี้หมายถึงประเทศยุโรปที่อยู่ในฐานะเศรษฐกิจดีและปานกลาง สำหรับบางประเทศยุโรปตะวันออกที่ยังยากจน เช่น โรมานีย บุลกาเรีย หรือประเทศบอลข่าน เซอร์เบีย อัลบาเนีย มาเซโดเนีย ฯลฯ ที่ไม่มีสวัสดิการของรัฐเพียงพอ องค์กรการกุศลมีน้อยหรือไม่มีเลย ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งโบสถ์เป็นหลักเช่นเดียวกับเมืองไทย
เข้ามาเพิ่มเติมให้อีกเรื่องคือ เรื่องที่พักอาศัยก็เช่นเดียวกัน ทางองค์กรการกุศลจะมีที่พักสำหรับคนจรจัดไว้ให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าหนาวซึ่งคนเหล่านี้จะเสียชีวิตเพราะไม่ยอมเข้าพักในที่พักที่จัดไว้ให้ ย้ำนะครับว่า มีหลายคนที่ไม่ยอมเข้าพักเพราะไม่ต้องการอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์การเข้าพักอาศัย ก็จะดันทุรังนอนข้างนอกแล้วก็จะเสียชีวิตกันเนืองๆ
องค์กรการกุศลเหล่านี้ได้รับเงินบริจาคจากบุคคลทั่วไป เสริมด้วยการช่วยเหลือสมทบทางการเงินจากรัฐ แต่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้กับองค์กรกุศลเหล่านี้จะเป็นผู้อาสาสมัครที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรทั้งสิ้น เป็นการสมัครใจทำเพื่อการกุศลจริงๆ และมีเยอะมากพอเสียด้วยไม่เคยขาด
เงินสวัสดิการนี้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับ อาหารประจำวัน ค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้าและเครื่องใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าสำหรับทำความร้อนในหน้าหนาว ค่าไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้าน เช่น สำหรับการหุงต้ม ค่าเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นในบ้าน (แถมด้วยว่า ถ้าเก่าขอซื้อใหม่แทนได้ด้วย) ค่าศึกษา บันเทิง และ ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ที่ได้จากรัฐแล้วยังไม่พอ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นดังนี้
แยกเป็น 2 กรณีครับ
กรณีแรก สำหรับผู้ยากจนที่ไม่มีรายได้และอาศัยสวัสดิการเงินเลี้ยงดูจากรัฐตามที่ผมอธิบายข้างต้นแล้ว ซึ่งหมายถึงว่าคนเหล่านี้ยังมีที่อยู่อาศัยแต่ไม่มีเงินพอที่จะจับจ่ายซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร จะมีองค์กรการกุศล (ในเยอรมนี) เรียกว่า Tafeln ซึ่งแปลว่า มื้ออาหาร ซึ่งจะตั้งอยู่ทุกเมือง
องค์กรนี้จะแจกจ่ายวัตถุดิบหรือเข้าของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับประจำวัน สบู่ ยาสีฟัน อื่นๆ นอกเหนือจากอาหาร อาหารและเครื่องใช้เหล่านี้ทางองค์กรได้รับบริจาคมาจากห้าง supermarket ต่างๆ ที่อยู่ในเมืองนั้นๆ โดยที่นำสินค้าที่หมดอายุแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพที่ใช้ได้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้รับบริจาคมามอบแก่องค์กรกุศลเหล่านี้เพื่อแจกจ่ายต่อผู้ยากไร้ต่อไป
กรณีที่สอง ได้แก่ผู้ยากไร้ที่แม้แต่ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือที่เรียกกันว่า ผู้ร่อนเร่ค่ำไหนนอนที่นั่นเพียงหาที่คุ้มหัวนอนได้เท่านั้น คนเหล่านี้จะต้องการอาหารที่ทำสำเร็จแล้ว หรืออาหารร้อนในหน้าหนาว ได้แก่ ซุป น้ำชา กาแฟ จะมีผู้บริจาคองค์กรการกุศลเช่นกัน อย่างเช่น Caritas
องค์กรเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่งในประเทศ
นอกเหนือจากนั้นแล้วก็เหมือนเมืองไทยคือ โบสถ์ ทุกแห่งสามารถเข้าไปขออาหารหรือที่พึ่งพิงได้เสมอ
ที่ผมกล่าวมานี้หมายถึงประเทศยุโรปที่อยู่ในฐานะเศรษฐกิจดีและปานกลาง สำหรับบางประเทศยุโรปตะวันออกที่ยังยากจน เช่น โรมานีย บุลกาเรีย หรือประเทศบอลข่าน เซอร์เบีย อัลบาเนีย มาเซโดเนีย ฯลฯ ที่ไม่มีสวัสดิการของรัฐเพียงพอ องค์กรการกุศลมีน้อยหรือไม่มีเลย ก็ยังจำเป็นต้องพึ่งโบสถ์เป็นหลักเช่นเดียวกับเมืองไทย
เข้ามาเพิ่มเติมให้อีกเรื่องคือ เรื่องที่พักอาศัยก็เช่นเดียวกัน ทางองค์กรการกุศลจะมีที่พักสำหรับคนจรจัดไว้ให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าหนาวซึ่งคนเหล่านี้จะเสียชีวิตเพราะไม่ยอมเข้าพักในที่พักที่จัดไว้ให้ ย้ำนะครับว่า มีหลายคนที่ไม่ยอมเข้าพักเพราะไม่ต้องการอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์การเข้าพักอาศัย ก็จะดันทุรังนอนข้างนอกแล้วก็จะเสียชีวิตกันเนืองๆ
องค์กรการกุศลเหล่านี้ได้รับเงินบริจาคจากบุคคลทั่วไป เสริมด้วยการช่วยเหลือสมทบทางการเงินจากรัฐ แต่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานให้กับองค์กรกุศลเหล่านี้จะเป็นผู้อาสาสมัครที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรทั้งสิ้น เป็นการสมัครใจทำเพื่อการกุศลจริงๆ และมีเยอะมากพอเสียด้วยไม่เคยขาด
แสดงความคิดเห็น
ถ้าลำบากยากจนไม่มีข้าวกิน อยู่ต่างประเทศจะต้องทำอย่างไร มีประเทศไหนบ้างที่มีสวัสดิการแบบนี้บ้าง