“สถานที่แห่งนี้มีพ่อมดนักปรุงซ่อนอยู่ สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆให้กลายเป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษ
เสกสรรคาถาต่างๆใส่ลงไปในแก้วผลึกเหล่านั้น
ให้ผู้คนเคลิ้บเคลิ้มไปด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่ตราตรึง จนลืมไม่ลง”




เปิดหัวกระทู้กันมาแบบนี้ก็คงจะไม่มากมายเกินไปเลยสำหรับ สถานที่สุดเก๋ ใจกลางเมือง
ที่อยากจะชวนไป Hang out กันแบบสุดๆเพราะหลังจากที่ได้ลองไปมาแล้วต้องบอกว่าประทับใจมากๆ
กับ Vogue Lounge ณ อาคารมหานคร คิวบ์ ลง BTS ช่องนนทรีแล้วก็ถึงตัวตึกกันเลยทีเดียว
ทำไมเราถึงประทับใจกับ Vogue Lounge งั้นเหรอ?
อย่างแรกเลยด้วยการตกแต่งที่หรูหราและสวยงามไปด้วยสีทอง บอกเลยว่าไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
ถ่ายมั่วๆถ่ายเล่นๆไม่ตั้งใจก็ยังสวย แต่อาจจะติดที่แสงน้อยไปหน่อยแต่เพียงแค่ปรับแสงหรือใช้ไฟจากมือถือช่วยนิดหน่อย
บอกเลยว่ายังไงก็ได้ภาพสวยๆ มาอย่างแน่นอน

มุมเค้าเตอร์ลายหินอ่อน เกร๋ๆ นี่ยืนอ่านเมนูอยู่นะคะไม่ได้หลับ

ใช่คะคุนน ในตู้นั้นคือสารพัดน้ำอร่อยทั้งหลาย ละลานตามากค่ะคุณตำรวจ

ขนาดยังไม่ดึกมากแต่คนก็เต็มแทบจะทุกโต๊ะแล้วนะ
ภาพสวยๆและขวดเหล้าเป็นจำนวนมาก อื้ออึงมาก บอกเลย
และทำไมถึงบอกว่าที่แห่งนี้มีพ่อมดซ่อนอยู่นั้นก็เพราะว่า Mixologist ที่นี่ดีมากค่ะ
สามารถสร้างสรรผลงานต่างๆได้อย่างมากมาย มีทั้ง Cocktail แบบใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
แถมรสชาติยังดีเยี่ยมอีกด้วย มีของเล่นต่างๆมากมาย ที่หยิบขึ้นมาสร้างสรรค์เป็น
น้ำอร่อย ต่างๆให้เราได้ทานกัน อยากได้แบบไหนสามารถ request ให้เขาเนตมิตให้เราได้เลย
รับรองถูกปากและถูกใจ นักดื่มกันแน่ๆ
และที่
Vogue Lounge ยังมี Fashion Hour ซื้อ 1 แถม 1 ในช่วงเวลา 17.00 – 21.00
คุ้มมากกกรับรอง




และสำหรับแก้วแรกของค่ำคืนนี้ พ่อมดวิเศษหรือ Moretti Francesco บาร์เทนเดอร์คนใหม่สุดแซ่บแห่ง
Vogue Lounge ได้เสิร์ฟ
Asian Spritz เป็นตัวสตราทเตอร์ให้ค่ะ
แก้วนี้บอกเลยว่าเด่นเรื่องกลิ่นส้มลอยหอมขึ้นมาเลย รสชาติหวานๆ แอลกฮอล์ไม่หนักมากค่ะถือเป็นตัวเริ่มเกมส์ที่ดี
ทานคู่กับเครื่องเคียงกินเล่น อย่างถั่วชนิดต่างๆและมะกอก กินเพลินๆหมดแก้วค่ะ
