หลังจากมูลนิธิกระจกเงาเปิดแคมเปญ "คนหายหน้าเหมือน" ที่ทำร่วมกับบริษัท BBDO Bangkok นำดาราคนดังที่คล้ายคนหายมาเทียบเคียงกัน สร้างการจดจำ กระตุ้นให้ประชาชนช่วยกันแชร์และแจ้งเบาะแสได้ง่ายขึ้น แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเบื้องหลังของแคมเปญนี้ ทีมนักแสดงและผู้ผลิตแคมเปญ เดินทางมาเปิดใจกับรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง3
คุณกุสุมา รุจกิจยานนท์ Asso Creative director บริษัท BBDO Bangkok เล่าว่าจุดเริ่มต้นมาจากปัญหา ตัวเองเคยเห็นป้ายโฆษณาตามเฟซบุ๊กเยอะมาก แต่สุดท้ายเราก็จำหน้าคนหายไม่ได้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่คิดอยากจะช่วยตามหา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า หากคนหายยังถูกจำหน้าไม่ได้ เค้าก็จะหายต่อไป
คุณกุสุมาเริ่มเข้าไปดูรูปภาพตามเว็บไซต์ พบว่าบางคนหน้าเหมือนญาติของตัวเอง หน้าเหมือนพี่ หน้าเหมือนดารา หลังจากนั้นก็พบว่าภาพที่ได้ดูไปยังเป็นที่จดจำได้ ภาพยังอยู่ในหัวของตัวเอง จึงได้นำวิธีนี้ไปตรวจสอบกับแพทย์หญิงท่านหนึ่งที่อยู่โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้ข้อมูลจากแพทย์หญิงมาว่า ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะสมองส่วนหน้าของคนเราจะจดจำจากสิ่งที่คุ้นเคยได้ดี หากมีภาพนึงแล้ว แล้วมีภาพใหม่ที่มีความคล้าย ก็จะยิ่งจำสิ่งใหม่ได้ง่าย
ทีมงานพร้อมคุณกุสุมาได้ติดต่อไปที่มูลนิธิกระจกเงา คิดว่าไม่น่าจะยาก แต่เมื่อได้เข้าไปพบกับคุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เพื่อเข้าไปเสนอแคมเปญ แต่ก็พบว่าคุณเอกค่อนข้างแข็ง ผู้ติดต่อบอกว่ายากหน่อย แต่ให้ลองดู ซึ่งทีมงานก็มีความพยายามที่จะเข้าไปอธิบายและแสดงความจริงใจให้มากที่สุดว่าอยากจะทำงานนี้จริงๆ

ด้านคุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา บอกว่าเจอบริษัทโฆษณามาเยอะ บางทีไม่ได้นำไอเดียที่นำมาเสนอไปทำจริงๆ แต่ขายไอเดียแล้วเอาไอเดียไปประกวด แต่บริษัทนี้นำตัวอย่างมาให้ดู พบว่ามันใช่เลย มันน่าตื่นเต้น คิดว่าถ้าทำได้จริง คงทำให้คนในสังคมหันมามองเรื่องคนหายอีกครั้งนึง เป็นไอเดียที่เจ๋งเลย
ขณะที่นักแสดงสาวสวยอย่างคุณเอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน บอกว่าตอนแรกที่ทีมงาน BBDO ติดต่อเข้ามา ก็ยังคิดอยู่ว่าเชื่อได้หรือไม่ แล้วจะไปยังต่อ แต่พอได้ดูรายละเอียดของแคมเปญแล้ว คิดว่าไม่ช่วยไม่ได้ ต้องช่วย เป็นไอเดียที่ดี "คนหายหน้าเหมือน" เพราะในฐานะคนดูรูป บางทีอยากจะช่วย แต่จำหน้าไม่ได้
เคยมีคำถามในหัวว่า ถ้าเราอยากช่วย ทำยังไงถึงจะจำหน้าได้ ซึ่งเราไม่เคยจำหน้าได้เลย แม้กระทั่งภาพสเก็ตก็ดุยาก เดินสวนกันก็จำไม่ได้ จึงตัดสินใจว่าต้องช่วย อยากทำด้วยใจ
