"ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ่..กว่าจะได้รักแท้..." ก่อนจะมีงานแต่ง ชาย-ชาย (เต้&กันต์) ตอน2

กระทู้สนทนา
เราก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม แตกต่างตรงที่ผมไปทำศัลยกรรมหน้าบางส่วนมา (จมูก กับ จัดฟัน) ทำให้หน้าตาเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย ตอนนั้น ผมก็ได้รู้จักเพื่อน กลุ่มใหม่ ประกอบด้วย ผม พี่หนุ่ม(เพื่อนๆจะเรียก พี่วา..จากชื่อจริง วายุภัทร)  ตูน บอล อำ นิค โน๊ต วุด พง ต้น เบลล่า นัท และเต้...  (อีกแล้ว) ผมจะสนิทกับ ตูน บอล (คู่รักกัน) และพง มากกว่าคนอื่นตรงที่รู้จักกันมาก่อนจะมารวมกลุ่ม พวกเราตั้งกลุ่มไลน์ ชื่อ GTT (มาจาก เกย์เที่ยวไทย) พวกเราจะคุยกันทุกวัน จิกกัดเอาฮา เอารูปเพื่อนๆไปแต่งให้ตลกแล้วเอามาไฟท์กันในกลุ่ม ในกลุ่มจะมีคนอื่นๆอีกหลายคน ร่วมๆ 30-40คน แต่จะชอบดูพวกเราคุยกัน เพราะ พวกเราจะแค่อ่านตอนแชทก็มันส์ละ ตอนนั้นผมก็ติดมาก ทั้งผมและพี่หนุ่ม เรียกว่า นั่งข้างกัน แต่ไม่คุยกัน สังคมก้มหน้าล้วนๆ ก้มหน้าขำกับหน้าจอสี่เหลี่ยมบนมือ สนุกสนาน ตลอดแม้แต่ไปทำงานยังต้องดูยามพัก ไม่งั้นโดนพวกนินทาเรายามเราไม่ได้ตอบโต้ จนกระทั่ง มีไลน์เด้งเข้ามา
   “สวัสดีครับกันตะ”  ผมเปิดอ่านก็เห็นละว่า คนนี้เองชื่อเต้ที่อยู่ในกลุ่ม เคยจิกกัดกัน แต่ไม่เคยคุยกันส่วนตัว  
“ครับเต้”  ผมตอบ รอจนเค้าอ่าน ในใจยิ่งอยากรู้  แล้วเค้าก็ตอบกลับ “เย็นนี้ว่างป่าวครับ” ผมอ่านก่อนจะกดไปดูโปรไฟล์ เค้าในไลน์ เลื่อนดูในไทม์ไลน์เค้า จู่ๆผมก็อุทานลั่น เห้ย!!!!
พี่หนุ่มที่นั่งข้างๆ นางกะตวาดใส่ผมลั่นที่ทำให้ตกใจ ผมก็ยังนิ่งมองที่จอก่อนจะกดรูปเก่าที่เคยถูกตั้งเป็นโปรไฟล์ให้พี่หนุ่มดู
“นี่มันอีพี่เต้ ที่แกเคยคบนี่ ... คนเดียวกับที่อยู่ในกลุ่มGTTเราหรอ ทำไมดูดีขึ้นนะ” ตอนนั้นผมได้แต่อึ้ง และกดกดปิดหน้าจอ
“เป็นอะไรมิทราบ แฟนก่า ...คิดถึงอดีตงั้นสิ” พี่หนุ่มจิกกัดปนขำ พูดแทงใจดำ ผมได้แต่ปฏิเสธ และก็แกล้งนอนเล่นไม่ดูมือถือแต่แนบไว้บนอก ก่อนจะแกล้งขอตัวเข้าห้องน้ำ ทันที่ล็อคห้องน้ำ ผมนั่งลงรีบกดกลับไปที่แชทค้างไว้ ก่อนจะหยุดคิดครู่หนึ่ง
“ว่างครับ มีอะไรหรือเปล่า” ผมตอบพร้อมกับรอเค้ากดอ่าน จนคิดว่าเค้าคง ไม่อ่านละ นั่งเหม่อคิดถึงเรื่องตอนที่เคยคบกัน และคิดไปเรื่อย คำถามมาเต็มไปหมด เค้าจะจำเราได้ไหม เค้าจะรู้สึกยังไงหากรู้ว่าคือเรา เค้าจะ....ยังไม่ทันคิดต่อ เสียงเตือนข้อความไลน์ดังขึ้นจนตกใจแทบโทรศัพท์หลุดมือ .....”เค้าอ่านแล้ว” ผมพึมพรำเบาๆ รีบกดปิดเสียงของไอโฟนด้านข้าง กลัวพี่หนุ่มนางจะสงสัยและแซว มาคิดอีกที นางจะสงสัยทำไมนะ นางก็เล่นของนางอยู่ ...
