คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
สมัยนี้การไปขออยู่วัดเพื่อกินฟรีอยู่ฟรีไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าอยู่ดีๆไปขออยู่ ต่อให้ช่วยกวาดใบไม้เก็บขยะ อาจโดนเจ้าอาวาส หรือมรรคมายก หรือเจ้าถิ่นไล่ตะเพิดออกมาได้ หรือที่หนักๆคือโดนแจ้งตำรวจมาจับ
ลองมาแล้วถึงได้กล้าพูด มันไม่ง่าย...
วิธีง่ายกว่านั้นคือ เอาเงินส่วนหนึ่งไปจัดงานบวชให้ตัวเอง ขยันท่องบทสวดมนต์ให้เก่งๆ รับกิจนิมนต์ครั้งนึงก็ได้แล้วต่ำๆ300-1,000+
เทศนาหลอกคนเก่งๆครั้งนึงได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 อยู่ไปสักปีตั้งสำนักหลอกขายพระเครื่อง ทำคุณใส ฯลฯ เดือนๆนึงได้หลายล้าน เริ่มมีเงินก็สร้างศาสนสถาน จะช่วยเรียกเงินได้อีกเยอะ
เป็นวิธีที่ได้ผล และทำกันเยอะ เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งค่อยสึก เอาเงินไปลงทุน สร้างหอพักให้เช่า ฯลฯ เที่ยวรอบโลกได้สบาย
ลูกที่บวชเรียนแล้วพ่อแม่สบายมีมาก เอาเงินบริจาคไปเลี้ยงพ่อแม่ ไม่บาปด้วย ถือเป็นการทดแทนบุญคุณอันใหญ่หลวง
ลองมาแล้วถึงได้กล้าพูด มันไม่ง่าย...
วิธีง่ายกว่านั้นคือ เอาเงินส่วนหนึ่งไปจัดงานบวชให้ตัวเอง ขยันท่องบทสวดมนต์ให้เก่งๆ รับกิจนิมนต์ครั้งนึงก็ได้แล้วต่ำๆ300-1,000+
เทศนาหลอกคนเก่งๆครั้งนึงได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 อยู่ไปสักปีตั้งสำนักหลอกขายพระเครื่อง ทำคุณใส ฯลฯ เดือนๆนึงได้หลายล้าน เริ่มมีเงินก็สร้างศาสนสถาน จะช่วยเรียกเงินได้อีกเยอะ
เป็นวิธีที่ได้ผล และทำกันเยอะ เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งค่อยสึก เอาเงินไปลงทุน สร้างหอพักให้เช่า ฯลฯ เที่ยวรอบโลกได้สบาย
ลูกที่บวชเรียนแล้วพ่อแม่สบายมีมาก เอาเงินบริจาคไปเลี้ยงพ่อแม่ ไม่บาปด้วย ถือเป็นการทดแทนบุญคุณอันใหญ่หลวง
แสดงความคิดเห็น
ถ้าคุณเป็นคนไม่มีทรัพย์สินใดๆเลย แล้วมีคนให้เงิน 30000 บาท ในระยะเวลา1ปี คุณจะนำเงินนี้ไปทำอะไรจึงจะอยู่รอดได้ทั้งปีครับ
ไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่ ไม่มีญาติพี่น้องครอบครัว ไม่มีงานทำ ไม่มีอาหาร แล้วมีคนมาช่วยเหลือให้เงิน 30000 บาท
โดยอีก 1 ปี เจ้าของเงินจะมาดูความเป็นอยู่และคาดหวังว่าจะดีขึ้นและตั้งตัวได้
ถ้าเป็นคุณคุณมีไอเดียหรือแผนจะทำอย่างไรกับเงินนี้ โดยไม่หมดภายใน 1ปี หรือสามารถตั้งตัวได้จากเงินจำนวนนี้ครับ
*** หมายเหตุ เป็นเหตุการณ์สมมุติ เกิดขึ้นจริง แค่จะดูการแชร์แนวคิดของแต่ละคนเรื่องการบริหารเงินอย่างไร หรือมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอย่างไรก็เท่านั้นครับ ไม่ได้อยากทราบว่าเกิดขึ้นจริงหรือไม่ครับ