บทนางร้ายมันจำเป็นมากเหรอสำหรับละครไทย จะมีบทแบบที่มีแต่นางดีแต่ดีกันคนละแบบจนพระเอกเลือกไม่ถูกบ้างไม๊?

ตั้งแต่เริ่มดูละครไทยในวัยเด็กมาจนถึงปัจจุบัน
ละครไทยมักจะมีอยู่แค่สองมิติ คือ ดีกับร้าย, ขาวกับดำ

นางเอกมักจะเป็นคนที่แสนดีจนน่ารำคาญ ทนมือทนทีนเกินมนุษย์ทั่วไป โดนแกล้งสารพัดก็ไม่ยอมปริปากฟ้องพระเอก

นางร้ายก็มักจะร้ายแบบที่คนปกติทั่วไปเค้าไม่ทำกัน เช่น โดนขัดใจหน่อยก็จะร้องกรี๊ด ทำตาขึงขังกระทืบเท้า แบบ..ขุ่นพ่อ ขุ่นแม่ขา
นังนั่นมาแย่งผัวหนู หนูไม่ย้อม ไม่ยอม แล้วก็ชักดิ้นชักงอ กระแด่วๆ ถ้าเป็นลูกหลานผมมาทำกริยาแบบนี้ ผมอาจจะกระโดดถีบเข้าให้

พระเอกก็มักจะเก่งและฉลาดไปซะทุกเรื่อง แต่โง่อยู่เรื่องเดียวคือเรื่องความรัก และดูคนไม่เป็น

บทจบก็เดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว ว่าสุดท้าย ถ้านางเอกไม่กระอักเลือดเพราะโดนทีนหรือโดนกลั่นแกล้งจนตายซะก่อน
ก็ต้องได้กับพระเอกแหงๆ คือพูดง่ายๆ เริ่มเรื่องมาก็รู้แล้วว่าสุดท้ายใครจะได้กับใคร

ทำไมไม่มีใครฉีกแนวทำบทละครแบบนี้มั่งนะ....เช่น....

ไม่ต้องมีนางร้าย มีแต่บทเด่นๆของผู้หญิงสองสามคน ที่แข่งกันทำความดีเพื่อให้ชนะใจพระเอก
แต่ละคนก็ดีกันไปคนละแบบ เอาชนิดที่ว่าคนดูยังสับสนเลยว่าถ้าเจอคนดีๆพร้อมๆกันแบบนี้แล้วจะเลือกใครดี
เช่น คนที่หนึ่ง เป็นคนจิตใจงาม ใจบุญมีเมตตา แตซื่อบื้อไม่ทันคน, คนที่สอง ฉลาดหลักแหลมทันคน แต่โก๊ะ,
วู่วาม มุทะลุ, คนที่สามเรียบร้อย เป็นกุลสตรีไทยทุกกระเบียด แต่จืดชืด เป็นต้น
แล้วก็ดูไปลุ้นไปว่าสุดท้ายพระเอกจะเลือกใคร เป็นต้น
หรือจะกลับกันก็ได้ ให้นักแสดงชายสองสามคน มาแข่งกันทำตัวดีๆเพื่อให้ชนะใจนางเอกเป็นต้น

อย่างน้อย ก็อาจจะเป็นการชี้นำสังคมได้อีกทางหนึ่งว่า ถ้าอยากจะชนะใจคน ให้แข่งกันทำความดี
ไม่ใช่ว่า ถ้าดีแล้วเค้าไม่เลือก ก็ให้ทำตัวร้ายแบบนางร้ายในละครไปเลย เป็นต้น

สุดท้ายนี้ ก็แค่จะบอกว่า บ่นๆไปงั้นแหล่ะครับ เผื่อจะได้ดูละครที่มีบทแหวกแนวจากรูปแบบเดิมๆบ้าง
และยังได้เป็นการสอดแทรก,ปลูกฝังคุณธรรมชี้นำสังคมไปเเบบเนียนๆได้อีกด้วย
แต่จะให้มาเขียนบทละครเองก็คงไม่ไหว ไม่ได้เก่งขนาดนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่