ส่วนคุณหน่อย อุ่นเรือน ราโชติ นักแสดงที่คุ้นเคยของใครหลายๆคน บอกว่าทีมงาน BBDO ติดต่อมาในตอนแรกต่างจากคุณเเอ๋ เพราะไม่ได้มีภาพและรายละเอียดอะไรให้มาก บอกแค่ว่าไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นงานฟรี ตนจึงตอบไปว่าไม่เป็นไร ให้อธิบายให้ฟังก่อน ซึ่งทีมงาน BBDO บอกว่ามีโครงการ "คนหายหน้าเหมือน" ตนจึงคิดว่ามีหน้าเหมือนตัวเองด้วยหรือ ซึ่งโดยปกติแล้ว เวลาเห็นภาพคนหายก็อยากจะช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะเราจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อได้เจอคนคนนั้นแล้ว บางทีเจอก็ยังไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นรูปแบบนี้ เห็นแล้วหน้าเหมือนคนนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหลังจากร่วมแคมเปญนี้ และมีการปล่อยคลิปออกไป เมื่อเช้าที่ผ่านมามีแฟนคลับไลน์มาบอกว่า คนหายที่ตัวเองร่วมแคมเปญอยู่นั้น เป็นแม่ของเพื่อนสนิท
คุณหน่อยบอกต่อว่า อย่ามองว่าเรื่องคนหายเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ใช่ญาติของเรา เพราะคุณอาจจะยังไม่เคยเจอ แต่วันข้างหน้า ไม่มีใครตอบได้ว่าจะไม่เจอกับคนใกล้ตัว
คุณเอ๋ เสริมเพิ่มเติมจากคุณหน่อยว่า ทุกคนที่คนหายไป ทุกนาทีเป็นความหวังของคนที่รออยู่ที่จะให้คนรักกลับมา อย่างน้อยรู้ข่าวดีกว่าไม่รู้
คุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา พูดถึงความคาดหวังต่อแคมเปญนี้ว่า เวลาตามหาคนหาย เด็กหาย มีส่วนประกอบเป็นพันเรื่อง กว่าจะตามหาคนคนนึงเจอ แคมเปญนี้เป็นองค์ประกอบนึงที่จะทำ อยากให้โครงการนี้มีการทำต่อเนื่อง ต่อยอด และจุดประกายให้บริษัทโฆษณาผู้มีความคิด มาช่วยกัน อาจไม่ใช่เฉพาะเรื่องเด็กหาย แต่ต่อยอดไปที่ปัญหาสังคมอื่นๆ นำไอเดียเจ๋งๆมาสู่การแก้ไขปัญหาสังคม
ซึ่งทาง BBDO Bangkok บอกว่าจะทำแคมเปญนี้ต่อแน่นอน อยากขอความช่วยเหลือหลายที่ เช่น ถ้าสำนักพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ ต้องการช่วยลงภาพ ก็จะยินดีมาก หรือ ดารานักแสดง อยากส่งภาพบริจาคเพื่อนำมาเทียบกับภาพคนหาย สามารถส่งมาที่มูลนิธิกระจกเงาได้เลย และที่สำคัญอยากทำแคมเปญนี้กับเฟซบุ๊กไทยแลนด์ด้วย เนื่องจากมีโปรแกรมจับภาพหน้า ซึ่งนอกจากดาราแล้ว ทุกคนก็สามารถช่วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพดาราอย่างเดียว อาจจะนำภาพไปเทียบกับเพื่อนของเรา คนคุ้นเคย หรือ ตัวเราเอง หลักๆ เพื่อจะให้มีการจดจำหน้าได้ว่าคนหายคือใคร

ปิดท้ายนี้ คุณเอ๋ มณีรัตน์ บอกว่าในตอนแรกที่ร่วมด้วยช่วยกัน ไม่คิดว่าแคมเปญจะกระจายไปเยอะ ได้เสียงตอบรับที่ดีมาก ดีใจมาก อยากให้ทุกคนมาช่วยกันต่อไป ช่วยกันกระจายข่าวต่อไป อย่างน้อยก็ดีใจที่มีส่วนร่วมให้ภาพชัดเจน ทำให้ทุกคนช่วยจำหน้าได้ง่ายขึ้น
คุณหน่อย อุ่นเรือน ย้ำว่าอยากให้ทุกคนอย่ามองว่าคนหายเป็นเรื่องไกลตัว เรามาถูกทางแล้ว ไม่ใช่เฉพาะดาราที่จะช่วย คนทั่วไปก็ช่วยได้ เพราะทุกคนมีโซเชียลอยู่ในมือ คนไทยมือเร็วมาก ขอให้ใช้ตรงนั้นมาช่วยกัน
เปิดเบื้องหลัง แคมเปญ "คนหายหน้าเหมือน" คนไทยต้องช่วยกัน..
