[CR] นั่งรถไฟ ไปเที่ยวกาญจนบุรี ไปเช้าเย็นกลับ ขบวน 909 - 910 น้ำตกไทรโยคน้อย

ทริปนี้ ผมได้คุยกับเพื่อน เมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคมนี่หล่ะครับ โดยเพื่อนผม บอกอยากนั่งรถไฟไปกาญจนบุรี
เลยจัดตามคำพูดไป อดใจรอไม่ได้แล้วสิ! เลยตัดสินใจขับรถไปสถานีรถไฟรังสิต เพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้า ปรากฏว่าที่นั่ง
ยังมีว่างอยู่ เลยบอกเจ้าหน้าที่ขายตั๋วไปว่า ขอนั่งริมหน้าต่าง เขาก็จัดตามคำขอเรา และชำระเงินที่ซื้อตั๋วของสถานีนั้นๆ
ล่วงหน้าตรงนั้นได้เลย แล้ววันเดินทางก็สามารถขึ้นรถได้เลย อิอิ

*ขบวนรถนำเที่ยวสายนี้ ค่าตั๋วชั้น 2 คนละ 240 บาท แบบแอร์ แต่ถ้าอยากได้แบบลมธรรมชาติชิวๆ ก็ซื้อ..ตั๋วชั้น 3 คนละ 120 บาท
แล้วแต่ว่าชอบแบบไหนก็เลือกเอา เที่ยวได้หลายที่มาก เกินกว่าคำว่า "คุ้ม" หลายเท่า จัดไปเลยสิครับ


ถึงวันเดินทางแล้ว 03.19 น. พวกผมก็รีบมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) แบบตื่นเต้นๆ


ที่นี่ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความคึกคักของผู้คนที่เดินทางกลับต่างจังหวัดและท่องเที่ยววันหยุด


เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยมานั่งตากแอร์รอเจ้าหน้าที่ประกาศขึ้นรถ
( ที่นี่เขาติดแอร์แล้วนะ เย็นมากๆ ต้องลองไปสัมผัสเอง เดี๋ยวรู้เลย )


ฮ่าๆ ขบวนนำเที่ยวนี้หล่ะครับ ที่จะพาเราไปเที่ยวน้ำตก ตอนนี้ก็ 06.30 น. ถึงเวลารถออกแล้วสินะ รอไรหล่ะ ไปเล้ยย!!


และแล้ว เวลา 07.40 ก็ถึงสถานีนครปฐมสักที เขาให้เวลาเรา 40 นาที ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือจะไปกราบไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ก็ได้เดินไปไม่ไกล โดยนัดรวมกันตอน 08.20 น. ทุกคน


บรรยากาศยามเช้า ของที่นี่..เป็นไปอย่างคึกคัก ไม่เหมือนบ้านเราเลย แถมองค์พระปฐมเจดีย์ยังสวยงามอีก

ขบวนรถนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธิ์ จะอยู่ขวามือ ส่วนขบวนนำเที่ยวน้ำตก จะอยู่ซ้ายมือ แต่วันนี้ขบวนรถดีเซลรางไม่พร้อมที่จะนำมาวิ่ง
เขาเลยจัดขบวนรถอีกขบวนมาเสริมแทน แต่ผมว่าดีนะ เวลาแยกขบวนกัน จะได้ไม่เสียเวลาถอดข้อต่อโบกี้ จะได้ถึงที่เที่ยวได้ไวขึ้น


"สถานีชุมทางหนองปลาดุก" นี้หล่ะครับ เป็นสถานที่รถสวนสนและรถไปน้ำตก ต้องแยกกัน แต่วันนี้ประเภทรถไม่เหมือนกัน และวิ่งมาคันละขบวนก็ไม่ต้องเสียเวลาถอดข้อต่ออีก ทำให้ถึงสถานที่เที่ยวได้ไวตามเวลา


ระหว่างเดินทางไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว สองข้างทางรถไฟ เต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี และภูเขาที่สวยงาม ดูแล้วสบายตาเลยทีเดียว


เมื่อใกล้ถึงสถานที่เที่ยว พี่เจ้าหน้าที่ จะเดินมาบอกทุกคนว่ากำลังถึง "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" แล้ว แล้วเขาก็จะบอกเวลานัดหมาย
มารวมกันที่รถพร้อมกันทุกคน


ตอนนี้ เวลา 09.35 น. ก็เดินทางมาถึง "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีเวลาในการเดินถ่ายรูปเล่น ซื้อเพชรพลอยเมืองกาญจน์ 25 นาที


