สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
แหมมมมม......ไม่กู้แล้วจะเอาเงินที่ไหนล่ะครับ
รัฐบาลไหนมาก็ต้องกู้ทั้งนั้นแหละ
จากที่เคยฝันอยากเทียบญี่ปุ่น
ถึงตอนนี้เอาแต่มาเลเซียเรายังสู้เขาไม่ได้เลย
ล่าสุดเห็นแชร์รูปรถไฟไทย คู่กับ KTM ของมาเลเซียกันเต็ม net
จ่านั่ง KTM มาหลายครั้งแล้วครับ
นั่งทั้งสายภายในประเทศ และ สายระหว่างประเทศ
ถ้าเอาแค่เฉพาะจาก กทม.- สิงคโปร์ นี่ก็ 2 รอบ
จ่าขอบอกว่า KTM เขา "กินขาด"
มีการพัฒนาสม่ำเสมอ ราคาค่าโดยสารไม่แพง สะอาด
ไม่มี late เป็นครึ่งค่อนวันจนน่าเกลียดแบบ รฟท.ของเรา
เทียบกับ รฟท.แล้วเรานี่ เราไม่ได้ขี้เล็บเขาเลยครับ
ที่เป็นแบบนี้เพราะมาเลเซียเขาไม่มี "สาน รธน." ที่คอยถ่วงความเจริญของชาติ......!!!!!!!
นี่แค่ KTM ของมาเลเซียนะครับ
จ่าว่าหากสิงคโปร์มันคิดจะพัฒนารถไฟแล้วล่ะก็
น่าจะยิ่งเห็นไปถึง "คุณภาพ" ของนักการเมือง ของการบริหารระหว่างเขากับเราได้ชัดเจน
แต่ก็นั่นแหละ
สิงคโปร์มันไม่เอาหรอก
เพราะมันไม่คุ้มกับการลงทุน
เนื่องจากขนาดของประเทศมันเล็กเกินกว่าที่จะลงทุนด้านนี้
สิงค์โปร์เลยแค่วางรางจากด่าน Woodland
เข้าไปสุดที่ ตันหยง ปาร์การ์ ใกล้ๆ China town
แล้วก็ให้ KTM ของมาเลเซีย วิ่งเข้าไปสุดสายที่นั่น
ค่ารถไฟมันก็คิดเท่ากัน
แต่ถ้าเรานั่งจากสิงคโปร์จะเสียเปรียบ
เช่น ค่ารถไฟจากกัวลาลัมเปอร์ ไป สิงคโปร์ราคา 1 ริงกิต
ค่ารถไฟจากสิงคโปร์ มา กัวลาลัมเปอร์ ก็จะราคา 1 ดอลล่าสิงคโปร์เท่ากัน
มันจะไม่เท่ากันก็ตรงที่ 1 ริงกิตประมาณ 10 บาท ส่วน 1 ดอลล่าสิงคโปร์ประมาณ 25 บาท
ดังนั้นจ่าเลยใช้วิธีนั่งรถไฟจากหัวลำโพง - ปีนัง - กัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์
ส่วนขากลับนั่งเครื่องบินแทน
เพราะราคาจะถูกกว่าเยอะเลย
แต่ปัจจุบันไม่มี KTM เข้าไปสิงคโปร์อีกแล้วครับ
จะมีแค่รถขบวนท่องเที่ยวของคนมีตังค์ Oriental express
ทำขบวนจากกะลาแลนด์วิ่งเข้าไปผ่านกัวลาลัมเปอร์ ไปสุดทางที่สิงคโปร์
ส่วนรถขบวนอื่นๆจะไปสุดที่ยะโฮ บาห์รู ชายแดนมาเลย์-สิงคโปร์
มาเลเซียนี่ไม่ใช่แค่ KTM
ที่เขาต่างกับเราเหมือนฟ้ากับเหวนะครับ
แต่สถานีกลาง KL Sentral ของเขานี่ระบบน้องๆสนามบินเลย
เพราะเขาใช้การ Boarding เพื่อไปขึ้นรถไฟครับ
ทุกคนต้องเดินผ่าน Gate ที่กำหนดเพื่อลงไปที่ตัวชานชลา
ไม่มีประเภทญาติมิตรไปเกาะรถไฟร้องห่มร้องให้รอส่งกันจนรถไฟชักหวูด
