ขอคำแนะนำเรื่องลูกชาย วัย 15 ปี มีแฟน

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉันรบกวนปรึกษาปัญหาเรื่องลูกค่ะ ปัจจุบันลูกชายอายุ 15 ปีแล้วค่ะ เรียนอยู่ชั้น ม.4 แต่ต้องขอเล่าย้อนไปจากอดีตเลยนะคะ ดิฉันเป็น Single mom ค่ะ เดี่ยวจริงๆ ไม่มีญาติ พี่น้อง ปู่ย่าตายายช่วยเลี้ยงเลย ลูกเป็นเด็กดีมาตลอดค่ะ  เป็นเด็กดี ร่าเริง และเรียนดี ช่วยเหลืองานบ้าน รับเก็บถาดอาหารให้เพื่อนๆ รับทำรายงาน ค่าแรงแล้วแต่จะตกลงได้กับเพื่อน 5 บาท 10 บาท ลูกก็รู้จักทำเพื่อมีเงินเก็บของตัวเอง  ดินฉันกับลูกสนิทกันมาก มีอะไรเราก็คุยกันตลอด ดิฉันตั้งใจว่า ม.4 จะให้ลูกไปสอบเรียนในจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับลูก แต่แล้วก็เกิดจุดเปลี่ยน เมื่อตอน ม.3  ด้วยความคิดที่ว่า ม.4 ลูกจะไม่ได้อยู่จังหวัดนี้แล้ว อยากให้ลูกมีโอกาสได้อยู่กับพ่อของเขา จึงตัดสินใจส่งลูกไปอยู่กับพ่อของเขา ซึ่งครอบครัวใหม่ของพ่อ มีแม่ใหม่ และน้องต่างมารดาที่เป็นผู้ชายอีก 3 คน (อายุห่างกันลดลงมาคนละปีค่ะ) ลูกเองก็ยินดีที่จะไปอยู่กับครอบครัวของพ่อ และครอบครัวของพ่อ ก็แสดงเจตนารมณ์ว่ายินดีให้ ลูกชายคนนี้ไปอยู่ด้วย เพื่อจะใกล้ชิดกับน้องๆ พี่น้องจะได้สนิทสนิมกันมาขึ้น หลังจากที่ลูกไป ดิฉันก็ไม่ได้ทิ้งลูกนะคะ โทร.คุยกันทุกเย็น รับลูกมากินข้าวเย็นด้วยกัน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์  แต่ดิฉันก็ไม่รู้ว่าลูกเก็บกดอะไร หรือเจออะไรมาบ้าง ถามลูกทุกอย่างก็ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร จนอยู่มาวันนึง ลูกบอกกับดิฉันว่า เขามีแฟนแล้วนะ (ช่วงเดือน ธ.ค. 55 ม.3 เทอม 2) ดิฉันก็ยินดีนะคะ เพราะรู้ว่าเขาเริ่มเป็นวัยรุ่นแล้ว (ใจจริงก็ไม่อยากให้มีหรอกค่ะ แต่ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้) ที่ทำได้คือคอยสอนและ แนะนำให้เขารู้ว่านี่คือรักครั้งแรก ควรรักแบบไหน ให้สมวัย และไม่ทิ้งการเรียน  หลังจากลูกมีแฟน พฤติกรรมลูกเริ่มเปลี่ยนไป ลูกเริ่มโกหก เริ่มกลับบ้านผิดเวลา  นอนดึก ตีตัวออกห่างจากคนในครอบครัว หมกตัวเองอยู่แต่ในห้อง ดิฉันก็ได้แต่บอกสอน แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น ดิฉันดิฉันคุยกับแฟนของลูก ว่าให้ช่วยแนะนำ หรือ พากันเรียน เว้นช่องว่างให้ต่างคนต่างมีพื้นที่ในการเรียน หรืออ่านหนังสือ ไม่ใช่คุยโทรศัพท์ ดึกๆ จนพักผ่อนไม่พอ จนมานั่งหลับในห้องเรียน