[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐ เม็กฯ อเมริกากลาง เมกาใต้ อัฟริกา 26ประเทศ74วัน ตอน42 ด้านหนึ่งชายทะเลอีกด้านทะเลทราย

ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และอัฟริกา 26 ประเทศ 74 วัน ตอนที่ 42 ด้านหนึ่งเลียบชายทะเล ด้านหนึ่งเลียบทะเลทราย
(ตอนอยู่ตปท. ภาพนิ่งล้นไอโฟน จึงลบออกหลังโพสต์เพจแล้ว ส่วนพันทิปโหลดหน้ารีวิวไม่ได้ ต้องกลับมาทำใทย ตอนนี้ขอให้ชมยูทูปไปก่อน ถ้ารีบชมภาพนิ่ง ให้ไปที่เพจ ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก)
https://www.youtube.com/watch?v=Xn2_EW16re4&index=21&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk
https://www.youtube.com/watch?v=7eoPwTXUJcM&index=22&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk
https://www.youtube.com/watch?v=uEOikY6zXdM&index=23&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk
https://www.youtube.com/watch?v=PtKiLE6Y4i0&index=24&list=PLNNEpgjidh3o3vU44K5Op2M1w_g3Pg5Jk

รถข้ามเทือกเขาแอนดิส ถึงเมืองกุสโกของชาวอินคา สูง 11,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล หนาวยะเยือกทั้งวัน
รถออกจากกรุงลิมาเวลา.14.00 น. มุ่งลงใต้ผ่านเมือง ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย กับทะเลน้ำ เขตเมืองมีห้าง Leprey...f.saga falabella
. Plaza Real... จนกระทั่งใกล้ค่ำ รถเริ่มเลี้ยวซ้าย เห็นต้นไม้บ้าง คิดว่าน่าจะสุดเขตทะเลทราย😊😊😊😊
เวลา 19.00-20 น. จอดที่ท่ารถครูส เดล ซูร์ ที่เมือง...จดไม่ทัน🙄🙄🙄🙄
แต่มีในรูปที่ ลุงเรียกให้หันไปมองกล้อง รถออกก่อนที่จะจด....อกจ่าท่ารถเป็นห้างใหญ่เหมือนเดิม....และเริ่มเสิร์ฟอาหารมื้อแรก ซึ่งมีข้าวกับสตูไก่ พีชพาย กับน้ำพีชคั้น
พอได้เอาแผ่นสำหรับวางอาหารขึ้นมาติดตั้ง ก็รู้สึกว่า ถ้าเอามานั่งฟุบคงจะดีไม่น้อย จะได้เปลี่ยนอิริยาบท เป็นนั่งฟุบหลับบ้าง การปรับเก้าอี้นอนนานๆ มันเมื่อย😊😊😊😊
แต่ไม่ดีอย่างที่คิด จึงดึงแผ่นรองขา กางออกมา ดีกว่าเดิม แต่เมื่อยมาก😣😣😣😣ลุงใช้เสื้อนุ่มๆ รองหลังและคอ สบายขึ้นเยอะเลย😊😊😊😊
ตอนกลางคืนอากาศข้างนอกคงจะเย็นมาก เขาจึงเปิดฮีทเตอร์ด้านข้างช่วย....พอเช้าจึงปิดฮีทเตอร์ ใช้แต่เครื่องปรับอากาศ....
มองไปรอบๆ เห็นเมืองท่ามกลางภูเขาหินที่มีต้นไม้ประปราย....อาคารบ้านเรือน ยังคงดูเหมือนสร้างไม่เสร็จ ตามเคย😊😊😊 แต่ไม่ได้ดูอดอยาก ตัวบ่งชี้ คือ มีการเลี้ยงหมา บางบ้านปลูกไม้ประดับในกระป๋อง บางบ้านทำสวนครัวเล็กๆ ข้างบ้าน😊😊😊😊