“มาทานข้าวกัน มีร้านอาหารแถวบ้านผมอร่อยมาก ผมไปกินประจำ” ผมอ่านที่เต้เค้าส่งมา ในหัวก็คิดจะไปไม่ไปดี มองนาฬิกา บ่าย3 ผมยังคิดเพลินๆ จู่ๆก็ตกใจเสียงเคาะประตูสนั่นเป็นจังหวะสามช่า....
“ยังมีชีวิตอยู่ไหมคะ...ข้างในนั้น ชั้นปวดขี้โว้ย” เสียงพี่หนุ่มตะโกนแบบเหน็บแหนมที่เข้ามานาน ก็นานจิงๆนะ เหอๆๆ  ก่อนจะรีบกดชักโครกเปล่าๆบอกรับว่าเสร็จแล้วๆๆๆ ไปก่อนจะออกมาเจอ นางทำหน้าแบบเซ็งๆ
“นี่ เธอนี่ตั้งแต่เล็กจนโตนะคะ ...สิงห้องน้ำ ตลอดๆ วันหน้านะ เสื่อ หมอน ผ้าห่มคะ พร้อมนอนเลย” นางจิกกัดก่อนสะบัดก้นเข้าห้องน้ำไป
ผมได้แต่ขำๆตัวเองก็เข้านานมาแต่เด็กจริงๆนะ ไม่ว่าอาบน้ำ ทำธุรกิจปล่อยปลาทองลงอ่าง ก็นานเสมอๆ ชอบเอามือถือมั่งละ เกมส์กดมั่งละ ไปนั่งเล่น5555
เครื่องมือถือสั่นขัดจังหวะกำลังนึกถึงเรื่องขำ หน้าจอแสดงเตือน ...”เต้:ไปรึเปล่าน้อ ...ไม่ตอบผมเลย”
ผมกดเข้าไปอ่านและรีบตอบ “OKว่างครับ กี่โมงดี”  เต้อ่านทันที “ทุ่มนึงเจอกันครับ” เค้าตอบมาก่อนจะส่งสติ๊กเกอร์ไลน์ เป็นตัวโคนี่ใส่แว่น
ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ตอนนั้น รีบไปเตรียมชุด รอไว้ก่อนจะออกอุบาย บอกพี่หนุ่มทุ่มนึงไปงานวันเกิดเพื่อน ...  จนถึงใกล้เวลานัดผมก็ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ขับไปหาเค้า ตอน6โมงกว่า ผมโทรถามทาเค้าตลอด ผมเลือกวิ่งมาเส้นห้วยบง-ท่าลาน ทางเส้นนี้มืดมาก ผมรู้สึกกลัวนิดๆ ผมพยายามคุยกับเค้าผ่านสายสมอลล์ทอร์คที่เสียบหูและทับด้วยหมวกกันน็อค  ผผมรู้สึกคุ้นตาเหมือนทางมาบ้านคนรักเก่า แต่อีกใจก็คิดจะใช่เค้ารึเปล่า เค้าบอกทางผมมาตลอดทางจนถึงหน้าบ้าน ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ผมทำทีนิ่งๆไม่ถอดหมวกออก ดูเค้าจำผมไม่ได้เลย  เราทักท้ายกันไม่กี่คำ เค้าก็ขึ้นซ้อนท้ายรถผมและบอกทางไปยังร้านอาหารที่เค้าพูดถึง ทันทีที่มาถึง ผมก็ถอดหมวกออก และคุยกันไปเรื่อย เค้าก็สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ ผมเลือกที่จะไม่พูดเรื่องเดิมที่ผ่านมาเพราะเค้าจำผมไม่ได้ เลยคุยกันไปเรื่อย และได้มารู้ว่าเค้าคือนักร้องแนวลูกทุ่งตามงานเลี้ยง ที่วงดนตรีหาไปร้อง และคุยกันไปเรื่อยจนกระทั่ง เกือบเที่ยงคืน ยิ่งผมคุยกับเค้าผมก็ยิ่งรับรู้ว่าเค้ากับผมเหมือนจะจูนกันไม่ติด กับรู้สึกห่างกว่ารอบแรกเหมือนเพื่อนกันมากกว่า เค้าดูเปลี่ยนไป ไม่ไช่ผู้ชายขรึม อบอุ่นและดูเป็นผู้ใหญ่แบบตอนแรก เค้ายิ่งไม่ไช่สำหรับผมไปใหญ่ เค้าดูพูดเก่ง ขี้เล่น และดูมั่นใจมากขึ้น เค้าเซ้ทผมและแต่งตัวมากขึ้น จนผมแทบจะจำเค้าโครงพี่เต้ คนเดิมขิงผมไม่ได้ วันนั้นผมไปส่งเค้าที่บ้านและค้างที่บ้านเค้า แต่เรานอนคนละที่กันครับ ผมนอนที่โซฟานอกห้องเค้า ...
    ตอนนั้นผมกลับนอนร้องไห้ ไม่รู้ทำไม คิดแต่นึกถึงเรื่องราวเดิมๆ คนเดิมๆ ที่เคยคบ ผมลุกขึ้นนั่งตอนนั้น และคิดว่า ผมกับเค้าคงไม่ได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ....
   เช้าอีกวันผมกลับบ้านไปผมกลับดูซึมเศร้าผิดหูผิดตา จนพี่หนุ่มผิดสังเกต  ผมเลยยอมเล่าให้ฟังทั้งหมด วันรุ่งขึ้นผมนัดมาเที่ยวกันในกลุ่ม ที่งานประจำปีจังหวัดสระบุรี ที่ศาลากลางจังหวัด ผม พี่หนุ่ม ต้น เต้ เบล ว่างออกมาพร้อมกัน เรามาเดินเล่นกันในงาน ตอนนั้นผมก็คุยกับเต้มากขึ้น จนเบลสังเกตได้ว่า ผมกับเต้สนิทกันเกินเพื่อนหรือเปล่า ผมก็ตีเนียนๆว่าไม่มีอะไร ตอนนั้นยอมรับว่าผมเริ่มรู้สึกคิดถึงวันเดิมๆแล้ว แต่ผมกลับรู้สึกอยากได้เค้าคนเดิมแบบเดิมกลับมา ... ตอนนั้นพี่หนุ่มสังเกตได้ว่าผมกำลังรู้สึกอย่างไร วันนั้นเราก็แว๊นซ์กันกลับหมดจนเหลือเต้ ที่ไม่ได้ขับรถมา ผมก็ขับไปส่ง แค่2คัน คือคันหนึ่ง ผมกับเต้ คันที่2 พี่หนุ่ม พอถึงบ้านเต้ พี่หนุ่มก็แสร้งว่ามีนัดจะไม่กลับบ้านและยัดเยียด ให้ผมค้างบ้านเต้ อ้างว่าเป็นห่วง ที่ผมขับรถกลับคนเดียว เพราะนางอ้างจะไปตามนัดผู้ ที่อยู่ใกล้ๆบ้านแถวนี้ จริงๆแล้วเป็นแผนที่พี่หนุ่มบอกให้ผมลองอยู่กับเต้แล้วทำทีสนใจเต้ คุยแบบเดิม แต่ไม่ต้องบอกลองดูว่าเค้าจะจำได้ไหม ...
