หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] Lompoc "เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนังในหุบเขาดอกไม้"
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
One Day Trip
สหรัฐอเมริกา
โจทย์ชีวิตที่ต้องขบคิดในแต่ละอาทิตย์ที่นอกเหนือจากความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า จากการทำงานอันแสนยาวนานในแต่ละวันแล้ว การหาสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุด ก็เป็นอีกโจทย์ที่ต้องตีให้แตก ไม่งั้นคงอกแตกตายถ้าหาที่ลงไม่ได้ แล้วคำตอบเหล่านั้นก็จะอยู่ที่ไหนซะอีกล่ะ นอกจาก “อากู๋ Google” และ “ตัวกู” นี่แหละที่ต้องมานั่ง Search หาที่เที่ยวแบบ นอนตีความ ตีลังกานั่งแปลให้ได้ว่า อากู๋จะแนะนำให้ตัวกูและแก๊งค์ไปเที่ยวที่ไหนได้มั่ง แล้ววันหยุดนี้อากู๋ของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวัง Lompoc คือสถานที่ท่องเที่ยวที่แม้แต่คนอเมริกัน ที่เกิดและเติบโตที่นี่ยังไม่รู้มาก่อนเลยว่า Lompoc คือ “City of Murals in the Valley of Flowers”
ลอมพอก หรือ "เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนังในหุบเขาดอกไม้"เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตของ Santa Barbara County รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเมืองที่ใครหลายคนๆ รวมถึงเพื่อนชาวอเมริกันของเราที่เกิดและเติบโตที่นี่ ไม่รู้เลยว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามซ่อนอยู่ จนเราแอบนึกในใจว่า "โอ้มายก๊อด !!! คนในไม่รู้คนนอกเผือกรู้ซะงั้น" แต่ทันทีที่เขารู้ก็อยากจะไปเที่ยวตามทันที สงสัยนอกจากจัดทัวร์ไทยแล้วพ่วงจัดทัวร์พาฝรั่งเที่ยวด้วยเลยดีกว่ามั้ง คงจะรวยเละน่าดู
เมืองนี้ถ้าเพียงแค่ขับรถผ่านจะไม่มีวันได้เห็นศิลปะอันสวยงามที่ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือ หยุดและเดินเที่ยวใน Old Town เสพงานศิลป์ ฟินๆ ไปกับจิตรกรรมฝาผนัง 36 ภาพ ที่ประดับประดาอยู่ตามประตู หน้าต่าง และกำแพงของอาคาร ร้านค้า รวมไปถึงบ้านเรือนหลายหลัง
ศิลปะพวกนี้ก็ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาเมื่อ 25 ปีก่อน จากความประทับในการเดินทางไปเที่ยวที่ British Columbia ของ Gene และ Judy Stevens จึงได้นำไอเดียจากงานศิลปะที่นั่น มาฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในเมืองให้พลิกฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยเชิญเหล่าศิลปินมาเนรมิตให้กำแพงเมืองที่ดูว่างเปล่า มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ผ่านสีและพู่กันจนกลายเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้มาภายในOld Town แห่งนี้