ต่อไปกับแก้วที่ 2 ที่มีชื่อว่า Vogue Emerald ชื่อก็ดูแพงและเหมาะสมมาก ชอบภาชนะเขาทุกใบเลย ดู luxury ดูดี๊ๆ
ก่อนทานทางพ่อมดได้มาเผาใบไทม์กันสดๆ เรียกได้ว่าเพิ่มอรรถรสและกลิ่นหอมให้กับแก้วนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก
เผากันสดๆ ร้อนแรงกันเลยทีเดียว หลังจากชิมเข้าไปจิบแรก อื้อฮื้อออ เข้มมาก หอมมาก
โดยมีพี่คนสวยแนะนำวิธีดื่มให้ว่าให้อมไว้ในปากสักพัก ให้ได้รับกลิ่น แล้วค่อยกลืนลงไป ทีเดียว
กลิ่นหอมคลุ้งดีจริงๆ และร้อนผ่าวววมากเช่นกัน
ทางร้านแนะนำให้ ทาน Vogue Emerald ทานคู่กับ Tomato gazpacho, basil-ricotta cream
เสิร์ฟมาแบบ 3 พอชั่น แต่เราหยิบออกมาถ่ายแค่แก้วเดียว
บอกเลยว่าปกติไม่ทานมะเขือเทศไม่ชอบกลิ่น แต่ไหนๆเค้าแนะนำขนาดนี้แล้วก็ลองกลั้นใจกินหน่อยแล้วกัน
และผลลัพธ์ที่ได้คือ อร่อยทีเดียวมีรสอมเปรี้ยว แต่ซ่าและเผ็ด รสชาติดูสนุกสนานทีเดียว
เผลอแปปๆก็หมดไปแล้ว 1 พอชั่น ทานคู่กับ Vogue Emerald แล้วดีมาก
พูดถึงอาหารแล้วก็มีอีกอย่างที่อยากแนะนำมากถือว่าเป็น Signature
ของที่นี้เลยทีเดียวกับ Marinated Salmon Cone หรือเราเรียกมันว่าแซลมอนโคน
เสริฟมาให้ 4 พอชั่นในถาดสวยงาม รสชาติดีมากก ตอนแรกคิดว่าจะแปลกๆ
แต่ทั้งตัวครีมด้านบนบวกกับแซลมอนและโคน เข้ากันมาก มีความเค็ม มัน และโคนกรอบๆ
ติดใจมาก สมกับที่เป็น signature ใครมาต้องสั่งเลยค่ะแนะนำ
ส่วนจานนี้ก็บอกเลยว่าเด็ดเหมือนกันกับ Fried Lobster Ravioli in Soup Pumpkin Gnocchi
ชื่อยาวมากที่จำได้เพราะหยิบเมนูที่เขาให้กลับมาด้วย 55 จานนี้อร่อยมากก
ฮืออ ด้วยเนื้อกุ้ง ซอสฟักทอง เข้มข้น รสชาติแบบครีมๆ เค็มมันๆ หอมๆ
รวมครบเสร็จสรรพ แต่มาในจานเล็กไปหน่อยใจร้ายมาก อยากให้มีจานใหญ่กว่านี้
แต่ส่วนใหญ่อาหารของ Vogue Lounge ก็ออกเป็นแนวทานเล่นมากกว่าทานให้อิ่มจริงๆ
เพราะเขาจะเน้นเครื่องดื่มให้มา hang out กันมากกว่า มาดูหน้าตาของจานนี้กันเลย

น่ากินเนอะ
ระหว่างที่เพลิดเพลินกับอาหาร พ่อมดก็ได้หยิบของเล่นขึ้นมาอีกแล้ว
โหลเหยือกสวยงามใหญ่ๆมี ก๊อกออกมาด้วย จะทำอะไรกันไปดูกันค่ะ
เห็นเขาใส่ส่วนผสมอะไรลงไปมากมายในโถสวยๆนั้น แล้วก็มีควันอยู่ข้างใน
และก็มีหยดน้ำค่อยๆหยดลงมาบนแก้ว เรียกกว่าการกลั่นหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ
แล้วหลังจากนั้นก็ผสมอะไรอีกหลายอย่างลงไปดูไม่ทันกันเลยทีเดียว
