[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ เมกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26ประเทศ74วัน ตอน58 กรุงมาพูโต โมซัมบิก

กระทู้รีวิว
ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 58 กรุงมาพูโต โมซัมบิก
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)

https://www.youtube.com/watch?v=Qe-epvtjDAQ&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk&index=64

วันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. วลา 06.00 น. เราลงรถที่สถานี Park Station กรุง Johannessburg อากาศเย็นมาก สตรีชาวอัฟริกาใต้ เหมือนพวกอินคา แต่เป็นตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงสูงวัย ที่นิยมเอาผ้าห่มมาห่มข้างบน และพันท่อนล่าง เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ส่วนลูกก็ใช้ผ้าห่มอีกผืน ห่อติดหลัง ที่โจฮันเนสเบิร์ก ป้าจึงถือโอกาสห่อตัวเองให้อุ่นด้วย

มีรปภ. เดินมาขอดูตั๋ว 2 ครั้ง เพื่อเช็คว่า มีคนแปลกปลอมเข้ามาหรือไม่ ใครมีตั๋วเข้ามา แล้วไม่ได้ต่อรถ จะถูกซักถามมากมาย ถ้าสถานีบลูมฟอนเทน ทำแบบนี้ เราคงไม่สูญไอโฟนไป เราทำงานใช้สมองอยู่ตั้งนาน คนมาฉกใช้เวลาไม่ถึงวินาที แล้วก็เอาไปทิ้งเป็นเศษอิเล็คทรอนิค เพราะใช้ไม่ได้😣😣😣😊

นึกถึงแล้วก็เสียดาย ภาพถ่าย และวิดีโอตั้งแต่ออกจากอีกัวซู ไปเซาเปาโล รวมทั้งทุกอย่างหลังจากนั้นยังไม่ได้ส่ง และตัดต่อ เราจะไม่บันทึกวิดีโออีกแล้ว เพราะเหลือเครื่องเดียวที่ต้องทำทุกอย่าง และงานหลัก คือ ใช้พิมพ์

เรายืนรอคิวเช็คอินอยู่นาน เพราะมัวขี้ตา ทั้งรปภ. และเรา ทั้งๆ ที่รู้เวลาออก ว่า 08.15 น. และถึงเวลา 17.15 แต่พอรปภ. ชี้เวลา 07.15 เราก็ตื่นตามเขาไปด้วย ไปยืนในแถว ผิดที่อีก เพราะเขาชี้ให้ไปเข้าแถว กับ พวก Intercape เช็คกับพวกเขาแล้วมพวกเขาก็บอกว่า แถวเดียวกันนี่แหละ ถึงคิวเช็คอิน พนง.ชี้ให้เข้าแถวถัดไป จากหน้าสุด กลายเป็นท้ายสุด เอาตั๋วมาดูใหม่ ตอนตื่นเต็มที่ จึงรู้ว่า เรามัวขี้ตาตามรปภ.ไปเอง
พอมาขึ้นรถพนง.ที่รับเช็คอินบอกว่า พาสปอร์ตไทย ต้องมีวีซ่า เราบอกว่า เราเสิร์จจากเน็ตมาว่า เข้าได้ เขาบอกว่า เน็ต คือ เน็ต เรายังมีความหวังว่า วีซ่าสหรัฐ จะใช้ได้ เขาก็บอกว่า สหรัฐ คือ สหรัฐ เราบอกว่า เราจะลองดู ถ้าเข้าไม่ได้ เราก็จะลงแค่ด่าน ไม่ไปต่อ... ถามว่า เขาจะรอเราไหม...เขาบอกว่า ถ้าเราทำเสร็จเร็วก็ได้ไป ถ้าช้า รถก็ต้องออกเพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่รออยู่...เราบอกไม่เป็นไร แค่ได้ไปที่ด่าน และมีโอกาสลอง