จากนั้นก็ขับรถไปตามหาทุ่งดอกไม้กันต่อ ขับออกนอกเมืองไปอีกไม่ไกล ก็จะเจอกับทุ่งกว้างของผักใบเขียวนานาชนิดเต็มไปหมด อ้าว !!! ละไหนล่ะทุ่งดอกไม้แสนสวยที่พวกเราตามหา ทำไมไม่เห็นมี ทันใดนั้น สายตาอันย้าวยาวของหนึ่งในแก๊งค์ (ต้องเฉพาะคนแก่เท่านั้นถึงจะมีสายตาพิเศษแบบนี้ได้ อิอิ )ก็ตะโกนขึ้นมาว่า "นู่นไง อยู่โน่นไงเต็มเลย" เออใช่เห็นสีของอะไรบางอย่างอยู่ลิบๆ นู่นแน่ะ ไชโย !!! เจอแล้ว แต่ทุ่งแรกที่เจอต้องขับรถเข้าไปตามทางที่คล้ายร่องผัก ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะขับเข้าไปได้หรือไม่ จนต้องรอรถที่อยู่ด้านในขับออกมาเพื่อรอถาม เขาบอกว่า จะมีอีกหลายทุ่งที่อยู่ริมถนนไม่ต้องขับเข้าไปคลุกฝุ่นลึกแบบนี้ ไม่รอช้าพวกเราเปลี่ยนทิศไปยังทุ่งที่ว่ากันทันที
และแล้วก็เจอ เพียงแค่จอดรถก็เจอทุ่งริมถนนอย่างที่เขาว่าทันที ทุกคนตื่นเต้นและตะโกนออกมาพร้อมๆ กันว่าแบบไม่หยุดว่า "สวยมากกกกกกกก" ใช่มันสวยมาก เป็นทุ่งดอกไม้สลับสีสันตัดกันเป็นแนวลึกกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บวกกับภูเขาที่เป็นฉากหลังยิ่งทำให้ภาพที่เห็นมันสวยเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร ที่สำคัญไม่ต้องไปถึงฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขาก็มีเช่นกัน
ที่เมืองนี้เขาประกาศตัวว่าเป็นแหล่งปลูกดอกไม้รายใหญ่ของอเมริกากันเลยที่เดียว ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นแบบคงที่ทั้งปี จึงทำการเพาะปลูกได้ตลอด เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในการปลูกดอกไม้นานาพันธุ์และเพาะพันธุ์เมล็ดส่งออกไปทั่วโลก เช่น Sweet Pea,Stock,Sun Flower ฯลฯ ส่วนพันธุ์ที่เราเห็นกันในวันนี้เขาเรียกว่า "Stock Flower" ช่วงที่เหมาะแก่การเที่ยวชมนั้นคือช่วงปลายเดือนมิถุนายนจะเยอะที่สุด แต่ก็สามารถก็มาดูกันได้ตลอดไปตั้งแต่ปลายมิถุนายน - กันยายน
จุดหมายสุดท้ายคือ "Jalama Beach" Goolegle map บอกว่าขับไปอีก 30 นาทีก็ขับกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ลึกทางเปลี่ยวเข้าไปในหุบเขาอีกแล้ว สัญญาณเนทก็หายMap เลยใช้การไม่ได้ ทำไมมันไกลขนาดนี้ จะหลงอีกหรือป่าว ตุ้มๆต่อมๆ กันอีกละ หนึ่งในแก๊งค์โวยวายขึ้นมาว่า "หลงป่าววะ ทำไมเข้ามาไกลขนาดนี้" เราก็สวนทันที "ไม่หลงหรอก มันไม่มีทางเลี้ยวไหนเลย กูชัวร์" ปากก็ได้แต่บอกไปว่า กูชัวร์ แต่ทั้งที่ไม่ชัวร์ซักเท่าไหร่จะส่วนใหญ่พอสัญญาณเนทหมดต้องพา
หลงก่อนทุกครั้งแล้วค่อยถึง 555 อีกเสียงก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ทะเลอะไรอยู่ลึกขนาดนี้จะมาเที่ยวทะเลนะโว้ย ไม่ได้ไปเข้าป่า"หลังพ้นเขาลูกสุดท้าย ภาพของท้องทะเลอันกว้างไกลของมหาสมุทรแปซิฟิคก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ระยิบระยับไปด้วยเปลวแดดที่กระทบกับท้องน้ำสวยงามจนแสบตา
[img]
"Jalama Beach" เป็นทะเลที่มีCampsite ให้มากลางเต้นท์ หรือจอดรถ RV และบ้านพักให้เช่าค้างคืนอีกด้วย แต่ถ้ามาแบบเช้าเย็นกลับก็เสียค่าเข้า $10 ต่อรถ 1 คัน ส่วนใครที่จะมาตั้งแคมป์ก็เสียบริการ $30-$50 ต่อคืน มีห้องอาบน้ำสาธารณะแบบหยอดเหรียญไว้บริการด้วย
น่าแปลกที่ทะเลที่นี่ร้อนมาก ผิดจากทะเลที่อื่นๆ ซึ่งมักจะหนาวและเย็น มันร้อนขนาดที่ทำให้พวกเราได้แต่มองฝรั่งที่เขานั่งตากแดด เล่นน้ำกันอย่างไม่รู้ร้อทะเลที่นี่สวย สงบเงียบ และคลื่นแรงมาก เป็นหาดส่วนตัวที่ไม่พลุกพล่านเลย