อีกหนึ่งมุมมอง ของ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ที่เป็นสะพานประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลก ครั้งที่2 จนถึงทุกวันนี้


วันนี้คนเยอะดีจัง ยิ้ม


ร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น วิวสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแคว (ผมไม่รู้ชื่อร้าน 555 ขออภัยด้วยครับ)


สำหรับใครที่สนใจล่องเรือ ติดต่อได้ที่แพด้านล่างตรงขึ้นเรือ ส่วนอัตราค่าบริการ ผมไม่รู้นะครับ ผมยังไม่เคยขึ้น อิอิ


ถึงเวลาขบวนนำเที่ยว คันนี้ จะพาทุกคนไต่สะพานไปแบบช้าๆ มีทิวทัศน์ที่สวยงามทั้งสองข้างทาง พร้อมแล้ว!! ไปเลยครับ


บ๊ายบาย ยิ้ม


มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม


ระหว่างรถขบวนนำเที่ยว กำลังเดินทางไปสะพานรถไฟสายมรณะ ก้อนเมฆที่เต็มท้องฟ้าและฟ้าสว่าง เป็นบรรยากาศที่ดีมาก


ถึงแล้ว ที่นี่หล่ะ ที่ขบวนรถจะพาไต่สะพานประวัติศาสตร์ ที่หวาดเสียวที่สุด ผ่านหน้าผาที่ยาวมาก


ค่อยๆไต่ไปเรื่อยๆ


มองด้านซ้ายของตัวรถ จะเป็นวิวแม่น้ำแควและภูเขาที่เขียวขจี ที่สวยงาม ดูแล้วสบายตามาก


ชาวบ้านที่นี่เชื่อกันว่า หน้าผานี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าได้ลูบหน้าผาและขอพรไปด้วย จะทำให้สมหวังดังปรารถนา
เพราะชีวิตเชลยศึกที่สร้างทางรถไฟตรงนี้ ล้มตายกันที่นี่ค่อนข้างมาก


สวยงามมากเลยทีเดียว


ไฮไลด์ของตรงนี้คือ "แม่น้ำอเมซอน" ที่มองลงไปลึกๆ จะเหมือน "แกรนแคนยอน" ในต่างประเทศ


ในที่สุด ก็ถึงสถานีปลายทาง "น้ำตก" พี่เจ้าหน้าที่เขาจะให้เวลาเราไปเล่นน้ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย 2 ชั่วโมงครึ่ง
ถึงแล้วรอไรหล่ะ ลงรถสิ...


แต่ไม่ใช่ว่าลงรถแล้วจะเจอน้ำตกเลย ต้องนั่งรถสองแถวไปลงที่น้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งเขาจะมีหลายคันคอยรับส่งไปน้ำตก
ค่าอัตราบริการคนละ 20 บาท


เมื่อถึงน้ำตกไทรโยคน้อยแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ตอนเที่ยงๆคือ กินข้าว หากกินของร้านรอบข้าง อาหารแต่ละเมนู ราคาค่อนข้างสูงมาก
จึงขอแนะนำเซเว่น เพราะมาตรฐานสุดหล่ะ 5555 แล้วแต่บางคนนะครับ


หลังจากทานข้าวเสร็จ อยากขึ้นไปเล่นน้ำจนไม่ไหวแล้ว ก็จะมีป้ายชี้บอกทางขึ้นไป เดินขึ้นไปเลยครับ


เมื่อขึ้นมาถึง จะเจอป้าย "น้ำตกไทรโยคน้อย" ซึ่งเป็นป้ายสุดทางของทางรถไฟสายนี้ แต่รถไฟต้องไปจอดตรงสถานีน้ำตก
เพราะมีขบวนตู้แอร์พ่วงมาด้วย ซึ่งไม่สามารถลากขึ้นมาข้างบนนี้ได้ ถูกๆผิดๆ ไม่ว่ากันนะครับ


อนุสรณ์เก่า...ที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อก่อน รถไฟสายนี้ เชลยศึกเคยสร้างเส้นทางรถไฟผ่านหน้าน้ำตกไปยังประเทศพม่า
แต่ปัจจุบัน ได้รื้อถอนทิ้งจนสุดอยู่แค่สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย


ไปเล่นน้ำข้างบนดีกว่า พวกผมเลือกที่จะไปเล่นที่ "พุต้นน้ำ" ก็คือ "ต้นน้ำของน้ำตก" นั่นเอง ไปเลยครับ


ยินดีต้อนรับ ทางขึ้นไปพุต้นน้ำ นั่นเอง!!
(ไม่ไหว หอบ!!)


