กระทู้นี้เขียนขึ้นมาเนื่องจากว่าผมเป็นคนที่ติดตามเรื่องนี้ อาจจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นแฟนพันธ์ุแท้แต่ก็เป็นแฟนคนนึง
จึงอยากแนะนำรวมถึงให้ข้อมูลสำหรับคนที่ลังเลใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ ให้ทราบถึงเนื้อหาโดยคร่าวๆนะครับ

สำหรับผู้ที่เปิดมาเจอกระทู้นี้โดยบังเอิญและยังไม่ได้รู้จักกับซีรี่ย์ Tokyo Ghoul มาก่อนหรือแค่เคยได้ยินชื่อมานะครับ เนื่องด้วยว่าหนังสือนิยายเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องอ้างอิงมาจากการ์ตูนซีรี่ส์หลัก ดังนั้นเพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านที่ครบถ้วนเข้าใจถึงบุคลิกและการกระทำของตัวละคร ผมขอแนะนำให้อ่านรีวิวและหนังสือเล่มนี้หลังจากที่อ่าน Tokyo Ghoul ภาคต้นจบแล้ว  อย่างไรก็ตามหากว่าคุณต้องการที่จะอ่านโดยเร็วที่สุด ผมก็แนะนำให้อ่านTokyo Ghoul ภาคต้นจนจบเล่ม 8 ก่อนนะครับ

เนื้อหาภายในเล่มนี้จะประกอบด้วยทั้งหมด 6 บท โดยจะเป็นเนื้อหาของตัวละครหลักที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งอยู่ในช่วง[วันวาน] หรือก็คืออดีตก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆในซีรีส์หลักตามชื่อหนังสือ  ด้วยสไตล์การเขียนที่ไหลลื่นรวมถึงการแปลที่มีการเลือกใช้คำอย่างบรรจง ทำให้ความรู้สึกที่ได้รับขณะอ่านนั้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความซาบซึ้ง หรือแม้แต่ความรู้สึกขัดแย้งแบบตลกร้ายอันเป็นลักษณะเด่นของเรื่องนี้ก็ดำเนินไปอย่างไร้รอยต่อทำให้รู้สึกตัวอีกทีก็อ่านจนจบบทแล้ว นอกจากนั้นหนังสือเล่มนี้ยังคงเสน่ห์ของการเชื่อมโยงระหว่างบทด้วยคีย์เล็กๆไว้เหมือนกับเล่มก่อนๆ ซึ่งก็กลมกลืนไปกับเนื้อหาอย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติ ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่ว่าสำหรับคนที่มีการอ่านเป็นงานอดิเรก หรือแฟนพันธุ์แท้ก็ควรค่าแก่การเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง

        ถัดไปจะเป็นการอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับเนื้อหาในแต่ละบทนะครับ โดยผมจะพยามไม่สปอยล์ส่วนของเนื้อเรื่องจะได้ไม่เสียอรรถรสในการอ่าน