การเที่ยวในแต่ละครั้งขอบอกเลยว่ามันเหนื่อยยิ่งกว่าการทำงานหนักมาทั้งวันซะอีก แต่มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเพราะ เป็นการพักใจที่ดีที่สุดจากการทำงาน ถึงแม้เหมือนกายจะไม่ได้พัก แต่ขอให้ใจได้พัก แค่นี้ก็สุขใจแล้ว
ชื่อสินค้า:
Lompoc California USA
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
วัดไชยทิศ...จิตรกรรมงามย่านฝั่งธนฯ (๒)
ฝั่งธนบุรี ย่านเก่าในบางกอก...แหล่งประวัติศาสตร์และวิถีชีวิต ด้วยสภาพภูมิประเทศในอดีตที่มีลำคลองไหลผ่าน อาชีพหลักของคนธนบุรีคือการทำสวน ประกอบกับธนบุรี เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ที่มีมาก่อนสถาปนากรุงรัตน
Bright - J
อยากเป็นช่างงานจิตรกรรมฝาผนังค่ะ ทำยังไงถึงจะได้อยู่ในทีมวาดคะ
เราชอบศิลปะในจิตรกรรมฝาผนังมากๆ เช่น พุทธประวัติ ทศชาติชาดก รามเกียรติ์ คือแบบเห็นแล้วชอบและหลงไหลในศิลปะไทยๆแบบนี้มากๆค่ะ อยากทราบว่าเรียนอะไรและมีแนวทางแบบไหนถึงจะได้ทำงานเป็นช่างวาดจิตรกรรมฝาผนังคะ
สมาชิกหมายเลข 5744129
สอบถามทางไปวัดสุทัศน์ พักอยู่หลังม.จันทรเกษม
ขออนุญาตสอบถามทางค่ะ ถ้าเราจะไปวัดสุทัศน์ เราต้องเดินทางยังไงคะ พอดีอาจารย์ให้ไปถ่ายงานเกี่ยวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สุดเลยเลือกที่นี่ พักอยู่หลังม.ราชภัฏจันทรเกษม ไปหาอ่านมาเค้าบอกว่าขึ้นรถเมล์ไปได้
สมาชิกหมายเลข 6964185
ไปเที่ยวทะเลคนเดียวครั้งแรก… ทำไมถึงรู้สึกเหมือนได้พบตัวเอง?
สวัสดีค่ะ เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งไปเที่ยวทะเลคนเดียวครั้งแรกที่ภูเก็ตค่ะ ตอนแรกก็ลังเลมาก กลัวเหงา กลัวหลง กลัวเบื่อ แต่สุดท้ายตัดสินใจแล้วจองตั๋วไปแบบไม่คิดอะไรมาก เพราะรู้สึกว่าต้องการพื้นที่ให้ตัวเอ
สมาชิกหมายเลข 9012173
พาชมวัดชมภูเวก วัดสมัยพระนารายณ์มหาราช จ.นนทบุรี มีโบสถ์โบราณ พระโบราณศักดิ์สิทธิ์ และพระแม่ธรณีที่สวยงามมาก
วัดชมภูเวก สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี วัดโบราณสร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดย ชาวมอญ(พ่อปู่ศรีชมภู) ขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานของชาติ เมื่อ 14 พ.ค. พ.ศ. 2517 .มีจิตรกรรมฝาผนังยุคอยุธยาตอนกลาง มีภา
chattering box
ใครเคยเอาภาพจิตรกรรมฝาผนังของวัด มาใช้งานในเชิงพาณิชย์บ้างคะ มีการขออนุญาติอย่างไรบ้างคะ
พอดีมีโปรเจค ที่ต้องนำภาพจิตรกรรมฝาผนังจากวัดดัง วัดนึงมาทำสื่อดิจิตัล ในเชิงพาณิชย์ค่ะ เลยอยากทราบขั้นตอนในการขออนุญาตอย่างถูกต้อง พอดีลองหาทางติดต่อวัด และกรมศิลปากรประจำจังหวัดนั้นๆ แต่ข้อมูลติดต่อ
โยเกิร์ตในช่องแช่ผัก
จรูญโรมัน คิ้วบัวปูนปั้นตกแต่งหน้าต่างประตู รับเหมางานปั้นและจิตรกรรมฝาผนังต่างๆ จ.เพชรบุรี
รับทำคิ้วบัวปูนปั้นหน้าต่างประตู บัว7และบัว10 รับเหมางานปั้นฐานพระ,ช่อฟ้า,ใบระกา,หน้าบันโบสถ์ รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังต่างๆภายในวัดหรืออื่นๆ อยู่จังหวัดเพชรบุรี รับงานต่างจังหวัดได้ ถ้าไกลมากขอพิจารณาอีกท
สมาชิกหมายเลข 4116271
ม.ศิลปากร ขอเชิญชมนิทรรศการผลงานวิทยานิพนธ์ "พระองค์หริภา"
คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดแสดงนิทรรศการจิตรกรรมฝาผนังล้านนา เรื่อง “พระมหาชนก” จากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (The Lanna Mural Painting of Maha
zhang989
เครื่องร้อนไวและเสียงเครื่องเบาเวลาเร่งที่60+เกิดจากสาเหตุไหนบ้างครับ (wave110i 2012)
1.ขับไปประมาณ 1-4 กิโล เร่งประมา 40 ฝาแคร้งฝั่งเบรคเท้าร้อนมาก แต่ฝาแคร้งฝั่งเกียร์ร้อนน้อยกว่า ฝาแคร้งฝั่งเบรคเท้าร้อนพอๆกับท่อตอนขับไปที่ที่ไกลๆ 2.เวลาเร่งประมาณ 60-80 เครื่องจะเสียงเบามาก(เปิดกรอง
สมาชิกหมายเลข 8885360
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
One Day Trip
สหรัฐอเมริกา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 15
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] Lompoc "เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนังในหุบเขาดอกไม้"
ลอมพอก หรือ "เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนังในหุบเขาดอกไม้"เป็นเมืองเล็กๆ ในเขตของ Santa Barbara County รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเมืองที่ใครหลายคนๆ รวมถึงเพื่อนชาวอเมริกันของเราที่เกิดและเติบโตที่นี่ ไม่รู้เลยว่าเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีเสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามซ่อนอยู่ จนเราแอบนึกในใจว่า "โอ้มายก๊อด !!! คนในไม่รู้คนนอกเผือกรู้ซะงั้น" แต่ทันทีที่เขารู้ก็อยากจะไปเที่ยวตามทันที สงสัยนอกจากจัดทัวร์ไทยแล้วพ่วงจัดทัวร์พาฝรั่งเที่ยวด้วยเลยดีกว่ามั้ง คงจะรวยเละน่าดู
เมืองนี้ถ้าเพียงแค่ขับรถผ่านจะไม่มีวันได้เห็นศิลปะอันสวยงามที่ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องทำคือ หยุดและเดินเที่ยวใน Old Town เสพงานศิลป์ ฟินๆ ไปกับจิตรกรรมฝาผนัง 36 ภาพ ที่ประดับประดาอยู่ตามประตู หน้าต่าง และกำแพงของอาคาร ร้านค้า รวมไปถึงบ้านเรือนหลายหลัง
ศิลปะพวกนี้ก็ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาเมื่อ 25 ปีก่อน จากความประทับในการเดินทางไปเที่ยวที่ British Columbia ของ Gene และ Judy Stevens จึงได้นำไอเดียจากงานศิลปะที่นั่น มาฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในเมืองให้พลิกฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยเชิญเหล่าศิลปินมาเนรมิตให้กำแพงเมืองที่ดูว่างเปล่า มีเรื่องราวและประวัติศาสตร์ผ่านสีและพู่กันจนกลายเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวให้มาภายในOld Town แห่งนี้
จากนั้นก็ขับรถไปตามหาทุ่งดอกไม้กันต่อ ขับออกนอกเมืองไปอีกไม่ไกล ก็จะเจอกับทุ่งกว้างของผักใบเขียวนานาชนิดเต็มไปหมด อ้าว !!! ละไหนล่ะทุ่งดอกไม้แสนสวยที่พวกเราตามหา ทำไมไม่เห็นมี ทันใดนั้น สายตาอันย้าวยาวของหนึ่งในแก๊งค์ (ต้องเฉพาะคนแก่เท่านั้นถึงจะมีสายตาพิเศษแบบนี้ได้ อิอิ )ก็ตะโกนขึ้นมาว่า "นู่นไง อยู่โน่นไงเต็มเลย" เออใช่เห็นสีของอะไรบางอย่างอยู่ลิบๆ นู่นแน่ะ ไชโย !!! เจอแล้ว แต่ทุ่งแรกที่เจอต้องขับรถเข้าไปตามทางที่คล้ายร่องผัก ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะขับเข้าไปได้หรือไม่ จนต้องรอรถที่อยู่ด้านในขับออกมาเพื่อรอถาม เขาบอกว่า จะมีอีกหลายทุ่งที่อยู่ริมถนนไม่ต้องขับเข้าไปคลุกฝุ่นลึกแบบนี้ ไม่รอช้าพวกเราเปลี่ยนทิศไปยังทุ่งที่ว่ากันทันที