ไม่มีประเภทคนเดินมาขายไก่ย่าง ยาหม่อง ยาดม ยาอม ยาหอม แบบหัวลำโพงของเรา
ขอทง ขอทาน นี่เลิกพูดไปเลย
ไม่มีเดินไปเกาะหน้าต่างรถไฟขอตังค์ให้สะดุ้งแน่ๆ
คนที่จะลงไปถึงขบวนรถไฟได้ต้องมี Boarding pass เท่านั้น
ห้องอาบน้ำที่ KL Sentral ก็สะอาด มีห้องเปียก ห้องแห้ง
อาบน้ำเฉยๆจ่าจำได้ว่าราคาแค่ 5 ริงกิตเท่านั้น มีน้ำร้อน น้ำเย็น สบายตัว
ถ้าจะเอาผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ก็จ่ายเพิ่มไปตามราคาที่เขากำหนด
ถ้าไม่เอาอะไรก็แค่ 5 ริงกิตนั่นแหละ
ส้วมของ KTM ก็ทำระบบปิด
ไม่ใช่ขี้เยี่ยวก็ปล่อยลงไปบนราง
มีเสียงตามสายจากคนขับรถไฟ
ที่เขาจะพูดสื่อสารไปยังผู้โดยสาร
เหมือนกัปตันเครื่องบินประกาศเลยครับ
ตู้เสบียงนี่
โคดแม่สะอาดเลย
ไปนั่งกินข้าว จิบชาร้อนๆ ดูผู้หญิงแขกหน้าตาคมๆ....จ่าลืม รฟท.ไปเลย....555555
KTM จะมีข้อด้อยก็ตรงตู้นอนเตียงบน
ที่เจ้าของที่ต้องปีนขึ้นไปนอนเอ้เต้อยู่บนนั้น
แบบที่ไม่ได้มีโอกาสนั่งสบายๆไขว่ห้างชมวิวอะไร
แต่เขาก็มีหน้าต่างสำหรับเตียงบนให้ส่องบรรยากาศข้างทางได้ครับ
เห็น KTM แล้ว
พอหันกลับมามอง รฟท.
จ่ายังคงสาปแช่งสาน รธน.มาจนถึงทุกวันนี้
แหม...."ก่อนจะสร้างรถไฟ ครส.ต้องให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน"...ดัดจริตว่ะ...!!!!!!
จ่าพิเชษฐ์
รัฐบาลไหนมาก็ต้องกู้ทั้งนั้นแหละ
จากที่เคยฝันอยากเทียบญี่ปุ่น
ถึงตอนนี้เอาแต่มาเลเซียเรายังสู้เขาไม่ได้เลย
ล่าสุดเห็นแชร์รูปรถไฟไทย คู่กับ KTM ของมาเลเซียกันเต็ม net
จ่านั่ง KTM มาหลายครั้งแล้วครับ
นั่งทั้งสายภายในประเทศ และ สายระหว่างประเทศ
ถ้าเอาแค่เฉพาะจาก กทม.- สิงคโปร์ นี่ก็ 2 รอบ
จ่าขอบอกว่า KTM เขา "กินขาด"
มีการพัฒนาสม่ำเสมอ ราคาค่าโดยสารไม่แพง สะอาด
ไม่มี late เป็นครึ่งค่อนวันจนน่าเกลียดแบบ รฟท.ของเรา
เทียบกับ รฟท.แล้วเรานี่ เราไม่ได้ขี้เล็บเขาเลยครับ
ที่เป็นแบบนี้เพราะมาเลเซียเขาไม่มี "สาน รธน." ที่คอยถ่วงความเจริญของชาติ......!!!!!!!
นี่แค่ KTM ของมาเลเซียนะครับ
จ่าว่าหากสิงคโปร์มันคิดจะพัฒนารถไฟแล้วล่ะก็
น่าจะยิ่งเห็นไปถึง "คุณภาพ" ของนักการเมือง ของการบริหารระหว่างเขากับเราได้ชัดเจน
แต่ก็นั่นแหละ
สิงคโปร์มันไม่เอาหรอก
เพราะมันไม่คุ้มกับการลงทุน
เนื่องจากขนาดของประเทศมันเล็กเกินกว่าที่จะลงทุนด้านนี้
สิงค์โปร์เลยแค่วางรางจากด่าน Woodland
เข้าไปสุดที่ ตันหยง ปาร์การ์ ใกล้ๆ China town
แล้วก็ให้ KTM ของมาเลเซีย วิ่งเข้าไปสุดสายที่นั่น
