ลุงปีเตอร์นักขายกล้องฟิล์มแห่งมหานคร Sydney

วันนี้จะซื้อเลนส์ใหม่ และจะมีหนึ่งเลนส์เท่านั้นที่จะกลับบ้านมาด้วยกัน หลังจากต่อรองราคาก็เตรียมเงินสดในลักษณะที่เรียกว่าพอดีเป๊ะ  ภาพตัดกลับมาได้กล้องถ่ายใต้น้ำสีส้มๆ กลับมาด้วยตัวนึง!!!



วันนี้จะมาเล่าเรื่องที่เราได้เรียนรู้จากการซื้อเลนส์ใหม่กับนักกล้องฟิล์มขายมือพระกาฬแห่งมหานคร Sydney

1. เริ่มต้น (Brand Promise)

มันเป็นวันธรรมดาๆ ของบ่ายวันเสาร์ เรากำลังจะนั่งรถไฟไปหาเพื่อน และเรามีกล้อง Mamiya 7 ii ในมือ แต่ก่อนแต่ไรเราไม่เคยอยากได้เลนส์ Mamiya เพิ่มมาก่อนเลย แต่วันนี้เรากำลังจะผ่านไปแถวบ้านลุงปีเตอร์ เลยถามหาเลนส์ซะหน่อย

"ลุงปีเตอร์ทำให้เราจำลุงได้ในฐานะคนขายกล้องที่มีกล้องทุกตัว และ มีทันทีเสมอ"




2. อ่อยเหยื่อ (The Strategy)

วันนี้เราแค่เบื่อไม่ได้อยากได้เลนส์ใหม่นี้จริงจัง เราเลยลองต่อราคาเล่นดู จาก $650AUD เหลือ $550AUD  ต่อไปต่อมาจบที่ $600AUD ความรู้สึกมันคือ “เอ้ยชนะนี่ ในที่สุดลุงก็ต้องลดราคาให้เรา”  วันนี้เราเป็นผู้คุมเกมส์ ที่ต้องทำก็คือ เดินไปกดเงิน (แบบพอดีเป๊ะ) จ่ายเงิน คว้าเลนส์ แล้วทยายตัวออกมาแบบหล่อๆ (สรุปคือ ลุงแกล้งแพ้เพราะแกรู้ว่าแกมีหมัดเด็ด)



3. ประสบการณ์และการคาดเดา (Potential)

ทันทีที่ก้าวเข้าบ้านลุงปีเตอร์  เรารู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง มันเป็นทักษะในการคาดเดาถึงสิ่งของที่เราอาจจะซื้อในวันนั้น ซึ่งลุงจะวางกระจายไว้รอบๆ บ้านเนียลๆ ให้เราไปเห็นเอง และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการจั่วหัวบทสนทนาและก็ปล่อยให้เราพูดไปเรื่อยๆ เพื่อที่ลุงจะได้แก้เกมส์ได้ตรงจุด

ลุงปีเตอร์ถามว่าช่วงนี้ทำ Project อะไรอยู่ เป็นคำถามที่ลุงแกไม่ได้สนใจหรืออยากรู้ แต่เราอยากเล่า! เพราะมันเป็นอะไรที่เราทำอยู่และรู้สึกดีที่ได้พูดถึง เราก็บอกลุงว่าเราทำ 52 Weeks Project (goo.gl/OxTppu) อยู่และต้องถ่ายรูปทุกวัน พอลุงแกเห็นช่องทางแกก็ขายกล้องถ่ายใต้น้ำทันที โดยลุงแกขายโอกาศในการถ่ายภาพในวันฝนตก และมันก็ฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว ซึ่งมันเจ็บตรงที่เราเป็นคนบอกลุงเองว่าเราใช้กล้องในวันฝนตกนะ และลุงแกก็เทียบสินค้าแกเข้ากับความต้องการเราทันที

ลุงปีเตอร์เอา Product ต่างๆ มาให้เราลองเล่น โดยที่ ณ จุดจุดนี้เราลืมไปแล้วว่าเรามาที่นี่เพื่อซื้อเลนส์ตัวเดียว และเราเป็นผู้คุมเกมส์ (อย่างน้อยก็เคยเป็น)