วันนี้เราง่วงกันมาก พอรถออกเห็นว่า บ้านเมืองไม่ได้ต่างจากกทม. นอกจากต้นไม้ที่กทม. จะดูร่มรื่นกว่าเท่านั้น เราจึงต่างคน ต่างหลับ ตื่นเป็นระยะๆ

พอออกจากโจฮันเนสเบิร์กแล้ว เมืองอื่นๆ ดูแห้งแล้ง และเต็มไปด้วยภูเขาหิน แต่ก็มีทุ่งเลี้ยงวัวกินหญ้าแห้ง เป็นระยะ ทำให้ไม่สบายใจ กลัวว่า ถ้าไปถึงด่านตม. แล้วเข้าไม่ได้ จะกลับไม่ได้ ต้องจ้องจดชื่อเมืองไปตลอด เผื่อจะกลับไปค้างคืน
เมืองที่เราเล็งไว้ คือ Nelspruit เป็นเมืองใหญ่ มีท่ารถระหว่างเมือง เหผ้นมี่โรงแรม คืนละ 600 รันด์ อยู่ข้างทาง เราได้ซื้ออาหารที่เมืองนี้ด้วย น้ำส้มที่เมืองนี้ สด อร่อย เพราะ

เป็นเมืองที่ปลูกส้ม แม้จะเต็มไปด้วยภูเขาหิน แต่มีธารน้ำไหลผ่าน เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่ เพราะเป็นแปลงขนาดใหญ่ มีเครื่องมือ และรถขุด กับ เรือนพักคนงาน ตอนปลูกใหม่ๆ ใช้ฟางห่อต้นกล้า ซึ่งเป็นกิ่งตอน ใช้พลาสติก หรือ สแรม มุงหลังคา จนกว่าจะติดและแข็งแรง มีสวนมะม่วง กำลังออกดอกด้วย

บนรถมีคนมุสลิมใจดี ชื่อ คุณ Ibrahim Wavariya จากปากีสถาน มาอยู่กับลูกที่ มาปูโต หาเพื่อนกินขนม ส่งมันฝรั่งทอดกรอบ ให้ลุงกินเป็นเพื่อน พอเราให้คุกกี้ เขาไม่เอาบอกว่า เขามีอาหารเหลือเฟือ ส่งคุกกี้ ของเขามาให้เราอีก ไม่เอาก็คะยั้น คะยอ ตอนหลังแบ่งไก่ทอดแม็คโดนัลด์ ให้อีก 1 ชิ้น

ถามไป ถามมา คุณฟาติมะ ภรรยา เขาอายุเท่าป้า และเรียนจบสาขาการสอนภาษาเหมือนกัน แต่เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เพราะเธอสอนภาษาปากีสถาน

ลูกชายคนหนึ่งทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากอัฟริกาใต้ อีกคนทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงิน ส่วนลูกสาวมีโรงเรียนประถม และสถาบันกวดวิชา
เขาบอกว่า โมซัมบิก ยากจน อย่ากลัวว่าจะเข้าไม่ได้ เขามีหลาน 3 คน เป็นลูกของลูกชายที่อายุเท่าลูกเรา แต่ลูกเรายังไม่มีหลักฐานมั่นคงเลย
พอถึงด่านประทับออก ไม่ถามอะไร เลย เปิดพาสปอร์ตประทับปังๆ จบ แล้วมีหนุ่มมาปูโต พาเราเข้าด่านโมซัมบิก เขาบอกว่า ขอให้มีพาสปอร์ต ก็เข้าได้แล้ว เราก็ได้แต่ลุ้น

ทำวีซ่าที่ด่านไม่ยาก แต่เครื่องมันเกเร กว่าจะเสร็จ พนง.มาช่วยลุ้นและตามไปเอาเล่มในห้อง จ่ายคนละ 892 รันด์ ประมาณ 2,500 บาท
บนรถคุณอับราฮิม ให้ป้าแลกเงินหมดกระเป๋า 3,970 เมติกาล เป็นเงิน รันด์ 800 พอถึงมาปูโต หนุ่มมาปูโตพนง.สาวบนรถ กับคนขับรถก็ช่วยกันหาทางให้เราได้ไป มบาบาเน่ สวาซีแลนด์ แต่ไม่สำเร็จ

