ผมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ครับ จะยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษกลางเดือนหน้านี้ เพื่อเดินทางระหว่างวันที่ 24 ธันวาคม - 4 มกราคม ทั้งหมด 12 วันครับ เป็นการขอครั้งแรกและมีคุณพ่อเป็นสปอนเซอร์ + เงินเก็บส่วนตัวครับ
เอกสารของผมเองที่จะยื่นก็จะมี
- ใบสมัครวีซ่า
- จดหมายแนะนำตัว
- จดหมายอธิบายที่มาของเงินเก็บ เป็นเงินสะสมจากค่าจ้างรายวันจากร้านอาหารคุณพ่อ งานแปล และรายได้เสริมอื่นๆ
- รูปถ่ายงานที่ทำ
- ใบรับรองการเป็นนักศึกษา
- เอกสารการเข้าฝึกงาน (หลังจากกลับมาผมต้องเข้าฝึกงานในวันที่ 11 มกราคม ครับ)
- แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด 12 วัน
- ใบจองเที่ยวบินไป-กลับ (*อันนี้ผมจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้วอ่ะครับ)
- ใบจองโรงแรมครบทุกวัน
- พาสปอร์ต (เคยเข้า ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ครับ)
- สเตทเม้นของตัวเอง 2 บัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน เงินเก็บรวมกัน 3 หมื่นกว่าบาท
เอกสารของคุณพ่อเพื่อการเป็นสปอนเซอร์นะครับ
- จดหมายแนะนำตัว + รับรองการเป็นสปอนเซอร์ สนับสนุนค่าที่พักตลอดทริป และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็น
- จดหมายอธิบายอาชีพการงานและที่มารายได้ (*คุณพ่อทำร้านอาหาร แต่ไม่ได้จดทะเบียนการค้า มีแค่หนังสือสัญญาเช่าทำร้าน ซึ่งในสัญญาลงชื่อผู้เช่าคือผมเองครับ)
- รูปถ่ายร้านอาหาร
- สเตทเม้นของคุณพ่อ 3 บัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกรวมกันทุกบัญชีอยู่ราวๆ 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน ยอดเงินคงเหลือก่อนยื่นขอวีซ่าอาจจะมีประมาณ 2-3 หมื่นบาท
- พาสปอร์ตคุณพ่อ
คำถามนะครับ
- ถ้าหากพิจารณาจากจำนวนเงินเก็บส่วนตัวที่มีประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท บวกกับเงินคงเหลือในบัญชีของคุณพ่ออีก 2-3 หมื่นบาท พี่ๆคิดว่าจำนวนเงินจะน้อยเกินไปไหมครับ? หรือควรเก็บเพิ่มขึ้นอีกแล้วเลื่อนวันยื่นออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน?
- กรณีนี้ควรยื่นหนังสือสัญญาร้านอาหารเพื่อประกอบการพิจารณาวีซ่าไหมครับ? เพราะไม่ได้จดทะเบียนการค้า ซึ่งร้านเป็นของคุณพ่อ แต่ทำสัญญาในชื่อผมครับ
- เงินเก็บส่วนตัวสำหรับทริปนี้ 3 หมื่นกว่าบาทจะไม่รวมค่าเครื่องบินไป-กลับนะครับ เพราะจ่ายค่าเครื่องไปแล้ว ตรงนี้ควรชี้แจงไปในจดหมายด้วยไหมครับ?
- มีส่วนไหนบ้างครับที่เป็นจุดอ่อนที่จะทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธได้?
- เอกสารต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษไหมครับ?
- ควรยื่นเอกสารตัวไหนเพิ่มเติมอีกไหมครับ เช่น บิลค่าโทรศัพท์ น้ำ ไฟ ของตัวผมเองและของคุณพ่อ?
รบกวนพี่ๆให้คำแนะนำด้วยนะครับ
ปรึกษาเรื่องขอวีซ่าเที่ยวอังกฤษครับ
เอกสารของผมเองที่จะยื่นก็จะมี
- ใบสมัครวีซ่า
- จดหมายแนะนำตัว
- จดหมายอธิบายที่มาของเงินเก็บ เป็นเงินสะสมจากค่าจ้างรายวันจากร้านอาหารคุณพ่อ งานแปล และรายได้เสริมอื่นๆ
- รูปถ่ายงานที่ทำ
- ใบรับรองการเป็นนักศึกษา
- เอกสารการเข้าฝึกงาน (หลังจากกลับมาผมต้องเข้าฝึกงานในวันที่ 11 มกราคม ครับ)
- แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด 12 วัน
- ใบจองเที่ยวบินไป-กลับ (*อันนี้ผมจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้วอ่ะครับ)
- ใบจองโรงแรมครบทุกวัน
- พาสปอร์ต (เคยเข้า ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ครับ)
- สเตทเม้นของตัวเอง 2 บัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน เงินเก็บรวมกัน 3 หมื่นกว่าบาท
เอกสารของคุณพ่อเพื่อการเป็นสปอนเซอร์นะครับ
- จดหมายแนะนำตัว + รับรองการเป็นสปอนเซอร์ สนับสนุนค่าที่พักตลอดทริป และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็น
- จดหมายอธิบายอาชีพการงานและที่มารายได้ (*คุณพ่อทำร้านอาหาร แต่ไม่ได้จดทะเบียนการค้า มีแค่หนังสือสัญญาเช่าทำร้าน ซึ่งในสัญญาลงชื่อผู้เช่าคือผมเองครับ)
- รูปถ่ายร้านอาหาร
- สเตทเม้นของคุณพ่อ 3 บัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน มีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกรวมกันทุกบัญชีอยู่ราวๆ 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน ยอดเงินคงเหลือก่อนยื่นขอวีซ่าอาจจะมีประมาณ 2-3 หมื่นบาท
- พาสปอร์ตคุณพ่อ
คำถามนะครับ
- ถ้าหากพิจารณาจากจำนวนเงินเก็บส่วนตัวที่มีประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท บวกกับเงินคงเหลือในบัญชีของคุณพ่ออีก 2-3 หมื่นบาท พี่ๆคิดว่าจำนวนเงินจะน้อยเกินไปไหมครับ? หรือควรเก็บเพิ่มขึ้นอีกแล้วเลื่อนวันยื่นออกไปเป็นเดือนพฤศจิกายน?
- กรณีนี้ควรยื่นหนังสือสัญญาร้านอาหารเพื่อประกอบการพิจารณาวีซ่าไหมครับ? เพราะไม่ได้จดทะเบียนการค้า ซึ่งร้านเป็นของคุณพ่อ แต่ทำสัญญาในชื่อผมครับ
- เงินเก็บส่วนตัวสำหรับทริปนี้ 3 หมื่นกว่าบาทจะไม่รวมค่าเครื่องบินไป-กลับนะครับ เพราะจ่ายค่าเครื่องไปแล้ว ตรงนี้ควรชี้แจงไปในจดหมายด้วยไหมครับ?
- มีส่วนไหนบ้างครับที่เป็นจุดอ่อนที่จะทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธได้?
- เอกสารต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษไหมครับ?
- ควรยื่นเอกสารตัวไหนเพิ่มเติมอีกไหมครับ เช่น บิลค่าโทรศัพท์ น้ำ ไฟ ของตัวผมเองและของคุณพ่อ?
รบกวนพี่ๆให้คำแนะนำด้วยนะครับ