แต่ดูพ่อมดสนุกสนานมากคนนั่งรอก็สนุกมากเช่นกัน ตื่นเต้นว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จนเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทุกอย่างแล้ว พ่อมดก็ได้ยื่นแก้วให้เราลองดมดูก่อน
หอมมากกก หอมอ่อนๆ หอมแบบผู้ดี เป็นค๊อกเทลที่หอมเหมือนน้ำหอม หลังจากนั้นก็ชิมรสชาติ
แปลกใจมากค่ะ เพราะมันอุ่น ทั้งอุ่นและหอม รู้สึกดีมาก แก้วนี้ประทับใจสุดๆ
แถมรสเบาทานง่าย คือทานแล้วรู้สึก luxury มากรู้สึกว่าทำไมเราสวยจัง 55555
อยากให้ทุกคนได้ลองทานแก้วนี้จริงๆ ประทับใจมากสุดๆไม่เคยเห็นมาก่อน
แถมชื่อยังน่ารักกับ
Vogue No.5 แก้วนี้



ต่อไปพอรู้สึกสวยแล้วก็มาต่อที่แก้วต่อไปกันเลย กับ Oh! Beautiful แก้วนี้ก็ดีเช่นกัน
ข้างบนแก้วจะมีฟองนุ่มๆ หลังจากนั้นจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแตงกวา
และรสชาติของเหล้าที่จริงๆน่าจะแรงเลยละ แต่กินได้เพลินๆ ไม่รู้สึกฉุนกึก และออกหวานๆ
คิดว่าคุณผู้หญิงน่าจะชอบแก้วนี้แน่นอนเพราะหลังจากดื่มหมดแล้วก็อยากจะเบิ้ลต่ออีกแก้วจริงๆ
วกกลับมาที่อาหารกันบ้าง คือพอดื่มแล้วก็อยากจะกินอาหาร ดื่มๆ กินๆ วนไปกันมาอย่างนี้ละ
ขอบริการ U Drink I Drive ด่วนเลยค่ะ เริ่มกรึ่มแล้วค่ะ คราวนี้มาแนวเสียบไม้กันบ้างกับ
Tuna Skewers Herb Crusted, Spiced Tomato ทานคู่กับน้ำซอสที่เราให้มา
เนื้อแน่นดีมากเลยค่ะ อร่อย
และมาชิมเนื้อกันบ้างกับ Beef Skewers, Australian Tenderloin
เห็นตอนแรกแล้วอยากชิมมาก อยากรู้ว่ารสสัมผัสกับเนื้อจะเป็นอย่างไรบ้าง
ปกติชอบทานเนื้อค่ะ ทำออกมาได้ดีทีเดียวไม่เหนียว มีรสหวาน เปรี้ยว เค็มครบเลย
หอมเนื้อด้วยค่ะ
และมาต่อที่จานต่อไปหน้าตาดูดีทีเดียวกับ Lamb Rack Skewers, Artichoke Barbajuan, Balsamic Pearls
เม็ดขาวๆใสๆไม่รู้ข้างในเป็นซอสอะไรนะคะแต่มีรสเปรี้ยวทานกับเนื้อแกะ กลิ่นไม่แรงหอมนุ่มอร่อย เต็มปากเต็มคำค่ะ
จริงๆต้องบอกว่าที่ชมว่าอาหารทุกจานของเราอร่อย เพราะว่าอร่อยจริงๆนะคะ ไม่ได้อวย
ซึ่งคนทำอาหารของที่ Vogue Lounge แห่งนี้เป็นเชฟ มิชลินสตรา 3 ดาวค่ะ
และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็น House Selection of Cold Cuts นั่นเอง
เหมาะสำหรับเอาไว้แกล้มเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มาในถาดใหญ่เบ้อเร้อเลย
ทานเคียงคู่กับ Cheese Board กินชีสกันได้เพลินๆเลยค่ะ