บทที่: 1 [ต่างเผ่าพันธ์ุ][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในบทแรกจะเป็นบทของโทวกะในช่วงก่อนแยกทางกับฮายาโตะ โดยเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้โทวกะรู้สึกลังเลที่จะใช้ชีวิตแบบกูลที่เกลียดมนุษย์ จนเริ่มเปิดใจและเลือกเข้าโรงเรียนตามคำแนะนำของผู้จัดการโยชิมูระ ถือเป็นบทให้ความซาบซึ้งภายใต้ความรู้สึกที่ขัดแย้งของตัวละครซึ่งหน่วงใจทว่าเข้าใจง่าย ตามแบบฉบับของ Tokyo Ghoul
บทที่: 2 [นักอ่านผู้เดียวดาย][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นบทที่มีโทนความรู้สึกสอดคล้องไปกับบทแรก กล่าวถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและกดดันของคาเนกิขณะอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกับความครัวของป้า ผู้ซึ่งทำตัวเฉยชากับตัวตนของคาเนกิ ถึงกระนั้นก็เขาก็ยังคงมีฮิเดชิที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความร่าเริง เป็นดังแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของคาเนกิที่ทำให้เขาอดทนและผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
บทที่: 3 [ตัวการ][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นบทที่มีอารมณ์แตกต่างไปจากสองบทแรกค่อนข้างมาก โดยจะออกแนวฮาๆ ซะมากกว่า ซึ่งเหตุผลที่เป็นอย่างงั้นก็เพราะตัวเดินเรื่องหลักของบทอย่างบันโจนั้นเอง ในบทนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์ภายในเขต 11 ก่อน ที่จะเกิดความขัดแย้งภายในเขตจากซีรีส์หลักเล่ม 5 โดยในบทนี้ก็มีการใช้ลักษณะการเขียนแบบพล็อตทวิสท์หลายชั้นเล่นเอาผมเผลอตะโกนในใจว่า "อะไรเนี่ย" ไปหลายรอบเลยหละครับ โดยรวมแล้วถือเป็นบทที่ให้ความรู้สึกสนุก สามารถนำมาใช้ขั้นความรู้หน่วงๆ ในจิตใจจากสองบทก่อนหน้าได้ดีทีเดียว
บทที่: 4 [คำพูดไร้แก่นสาร][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตัวละครที่บทนี้โฟกัสก็คืออากิระขวัญใจของใครหลายคน เป็นบทที่โดยส่วนตัวแล้วชอบมากที่สุดในเล่มนี้เลยครับ เรื่องราวอยู่ในช่วงที่อากิระยังเรียนอยู๋ที่สถาบันของ CCG โดยในบทนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสืบสวนของอากิระที่ก้าวล้ำเจ้าหน้าที่ CCG ตัวจริงไปไกล อีกทั้งยังมีฉากความสัมพันธ์พ่อลูกมาโดะที่สุดจะน่าประทับใจอีกด้วย อาจจะเป็นเพียงบทเดียวในเล่มที่ให้ความอิ่มเอิบหัวใจภายใต้ธีมแห่งความขัดแย้งของซีรี่ส์นี้
บทที่: 5 [สีที่คล้ายคลึง][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับบทที่ 5 เป็นเรื่องราวของคิมิคนรักของนิชิโอะ โดยเป็นการขยายความเพิ่มเติมจากในหนังสือที่ว่านิชิโอะช่วยคิมิไว้จากความทุกข์หลังสูญเสียครอบครัวไปอย่างไร ซึ่งหนังสือเล่มนี้ก็สามารถสื่อความรู้สึกของคนที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างผ่านมุมมองของคิมิได้เป็นอย่างดี โดยเป็นการแสดงถึงความรู้สึกของความสูญเสียเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผสมความรู้สึกความเคียดแค้นไปอย่างที่แล้วๆมาอย่างหลายๆเหตุการณ์ในซีรี่ย์หลัก เรียกได้ว่าให้รู้สึกความเหมือนหลุดออกไปจากเรื่อง Tokyo Ghoul เลยหละครับ
บทที่: 6 [วานรอสูร][Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จัดว่าเป็นการลำดับเรื่องได้ดีเลยทีเดียวที่นำบทนี้มาวางไว้เป็นบทสุดท้าย เพราะนอกจากจะเป็นบทที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ขันแล้วยังแฝงไว้ซึ่งแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตอีกด้วย โดยเป็นเนื้อเรื่องของโคมะกูลหัวหน้าแก๊งวานรอสูรที่ผันตัวมาเป็นบริกรในร้านกาแฟอันเทคุ ตามคำเชิญชวนแกมบังคับของผู้จัดการโยชิมูระ ทำให้เขารับรู้ด้านใหม่ๆ ของมนุษย์ที่ตลอดมาเคยเห็นเป็นเพียงแค่เหยื่ออย่างเดียว
ภาพแถมจากภายในหนังสือครับ

จบแล้วนะครับสำหรับรีวิวของ Tokyo Ghoul [วันวาน] เล่มนี้ สำหรับผมถือว่าคุ้มค่ากับราคา 180 บาทอย่างมาก หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้รับความเพลิดเพลิน และเกิดความรู้สึกอยากซื้อขึ้นมาไม่มากก็น้อยนะครับ  แล้วก็ถ้าหากมีคำติชมใดๆ สามารถคอมเมนท์ได้อย่างเต็มที่ ตัวผมพร้อมจะน้อมรับคำแนะนำนี้ไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นครับ