"ลุงปีเตอร์ทำให้เราเชื่อว่าเราเป็นคนตัดสินใจเลือกของเหล่านั้นเอง"




4. ช่องทางโกยเงิน (Know your Niche)

ย้อนกลับไปประเด็นที่ว่า เรากดเงินมาแค่พอดีค่าเลนส์ตัวเดียวเท่านั้น เราจะเอาเงินที่ไหนมารองรับค่าตัวของ Nikonos-V  หรือกล้องถ่ายใต้น้ำ? เรื่องนี้ไม่ยาก ลุงปีเตอร์รองรับการรับเงินหลากหลายรูปแบบมากและวันนี้เราขอเลือกไปต่อด้วยการโอนเงิน

อย่างไรก็ตามเราสังเกตุมาหลายครั้งแล้วว่าทุกครั้งที่เรากำลังจะโอนให้ลุงปีเตอร์ เราจะไม่ได้โอนง่ายๆ เพราะลุงแกจะทำการขายหนักมากในช่วงนี้ ลุงแกจะงัดของอื่นๆ ที่เรามีแนวโน้มว่าจะซื้อออกมาให้เราเล่น และเสนอส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งการขายอย่างหนักหน่วงในช่วงก่อนที่เราจะโอนเงินนี้ก็เปรียบเสมอกับหมากฝรั่งที่วางไว้ใกล้ๆ กับแคชเชียร์จ่ายเงินนั้นเอง

"อย่ากลัวที่จะวางแผนซื้อของใหญ่ที่อยากได้ เพราะของเล็กๆ ที่ไม่อยากได้แต่อยู่ถูกที่ถูกเวลานั้นน่ากลัวกว่ามาก"


ลุงปีเตอร์รู้ดีว่าถ้าเราโอนเงินไปแล้ว การซื้อขายในวันนี้จะจบลงทันที ซึ่งก็เป็นไปตามคาดหมายทันทีที่เราโอนเงินเสร็จ ลุงปีเตอร์ก็ติดธุระทันทีและเราก็ต้องบอกลาลุงปีเตอร์

5. สรุป (Learn from your mistakes)

โดยสรุปแล้วถ้าเกมส์นี้คือการ วางเงิน หยิบเลนส์ และเดินออก เราแพ้เละเทะเลย เพราะเรากลับบ้านพร้อมเลนส์ที่ไม่อยากได้ และกล้องถ่ายใต้น้ำในวันแดดแจ้ๆ สำคัญเลยคือเพื่อนที่มาด้วยนี่โดนหนักเลยได้ Mamiaya 6 พร้อมเลนส์มาด้วยตัวนึง!!!
ไอ้ลุงนี่ยิ้มขายเก่งเกินไปแล้ววววววววว

Takeaway point:

01. สร้าง Brand Promise ที่ชัดเจน และรักษามันไว้
02. แกล้งโง่ แกล้งแพ้กับลูกค้า ถ้ารู้ว่ากำลังจะชนะ
03. ถ้าลูกค้ากำลังทดสอบสินค้า อย่าสเหร่อเข้าไปวุ่น ให้แน่ใจว่าสิ้นค้าตัวต่อไปต้องอยู่ในสายตาลูกค้าและพร้อมจะทดสอบทันที
04. การขายที่ดีไม่ใช้การพูด แต่เป็นการหุบปากและฟังว่าลูกค้ากำลังพูดทำไม
05. ถ้าเรายังไม่เจอความต้องการของลูกค้าให้โยนหินถามทางและย้อนไปทำข้อ 4 อีกครั้ง
06. ขายโอกาศในการใช้สินค้า ไม่ใช้ตัวสินค้าเอง
07. เตรียมช่องทางรับเงินให้สะดวกแต่ลำบาก (ไม่ได้พิมพ์ผิด)
08. ก่อนที่จะปิดการขายคือช่วงเปิดการขายที่แท้จริง
09. เมื่อลูกค้าได้สิ่งของที่เค้าต้องการ ให้เสนอลดราคาสิ่งของที่เค้าไม่ต้องการทันที
10. ถ้าเค้าจ่ายเงินแล้ว ให้เริ่มการแลกเปลี่ยนกับลูกค้ารายใหม่ทันที
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่