เมื่อขึ้นไปถึงแล้วนั้น เราจะยังไม่เห็นต้นน้ำนะครับ เราต้องนั่งรถต่อไปยังที่พุต้นน้ำ อีก 1 ต่อ ซึ่งอยู่ข้างในป่า
ค่าอัตราบริการ คนละ 20 บาท เท่านั้นเอง แล้วพี่คนขับที่ขับมาส่งเรา เขาจะให้เบอร์ติดต่อไว้เวลาเราจะกลับ
พี่เขาก็จะขึ้นมารับ ตอนกลับไม่ต้องเสียค่าอะไรเลย


ถึงแล้วครับ "ต้นน้ำตกไทรโยค" ได้เวลาเล่นน้ำแล้วสินะ ไม่เสียเวลารอเล่นเลย ไปกัน!!


เอิ่ม!! ทำไมน้ำน้อยจัง?


ตรงนี้ เป็นลำธารที่น้ำจะไหลลงหน้าผาไปบ่อข้างล่าง ซึ่งน้ำน้อยมาก แทบจะไม่มีน้ำเลย เกิดอะไรขึ้น!!


อุตส่าห์เตรียมพร้อมมาเล่นน้ำ แต่น้ำกับมีน้อยมาก เลยบอกเพื่อนว่าไปเล่นข้างล่างกันเถอะ
ตอนเดินลงเหนื่อยมากครับ


โอ้วแม่เจ้า!!! น้ำหายไปไหนหมด ทำไมมันแห้งแบบนี้ ไม่นะ น้ำสักหยดก็ไม่มี ตายๆ
แต่ผู้คนก็แห่มาถ่ายรูปกันอยู่ (มีอะไรให้น่าถ่ายครับ) 5555


ไหนๆ จะไม่มีน้ำให้เราเล่นแล้ว ก็ดูถ้ำไปแล้วกัน พอเข้าไปดู ถ้ำนี้สวยมาก มีน้ำหยดด้วย


ถึงเวลาใกล้ออกเดินทางสู่ "สุสานทหารพันธมิตร" แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน แบตกล้องจะหมด ชาร์ตไหนดี??


ขอบคุณ คุณป้าบุญมา ที่อำนวยไฟชาร์ตแบตกล้องให้ผมนะครับ แถมยังบริการพวกผมดีอีก ใครที่ไปเที่ยวรถไฟสายนี้
อย่าลืมแวะไปร้านคุณป้าเขานะครับ ป้าเขาใจดีมาก ไม่งั้น? ไม่มีแบตถ่ายรูปมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูกัน


และแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องขึ้นรถ หลังจากเจ้าหน้าที่พนักงานรถไฟ สับเปลี่ยนหัวจักรใหม่เสร็จแล้ว เริ่มเดินทางเลยครับ!!


กลับมาที่เดิมอีกรอบ "สะพานรถไฟสายมรณะ" กับบรรยากาศตอนบ่ายๆ


กลับมาที่เดิมอีกรอบ บรรยากาศริม "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" ท้องฟ้ายามบ่ายสวยมาก


และแล้ว สถานที่สุดท้ายของวันนี้ คือ "สุสานทหารพันธมิตร" ซึ่งจะมาจอดให้ทุกคนลงที่ "สถานีรถไฟกาญจนบุรี"
แล้วเขาจะนัดหมายเวลาให้มาขึ้นรถตามเวลา ซึ่งเขาให้เวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่ไกลจากสถานีมาก...ลงรถแล้ว ไปกันเลยครับ


สุสานเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ ถึง 6,982 หลุม





ปู้นๆ รถไฟจะออกแล้ว เส้นทางต่อไป...คือเดินทางกลับสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
บ๊ายบาย เมืองกาญจนบุรี เดี๋ยวรอบหน้า มาใหม่น๊า


กลับมาที่สถานีนี้อีกรอบ ไม่ได้รอต่อขบวน แต่รอเอาของกิน ของฝาก ที่ผู้ร่วมเดินทางสั่งไว้ตั้งแต่ขาไป


เจ้าหน้าที่กำลังขนของกิน ของฝาก ขึ้นรถกันอย่างตั้งหน้าตั้งตา 5555
ชื่อสินค้า:   เที่ยวกาญจนบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่