เวลา 07.15 น. มีต้นไม้บนภูเขาประปราย ข้างทางมีหญ้าขึ้น มีต้นไม้ที่ขึ้นเอง มีแปลงผักกลางหุบเขา ลักษณะของดินในแปลงผักเป็นดินปนหิน....เมืองอื่นๆ อยู่ท่ามกลางผงทราย แต่เมืองที่ทรายแปรสภาพเป็นดินแล้ว อยู่ท่าใกลางฝุ่น....ถ้าเป็นเมืองไทย คงมีการรดน้ำรอบบ้าน แต่ที่เปรู น้ำหายาก ก็ต้องแหวกๆ อยู่กันไป คนแพ้ฝุ่นน่าจะอยู่ยาก....
มองไปบนม้องฟ้า เห็นเมฆฝน แสดงว่า สุดเขตปลอดฝนแล้ว😊😊😊
ถนนเลียบไหล่เขาที่ชาวบ้านใช้เป็นทางสัญจร เป็นถนนดิน ตามสภาพภูเขา😊😊😊

เวลา 07.30 น. เห็นป้าย Cusco 180 ยังงงอยู่ว่า ระยะทางแค่นั้น ทำไมใช้เวลาเกิน 12 ชม. เพราะตามเวลา เราจะถึงกูสโก เวลา 20.00 น.🙄🙄🙄🙄
ถนนรถยนต์ เป็นถนนที่รถวิ่งสวนกัน เลียบไหล่เขาและสันเขา ส่วนใหญ่มีด้านหนึ่งเป็นเขา อีกด่านหนึ่งเป็นหุบเขา....ดูไม่น่ากลัว เพราะต้นไม้มีน้อย เห็นว่า ข้างล่างมีอะไรบ้าง บางที่เป็นถนนพบไป พับมา พอขึ้นไปข้างบน จึงเห็นว่า เราเพิ่งผ่านถนนที่ขนานอยู่ข้างล่างมา....ถนนแบบนี้แหละ ที่ทำให้ลุงต้องเก็บตัวเองด้วยยาแก้เมารถ และนั่งอยู่อย่างเจียมตัว และส่วนใหญ่ก็หลับ😊😊😊
ส่วนป้า พอรู้ว่า ต้องนั่งหลังก็กินยาแก้เมาพร้อมลุงครั้งแรก ก็เอาอยู่ คือ หลับๆ ตื่นๆ ลืมตาไม่ค่อยจะขึ้น😄😄😄😄
ตอนดึก ลุงเห็นว่า รถไต่ความสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการที่อ่านไป ว่า ที่กูสโก สูงจนคนจำนวนมาก เกิดอาการประหลาด ลุงร้องขอ ยาแก้แพ้ความสูง ที่ตามเวลา เราควรจะกินตั้งแต่ 6 โมงเย็น แต่ลืม😉😉😉😉 พอเจอยาเม็ดนั้นเข้าไป หนังตาก็หนัก จนดูหนังต่อไม่ได้....นักท่องเที่ยวเกือบ 100% หลับตลอดการเดินทาง คงเหมือนเด็กนอนในเปล แกว่งไปแกว่งมา ทำให้สะลืมสะลือ😉😉😉😉😉

เวลา 09.00 น. เริ่มเห็นหมู กับแกะ และฝูงม้า บนแปลงข้าวโพดแห้งๆ ... เวลา 09.30 น. เห็นลำธารน้ำที่เต็มไปด้วยหิน แปลงข้าวโพดสีเขียว...บนรถเริ่มเสิร์ฟอาหารเช้า... ให้เลือกระหว่าง น้ำพีชคั้น ชา หรือ กาแฟ กับ ขนมปังไส้มายองแนสอันเล็ก เค้กช็อคโกแล็ตถ้วยจิ๋ว และกล้วยฉาบเค็มซองติ๋ว
ที่แปลงเกษตรมีมะเขือเทศเพิ่มขึ้นมา ถ้าเห็นแปลงมะเขือเทศกลางแจ้ง แสดงว่า การเพาะปลูกไม่ได้อาศัยน้ำฝน เพราะมะเขือเทศไม่ชอบน้ำฝน
แล้วก็เป็นไปตามสมมุติฐาน เมื่อีถวิ่งต่อไปอีก ก็เห็นว่า ในแปลงข้าวโพด มีสปริงเกิล ปล่อยน้ำไปทั่วแปลง

เมื่อเดินทางเลียบลำธารหินไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งเพิ่มปริมาณการเพาะปลูก และการเลี้ยงสัตว์ ขึ้นเรื่อยๆ มีหมู และ แกะเพิ่มขึ้น พร้อมกับลามะ ม้า และวัว ที่กินใบข้าวโพดแห้ง อยู่ตามไร่ข้าวโพดที่ผ่านการเก็บเกี่ยว...มีฟางข้าวที่เพิ่งผ่านการปั่นเอาเมล็ดข้าวออก...นาข้าวกลางหุบเขาที่ผ่านการเก็บเกี่ยวแล้ว
เห็นมีกะหล่ำปลี และกระเทียมอยู่ในแปลง แม้จะไม่มาก แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีการเพาะปลูกพืชที่เป็นอาหาร มีการยกร่องเตรียมการปลูกพืช ตามแปลงเพาะปลูก เห็นหญิงชาวพื้นเมืองแต่งกายด้วยกระโปรงเนื้อหนา สวมถุงเท้าหนายาวเข้าไปในกระโปรง สวมเสื้อกันหนาวปิดคอ มีผ้ากันเปื้อนสวมทับข้างนอก สวมรองเท้ามิดชิด หมวกทรงสูง แต่ปีกไม่กว้างมาก

เวลา 12.00 น. รถก็เข้าจอดที่ท่ารถ Cruz del Sur สิ่นสุดการเดินทางในเวลา 22 ชั่วโมง....ป้าสอบถามนักเดินทางหรุ่มชาวฝรั่งเศสที่พิชิต มาชูปิชู มาแล้ว...เขาบอกว่า จะนั่งรถบัส หรือรถไฟ ก็ได้ ไปลงที่ Aguas Calientes พักที่นั่น 1 คืน ตอนเช้าก็เดินขึ้นมาชูปิชู ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินขึ้น .... ส่วนเขามาจาก Puno นั่งรถบัสไปค้าง 1 คืน แล้วเดินขึ้นมนชูปิชู ขากลับกลับรถไฟ ราคา $70....
ป้าบอกว่า น้องที่เราถามก่อนออกจากกิโต้ ก็บอกเรา แบบนี้ แต่ตอนที่เราเสิร์ช ราคารถไฟ ของ Vitadome บอกราคา $705 กับ $1,075 และมีอีกบริษัทหนึ่งราคาแพงเป็น 2 เท่าของวิตาโดม เราสงสัยว่า ทำไมราคาจึงต่างกันมาก🙄🙄🙄😏
เขาหัวเราะ แล้วก็บอกว่า เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาก็รับไม่ได้กับราคาแพงขนาดนั้น😃😃😃😃😃

ได้ข้อมูลพื้นฐานแล้ว ลองเดินไปถามไกด์ ที่ยืนอยู่แถวนั้น ไกด์บอกว่า ถ้าซื้อทัวร์กับเขา คนละ $175 จะครอบคลุมทุกอย่าง ทั้งค่ารถบัส ไป-กลับ อาหาร 3 มื้อ พร้อมโรงแรม และค่ารถไฟไปมาชูปิชู ค่าเข้าชม และค่าไกด์มืออาชีพ แต่เราไป 2 คน ลดราคาให้เหลือคนละ $135🙄🙄🙄🙄
เราสนใจเชียวแหละ...เพราะเราจะได่ไม่ต้องหัวหมุนกับการซื้อตั๋ว หลายที่ ไม่ต้องจองที่พักด้วย...เขามีโปรโมชั่นพิเศษ พาเราเดินหาที่พักที่เราจองไว้ที่กูสโก ด้วย😃😃😃😃