ค่ารถไฟมันก็คิดเท่ากัน
แต่ถ้าเรานั่งจากสิงคโปร์จะเสียเปรียบ
เช่น ค่ารถไฟจากกัวลาลัมเปอร์ ไป สิงคโปร์ราคา 1 ริงกิต
ค่ารถไฟจากสิงคโปร์ มา กัวลาลัมเปอร์ ก็จะราคา 1 ดอลล่าสิงคโปร์เท่ากัน
มันจะไม่เท่ากันก็ตรงที่ 1 ริงกิตประมาณ 10 บาท ส่วน 1 ดอลล่าสิงคโปร์ประมาณ 25 บาท
ดังนั้นจ่าเลยใช้วิธีนั่งรถไฟจากหัวลำโพง - ปีนัง - กัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์
ส่วนขากลับนั่งเครื่องบินแทน
เพราะราคาจะถูกกว่าเยอะเลย
แต่ปัจจุบันไม่มี KTM เข้าไปสิงคโปร์อีกแล้วครับ
จะมีแค่รถขบวนท่องเที่ยวของคนมีตังค์ Oriental express
ทำขบวนจากกะลาแลนด์วิ่งเข้าไปผ่านกัวลาลัมเปอร์ ไปสุดทางที่สิงคโปร์
ส่วนรถขบวนอื่นๆจะไปสุดที่ยะโฮ บาห์รู ชายแดนมาเลย์-สิงคโปร์
มาเลเซียนี่ไม่ใช่แค่ KTM
ที่เขาต่างกับเราเหมือนฟ้ากับเหวนะครับ
แต่สถานีกลาง KL Sentral ของเขานี่ระบบน้องๆสนามบินเลย
เพราะเขาใช้การ Boarding เพื่อไปขึ้นรถไฟครับ
ทุกคนต้องเดินผ่าน Gate ที่กำหนดเพื่อลงไปที่ตัวชานชลา
ไม่มีประเภทญาติมิตรไปเกาะรถไฟร้องห่มร้องให้รอส่งกันจนรถไฟชักหวูด
ไม่มีประเภทคนเดินมาขายไก่ย่าง ยาหม่อง ยาดม ยาอม ยาหอม แบบหัวลำโพงของเรา
ขอทง ขอทาน นี่เลิกพูดไปเลย
ไม่มีเดินไปเกาะหน้าต่างรถไฟขอตังค์ให้สะดุ้งแน่ๆ
คนที่จะลงไปถึงขบวนรถไฟได้ต้องมี Boarding pass เท่านั้น
ห้องอาบน้ำที่ KL Sentral ก็สะอาด มีห้องเปียก ห้องแห้ง
อาบน้ำเฉยๆจ่าจำได้ว่าราคาแค่ 5 ริงกิตเท่านั้น มีน้ำร้อน น้ำเย็น สบายตัว
ถ้าจะเอาผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ก็จ่ายเพิ่มไปตามราคาที่เขากำหนด
ถ้าไม่เอาอะไรก็แค่ 5 ริงกิตนั่นแหละ
ส้วมของ KTM ก็ทำระบบปิด
ไม่ใช่ขี้เยี่ยวก็ปล่อยลงไปบนราง
มีเสียงตามสายจากคนขับรถไฟ
ที่เขาจะพูดสื่อสารไปยังผู้โดยสาร
เหมือนกัปตันเครื่องบินประกาศเลยครับ
ตู้เสบียงนี่
โคดแม่สะอาดเลย ไปนั่งกินข้าว จิบชาร้อนๆ ดูผู้หญิงแขกหน้าตาคมๆ....จ่าลืม รฟท.ไปเลย....555555
KTM จะมีข้อด้อยก็ตรงตู้นอนเตียงบน
ที่เจ้าของที่ต้องปีนขึ้นไปนอนเอ้เต้อยู่บนนั้น
แบบที่ไม่ได้มีโอกาสนั่งสบายๆไขว่ห้างชมวิวอะไร
แต่เขาก็มีหน้าต่างสำหรับเตียงบนให้ส่องบรรยากาศข้างทางได้ครับ
เห็น KTM แล้ว
พอหันกลับมามอง รฟท.
จ่ายังคงสาปแช่งสาน รธน.มาจนถึงทุกวันนี้
แหม...."ก่อนจะสร้างรถไฟ ครส.ต้องให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อน"...ดัดจริตว่ะ...!!!!!!