และแล้วก็เจอ เพียงแค่จอดรถก็เจอทุ่งริมถนนอย่างที่เขาว่าทันที ทุกคนตื่นเต้นและตะโกนออกมาพร้อมๆ กันว่าแบบไม่หยุดว่า "สวยมากกกกกกกก" ใช่มันสวยมาก เป็นทุ่งดอกไม้สลับสีสันตัดกันเป็นแนวลึกกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บวกกับภูเขาที่เป็นฉากหลังยิ่งทำให้ภาพที่เห็นมันสวยเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร ที่สำคัญไม่ต้องไปถึงฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขาก็มีเช่นกัน
ที่เมืองนี้เขาประกาศตัวว่าเป็นแหล่งปลูกดอกไม้รายใหญ่ของอเมริกากันเลยที่เดียว ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็นแบบคงที่ทั้งปี จึงทำการเพาะปลูกได้ตลอด เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในการปลูกดอกไม้นานาพันธุ์และเพาะพันธุ์เมล็ดส่งออกไปทั่วโลก เช่น Sweet Pea,Stock,Sun Flower ฯลฯ ส่วนพันธุ์ที่เราเห็นกันในวันนี้เขาเรียกว่า "Stock Flower" ช่วงที่เหมาะแก่การเที่ยวชมนั้นคือช่วงปลายเดือนมิถุนายนจะเยอะที่สุด แต่ก็สามารถก็มาดูกันได้ตลอดไปตั้งแต่ปลายมิถุนายน - กันยายน
จุดหมายสุดท้ายคือ "Jalama Beach" Goolegle map บอกว่าขับไปอีก 30 นาทีก็ขับกันไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ลึกทางเปลี่ยวเข้าไปในหุบเขาอีกแล้ว สัญญาณเนทก็หายMap เลยใช้การไม่ได้ ทำไมมันไกลขนาดนี้ จะหลงอีกหรือป่าว ตุ้มๆต่อมๆ กันอีกละ หนึ่งในแก๊งค์โวยวายขึ้นมาว่า "หลงป่าววะ ทำไมเข้ามาไกลขนาดนี้" เราก็สวนทันที "ไม่หลงหรอก มันไม่มีทางเลี้ยวไหนเลย กูชัวร์" ปากก็ได้แต่บอกไปว่า กูชัวร์ แต่ทั้งที่ไม่ชัวร์ซักเท่าไหร่จะส่วนใหญ่พอสัญญาณเนทหมดต้องพา
หลงก่อนทุกครั้งแล้วค่อยถึง 555 อีกเสียงก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ทะเลอะไรอยู่ลึกขนาดนี้จะมาเที่ยวทะเลนะโว้ย ไม่ได้ไปเข้าป่า"หลังพ้นเขาลูกสุดท้าย ภาพของท้องทะเลอันกว้างไกลของมหาสมุทรแปซิฟิคก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ระยิบระยับไปด้วยเปลวแดดที่กระทบกับท้องน้ำสวยงามจนแสบตา
"Jalama Beach" เป็นทะเลที่มีCampsite ให้มากลางเต้นท์ หรือจอดรถ RV และบ้านพักให้เช่าค้างคืนอีกด้วย แต่ถ้ามาแบบเช้าเย็นกลับก็เสียค่าเข้า $10 ต่อรถ 1 คัน ส่วนใครที่จะมาตั้งแคมป์ก็เสียบริการ $30-$50 ต่อคืน มีห้องอาบน้ำสาธารณะแบบหยอดเหรียญไว้บริการด้วย
น่าแปลกที่ทะเลที่นี่ร้อนมาก ผิดจากทะเลที่อื่นๆ ซึ่งมักจะหนาวและเย็น มันร้อนขนาดที่ทำให้พวกเราได้แต่มองฝรั่งที่เขานั่งตากแดด เล่นน้ำกันอย่างไม่รู้ร้อทะเลที่นี่สวย สงบเงียบ และคลื่นแรงมาก เป็นหาดส่วนตัวที่ไม่พลุกพล่านเลย
การเที่ยวในแต่ละครั้งขอบอกเลยว่ามันเหนื่อยยิ่งกว่าการทำงานหนักมาทั้งวันซะอีก แต่มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเพราะ เป็นการพักใจที่ดีที่สุดจากการทำงาน ถึงแม้เหมือนกายจะไม่ได้พัก แต่ขอให้ใจได้พัก แค่นี้ก็สุขใจแล้ว