ก่อนหน้าเราจะรู้จักกับหนุ่มคนนี้ เราก็มีแฟนเป็นชาวสิงคโปร์ คบกันได้สั้นๆค่ะ แค่ 3 เดือน ก็มีอันต้องห่าง ด้วยระยะทาง ด้วยวัย ด้วยความเยอะของเราเอง และ ความที่เค้ายังไม่พร้อมมีใครจริงๆจังๆ ก็ทำให้เราต้องเลิกลากันไปแบบไม่สวยนัก แต่ก็ไม่ได้แย่นักเท่าไหร่ แยกกันไปแบบเรายังคิดว่าคงมีหวัง (คิดเอาเองค่ะ)
แล้วก็ถึงตอนที่เราได้รู้จักกับ พ่อหนุ่มคนใหม่ คนนี้....
เรากับหนุ่มคนนี้รู้จักกันจากโปรแกรมแชทนึงชื่อว่า tinder ตอนที่เราสมัครโปรแกรมนี้เพราะจะไปจับผิดแฟนเก่าที่เราระแคะระคายว่าเค้ากำลังเล่นtinder อยู่ เพราะตอนที่อยู่ไทยตอนอยู่ในโรงหนังเราเห็นโปรแกรมนี้มันเด้งขึ้นมาเเล้วเค้าหยิบมาดู เราก็เอะๆใจล่ะว่านี่appอะไร พอออกจากโรงหนังเราก็ถามเลย เธอเล่นแอพอะไรน่ะ เค้าก็อึกอักจนเราคาดคั้นได้ว่า เป็น tinder แล้วเค้าก็สัญญาว่าจะลบโปรแกรมออก แต่เราไม่เชื่อ เลยต้องโหลดapp นั้นมาเพื่อเช็คว่าแฟนยังเล่นอยู่หรือไม่ แต่แฟนเราอยู่สิงคโปร์เราเลยต้องลงทุนสมัครแบบเสียเงินเพื่อให้จะได้ไป match กับคนในต่างประเทศได้ (คนที่เคยเล่นน่าจะเข้าใจเนอะ) พอเราสมัครโปรแกรมนี้ก็เจอแฟนเล่นจริงๆด้วยค่ะ แล้วก็ทะเลาะกันทำไมเธอทำงั้นงี้ จนในที่สุดเค้าก็ขอเลิกกับเราด้วยเหตุผลนู่นนี่นั่น ก็เลิกกันไปไม่ค่อยดีนัก แต่ก็จบแบบทันทีตอนช่วงสงกรานต์เลยค่ะ แล้วในขณะนั้นเรายังมีโปรแกรม tinder นี้อยู่ เราก็ไม่ค่อยได้เล่น แต่ช่วงเบื่อๆเซ็งๆเศร้าๆจากแฟนเก่า เราก็นั่งเลื่อนจนได้ match กับพ่อหนุ่มคนนี้ ซึ่งเข้ามาทักเราก่อนแบบสุภาพมากๆๆๆๆ เค้าเริ่มเข้ามาคุยกับเราหลังจากเปิดงานช่วงสงกรานต์ ช่วงแรกๆเราก็ยังไม่อินทักมา ตอบอีกวัน ตอบอึนๆเนือยๆตามประสาคนเพิ่งอกหัก แต่เค้าเป็นคนที่สม่ำเสมอมากในช่วงแรก good morning / goodnight ไม่เคยขาด เป็นงี้อยู่4-5วัน จนเค้าก็ขอเบอร์ whatsapp เรา เราก็ไม่คิดมากก็ให้ไป การให้เบอร์ whatsapp ไปนั้น มันทำให้เราคุยกันได้มากขึ้น เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยเข้าในโปรแกรมแชท tinder มากนัก
ช่วงที่เค้าเข้ามาเป็นช่วงที่เราอ่อนไหวพอดี การมีใครสักคนมาคุยตอนนั้น มันเหมือนทำให้ส่วนที่ขาดหายไป ได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง แล้วพอยิ่งคุยยิ่งมีหลายๆสิ่งที่เรารู้สึกว่าเค้า “ดีกว่า” แฟนเก่า เพราะแฟนเก่าเราเป็น party boy มากๆ เที่ยว 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งหนุ่มคนนี้ไม่เป็นเลยทำงานเสร็จกลับบ้าน ออกกำลังกาย ไปขี่จักรยาน ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์เดียวกันกับเราสุดๆ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชาวสิงคโปเรี่ยน