เอาเลย Emerson Hurtado อายุเพิ่ง 20 ปี เรียนการท่องเที่ยว และโรงแรม ที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆ ที่พักเรานั่นแหละ...หารายได้ระหว่างเรียนไปด้วย😊😊😊😊คนอินคา เปรู เขาเป็นแบบนี้นี่เอง ประเทศเจาจึงเจริญได้เร็ว ทั้งๆ ที่เป็นเมืองขึ้นสเปนอยู่ตั้งนาน....เมื่อวานนี้ที่ ลิม่า หนุ่ม Ali Amir Arias Rojas พนักงานต้อนรับที่ Hostel Residence de Rey 2 ที่ลิม่า ก็เป็นแบบนี้ รายนั้นอายุ 23 ปี หาเงินส่งตัวเองไปโครงการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐอเมริกา 1 ปี กลับมาได้ภาษาคล่องปรื๋อ กลางคืนทำงาน ถึงเที่ยงวัน เรียนบางวัน ทั้งส่งตัวเองเรียน และจ่ายค่ารักษาแม่ที่อยู่โรงพยาบาลด้วย....ช่างน่านับถือจริงๆ😊😊😊😶
เราซื้อทัวร์กับเอเมอร์สัน ในราคา 2 คน $265 ซื้อตั๋วรถไป Puno ในราคา 2 คน 130 โซเลส(Soles) ราคาแลกเปลี่ยน 1 โซเลส = 11 บาท

พรุ่งนี้ รถจะมารับเราที่โรงแรมระหว่างเวลา 07.00-07.30 น. โรงแรมนี้ขื่อว่า Hostel Inkas Peru Cusco ค่านอน คืนละ $ 24.16 ไม่เกี่ยวกับค่าจองที่คนรับจองทางอินเตอร์เน็ตหักจากบัตรเครดิตไปแล้ว $5 ส่วนที่ลิม่า ถูกหักค่าหัวคิวจากบัตรฯ $8.75 แพงมาก ดังนั้น ค่าโรงแรมที่นั่นรวมแล้ว เกือบ $29 พอๆ กับกูสโก แต่ถ้าไม่จอง เจอหนักกว่านี้อีก...น้องฝรั่งเศสบอกเราว่า นอนคนเดียวเจอเข้าไป $27 เลย😣😣😣😣เธอบอกว่า เป็นอะไรที่กดดันมาก เพราะไม่นอนก็ไม่ได้...กูสโก หนาวมาก และอากาศก็บางเบา ขืนอยู่ข้างนอก คงปอดบวมแน่ๆ🙄🙄🙄🙄🙄
บ่ายวันนี้ เราออกไปสำรวจเมืองเก่ากันมา ขอบอกว่า ถ้าใคนคิดจพไปเดินมนตัวเมืองกูสโก ให้พกหน้ากากกันฝุ่น กับหมวกปีกกว้างด้วย เพราะลมแรง พัดฝุ่นดินและทรายฟุ้งตลอดทาง นอกจากนั้น ยังมีควันจากท่อไอเสียรถที่วิ่งอยู่บนถนนติดทางเดินที่ไม่มีต้นไม้ช่วยกรองควันพิษด้วย หายใจลำบากมาก อากาศก็บางเบา แล้วยังเป็นแบบนี้อีก มีความรู้สึกว่า ตอนที่เดินอยู่หายใจไม่อิ่มเลย😐😐😐😐😐

เมืองเก่า กับเมืองใหม่ อยู่ไม่ไกลกัน ใครชอบเดิน เดินได้สบาย ถ้าเรายืนอยู่ตรงหน้าอนุสาวรีย์บรรพบุรุษอินคา ซึ่งสูงเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง มองตรงไปด้านหน้า เห็นยอดโดมบนเขา นั่นแหละ คือ เมืองเก่า ความจริงเป็นยอดโบสถ์ มีโบสถ์สวย และเก่าแก่มาก อยู่ 2 โบสถ์ มีนักท่องเที่ยว กับชาวอินคา เดินปะปนกัน 😊😊😊😊