หลังจากมูลนิธิกระจกเงาเปิดแคมเปญ "คนหายหน้าเหมือน" ที่ทำร่วมกับบริษัท BBDO Bangkok นำดาราคนดังที่คล้ายคนหายมาเทียบเคียงกัน สร้างการจดจำ กระตุ้นให้ประชาชนช่วยกันแชร์และแจ้งเบาะแสได้ง่ายขึ้น แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเบื้องหลังของแคมเปญนี้ ทีมนักแสดงและผู้ผลิตแคมเปญ เดินทางมาเปิดใจกับรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง3
คุณกุสุมา รุจกิจยานนท์ Asso Creative director บริษัท BBDO Bangkok เล่าว่าจุดเริ่มต้นมาจากปัญหา ตัวเองเคยเห็นป้ายโฆษณาตามเฟซบุ๊กเยอะมาก แต่สุดท้ายเราก็จำหน้าคนหายไม่ได้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่คิดอยากจะช่วยตามหา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า หากคนหายยังถูกจำหน้าไม่ได้ เค้าก็จะหายต่อไป
คุณกุสุมาเริ่มเข้าไปดูรูปภาพตามเว็บไซต์ พบว่าบางคนหน้าเหมือนญาติของตัวเอง หน้าเหมือนพี่ หน้าเหมือนดารา หลังจากนั้นก็พบว่าภาพที่ได้ดูไปยังเป็นที่จดจำได้ ภาพยังอยู่ในหัวของตัวเอง จึงได้นำวิธีนี้ไปตรวจสอบกับแพทย์หญิงท่านหนึ่งที่อยู่โรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้ข้อมูลจากแพทย์หญิงมาว่า ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะสมองส่วนหน้าของคนเราจะจดจำจากสิ่งที่คุ้นเคยได้ดี หากมีภาพนึงแล้ว แล้วมีภาพใหม่ที่มีความคล้าย ก็จะยิ่งจำสิ่งใหม่ได้ง่าย
ทีมงานพร้อมคุณกุสุมาได้ติดต่อไปที่มูลนิธิกระจกเงา คิดว่าไม่น่าจะยาก แต่เมื่อได้เข้าไปพบกับคุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เพื่อเข้าไปเสนอแคมเปญ แต่ก็พบว่าคุณเอกค่อนข้างแข็ง ผู้ติดต่อบอกว่ายากหน่อย แต่ให้ลองดู ซึ่งทีมงานก็มีความพยายามที่จะเข้าไปอธิบายและแสดงความจริงใจให้มากที่สุดว่าอยากจะทำงานนี้จริงๆ
ด้านคุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา บอกว่าเจอบริษัทโฆษณามาเยอะ บางทีไม่ได้นำไอเดียที่นำมาเสนอไปทำจริงๆ แต่ขายไอเดียแล้วเอาไอเดียไปประกวด แต่บริษัทนี้นำตัวอย่างมาให้ดู พบว่ามันใช่เลย มันน่าตื่นเต้น คิดว่าถ้าทำได้จริง คงทำให้คนในสังคมหันมามองเรื่องคนหายอีกครั้งนึง เป็นไอเดียที่เจ๋งเลย
ขณะที่นักแสดงสาวสวยอย่างคุณเอ๋ มณีรัตน์ คำอ้วน บอกว่าตอนแรกที่ทีมงาน BBDO ติดต่อเข้ามา ก็ยังคิดอยู่ว่าเชื่อได้หรือไม่ แล้วจะไปยังต่อ แต่พอได้ดูรายละเอียดของแคมเปญแล้ว คิดว่าไม่ช่วยไม่ได้ ต้องช่วย เป็นไอเดียที่ดี "คนหายหน้าเหมือน" เพราะในฐานะคนดูรูป บางทีอยากจะช่วย แต่จำหน้าไม่ได้
เคยมีคำถามในหัวว่า ถ้าเราอยากช่วย ทำยังไงถึงจะจำหน้าได้ ซึ่งเราไม่เคยจำหน้าได้เลย แม้กระทั่งภาพสเก็ตก็ดุยาก เดินสวนกันก็จำไม่ได้ จึงตัดสินใจว่าต้องช่วย อยากทำด้วยใจ