ทีนี้เราก็มีจองตั๋วไปสิงคโปร์ช่วงเดือน พค. ที่จองไปคือตอนนั้นหวังใจว่าจะไปเจอแฟนเก่า เผื่อจะรีเทิร์น เผื่อจะได้ปรับความเข้าใจกันอีก แต่กลายเป็นว่าระหว่างก่อนที่เราจะไปเราก็คุยกับพ่อหนุ่มคนนี้ทุกวัน และแทบทั้งวัน เค้าเหมือนเป็นยาใจให้เราช่วงนั้น ทำให้แผลจากคนเก่าหายได้เร็วและไวขึ้น ยิ่งคุยก็ยิ่งเห็นว่าเค้าสนใจในตัวเรามาก ถามไถ่ทุกสิ่งอย่างในชีวิต อยากรู้เรื่องเราไปซะหมด ซี่รี่ย์ไหนที่เราบอกว่าอยากดู เค้าก็เร่งไปดูก่อนเราจนจบเพื่อมาคุยกับเราได้ ศึกษา lifestyle เราจากในสื่อ social จนรู้ว่าเราชอบ ไม่ชอบอะไร โดยที่เราแทบไม่ต้องบอก ช่วงนั้นเค้าก็บอกจะมาไทยแต่เราก็บอกเค้าไว้ว่า เธอไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวกลางเดือน พค. ชั้นก็ไปแล้ว เค้าก็ช่วยเราวางแผนการท่องเที่ยวอย่างดี เขียนตารางเวลาทุกอย่างมาให้
แต่อยากบอกว่าระหว่างที่เราคุยกัน ไม่ได้คุยแบบ แอ๊ว หรือ จีบ เลยนะคะ ออกแนวศึกษากันไปเรื่อยๆ เค้าไม่มีหยอด หรือ หยอก เราเลย มันทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย ผู้ชายแบบนี้แหละ ที่เราตามหา เรายังคิดว่าการจะเจอผู้ชายใน app มันออกแนวมาหยอดคำหวานใส่กัน แล้วชวนกันเดท หรือทำอะไรกันมากกว่านั้น แต่สำหรับคนนี้เป็นผู้ใหญ่มากๆค่ะ
เราคุยกันทุกวัน และ แทบทั้งวัน เค้ามักจะมา good morning เราก่อนทุกเช้า และ Goodnight เราทุกคืน เป็นประจำอย่างงี้ตลอด 1 เดือน ก่อนที่เราจะเจอตัวจริงกัน
แชร์ประสบการณ์เจอหนุ่มต่างชาติในแอพ
แล้วก็ถึงตอนที่เราได้รู้จักกับ พ่อหนุ่มคนใหม่ คนนี้....
เรากับหนุ่มคนนี้รู้จักกันจากโปรแกรมแชทนึงชื่อว่า tinder ตอนที่เราสมัครโปรแกรมนี้เพราะจะไปจับผิดแฟนเก่าที่เราระแคะระคายว่าเค้ากำลังเล่นtinder อยู่ เพราะตอนที่อยู่ไทยตอนอยู่ในโรงหนังเราเห็นโปรแกรมนี้มันเด้งขึ้นมาเเล้วเค้าหยิบมาดู เราก็เอะๆใจล่ะว่านี่appอะไร พอออกจากโรงหนังเราก็ถามเลย เธอเล่นแอพอะไรน่ะ เค้าก็อึกอักจนเราคาดคั้นได้ว่า เป็น tinder แล้วเค้าก็สัญญาว่าจะลบโปรแกรมออก แต่เราไม่เชื่อ เลยต้องโหลดapp นั้นมาเพื่อเช็คว่าแฟนยังเล่นอยู่หรือไม่ แต่แฟนเราอยู่สิงคโปร์เราเลยต้องลงทุนสมัครแบบเสียเงินเพื่อให้จะได้ไป match กับคนในต่างประเทศได้ (คนที่เคยเล่นน่าจะเข้าใจเนอะ) พอเราสมัครโปรแกรมนี้ก็เจอแฟนเล่นจริงๆด้วยค่ะ แล้วก็ทะเลาะกันทำไมเธอทำงั้นงี้ จนในที่สุดเค้าก็ขอเลิกกับเราด้วยเหตุผลนู่นนี่นั่น ก็เลิกกันไปไม่ค่อยดีนัก แต่ก็จบแบบทันทีตอนช่วงสงกรานต์เลยค่ะ แล้วในขณะนั้นเรายังมีโปรแกรม tinder นี้อยู่ เราก็ไม่ค่อยได้เล่น แต่ช่วงเบื่อๆเซ็งๆเศร้าๆจากแฟนเก่า