แฟนของลูกก็รับปากค่ะ แต่ก็ดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้น ดิฉันพยายามสืบพฤติกรรม ว่าแฟนของลูกเป็นคนแบบไหน  แต่เมื่อรู้ ก็แอบตกใจ แฟนของลูกนิสัยเป็นเด็กก้าวร้าว  พูดกู - กับลูกชาย ด่าคำหยาบคายต่างๆ นาๆ จนถึง ด่าพ่อด่าแม่  ในเวลาที่เขาไม่พอใจ หรือโกรธลูกชายดิฉัน (ที่รู้เพราะแอบเปิดอ่านLine และ messenger ของลูก) ซึ่งต่างกับลูกชายดิฉัน ที่จะเรียกแฟนตัวเองว่า ตัว,ที่รัก, หรือ หมี ลูกชายดิฉันพูดเพราะทุกคำค่ะ ไม่ก้าวร้าวกับผู้ใหญ่ด้วย ลูกดิฉันมีเงิน (เก็บจากการทำงานของลูกชายดิฉัน)  จากเงินเก็บหลักหมื่นของลูก จนวันนี้ลูกดิฉันไม่เหลือเงินเก็บเลยสักบาท เพราะแฟนของลูกขอเงิน เพื่อไปเที่ยวกับเพื่อนของเขา ไปกินเหล้า เที่ยวกลางคืน  หรือแม้แต่ซื้อของในอินเตอร์เน็ตให้กัน ช่วยออกเงินซื้อโทรศัพท์ให้แฟน พอรู้ว่าแฟนลูกเป็นคนแบบไหน ก็ห่วงลูกชายมากขึ้น คอยบอก คอยสอน และย้ำเขาหลายๆ อย่าง ที่คนเป็นแม่พึงกระทำ และอยู่มาวันนึง ลูกชายขอดิฉัน ไปดูหนังกับแฟน แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ไปดูหนังค่ะ เขาไปเปิดห้อง เป็นแบบอพาร์ทเม้นต์ อยู่ด้วยกัน ดิฉันจับได้ ก็ต่อว่าลูกค่ะ ว่าทำไมทำแบบนี้ รู้ไหมว่าแม่จะเสียใจขนาดไหน ต่อว่าเด็กผู้หญิง ว่าทำไมถึงยอมมาแบบนี้ เราเป็นผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัว แต่แฟนของลูกก็เถียงดิฉันนะคะ เขาบอกว่า เขาโตแล้ว เขารู้ว่าเขาต้องทำตัวยังงัย พ่อแม่ของเขาสอนเขามาดี เขาโตและรับผิดชอบตัวเองได้ จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้รักลูกชายดิฉัน เขาอยากเลิกตั้งหลายครั้ง แต่ลูกชายของแม่ไม่ยอมเลิกกับเขาเอง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หนูนะคะแม่  แต่ปัญหาอยู่ที่ลูกชายแม่ ที่เขาไม่ยอมเลิกกับหนู  ดิฉันทั้งหน้าชา และแอบตกใจนิดๆ ว่านี่เหรอ เด็กผู้หญิงอายุ 14-15 กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าดิฉัน ดิฉันพาลูกกลับบ้าน พร้อมกับปรับทัศนคติหลายๆ อย่างของลูก และย้ำว่า แม่ห่วงเรื่องเรียน อย่าตัดช่องน้อยแต่พอตัว คิดถึงความสุขแค่ชั่วครั้งชั่วคราว นาทีนี้ ดิฉันต้องประครองให้ลุกจบ ม.3 ให้ได้ และลูกก็จบมาด้วยเกรดที่สวยงาม 3.79 ลูกบอกกับดิฉันว่า เห็นไหมแม่ การมีแฟนไม่ได้ทำให้ผมเรียนแย่ลง ... ดิฉันก็อึ้งๆ ไม่พูดอะไร
