ภูเก็ต 4 วัน กับการจองตั๋วพลาดได้ช่วงมรสุม ต้องเปลี่ยนเป็นทริปสุดหรูราคาโปร ที่จ่ายน้อยกว่าเดิมหลักหมื่น


แทบทุกทริปเป็นทริปที่เราต้องใช้ดวงเป็นที่พึ่งจริงๆ เพราะการจะได้ไปเที่ยวนั้นขึ้นอยู่กับว่าจองตั๋วราคาโปรแบบข้ามปีได้ไหม ถ้าจองได้วันไหนก็ไป ทริปภูเก็ตนี้ก็เหมือนกันจองตั๋วเสร็จสรรพคาดหวังว่าจะได้ไปเที่ยวเกาะดังๆ แบบคนอื่นๆ บ้าง อ้าว… เกาะปิดซะนี่ เพราะอะไรนะเหรอ? ก็เราไปหน้ามรสุมไงไม่มีใครเขาไปกันหรอก โอเค…แต่พวกผมไม่กลัวหรอกนะ เพราะหน้ามรสุมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ว่าแล้วก็แพ็คกระเป๋าแล้วไปเที่ยวด้วยกันเลยคร้าบ

ทริปนี้ด้วยความไม่รู้อิโหน่อิเหน่เห็นแอร์เอเชียเปิดให้จองตั๋วข้ามปี เอา..นะ รอบนี้ไปเที่ยวภูเก็ตล่ะกัน หาสมาชิกได้ 4 คน เป็นอันจบปิดรับเพิ่ม เพราะเพียงพอสำหรับการเช่ารถยนต์ 1 คันเรียบร้อย ไปไหนดีนะ สัก 4 วันล่ะกันจะได้เที่ยวเกาะต่างๆ ด้วยให้หนำใจไปเลย จองเสร็จจบเรื่องรอเวลาจนกระทั่งผ่านไป 8 เดือน ไวเหมือนโกหก ถึงเวลาต้องมาแพลนทริปแล้วสินะ เอาล่ะ จองรถเช่า หาโรงแรม หาทัวร์เกาะ หาๆๆ จนกระทั่งมาทราบว่าเกาะตาชัย เกาะสิมิลัน และเกาะสุรินทร์นะเหรอ อดนะครับ โอ้.. นี่เราไปหน้ามรสุมเหรอเนี่ย ไม่ได้ๆ ยังไงก็ต้องลุยต่อ มิน่าช่วงนี้โปรโมชั่นตามงานไทยเที่ยวไทยเยอะแยะไปหมดเลย และทุกอย่างของทริปนี้ได้มาด้วยราคาโปรโมชั่นทั้งหมดด้วย (สมควรภูมิใจไหมเนี่ย)

วิวขณะบินไปภูเก็ต เป็นหน้ามรสุมที่ท้องฟ้าแจ่มใสมาก

พอเครื่องลงสนามบินภูเก็ตปุ๊บ เราก็หาอาหารกลางวันทานกันทันที เมื่ออิ่มท้องก็จัดแจงเอา voucher รถเช่าที่ซื้อราคาโปรจากงานไทยเที่ยวไทยสำหรับ 3 วันยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตรวจเช็คสภาพรถ น้ำมัน พร้อมขับก็เป็นเวลา 11.30 น. ที่แรกที่พวกเราจะไปก็คือ สวนน้ำ Splash Jungle Water Park ครับ ที่นี่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวพอสมควร มีหลายระดับให้เลือกเสียว คนไม่เยอะและไม่ค่อยเจอคนไทยด้วยครับ บัตรเข้าสวนน้ำก็ได้ราคาโปรโมชั่นจากงานไทยเที่ยวไทยมาเหมือนกันครับ

Splash Jungle Water Park


วิวจากมุมสูงบ้างครับ

เล่นน้ำกันเพลินจนลืมเวลาไปเลยทีเดียว ตอนนี้ก็เป็นเวลา 15.00 น. แล้ว รีบไปเช็คอินเข้าที่พักกันดีกว่า โรงแรมที่พวกเราจะไปพักกันตลอด 3 คืนนี้ก็คือ โรงแรมอมารีภูเก็ตครับ นี่ถ้าไม่ได้ราคาโปรโมชั่น 1 Free 1 ผมคงไม่อาจเอื้อมมาพักที่นี่ได้ เที่ยวหน้าโลว์แนะนำติดตามโปรโมชั่นของโรงแรมนี้บ่อยๆ นะครับ ลดถึง 50% เลยเชียว วันนั้นเกิดอะไรไม่รู้เจ้าหน้าที่อัพเกรดห้องพักจาก Superior room เป็น Deluxe room ห้องที่ได้ติดทะเลแบบกระโดดลงทะเลได้เลย ตอนกลางคืนก็นอนฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทรายดังครืนๆ ชัดเจนมากครับ แต่พอปิดบานกระจกก็มีเสียงคลื่นเบาๆ คอยกล่อมยามนอนนะครับ ทำให้ผ่อนคลายมากกว่า ไม่มีความรู้สึกรำคาญเลยครับ