   ผมก็ลองทำตามคำแนะนำ จนเกินเลยมีสัมพันธ์กันไป สุดท้าย สรุป เค้าก็จำผมไม่ได้ กลับคิดว่าผมเป็น one night only ผมก็เลยคิดว่าที่เราทำเมื่อคืน มันก็ทำให้เค้าคิดแบบนั้นได้จริงๆ ตอนนั้น ผมกลับรักเค้าซะงั้น แต่แล้วไงล่ะ ผมเป็นคนไปขอนอนในห้องกับเค้าเอง เหมือนผมต้องการขอมีอะไรกับเค้า แล้วสถานการณ์มันพาไป ....ผมกลับมาบ้าน กลับนั่งนึกถึงแต่เค้า ทำอะไรไม่ถูก ....เต้ก็ยังคุยกับผมแบบเพื่อนเหมือนเดิม ....แต่ผมสิ กลับยิ่งรักเค้าไปกว่าเดิม ตอนนี้ผมสับสนไปหมด จนเพื่อนๆเห็นผมผิดปรกติ ก็มีทักมาบ้าง โพสสถานะแปลกๆในโพสเชิงเศร้า จนเพื่อนๆเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้คำตอบจากผม ... จนกระทั่ง ...กลับมาดูในกลุ่มไลน์  ผมแทบล้มทั้งยืน เมื่อเต้ กับโน้ต หนึ่งในเพื่อนในกลุ่ม ตกลงเป็นแฟนกัน นาทีนั้นผมแทบช็อค เอาแต่ร้องไห้ ข้าวปลาไม่กิน มีพี่หนุ่มที่คอยร่วมปลอบและร้องไห้ไปด้วยสองคนพี่น้อง ...
    ตอนนั้นยอมรับว่าผมทำใจไม่ได้เลย ผมยังกลับเข้าไปคุยกับโน้ตในห้องส่วนตัว ในฐานะเพื่อน ยิ่งเห็นเค้าคบกันเปิดเผย ผมยิ่งเจ็บ โน๊ตจะเดินทางมาจากที่ทำงานใน กทม . และขอให้ผมไปรับมาส่งที่บ้านเต้ ในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนและรู้จักบ้านเต้ ..ผมก็ตกปากรับคำเพื่อนทั้งน้ำตา ผมเหมือนคนบ้า ตอนนั้น เอาแต่ร้องไห้ ผมคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนด้วยกัน ชื่อโอ๊ค แต่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ นางก็บอกให้ผมไปอยู่กับนาง และจะหางานให้ พร้อมกับ จะให้พักกับนางจนกว่าจะสบายใจ นานแค่ไหนก็ได้ ตอนนั้นผมได้โพสแชร์เพลงๆหนึ่ง ที่หน้าไทม์ไลน์ ของLINE เป็นเพลง “เลือกคำว่าเจ็บเก็บไว้คนเดียว” ของตั๊กแตนชลดา .เพราะเค้าเป็นนักร้องลูกทุ่งคงเข้าใจความหมายดี เค้าก็มากดแสดงสถานะเสียใจ ทันทีที่ผมโพส ตอนนั้นผมขับมอเตอร์ไซค์มาที่ท่าน้ำดับเพลิง ในเมืองสระบุรี คนเดียว ผมไม่ได้ตอบไลน์ใครแม้แต่พี่หนุ่ม ค่ำวันนี้ผมต้องรับโน้ตไปหาเต้...ในหัวผมมีแค่นั้นจริงๆ ผมยืนร้องไห้ออกมาแบบไม่อายคนที่ผ่านไปมาบริเวณนั้น จู่ๆผมก็ขึ้นคร่อมรถคู่ใจและขับออกไปทาง กทม โดยยังไม่มีปลายทาง ผมขับมาจนมารู้ตัวอีกทีคือ ผมถึงรังสิต ผมจึงได้นึกถึงเพื่อนที่เรียนด้วยกันและกลับไปหาทันที ตอนนั้นผมตีหน้าเนียนๆไม่มีอะไร คุยไปเรื่อยแม้จะคิดมากก็เถอะ ผมพยายามลืมมัน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าใครโทรมาแต่ผมเลือกจะไม่รับและปิดเสียงเตือนไว้ กินแต่เหล้า กินเยอะมาก ทั้งๆที่ไม่เคยกิน (ตอนนั้นพี่หนุ่มได้เล่าเหตุการณ์ที่ผมหายออกจากบ้านให้เต้ ฟังแล้ว แต่ไม่รู้ผมอยู่ที่ไหน) ตอนนั้นผมยังคงไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ รู้แค่ดื่มเหล้าเยอะมาก ดื่มเหมือนน้ำ จนล้มหมดสติไม่รู้สึกตัว ......