จ่าพิเชษฐ์
The Wachowskis ถูกใจ, รวยจ้ะ ถูกใจ, First Sauce ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, น้าพาล ถูกใจ, vackrare ถูกใจ, The Mario ถูกใจ, dogmatist ถูกใจ, จันทร์หลงเงา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2050616 ถูกใจรวมถึงอีก 28 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 5
สรุปเรื่องเงินกู้ 2.2 ล้านๆ มันก็เป็นแค่วาทะกรรมม ที่มีไว้ทำลายฝั่งตรงข้ามเท่านั้นเอง
รถไฟฟ้าความเร็วสูง ถนนลูกยังยังไม่หมดจากประเทศไทย พี่ก็ยังจะสร้าง ถึงจะสร้างได้แต่ 3.5 Km ก็ยังจะตะแบงสร้าง
เงิน 3.3 ล้านๆ ที่บอกว่าไม่กู้ ถึงเวลาทำ ก็กู้แหลก ทั้งในทั้งนอกงบประมาณ
เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ที่ว่า 2.2ล้านๆ คนไทยต้องเป็นหนี้ไปอีก 50ปี
ถ้า3.3 ล้านๆ คนไทยก็คงเป็นหนี้ไปอีก75ปี
แต่ความต่างของหนี้มันมีน่ะ หนี้50ปี ของคนไทย ถ้าโครงการล้มเหลว ยังมีคนรับผิดชอบ
แต่ถ้าหนี้ 75 ปี ถ้าโครงการล้ม จะไม่มีใครรับผิดชอบ เพราะเค้ามีม.44 คุ้มกันอยู่
รถไฟฟ้าความเร็วสูง ถนนลูกยังยังไม่หมดจากประเทศไทย พี่ก็ยังจะสร้าง ถึงจะสร้างได้แต่ 3.5 Km ก็ยังจะตะแบงสร้าง
เงิน 3.3 ล้านๆ ที่บอกว่าไม่กู้ ถึงเวลาทำ ก็กู้แหลก ทั้งในทั้งนอกงบประมาณ
เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ที่ว่า 2.2ล้านๆ คนไทยต้องเป็นหนี้ไปอีก 50ปี
ถ้า3.3 ล้านๆ คนไทยก็คงเป็นหนี้ไปอีก75ปี
แต่ความต่างของหนี้มันมีน่ะ หนี้50ปี ของคนไทย ถ้าโครงการล้มเหลว ยังมีคนรับผิดชอบ
แต่ถ้าหนี้ 75 ปี ถ้าโครงการล้ม จะไม่มีใครรับผิดชอบ เพราะเค้ามีม.44 คุ้มกันอยู่
ไม่บอกดีกว่า ซึ้ง, The Wachowskis ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, The Mario ถูกใจ, dogmatist ถูกใจ, จันทร์หลงเงา ถูกใจ, En.kong ขำกลิ้ง, my skye ถูกใจ, Drama-Thriller ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1130450 ถูกใจรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ไหนสลิ่มไอเดน บอกว่าทำรถไฟฟ้าความเร็วสูง ได้โดยไม่ต้องกู้ มาดูข่าววันนี้กัน กู้แหลกทั้งในทั้งนอกประเทศ
นอกจากใช้เงินจากงบประมาณประจำ ซึ่งก็คืองบขาดดุล ที่ตั้งเพิ่มเข้าไปเกือบ 4 แสนล้านล้าน
ยังมีโครงการกู้ นอกจากงบประมาณประจำอีก ก็คือกู้จากจีน และก็คือเงินกู้ในประเทศ
มันก็เหมือนกับที่นายกปูทำเลย ที่มันต่างกันคือ ของนายกปู 2.2 ล้านๆ บอกชัดเจนว่าจะใช้เงิน จากการกู้นอกรายจ่ายประจำ
เงินในหมดรายจ่ายประจำ ก็ใช้บริหารราชการแผ่นดินไป แยกกันชัดเจน
แต่ของรัฐบาลนี้ 3.3 ล้านๆ ใช้เงินจากหมวดรายจ่ายประจำด้วย แล้วยังกู้นอกรายจ่ายประจำอีก
ซึ่งตอนแรกบอกว่า สามารถทำโครงการ3.3ล้านๆได้โดยไม่ต้องกู้
แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับใช้เงินกู้ ในหมวดรายจ่ายประจำ และ นอกหมวดรายจ่ายประจำมาทำโครงการ3.3ล้านๆ
นี่ยังไม่พูดถึงดอกเบี้ยของเงินต้นที่มากกว่ากัน 1.1ล้านๆอีก ถ้าคิดตามแบบสลิ่ม รัฐบาลนี้ก็ทำให้คนไทยเป็นหนี้ไปอีก75ปี
ใครยกอะไรมาแย้งไอเดนก็แถไปเรื่อย เอาข่าวล่าสุดมาฝาก
ไหนบอกว่า รัฐบาลนี้ทำได้ไง ไม่ต้องกู้สักบาท 555
จีนคงใจดีให้ไทยกู้ไม่โดยเสียดอกหรอก
นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งเจรจาสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน หาข้อยุติโดยเร็ว ด้านคมนาคมรับ ก่อสร้างระยะแรกไม่ทันตามกำหนดเดือนกันยายนนี้
วันที่ 24 สิงหาคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวว่า นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-จีน เส้นทาง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร ว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในเดือนกันยายนนี้ ตามกำหนดหรือไม่
http://hilight.kapook.com/view/141274
http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/rungtip/train2.jpg