ลูกสาวคุณอับราฮิม โทรหาสามี ขอเบอร์โทร คนขับรถตู้ให้ แต่โทรไปไม่มีคนรับสาย เธอบอกว่า ให้เอาเบอร์ไป แล้วค่อยโทรทีหลัง
เราเดินหาที่พัก เห็นป้ายเกสต์เฮ้าส์ แต่พอเดินเข้าไป กลายเป็นราคาโรงแรม 4.5 ดาว เราจึงหาที่ใหม่ ถามหาโรงแรมที่ลุงหาไว้ และกรอกชื่อตอนเข้าด่าน ชื่อ Hotel Continental แวะถามทางโดยใช้โปรแกรมแปลภาษา โชคดีเจอสาวพูดภาษาอังกฤษได้ เธอจะให้หนุ่มไปส่งเรา แต่เราไม่รบกวน เดินลงเขาเจอโรงแรม Hotel Royal ถามราคา คืนละ 3,260 เมติกาล จึงตกลง มีอาหารเช้าเวลา 07.30 น.
เรากินไม่ทัน เพราะเราต้องออกจากโรงแรมตอน 06.00 น. เพื่อไปขึ้นรถที่ Junta ตามที่พนง.ต้อนรับช่วยโทรถามคนขับรถตู้ให้ เขาบอกว่า นั่งแท็กซี่ไป 300 เมติกาล รถออก 07.00 น. ต้องไปรบกวนคนโทรให้วันพรุ่งนี้อีก

โมซัมบิก มืดเร็วมาก เราเดินออกไปเที่ยวจัตุรัสกลางเมือง และเลยไปย่านธุรกิจ ทุกที่ปิดทำการ มีคนไร้บ้านมากมาย ตอนค่ำอากาศเย็น พวกเขาและเธอ กระจุกกันอยู่เป็นที่ๆ กลิ่นปัสสาวะ และอุจจาระ โชยอยู่ทั่วไป ถนนกำลังมีการปรับปรุง มีขยะอยู่ทั่วไป ตอนนั่งรถผ่านเห็นเขาเผาขยะบนลานกว้างแบบไม่มีการกรองมลพิษ มีควันจากปล่องโรงงานลอยอยู่ทั่วไป

โรงงานที่อยู่ริมทะเล มีท่าเรือเป็นของตนเอง เมืองนี้อยู่ติดทะเลมีท่าเรือขนส่งสินค้าอยู่ในเมือง
Mozambique ทีพื้นที่ 801,590 ตร.กม. มีประชากร 20 ล้านคน รายได้เฉลี่ยต่อหัว ต่อปี $1,389 ใช้เงินสกุลมาติกาล ภาษาราชการ คือ โปรตุเกส เพราะเคยเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกส เมืองหลวงชื่อมาปูโต เมืองนี้มีมุสลิมเยอะทีเดียว ตอนที่เราเดินเที่ยว ได้ยินเสียงละหมาดจากมัสยิด ดังไปไกลมาก

มีเสียงเพลงจากสถานบันเทิง ดังกระหึ่มเช่นกัน และ มีสาวขายบริการ ยืนและนั่งอยู่ตามที่มืดๆ มันก็เป็นวิถีชีวิตที่คนแต่ละคนเลือกที่จะทำ
ลุงบอกว่า เมืองนี้คงเต็มไปด้วยยาเสพติด เวลาเดินต้องระวังในระยะ ไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพราะคุณอิบราฮิม เตือนเราให้ระวังตัวตลอดเวลา อย่าเอาเงินไว้ในกระเป๋าเดียว...ลุงส่งเสียงเป็นระยะ เวลาที่เราต้องเดินแยกกัน เนื่องจากอุปสรรคที่ขวางทางเดิน
ชื่อสินค้า:   กรุงมาพูโต โมซัมบิก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่