มี Cold Cuts แล้วเราก็ต้องหาเครื่องดื่มมาแกล้มกันด้วยสินะคะ
มาที่เครื่องดื่มอย่างต่อไปกันเลยกับ
Spice me up ความรู้สึกแรกหลังจากดูด
เข้าไปรู้สึกถึงน้ำผลไม้บางอย่างแต่ก็แอบเอนเอียงไปทางชา Earl grey และรู้สึกได้ถึง
Chocolate ค่ะ ทางพ่อมดก็ได้ให้ลองทาย ว่า เขาผสมอะไรไปบ้าง
ก็ถูกไป 2 – 3 อย่างค่ะ มี น้ำแอ๊บเปิ้ล และช๊อคโกแลตจริงๆด้วย
อีกทั้งยังมี ชินนามอนและสไปซี่รัมค่ะ เป็นที่มาของชื่อ Spice me up สินะ
อ๋อแล้วก็มี เสาวรสด้วยค่ะ ทุกอย่างลงตัวกันได้เป็นอย่างดีเลย
แอลกฮอล์ก็แรงเช่นเคยแต่ดื่มง่ายรสชาตนุ่มนวล
เท่าที่เราดื่มมา กินไปแล้ว แบบตาโตที่สุดก็เห็นจะเป็น Vogue Emerald นี่ละคะ
แรงมากก ฮืออ คุณผู้ชายน่าจะชอบกัน แรงแต่ก็ยังรสชาติดีนะคะ หอมกลิ่นใบไทม์อย่างที่บอกไปด้วย
ต่อไปมาถึงแก้วสุดท้ายกันจริงๆแล้วกับ Bon Bon Espresso (Espresso Vodka amaretto Kahlua)
ดูภาชนะและการเสิร์ฟของเขามาแต่ละอย่างสิ มันดูดีมากๆเลยเนอะตัวนี้เป็นเหล้า Kahlua ผสมกาแฟ
หอมมาก และดูแล้วน่าจะเข้มข้นมาก แต่ว่าเราไม่ดื่มกาแฟตัวนี้เลยได้สัมผัสแต่สายตาและสูดดม
แต่ก็รับรู้ได้เลยถึงความเข้มข้นและน่าจะอร่อย
ซึ่งเขาได้เสริ์ฟเครื่องดื่มอันนี้มาพร้อมกับ Apple Tatin Tart, Bourbon Vanilla Ice Cream
หน้าตาดูดีมากเลยทีเดียว และแอบแปลกใจว่าขนมชิ้นนี้แอบชิ้นใหญ่เลยแหละ
เป็นแอปเปิ้ลทาร์ต และไอศครีมวนิลา อร่อยเลยทีเดียวละคะ
แต่แนะนำให้ทานทุกอย่างในคำเดียวกันพร้อมๆกัน แล้วจะได้รสชาติครบรสเลย
ซึ่งขนมจานนี้ราคา 180 บาทถือว่าไม่แพงเลยนะคะ และยังมีของหวานอีกหลายอย่างเลยนะ
ลองดูในเมนูกันได้เลย
และก็ปิดท้ายกันไปแบบฟินๆ คืนนี้เป็นคืนที่ดีและสนุกมากจริงๆค่ะ ประทับใจในทุกๆอย่างทั้งรสชาติ
บรรยากาศ และเครื่องดื่ม อาหารก็ทำได้ดี สถานที่ก็เดินทางสะดวก
ส่วนราคาของค๊อกเทลนั่นจริงๆเรามองว่าก็ พอๆกับ Rooftop ร้านอื่นๆนะคะ
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 250++ ไปจนถึง 500++ แต่แบบ 500
กว่าบาทนั้นจะเป็นแบบแก้วใหญ่หรือโถที่สามารถเอามาแชร์กันได้
พอดีไม่ได้ดื่มในรูปแบบนั้นเลยถ่ายจากเมนูมาให้ดูกันนะคะ และสำหรับตัวเมนูของที่ Vogue Lounge
นี้เขาจะเปลี่ยนทุก 3 เดือนสำหรับเมนูรอบนี้จะหมดที่สิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะ
และ Vogue lounge ก็มักจะมีกิจกรรมหรืออีเว้นต์สนุกๆ ให้เพื่อนได้ไป Hang out
แบบมีตีมกันอยู่เรื่อย และสำหรับใครที่จะไปจัดวันเกิดเขามีแพคเกจอยู่นะคะ
และสำหรับเมนูข้างต้นนี้ทางร้านได้ Create มาเป็นพิเศษหากใครไปแล้วอยากสั่ง
สามารถแจ้งชื่อหรือโชว์ภาพให้ดูได้เลยนะคะ
ราคาต่อหัวไม่แพงเลยประมาน 1000 บาท จะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มอยู่ในแพคด้วยค่ะ
หากใครสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Facebook : https://www.facebook.com/VogueLoungeBangkok/?fref=ts
Instagram : Vogueloungebangkok
ใครไปมาแล้วประทับใจยังไงก็มาแชร์กันบ้างเนอะ สำหรับเราแล้วมีไปครั้งต่อๆไปอีกแน่นอนค่ะ
[SR] ไปหาพ่อมดกันเถอะ @Vogue Lounge Bangkok
เสกสรรคาถาต่างๆใส่ลงไปในแก้วผลึกเหล่านั้น
ให้ผู้คนเคลิ้บเคลิ้มไปด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่ตราตรึง จนลืมไม่ลง”
เปิดหัวกระทู้กันมาแบบนี้ก็คงจะไม่มากมายเกินไปเลยสำหรับ สถานที่สุดเก๋ ใจกลางเมือง
ที่อยากจะชวนไป Hang out กันแบบสุดๆเพราะหลังจากที่ได้ลองไปมาแล้วต้องบอกว่าประทับใจมากๆ
กับ Vogue Lounge ณ อาคารมหานคร คิวบ์ ลง BTS ช่องนนทรีแล้วก็ถึงตัวตึกกันเลยทีเดียว
ทำไมเราถึงประทับใจกับ Vogue Lounge งั้นเหรอ?
อย่างแรกเลยด้วยการตกแต่งที่หรูหราและสวยงามไปด้วยสีทอง บอกเลยว่าไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
ถ่ายมั่วๆถ่ายเล่นๆไม่ตั้งใจก็ยังสวย แต่อาจจะติดที่แสงน้อยไปหน่อยแต่เพียงแค่ปรับแสงหรือใช้ไฟจากมือถือช่วยนิดหน่อย
บอกเลยว่ายังไงก็ได้ภาพสวยๆ มาอย่างแน่นอน
มุมเค้าเตอร์ลายหินอ่อน เกร๋ๆ นี่ยืนอ่านเมนูอยู่นะคะไม่ได้หลับ
ใช่คะคุนน ในตู้นั้นคือสารพัดน้ำอร่อยทั้งหลาย ละลานตามากค่ะคุณตำรวจ
ขนาดยังไม่ดึกมากแต่คนก็เต็มแทบจะทุกโต๊ะแล้วนะ
ภาพสวยๆและขวดเหล้าเป็นจำนวนมาก อื้ออึงมาก บอกเลย
และทำไมถึงบอกว่าที่แห่งนี้มีพ่อมดซ่อนอยู่นั้นก็เพราะว่า Mixologist ที่นี่ดีมากค่ะ
สามารถสร้างสรรผลงานต่างๆได้อย่างมากมาย มีทั้ง Cocktail แบบใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
แถมรสชาติยังดีเยี่ยมอีกด้วย มีของเล่นต่างๆมากมาย ที่หยิบขึ้นมาสร้างสรรค์เป็น
น้ำอร่อย ต่างๆให้เราได้ทานกัน อยากได้แบบไหนสามารถ request ให้เขาเนตมิตให้เราได้เลย
รับรองถูกปากและถูกใจ นักดื่มกันแน่ๆ