เราก็นั่งเลื่อนจนได้ match กับพ่อหนุ่มคนนี้ ซึ่งเข้ามาทักเราก่อนแบบสุภาพมากๆๆๆๆ เค้าเริ่มเข้ามาคุยกับเราหลังจากเปิดงานช่วงสงกรานต์ ช่วงแรกๆเราก็ยังไม่อินทักมา ตอบอีกวัน ตอบอึนๆเนือยๆตามประสาคนเพิ่งอกหัก แต่เค้าเป็นคนที่สม่ำเสมอมากในช่วงแรก good morning / goodnight ไม่เคยขาด เป็นงี้อยู่4-5วัน จนเค้าก็ขอเบอร์ whatsapp เรา เราก็ไม่คิดมากก็ให้ไป การให้เบอร์ whatsapp ไปนั้น มันทำให้เราคุยกันได้มากขึ้น เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยเข้าในโปรแกรมแชท tinder มากนัก
ช่วงที่เค้าเข้ามาเป็นช่วงที่เราอ่อนไหวพอดี การมีใครสักคนมาคุยตอนนั้น มันเหมือนทำให้ส่วนที่ขาดหายไป ได้รับการเติมเต็มอีกครั้ง แล้วพอยิ่งคุยยิ่งมีหลายๆสิ่งที่เรารู้สึกว่าเค้า “ดีกว่า” แฟนเก่า เพราะแฟนเก่าเราเป็น party boy มากๆ เที่ยว 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งหนุ่มคนนี้ไม่เป็นเลยทำงานเสร็จกลับบ้าน ออกกำลังกาย ไปขี่จักรยาน ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์เดียวกันกับเราสุดๆ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชาวสิงคโปเรี่ยน
ทีนี้เราก็มีจองตั๋วไปสิงคโปร์ช่วงเดือน พค. ที่จองไปคือตอนนั้นหวังใจว่าจะไปเจอแฟนเก่า เผื่อจะรีเทิร์น เผื่อจะได้ปรับความเข้าใจกันอีก แต่กลายเป็นว่าระหว่างก่อนที่เราจะไปเราก็คุยกับพ่อหนุ่มคนนี้ทุกวัน และแทบทั้งวัน เค้าเหมือนเป็นยาใจให้เราช่วงนั้น ทำให้แผลจากคนเก่าหายได้เร็วและไวขึ้น ยิ่งคุยก็ยิ่งเห็นว่าเค้าสนใจในตัวเรามาก ถามไถ่ทุกสิ่งอย่างในชีวิต อยากรู้เรื่องเราไปซะหมด ซี่รี่ย์ไหนที่เราบอกว่าอยากดู เค้าก็เร่งไปดูก่อนเราจนจบเพื่อมาคุยกับเราได้ ศึกษา lifestyle เราจากในสื่อ social จนรู้ว่าเราชอบ ไม่ชอบอะไร โดยที่เราแทบไม่ต้องบอก ช่วงนั้นเค้าก็บอกจะมาไทยแต่เราก็บอกเค้าไว้ว่า เธอไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวกลางเดือน พค. ชั้นก็ไปแล้ว เค้าก็ช่วยเราวางแผนการท่องเที่ยวอย่างดี เขียนตารางเวลาทุกอย่างมาให้
แต่อยากบอกว่าระหว่างที่เราคุยกัน ไม่ได้คุยแบบ แอ๊ว หรือ จีบ เลยนะคะ ออกแนวศึกษากันไปเรื่อยๆ เค้าไม่มีหยอด หรือ หยอก เราเลย มันทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย ผู้ชายแบบนี้แหละ ที่เราตามหา เรายังคิดว่าการจะเจอผู้ชายใน app มันออกแนวมาหยอดคำหวานใส่กัน แล้วชวนกันเดท หรือทำอะไรกันมากกว่านั้น แต่สำหรับคนนี้เป็นผู้ใหญ่มากๆค่ะ
เราคุยกันทุกวัน และ แทบทั้งวัน เค้ามักจะมา good morning เราก่อนทุกเช้า และ Goodnight เราทุกคืน เป็นประจำอย่างงี้ตลอด 1 เดือน ก่อนที่เราจะเจอตัวจริงกัน