บริเวณล๊อบบี้โรงแรมอมารีภูเก็ต


ภายในห้องนอน Deluxe room วิวทะเลแบบระยะประชิด

เห็นที่นอนนุ่มๆ ก็หลับพักผ่อนเอาแรงรอเวลาไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพยามเย็นกันครับ เผลอแป๊บเดียวไวมากๆ 17.30 น. แล้ว พวกผมรีบไปยังแหลมพรหมเทพทันที ดีนะยังทันพอได้เห็นแสงสวยๆ จากพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนพระอาทิตย์นะเหรอลับขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว

พระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ

จากนั้นก็ไปจัดบุฟเฟต์ชาบูกันจนอิ่มแปล้กลับมาสลบนอนฟังเสียงคลื่นที่ห้องหลับไปอย่างง่ายดาย ตื่นเช้ามายังต้องมาจัดบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอีก ดีใจนะครับไม่ได้เสียใจ เพราะของเมื่อวานยังอิ่มอยู่เลย ห้องทานอาหารเป็นภัตตาคารชื่อว่าริมทะเลครับ และก็ริมทะเลสมชื่อจริงๆ ด้วยความหิวและรีบเพราะจะต้องไปทัวร์เกาะวันนี้แต่เช้า ที่ภูเก็ตมีเกาะใกล้ๆ สวยๆ อีกหลายเกาะเลยนะครับที่ไม่ได้ปิดในหน้ามรสุม อย่างของผมนี่จองไปทัวร์เกาะแบบวันเดย์ทริป หรือไปเช้าเย็นกลับนั่นเอง แบบ 2 เกาะ ได้แก่ เกาะเฮ และเกาะราชา เป็นทริปดำน้ำตื้นรวมอาหารกลางวัน ได้ราคาโปรจากงานไทยเที่ยวไทยอีกเหมือนเดิมครับ

เกาะราชา


เกาะราชา


เกาะเฮ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

กลางดงปลาเสือนับพันตัว เกาะราชา จ.ภูเก็ต

ด้วยความรวดเร็วจึงขอจบทัวร์หนึ่งวันเป็นที่เรียบร้อย ทัวร์มาส่งผมที่โรงแรมเวลา 17.00 น. พวกเราก็อาบน้ำล้างตัวกันอีกรอบ แล้วออกไปเดินเล่นที่ The Jetty ซึ่งโรงแรมแนะนำว่าให้ไปตอนเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตก และสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำจากทางโรงแรมเพื่อมาดูปะการังได้เลยนะครับ แต่พวกผมเลือกทีจะเดินไปชมแค่พระอาทิตย์ตกดินมากกว่า

The Jetty


พระอาทิตย์ตกดินที่ The Jetty

โอ้โห.. สวยจริงๆ ด้วย พอถ่ายรูปกันสักพักท้องก็เริ่มร้องอีกแล้ว เย็นนี้เราจะทานดินเนอร์แบบบุฟเฟต์ที่โรงแรมกันครับ ที่ภัตตาคารริมทะเลนี้บรรยากาศดีมากๆ โดยเฉพาะยามเย็น พวกผมติดใจตั้งแต่มาทานอาหารเช้าแล้วล่ะครับ เลยต้องการมาชมว่ายามค่ำคืนบรรยากาศจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

ภัตตาคาร ริมทะเล


ไลน์อาหารมากมายให้เข้ามาตักไปรับประทาน

เมื่ออิ่มท้องเรียบรอยก็กลับไปนอนฟังเสียงคลื่นต่อที่ห้อง ช่างเป็นทริปที่สามารถพูดได้ว่ามาเพื่อกินแล้วก็นอนจริงๆ เช้าวันรุ่งขึ้นเราไปแวะที่จุดชมวิวเขาขาด ที่นี่มีเด็กนักเรียนนานาชาติมานั่งวาดรูปกันเต็มไปหมด พูดอังกฤษกันอย่างออกรส ที่นี่ไม่มีอะไรมากมาเพื่อชมวิวอย่างเดียว และเป็นทางผ่านที่เราจะไปสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำด้วยครับ

จุดชมวิวเขาขาด

และแล้วเราก็มาถึงสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต ตอนนี้ฝนกำลังไล่หลังเรามาเลยครับ แต่เราไม่กลัวเพราะเราจะไปอยู่ข้างในนั่นเอง ว่าแล้วก็รีบเข้าไปกันดีกว่าครับ ที่นี่มีพันธุ์สัตว์น้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มมากกว่า 150 ชนิด แถมยังมีอุโมงค์ปลาขนาดจุ๋มจิ๋มให้เราได้เดินลอดไปดูฝูงปลาแหวกว่ายกันอีกด้วย เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.30 – 16.30 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ครับ