และที่ Vogue Lounge ยังมี Fashion Hour ซื้อ 1 แถม 1 ในช่วงเวลา 17.00 – 21.00
คุ้มมากกกรับรอง
และสำหรับแก้วแรกของค่ำคืนนี้ พ่อมดวิเศษหรือ Moretti Francesco บาร์เทนเดอร์คนใหม่สุดแซ่บแห่ง
Vogue Lounge ได้เสิร์ฟ Asian Spritz เป็นตัวสตราทเตอร์ให้ค่ะ
แก้วนี้บอกเลยว่าเด่นเรื่องกลิ่นส้มลอยหอมขึ้นมาเลย รสชาติหวานๆ แอลกฮอล์ไม่หนักมากค่ะถือเป็นตัวเริ่มเกมส์ที่ดี
ทานคู่กับเครื่องเคียงกินเล่น อย่างถั่วชนิดต่างๆและมะกอก กินเพลินๆหมดแก้วค่ะ
ต่อไปกับแก้วที่ 2 ที่มีชื่อว่า Vogue Emerald ชื่อก็ดูแพงและเหมาะสมมาก ชอบภาชนะเขาทุกใบเลย ดู luxury ดูดี๊ๆ
ก่อนทานทางพ่อมดได้มาเผาใบไทม์กันสดๆ เรียกได้ว่าเพิ่มอรรถรสและกลิ่นหอมให้กับแก้วนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก
เผากันสดๆ ร้อนแรงกันเลยทีเดียว หลังจากชิมเข้าไปจิบแรก อื้อฮื้อออ เข้มมาก หอมมาก
โดยมีพี่คนสวยแนะนำวิธีดื่มให้ว่าให้อมไว้ในปากสักพัก ให้ได้รับกลิ่น แล้วค่อยกลืนลงไป ทีเดียว
กลิ่นหอมคลุ้งดีจริงๆ และร้อนผ่าวววมากเช่นกัน
ทางร้านแนะนำให้ ทาน Vogue Emerald ทานคู่กับ Tomato gazpacho, basil-ricotta cream
เสิร์ฟมาแบบ 3 พอชั่น แต่เราหยิบออกมาถ่ายแค่แก้วเดียว
บอกเลยว่าปกติไม่ทานมะเขือเทศไม่ชอบกลิ่น แต่ไหนๆเค้าแนะนำขนาดนี้แล้วก็ลองกลั้นใจกินหน่อยแล้วกัน
และผลลัพธ์ที่ได้คือ อร่อยทีเดียวมีรสอมเปรี้ยว แต่ซ่าและเผ็ด รสชาติดูสนุกสนานทีเดียว
เผลอแปปๆก็หมดไปแล้ว 1 พอชั่น ทานคู่กับ Vogue Emerald แล้วดีมาก
พูดถึงอาหารแล้วก็มีอีกอย่างที่อยากแนะนำมากถือว่าเป็น Signature
ของที่นี้เลยทีเดียวกับ Marinated Salmon Cone หรือเราเรียกมันว่าแซลมอนโคน
เสริฟมาให้ 4 พอชั่นในถาดสวยงาม รสชาติดีมากก ตอนแรกคิดว่าจะแปลกๆ
แต่ทั้งตัวครีมด้านบนบวกกับแซลมอนและโคน เข้ากันมาก มีความเค็ม มัน และโคนกรอบๆ
ติดใจมาก สมกับที่เป็น signature ใครมาต้องสั่งเลยค่ะแนะนำ
ส่วนจานนี้ก็บอกเลยว่าเด็ดเหมือนกันกับ Fried Lobster Ravioli in Soup Pumpkin Gnocchi
ชื่อยาวมากที่จำได้เพราะหยิบเมนูที่เขาให้กลับมาด้วย 55 จานนี้อร่อยมากก
ฮืออ ด้วยเนื้อกุ้ง ซอสฟักทอง เข้มข้น รสชาติแบบครีมๆ เค็มมันๆ หอมๆ
รวมครบเสร็จสรรพ แต่มาในจานเล็กไปหน่อยใจร้ายมาก อยากให้มีจานใหญ่กว่านี้
แต่ส่วนใหญ่อาหารของ Vogue Lounge ก็ออกเป็นแนวทานเล่นมากกว่าทานให้อิ่มจริงๆ