เมืองนี้เป็นเมืองของอินคาจริงๆ ทั้งคนค้าขาย ร้านค้า โรงแรม ตลาด รูปร่าง หน้าตา ไปทางเดียวกันหมด ตัวประมาณคนไทย ผิวคล้ำ จมูกโด่ง ตาโต ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังนิยมแต่งกายแบบเดิมๆ บางคนนอกจากจะสวมกระโปรงแล้ว ยังเอาผ้าห่มมาพันทับกระโปรง กันหนาวอีกด้วย 😀😀😗😗😗
กลับจากเดินเที่ยว แวะขึ้นไปบนตลาด ขายของเหมือนตลาดสดบ้านเรา แต่ไม่มีปลาขาย....เราเดินไปด้านหลัง ผ่านร้านอาหารที่เป็นขนมปัง ยัดไส้ หลายร้าน ไม่อยู่ในความต้องการเลย พฃอเห็นเขานั่งกินข้าว แวะถามว่าราคาเท่าไร คนขายบอกว่า 3 โซเลส ...อ๊ะ...ไม่แพง...มีไข่ดาว 1 ฟอง ผักหั่นฝอย มะเขือเทศ กับเฟรนด์ฟราย ข้าวหุงกับเกลือ บนโต๊ะมีน้ำจิ้มใส่หอมแขก มะเขือเทศ พริก มีรสเค็มกับเผ็ด ... ลุงบอกว่า ชื่นใจ ได้กินข้าว😉😉😉😉
สังเกตว่า เขาหุงข้าวไม่ให้เม็ดบาน มันจึงสุกไม่เต็มที่ บนรถหลายมื้อ จึงทำให้ในท้องเก็บสะสมลมไว้เยอะมาก พอเข้าห้องน้ำที อั๊ยย่ะ! แม้แต่ตัวเองยังตกใจ เสียงดังลั่นราวกับจุดปะทัด😂😂😂😂😂😂

คืนนี้ได้มีโอกาสคุยกับ คุณJohn Tatto Aguirre เจ้าของ Hostel Inka's Peru ตอนแรกป้ก็ไม่เข้าใจ ว่า ทำไมเขาจึงรอพบป้า และขอร้องให้ป้าคุยกับ เขา ต่างคนต่างก็พูดคนละภาษา ทำให้การสื่อสาร เต็มไปด้วยความยากลำบาก แม้ตอนหลังเขาจะให้หลานชาย คือ Jesus Luga Luga หลานชาน ที่มาจากลิม่า มาเรียนและทำงานที่กูสโก มาเป็นล่ามให้ แต่ภาษากระท่อนกระแท่น แค่จับความได้ว่า Juan Yatto น้องชายของเขา ได้รู้จักและรักใคร่จนมีลูกกับสาวไทย ที่ใช้นามว่า โคโดโมะ ที่ญี่ปุ่น แล้วต่างคนต่างก็จากกัน สาวไทยมีลูกชายของฮวนมติดไปด้วย ชิ่อ มุ่ย มุ่ย อายุ 20 ปี จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยเจอกัน ตอนนี้ฮวนอยู่ที่ อิตาลี นี่ คือ เบาะแส ที่ได้มา ใครพอจะมีเบาะแส ช่วยส่งเข้ามาหน่อยนะคะ😊😊😊😊คราวก่อน ที่วอชิงตันดีซี หลานสาวของคุณป้า เคธี่ ก็ยังเงียบอยู่...คุณจอห์น เพิ่งมีเราเป็นคนไทย คู่แรก ที่เข้าพักในโรงแรมของเขา ในรายการโฆษณา บอกว่า เป็นโรงแรม 2 ดาว แต่ขอบอกว่า 4 ดาว ในอินเดียยังแพ้....มีอาหารเช้าให้ด้วย...รวมทั้งรับฝากกระเป๋า ที่เราไม่แบกไปมาชูปิชู จนกว่าเราจะกลับมาเช็คอินใหม่ในคืนพรุ่งนี้อีก....ตอนนี้ต้องรีบไปกินอาหารเข้า ก่อนที่รถจะมารับไป เมือง อากวัส คาเลียนเตส ก่อนขึ้นมาชูปิชู ....แล้วจะรายงานว่า อาหารเป็นอย่างไรบ้าง ค่ะ😉😉😉😉😉 อ้าว! คุณจอห์น บอกว่า อาหารเช้า 6 โมง แต่พอลงไปข้างล่าง พนง.บอกว่า 7 โมง ถ้ารถมารับเรา 7 โมง คงอดเลย ....แต่ขอใช้ครัวต้มไข่ก็โอเค ตอนนี้กำลังต้มไข่อยู่ชั้น 3 ค่ะ😉😉😉😉
ชื่อสินค้า:   ด้านหนึ่งเลียบชายทะเล ด้านหนึ่งเลียบทะเลทราย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่