เรื่องมีอยู่ว่า เราขายของอยู่ที่ตลาดแห่งนึง
ซึ่งเป็นตลาดนัดของกินขายตั้งแต่หนึ่งทุ่มเป็นต้นไป
เราขายได้เกือบปี ซึ่งก็ขายดีบ้างเงียบบ้างตามสภาวะเศรษฐกิจ ด้วยเรื่องของกฎกติกาของตลาดมีค่อนข้างมาก สาเหตุของเรื่องคือการทิ้งขยะ เราทิ้งขยะไปที่ร่องน้ำของตลาด ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องปกติของตลาดนี้ เพราะเศษผักเศษขยะทั้งหลายเต็มไปหมด เต็มจนล้นออกมา และใครๆก็ทิ้งตรงนั้น เราเลยมองว่ามันปกติ
แล้วมาเมื่อ2วันก่อน ทางออฟฟิตของตลาด โทรมาหาเราว่า "วันเสาร์คุณกลับกี่โมง มีคนแจ้งมาว่าคุณทิ้งขยะลงในร่องน้ำของตลาด ทางเราจะให้คุณพักขายเป็นเวลา10วัน" พอเราได้ยินคำนี้เราตกใจ ถึงกะพักขายเลยหรอ ไม่มีการตักเตือนอะไรเลยหรอ คนอื่นก็ทิ้งแต่ทำไมโดนอยู่คนเดียว มารู้ทีหลังว่ามีแม่ค้าที่ขายของด้วยกันเป็นถ่ายคริปส่งออฟฟิต ซึ่งเจตนาถ่ายตั้งกล้องรอถ่ายเลยก็ว่าได้ เราก็ได้แต่คิดว่าเราทำอะไรให้เขา เขาถึงทำกับเราขนาดนี้ เราก็ไม่เคยไปยุ่งเรื่องของใครเบียดเบียนใครที่นั่นเลย และเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากๆ รุ่นแม่เลยก็ว่าได้ แต่ทำไมเขาไม่บอกเราดีๆ เตือนเราสิ พูดครั้งเดียวก็เข้าใจแล้ว ใครจะอยากมีปัญหา แต่ก็มีแม่ค้าที่ดีเข้าใจเราอยู่ เขาเตือนเราว่าอีนี่มันขี้อิจฉา เอาหน้าขี้ปะจบ อย่าไปยุ่งกับมัน แถวนี้ไม่มีคบมันหรอก แล้วเขาได้ยินแม่ค้าคนนั้นพูดว่า "ถูกกว่าไปตามถูก ผิดกว่าไปตามผิด เขาเป็นเจ้าของตลาดจะไล่ใครออกตอนไหนก็ได้" แล้วก็หัวเราะแบบสะใจ // งงมั้ยคะ กูไปทำอะไรให้ อีใจหมา
ยิ่งคิดยิ่งเครียด สูญเสียรายได้ไปหลายบาท ไหนจะของที่เพิ่งลงไป ไหนะจะค่าเช่าที่จ่ายไปแล้ว เขาไม่เห็นใจแม่ค้าเลย เห็นลุงยามที่ตลาดเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกเขาจะให้เราเลิกขายแต่ลุงแกขอไว้เพราะ"ความผิดมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น เด็กมันทำมาหากินอย่าไปทำอย่างนั้นเลย แล้วลุงก็เอาคริปมาให้พวกแม่ค้าที่ขายใกล้เราดู แล้วลุงพูดว่า ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าใครถ่าย" ยิ่งได้ยินน้ำตาแทบจะไหล เราทำอะไรไม่ได้เลย เรียกร้องอะไรให้ตัวเองไม่ได้เลย อธิบายขอร้องก็แล้ว ออฟฟิตตลาดปฏิเสธการรับรู้ทุกอย่าง ไม่สนใจ แล้วพูดจาไม่ดีเลย เรารู้นะว่าเราผิดที่ไปทิ้งแบบนั้น แต่เราไม่รู้จิงๆว่าผิด คนอื่นก็ทิ้งกัน ซึ่งไม่มีป้ายเตือนรึมีใครมาเตือนอะไรเลย พูดไปก็จะหาว่าแก้ตัว คำพูดที่คนในออฟฟิตพูดกับเราค่อนข้างแย่เราพยายามใจเย็นหลีกเลี่ยงที่จะมีปันหาให้มากที่สุด เพราะถ้ามีปันหาใครจะผิดจะถูกมันไม่สน ไล่ออกอย่างเดียว ซึ่งเรายังต้องใช้ที่ตรงนั้นทำมาหากินเลยต้องยอม ปกติไม่ใช่คนยอมอะไรแบบนี้เลย และไม่รู้ว่าถึงวันเริ่มขายจะเจออะไรอิก
ต้องระวังตัวขนาดไหน ทำไมเราหากินสุจริต ต้องมาเจออะไรแบบนี้ คิดแล้วท้อค่ะ
