สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สมัยปูว์ชั่วๆดีๆยังทำมาค้าขายได้ครับ
เพราะสากลโลกเขายังยินดีที่จะเป็นคู่ค้ากับเรา
จะส่งออกอะไรไปอเมริกา หรือ อียู ก็ไม่โดนแซงชั่น, ไม่โดนกำแพงภาษี , ไม่โดนเขางอแงใส่
ค้าขายมาก็ได้เงินได้ทองเข้าประเทศ
ภาคการผลิตมันก็เหมือนได้น้ำมันหล่อลื่น
เพราะทุกๆธุรกิจมันเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่
เมื่อมีน้ำมันหล่อลื่น มีเงินทองคล่องมือ ความกล้าในการใช้จ่ายก็มีมากขึ้น
เพราะผู้คนเชื่อมั่นว่าจ่ายออกไปวันนี้ แต่ก็มีหนทางในการหารายได้ในวันหน้าจากการทำมาค้าขาย
ยังไม่นับแผนเศรษฐกิจของปูว์
ที่กระตุ้นการจับจ่ายให้เงินหมุนเวียน
นโยบาย "รถคันแรก" นี่ชัดเจนเลย
แม้ปูว์จะโดนด่าว่าทำให้รถติด (ทั้งๆที่ยอดรถคันแรกต่างจังหวัดมีมากกว่า กทม.มากมาย และ รถมันก็ติดมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว) แต่นโยบายนี้กระตุ้นให้เกิดธุรกิจที่เป็น บาย โพรดัก คึกคักขึ้นมากมายก่ายกอง ทั้งคาร์แคร์ , โรงงานผลิตของเหลวต่างๆ , ประดับยนต์ , อุปกรณ์ไฟฟ้ารถยนต์ , อู่ , พลังงาน ฯลฯ
การลงทุนด้านอื่นๆก็เป็นไปอย่างเชื่อมั่น
เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ชักเข้าชักออกเหมือนสมัยม๊ากที่ BOI ยังถึงกับมึน
แม้ในตอนแรกอาจจะกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 อยู่บ้าง แต่ผ่านไประยะหนึ่งมันคือการช่วย "กรอง" แรงงานทักกษะให้กับผู้ประกอบการไปโดยปริยาย (ในบางอุตสาหกรรม เช่น อีเล็คทรอนิคส์นั้นเกิน 300 มาตั้งนานแล้วด้วย)
เมื่อชาวบ้านชาวช่องเขามีความเชื่อมั่น เขาก็อยากเป็นคู่ค้ากับเรา
เมื่อชาวบ้านชาวช่องเขาหมดความเชื่อมั่น
แน่นอนว่าเขาก็จะดำเนินการแซงชั่นทางการค้า
ในขณะที่ภายในประเทศนั้นเขาก็จะถอนการลงทุนไปประเทศอื่น
ส่วนเราเมื่อเหลือคู่ค้าไม่กี่ประเทศ ก็ทำมาค้าขายลำบาก เงินทองก็ย่อมขาดมือ (ยังไม่นับว่าโดนคู่ค้าอย่างจีนยื่นข้อเสนอที่เอารัดเอาเปรียบ เพราะจีนมันอ่านขาดว่าเราเหลือคนให้คบไม่มากนัก)
แต่จะว่าไปจ่าชอบนะครับ
มันจะได้รู้กันให้ชัดๆไปเลยว่า
ในสถานการณ์แบบนี้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับ ฝ่ายสลิ่ม ใครจะอึดกว่ากัน
จ่าไม่อดตายอยู่แล้ว คุมบ่อน คุมซ่อง ตั้งด่านลอย เก็บส่วยอาบอบนวด เดือนๆนึงขี้หมูขี้หมาจ่าได้แน่ๆ 8-9 หมื่น

จ่าพิเชษฐ์
เพราะสากลโลกเขายังยินดีที่จะเป็นคู่ค้ากับเรา
จะส่งออกอะไรไปอเมริกา หรือ อียู ก็ไม่โดนแซงชั่น, ไม่โดนกำแพงภาษี , ไม่โดนเขางอแงใส่
ค้าขายมาก็ได้เงินได้ทองเข้าประเทศ
ภาคการผลิตมันก็เหมือนได้น้ำมันหล่อลื่น
เพราะทุกๆธุรกิจมันเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่
เมื่อมีน้ำมันหล่อลื่น มีเงินทองคล่องมือ ความกล้าในการใช้จ่ายก็มีมากขึ้น
เพราะผู้คนเชื่อมั่นว่าจ่ายออกไปวันนี้ แต่ก็มีหนทางในการหารายได้ในวันหน้าจากการทำมาค้าขาย