    เหตุการณ์ขณะผมหมดสติไป ..ผ่านการเล่าของเพื่อนหลังจากนั้น ***
พี่หนุ่ม ได้โทรไปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เต้ฟัง และทั้งคู่ก็เครียดและเป็นห่วงผมมาก จนกระทั่งพี่หนุ่มพยายามโทรจนมีคนรับสาย ปลายสายกลับไม่ไช่ผมเป็นเพื่อนหนึ่งในกลุ่มที่ผมไป บอกว่าผม อยู่โรงพยาบาลเพราะดื่มเหล้าเยอะเกิน จนเมาหมดสติ พี่หนุ่มร้องไห้แทบเป็นบ้าคลั่ง รีบโทรบอกเต้ ทั้งสองจะมาหาให้ได้แต่จู่ๆโทรศัพท์ก็สันยานหายไปติดต่อไม่ได้ เต้ก็ได้แต่เสียใจ ที่รู้เรื่องทั้งหมด ไม่มีใครรู้ชะตากรรมผมเลย ...
    ผมลืมตาขึ้นมา ผมก็เห็นเพื่อนๆที่นั่งดื่มด้วยกันดีใจทั้งน้ำตา ยืนอยู่รอบๆ โดยที่มีพี่หนุ่มแอบมาคนเดียว เลือกจะที่ไม่พาเต้มาด้วย.เพราะเพื่อนๆที่นี่ขอไว้ บอกว่าผมเล่าให้ฟังตอนเมาก่อนหมดสติว่า อยากหนีจากผู้ชายคนนึงชื่อเต้ และติดต่อพี่หนุ่มได้เพราะเพื่อนคนหนึ่งเอาโทรศัพท์ ผมไปชาร์ตแบตและรอพี่หนุ่มโทรมาก่อนจะบอกทางมาโรงพยาบาล
  พี่หนุ่มได้บอกผมว่าได้เล่าเรื่องให้เต้ฟังหมดแล้ว ....ผมก็กลับนึกอยากจะไปจากคนนี้ให้ได้ และยืนยันคำเดิมจะไปคำเดียว
พี่หนุ่มเอาไลน์ส่วนตัวที่คุยกับเต้ให้ดู ว่าเต้จะขอเลือกผม และบอกเลิกโนตไปแล้ว .. พอผมเห็นข้อความนั้น ผมรีบกลับไปดูมือถือ มีข้อความไลน์ที่เต้ส่งมานับร้อย สลับกับสติ๊กเกอร์เสียใจ ผมไม่ทันอ่านก็ตอบกลับ
“กันต์ขอล่ะ เต้ อย่าเลิกกับโน้ต เราเลือกทางของเราแล้ว อย่าให้เราทำร้ายเพื่อน ยังไงเต้เป็นคนตกลงเป็นแฟนกับโน้ตแล้ว อย่าทำให้โน้ตเสียใจแค่นั้นพอ” ผมส่งแล้วไม่ดูอะไรต่อจากนั้น แล้วกอดพี่หนุ่มร้องไห้ วันนั้นผมนั่งรถยนต์เพื่อนกลับ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่บ้านเพื่อนแถวปทุมธานี รอเพื่อนมีรถกระบะว่างมาขนกลับไปให้ ตอนนั้นผมกลับถึงห้องก็เก็บเสื้อผ้าทันที และ ยืนเจตนาเดิมกับพี่หนุ่มว่า ผมจะไปต่างประเทศ ผมมี พาสปอร์ตอยู่แล้วเลยได้แต่ไปตามตั๋วเครื่องบินที่เพื่อนโอ๊ค จองไว้ให้ล่วงหน้า ผมออกเดินทางอีกครั้งไปที่สุวรรณภูมิ  

มีต่อ ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่