ส่วนคุณหน่อย อุ่นเรือน ราโชติ นักแสดงที่คุ้นเคยของใครหลายๆคน บอกว่าทีมงาน BBDO ติดต่อมาในตอนแรกต่างจากคุณเเอ๋ เพราะไม่ได้มีภาพและรายละเอียดอะไรให้มาก บอกแค่ว่าไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นงานฟรี ตนจึงตอบไปว่าไม่เป็นไร ให้อธิบายให้ฟังก่อน ซึ่งทีมงาน BBDO บอกว่ามีโครงการ "คนหายหน้าเหมือน" ตนจึงคิดว่ามีหน้าเหมือนตัวเองด้วยหรือ ซึ่งโดยปกติแล้ว เวลาเห็นภาพคนหายก็อยากจะช่วย แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เพราะเราจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อได้เจอคนคนนั้นแล้ว บางทีเจอก็ยังไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นรูปแบบนี้ เห็นแล้วหน้าเหมือนคนนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหลังจากร่วมแคมเปญนี้ และมีการปล่อยคลิปออกไป เมื่อเช้าที่ผ่านมามีแฟนคลับไลน์มาบอกว่า คนหายที่ตัวเองร่วมแคมเปญอยู่นั้น เป็นแม่ของเพื่อนสนิท
คุณหน่อยบอกต่อว่า อย่ามองว่าเรื่องคนหายเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ใช่ญาติของเรา เพราะคุณอาจจะยังไม่เคยเจอ แต่วันข้างหน้า ไม่มีใครตอบได้ว่าจะไม่เจอกับคนใกล้ตัว
คุณเอ๋ เสริมเพิ่มเติมจากคุณหน่อยว่า ทุกคนที่คนหายไป ทุกนาทีเป็นความหวังของคนที่รออยู่ที่จะให้คนรักกลับมา อย่างน้อยรู้ข่าวดีกว่าไม่รู้
คุณเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา พูดถึงความคาดหวังต่อแคมเปญนี้ว่า เวลาตามหาคนหาย เด็กหาย มีส่วนประกอบเป็นพันเรื่อง กว่าจะตามหาคนคนนึงเจอ แคมเปญนี้เป็นองค์ประกอบนึงที่จะทำ อยากให้โครงการนี้มีการทำต่อเนื่อง ต่อยอด และจุดประกายให้บริษัทโฆษณาผู้มีความคิด มาช่วยกัน อาจไม่ใช่เฉพาะเรื่องเด็กหาย แต่ต่อยอดไปที่ปัญหาสังคมอื่นๆ นำไอเดียเจ๋งๆมาสู่การแก้ไขปัญหาสังคม
ซึ่งทาง BBDO Bangkok บอกว่าจะทำแคมเปญนี้ต่อแน่นอน อยากขอความช่วยเหลือหลายที่ เช่น ถ้าสำนักพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ ต้องการช่วยลงภาพ ก็จะยินดีมาก หรือ ดารานักแสดง อยากส่งภาพบริจาคเพื่อนำมาเทียบกับภาพคนหาย สามารถส่งมาที่มูลนิธิกระจกเงาได้เลย และที่สำคัญอยากทำแคมเปญนี้กับเฟซบุ๊กไทยแลนด์ด้วย เนื่องจากมีโปรแกรมจับภาพหน้า ซึ่งนอกจากดาราแล้ว ทุกคนก็สามารถช่วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพดาราอย่างเดียว อาจจะนำภาพไปเทียบกับเพื่อนของเรา คนคุ้นเคย หรือ ตัวเราเอง หลักๆ เพื่อจะให้มีการจดจำหน้าได้ว่าคนหายคือใคร
ปิดท้ายนี้ คุณเอ๋ มณีรัตน์ บอกว่าในตอนแรกที่ร่วมด้วยช่วยกัน ไม่คิดว่าแคมเปญจะกระจายไปเยอะ ได้เสียงตอบรับที่ดีมาก ดีใจมาก อยากให้ทุกคนมาช่วยกันต่อไป ช่วยกันกระจายข่าวต่อไป อย่างน้อยก็ดีใจที่มีส่วนร่วมให้ภาพชัดเจน ทำให้ทุกคนช่วยจำหน้าได้ง่ายขึ้น
คุณหน่อย อุ่นเรือน ย้ำว่าอยากให้ทุกคนอย่ามองว่าคนหายเป็นเรื่องไกลตัว เรามาถูกทางแล้ว ไม่ใช่เฉพาะดาราที่จะช่วย คนทั่วไปก็ช่วยได้ เพราะทุกคนมีโซเชียลอยู่ในมือ คนไทยมือเร็วมาก ขอให้ใช้ตรงนั้นมาช่วยกัน