ยังไม่นับแผนเศรษฐกิจของปูว์
ที่กระตุ้นการจับจ่ายให้เงินหมุนเวียน
นโยบาย "รถคันแรก" นี่ชัดเจนเลย
แม้ปูว์จะโดนด่าว่าทำให้รถติด (ทั้งๆที่ยอดรถคันแรกต่างจังหวัดมีมากกว่า กทม.มากมาย และ รถมันก็ติดมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว) แต่นโยบายนี้กระตุ้นให้เกิดธุรกิจที่เป็น บาย โพรดัก คึกคักขึ้นมากมายก่ายกอง ทั้งคาร์แคร์ , โรงงานผลิตของเหลวต่างๆ , ประดับยนต์ , อุปกรณ์ไฟฟ้ารถยนต์ , อู่ , พลังงาน ฯลฯ
การลงทุนด้านอื่นๆก็เป็นไปอย่างเชื่อมั่น
เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน ไม่ชักเข้าชักออกเหมือนสมัยม๊ากที่ BOI ยังถึงกับมึน
แม้ในตอนแรกอาจจะกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 อยู่บ้าง แต่ผ่านไประยะหนึ่งมันคือการช่วย "กรอง" แรงงานทักกษะให้กับผู้ประกอบการไปโดยปริยาย (ในบางอุตสาหกรรม เช่น อีเล็คทรอนิคส์นั้นเกิน 300 มาตั้งนานแล้วด้วย)
เมื่อชาวบ้านชาวช่องเขามีความเชื่อมั่น เขาก็อยากเป็นคู่ค้ากับเรา
เมื่อชาวบ้านชาวช่องเขาหมดความเชื่อมั่น
แน่นอนว่าเขาก็จะดำเนินการแซงชั่นทางการค้า
ในขณะที่ภายในประเทศนั้นเขาก็จะถอนการลงทุนไปประเทศอื่น
ส่วนเราเมื่อเหลือคู่ค้าไม่กี่ประเทศ ก็ทำมาค้าขายลำบาก เงินทองก็ย่อมขาดมือ (ยังไม่นับว่าโดนคู่ค้าอย่างจีนยื่นข้อเสนอที่เอารัดเอาเปรียบ เพราะจีนมันอ่านขาดว่าเราเหลือคนให้คบไม่มากนัก)
แต่จะว่าไปจ่าชอบนะครับ
มันจะได้รู้กันให้ชัดๆไปเลยว่า
ในสถานการณ์แบบนี้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตย กับ ฝ่ายสลิ่ม ใครจะอึดกว่ากัน
จ่าไม่อดตายอยู่แล้ว คุมบ่อน คุมซ่อง ตั้งด่านลอย เก็บส่วยอาบอบนวด เดือนๆนึงขี้หมูขี้หมาจ่าได้แน่ๆ 8-9 หมื่น

จ่าพิเชษฐ์
แสดงความคิดเห็น
เห็นสลิ่มแมงสาปตั้งกระทู้ชมเศรษฐกิจดี๊ดีโดยไม่พูดถึงรัฐบาลที่แล้วเลย งั้นถ้าผมตั้งกระทู้นี้ จะพูดถึงรัฐบาลที่แล้วไหม
ผมขอข้ามปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ทะลุ 80 เปอร์เซนต์ของ จีดีพี
ผมขอข้ามระดับเงินออมของประเทศไทย ที่ลดลงต่ำกว่า 1.2 % ต่อปี
จากการใช้จ่ายเงินล่วงหน้าออกไป ทั้ง ๆ ที่ รายไดไจริงนั้นยังไม่ไดไมา
ผมขอข้ามหนี้บัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระเกิน 3 เดือน ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 22%
วันนี้ผมแค่ขอนำเสนอ หนี้รัฐบาล
สองปีผ่านมา แม้รัฐจะชะลอการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นเงินจากระบบรถไฟฟ้า ระบบขนส่ง
ทั้งทางบก และ ทางน้ำ นอกจากนี้รัฐก็ชะลอการช่วยเหลือเกษตกรในเรื่องราคาข้าว
ราคายางพารา หรือ พืชผลอื่น ๆ อย่างที่รัฐบาลก่อนเก่าเคยทำกันมา หยุดซะขนาดนี้
หนี้รัฐยังเพิ่มไป ครึ่งล้าน ล้าน ในสองปี ตกเดือนละ 20,000 ล้าน หรือวันละ 700
ล้านบาท ใครจะเป็นคนใช้หนี้ก้อนนี้กัน
อ้อ....ลืมไป ลืมพูดเรื่องขึ้นเงินเดือนราชการ เรื่องงบป้องกันประเทศ