แบบนี้เรียกว่าโดนแกล้งรึป่าว
ซึ่งเป็นตลาดนัดของกินขายตั้งแต่หนึ่งทุ่มเป็นต้นไป
เราขายได้เกือบปี ซึ่งก็ขายดีบ้างเงียบบ้างตามสภาวะเศรษฐกิจ ด้วยเรื่องของกฎกติกาของตลาดมีค่อนข้างมาก สาเหตุของเรื่องคือการทิ้งขยะ เราทิ้งขยะไปที่ร่องน้ำของตลาด ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องปกติของตลาดนี้ เพราะเศษผักเศษขยะทั้งหลายเต็มไปหมด เต็มจนล้นออกมา และใครๆก็ทิ้งตรงนั้น เราเลยมองว่ามันปกติ
แล้วมาเมื่อ2วันก่อน ทางออฟฟิตของตลาด โทรมาหาเราว่า "วันเสาร์คุณกลับกี่โมง มีคนแจ้งมาว่าคุณทิ้งขยะลงในร่องน้ำของตลาด ทางเราจะให้คุณพักขายเป็นเวลา10วัน" พอเราได้ยินคำนี้เราตกใจ ถึงกะพักขายเลยหรอ ไม่มีการตักเตือนอะไรเลยหรอ คนอื่นก็ทิ้งแต่ทำไมโดนอยู่คนเดียว มารู้ทีหลังว่ามีแม่ค้าที่ขายของด้วยกันเป็นถ่ายคริปส่งออฟฟิต ซึ่งเจตนาถ่ายตั้งกล้องรอถ่ายเลยก็ว่าได้ เราก็ได้แต่คิดว่าเราทำอะไรให้เขา เขาถึงทำกับเราขนาดนี้ เราก็ไม่เคยไปยุ่งเรื่องของใครเบียดเบียนใครที่นั่นเลย และเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากๆ รุ่นแม่เลยก็ว่าได้ แต่ทำไมเขาไม่บอกเราดีๆ เตือนเราสิ พูดครั้งเดียวก็เข้าใจแล้ว ใครจะอยากมีปัญหา แต่ก็มีแม่ค้าที่ดีเข้าใจเราอยู่ เขาเตือนเราว่าอีนี่มันขี้อิจฉา เอาหน้าขี้ปะจบ อย่าไปยุ่งกับมัน แถวนี้ไม่มีคบมันหรอก แล้วเขาได้ยินแม่ค้าคนนั้นพูดว่า "ถูกกว่าไปตามถูก ผิดกว่าไปตามผิด เขาเป็นเจ้าของตลาดจะไล่ใครออกตอนไหนก็ได้" แล้วก็หัวเราะแบบสะใจ // งงมั้ยคะ กูไปทำอะไรให้ อีใจหมา
ยิ่งคิดยิ่งเครียด สูญเสียรายได้ไปหลายบาท ไหนจะของที่เพิ่งลงไป ไหนะจะค่าเช่าที่จ่ายไปแล้ว เขาไม่เห็นใจแม่ค้าเลย เห็นลุงยามที่ตลาดเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกเขาจะให้เราเลิกขายแต่ลุงแกขอไว้เพราะ"ความผิดมันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น เด็กมันทำมาหากินอย่าไปทำอย่างนั้นเลย แล้วลุงก็เอาคริปมาให้พวกแม่ค้าที่ขายใกล้เราดู แล้วลุงพูดว่า ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าใครถ่าย" ยิ่งได้ยินน้ำตาแทบจะไหล เราทำอะไรไม่ได้เลย เรียกร้องอะไรให้ตัวเองไม่ได้เลย อธิบายขอร้องก็แล้ว ออฟฟิตตลาดปฏิเสธการรับรู้ทุกอย่าง ไม่สนใจ แล้วพูดจาไม่ดีเลย เรารู้นะว่าเราผิดที่ไปทิ้งแบบนั้น แต่เราไม่รู้จิงๆว่าผิด คนอื่นก็ทิ้งกัน ซึ่งไม่มีป้ายเตือนรึมีใครมาเตือนอะไรเลย พูดไปก็จะหาว่าแก้ตัว คำพูดที่คนในออฟฟิตพูดกับเราค่อนข้างแย่เราพยายามใจเย็นหลีกเลี่ยงที่จะมีปันหาให้มากที่สุด เพราะถ้ามีปันหาใครจะผิดจะถูกมันไม่สน ไล่ออกอย่างเดียว ซึ่งเรายังต้องใช้ที่ตรงนั้นทำมาหากินเลยต้องยอม ปกติไม่ใช่คนยอมอะไรแบบนี้เลย และไม่รู้ว่าถึงวันเริ่มขายจะเจออะไรอิก
ต้องระวังตัวขนาดไหน ทำไมเราหากินสุจริต ต้องมาเจออะไรแบบนี้ คิดแล้วท้อค่ะ