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต


อุโมงค์ปลา


สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ภูเก็ต

เสร็จแล้วก็ไปแวะห้างจังซีลอนซักหน่อยว่าของแพงสมคำร่ำลือขนาดไหน เราต้องหาร้านอาหารฝากท้องกันด้วยสินะ และร้านอาหารที่ถูกที่สุดในนั้นก็คือร้านฟูจินั่นเอง พวกผมจึงได้ทานอาหารญี่ปุ่นกันอย่างเอร็ดอร่อย (คิดผิด รู้งี้กลับไปทานที่โรงแรมดีกว่า)

บริเวณห้างจังซีลอน

อิ่มแล้วก็รีบกลับมาตายรังที่โรงแรมอีกครั้ง ขณะที่กำลังเดินผ่านพนักงานก็เชิญชวนว่าตอนนี้เป็นช่วง Happy Hour สามารถสั่งเครื่องดื่มได้ในราคาพิเศษลด 50% พวกผมก็ตาลุกวาว ได้มาคนละแก้วสองแก้วสมใจ คืนนี้นอนหลับฟังเสียงคลื่นแบบเคลิ้มๆ กันเลยทีเดียว

คอกเทล ลดราคา 50% ช่วง Happy Hour ได้ถั่วลิสงคั่วเกลือมาทานเล่นด้วย

วันนี้วันสุดท้ายแล้วสินะ รีบตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม เพราะจะแอบไปสำรวจโซนด้านบนที่เรียกว่า Ocean wing ของที่นี่หน่อยเถอะ เมื่อสำรวจเสร็จแล้วผมกลับชอบโซนด้านล่างติดทะเลมากกว่า ด้านบนมันเงียบสงบไป จุดที่ผมชอบที่สุดของ Ocean Wing ก็คือ The Club House ซึ่งเราสามารถว่ายน้ำในสระพร้อมกับการชมวิวทะเลจากมุมสูงได้สบายเลย

สระว่ายน้ำ The Club House

จากนั้นพวกผมก็เช็คเอาท์แล้วขับรถไปจุดชมวิว 3 หาด ได้แก่ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน เรียงตามลำดับจากใกล้สุดไปยังไกลสุด ลมพัดเย็นสบาย แต่แดดก็ยังเร่งความอบอ้าวได้สม่ำเสมอจริงๆ

จุดชมวิว 3 หาด


วิวจากจุดชมวิว 3 หาด (จุดชมวิวกะรน)

จากนั้นก็ไปไหว้พระปิดทริปนี้ที่วัดฉลอง หรือวัดไชยธาราราม จุดเด่นของที่นี่ก็คือพระมหาธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ภายในมีพระพุทธรูปปางต่างๆ และมีภาพวาดพุทธประวัติ ด้านบนสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ครับ

เจดีย์ วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม

ตามแพลนนี่คือครบเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว เจอฝนบ้างประปราย แต่ไม่ถึงกับทำให้แพลนเสีย พวกผมมุ่งหน้าไปยังสนามบินแต่พอเหลือบดูเวลา.. อ้าว ยังมีเวลาอีกนี่นา ระหว่างทางเห็นป้ายสวนนกก็รีบเลี้ยวกันเข้าไปเลยทันที ค่าเข้าชม 100 บาทต่อคนครับ

สวนนกภูเก็ต


สวนนกภูเก็ต


สวนนกภูเก็ต

จบจากสวนนกก็ถึงเวลาต้องไปคืนรถเช่าที่สนามบินภูเก็ตแล้ว ทริปนี้เป็นทริปที่อิ่มเอมกับการกินมาก แถมตลอดทั้งทริปก็เจอแต่ความสะดวกสบายสุดหรูในราคาประหยัด ผมลองมาคิดว่าถ้าไม่ได้ราคาโปรโมชั่นผมต้องจ่ายราคาเต็มทั้งหมดเท่าไหร่จาก 7,011 บาท/คน นั่นก็คือ 17,366 บาท/คน โอ้ว..ว้าว.. นี่โปรโมชั่นทำให้ประหยัดไปได้คนละ 10,355 บาท 4 คนก็ 41,420 บาท และข้อดีของการมาหน้ามรสุมยังมีอีก เช่น คนไม่เยอะ ของไม่แพง อาหารอร่อย ที่สำคัญราคาถูกมากๆ ยิ่งถ้าใครโชคดีไม่เจอฝนตกให้แพลนเสียเลยนี่เรียกว่าคุ้มค่ามากๆ ครับ หวังว่าเพื่อนๆ พอจะได้ไอเดียในการมาเที่ยวภูเก็ตหน้ามรสุมกันนะครับ เจอกันใหม่ทริปหน้าแล้วแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันต่อคร้าบ

แพ็คกระเป๋าตามไปเที่ยวกันต่อได้ที่นี่นะคร้าบ
http://www.packgrapao.com
https://www.facebook.com/packgrapao
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่