                หลังจากจบ ม.3 ดิฉันส่งลูกมาจังหวัดที่จะให้เขาสอบเรียนต่อ ม.4 เพื่อมาเรียนพิเศษ และหวังว่าถ้าเขาอยู่คนละจังหวัด เขาจะติดต่อกันยาก และทำให้เขาห่างกัน และคงจะเลิกกันในที่สุด แต่ก็ไม่ค่ะ ลูกไม่เลิกกับแฟนของเขา ลูกสอบติดโรงเรียนที่ให้สอบเข้า ม.4 ดิฉันก็เหมือนเดิมค่ะ คือถ้าห้ามไม่ได้ แต่อย่าให้การเรียนเสีย ให้รับผิดชอบตัวเอง เพราะลูกต้องอยู่หอพัก ดิฉันบอกลูกว่า ถ้าห้ามไม่ได้เรื่องคบกัน ก็หวังว่าจะบริหารเวลาให้ดี ไม่ทำให้เสียการเรียน แต่แม่ไม่ขอรับรู้ หรือยุ่งเกี่ยวกับแฟนของลูก ช่วงแรกลูกก็ทำได้ดีค่ะ  ดิฉันพยายามดึงลูกกลับมาด้วยความรัก คำพูด และการแสดงออกต่อเขา ว่าเรารักและเป็นห่วงเขา เขาก็รับรู้ และปรับตัวเข้าหาดิฉัน ไม่แข็งกร้าวเหมือนช่วงแรก แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกหนีเรียน 2 วัน (พฤหัส-ศุกร์) มาหาแฟนของเขา โดยที่ดิฉันไม่รู้ (เพื่อนของลูกส่งข่าวให้ดิฉันทราบ) พอดิฉันจับได้ ก็คุยกับลูก ไม่ได้ดุ-ด่า  แต่พูดให้ลูกเห็นถึงปัญหา  ลูกขอโทษ และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แต่เมื่อวาน ลูกก็เข้าเรียนสาย เพราะตื่นสาย จากการนอนดึก (คงเพราะคุยโทรศัพท์) ดิฉันสืบดูจาก IG ของเด็กผู้หญิง เขามากมายกับลูกชายดิฉันเหลือเกินค่ะ จะเลิก จะไม่คบ จะมี..ผ-วใหม่ บ้าง และลูกดิฉันก็ต้อง ง้อๆๆๆ ไม่เป็นอันเรียน เพื่อนลูกชายเล่าให้ฟังว่า บางวันที่ผู้หญิงบอกเลิก หรือทะเลากัน  ถึงกับทำให้ลูกชายดิฉันหงอยไปเลย บางทีต้องโดดเรียนไปคุยโทรศัพท์ เพื่อง้อแฟนของเขา  ดิฉันก็ได้แต่ย้ำ ว่าช่วงนี้ช่วยประครอง และเข็นไปก่อน มีอะไรก็ให้รีบส่งข่าว และดิฉันก็ไปหาลูกทุกวันเสาร์ และ อาทิตย์อยู่แล้ว  เพื่อนๆ ของลูกชายก็ดีนะคะ ช่วยกันพูดเตือนสติ ช่วยเก็บงานไว้ให้ แต่จะหวังพึ่งเพื่อนลูกทั้งหมดก็ไม่ได้ ดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ ไม้อ่อนก็แล้ว ไม้แข็งก็แล้ว ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรกับปัญหานี้ จะดึงลูกออกจากแฟนของเขาได้อย่างไร ดิฉันควรไปหาพ่อ-แม่ของเด็กผู้หญิง บอกให้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือพบครูของเด็กผู้หญิง หรือ พบครูของลูกชายดีคะ ดิฉันมีลูกคนเดียว ก็หวังให้เขาเดินไปจนถึงฝั่ง เกิดปัญหาหรือต้องมาเสียด้วยเรื่องต่างๆ ระหว่างเรียน ขอคำแนะนำจากท่านทั้งหลาย ช่วยชี้แนะ – แนะนำด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่