เพราะเขาจะเน้นเครื่องดื่มให้มา hang out กันมากกว่า มาดูหน้าตาของจานนี้กันเลย
น่ากินเนอะ
ระหว่างที่เพลิดเพลินกับอาหาร พ่อมดก็ได้หยิบของเล่นขึ้นมาอีกแล้ว
โหลเหยือกสวยงามใหญ่ๆมี ก๊อกออกมาด้วย จะทำอะไรกันไปดูกันค่ะ
เห็นเขาใส่ส่วนผสมอะไรลงไปมากมายในโถสวยๆนั้น แล้วก็มีควันอยู่ข้างใน
และก็มีหยดน้ำค่อยๆหยดลงมาบนแก้ว เรียกกว่าการกลั่นหรือเปล่าไม่แน่ใจนะคะ
แล้วหลังจากนั้นก็ผสมอะไรอีกหลายอย่างลงไปดูไม่ทันกันเลยทีเดียว
แต่ดูพ่อมดสนุกสนานมากคนนั่งรอก็สนุกมากเช่นกัน ตื่นเต้นว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จนเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทุกอย่างแล้ว พ่อมดก็ได้ยื่นแก้วให้เราลองดมดูก่อน
หอมมากกก หอมอ่อนๆ หอมแบบผู้ดี เป็นค๊อกเทลที่หอมเหมือนน้ำหอม หลังจากนั้นก็ชิมรสชาติ
แปลกใจมากค่ะ เพราะมันอุ่น ทั้งอุ่นและหอม รู้สึกดีมาก แก้วนี้ประทับใจสุดๆ
แถมรสเบาทานง่าย คือทานแล้วรู้สึก luxury มากรู้สึกว่าทำไมเราสวยจัง 55555
อยากให้ทุกคนได้ลองทานแก้วนี้จริงๆ ประทับใจมากสุดๆไม่เคยเห็นมาก่อน
แถมชื่อยังน่ารักกับ Vogue No.5 แก้วนี้
ต่อไปพอรู้สึกสวยแล้วก็มาต่อที่แก้วต่อไปกันเลย กับ Oh! Beautiful แก้วนี้ก็ดีเช่นกัน
ข้างบนแก้วจะมีฟองนุ่มๆ หลังจากนั้นจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแตงกวา
และรสชาติของเหล้าที่จริงๆน่าจะแรงเลยละ แต่กินได้เพลินๆ ไม่รู้สึกฉุนกึก และออกหวานๆ
คิดว่าคุณผู้หญิงน่าจะชอบแก้วนี้แน่นอนเพราะหลังจากดื่มหมดแล้วก็อยากจะเบิ้ลต่ออีกแก้วจริงๆ
วกกลับมาที่อาหารกันบ้าง คือพอดื่มแล้วก็อยากจะกินอาหาร ดื่มๆ กินๆ วนไปกันมาอย่างนี้ละ
ขอบริการ U Drink I Drive ด่วนเลยค่ะ เริ่มกรึ่มแล้วค่ะ คราวนี้มาแนวเสียบไม้กันบ้างกับ
Tuna Skewers Herb Crusted, Spiced Tomato ทานคู่กับน้ำซอสที่เราให้มา
เนื้อแน่นดีมากเลยค่ะ อร่อย
และมาชิมเนื้อกันบ้างกับ Beef Skewers, Australian Tenderloin
เห็นตอนแรกแล้วอยากชิมมาก อยากรู้ว่ารสสัมผัสกับเนื้อจะเป็นอย่างไรบ้าง
ปกติชอบทานเนื้อค่ะ ทำออกมาได้ดีทีเดียวไม่เหนียว มีรสหวาน เปรี้ยว เค็มครบเลย
หอมเนื้อด้วยค่ะ
และมาต่อที่จานต่อไปหน้าตาดูดีทีเดียวกับ Lamb Rack Skewers, Artichoke Barbajuan, Balsamic Pearls
เม็ดขาวๆใสๆไม่รู้ข้างในเป็นซอสอะไรนะคะแต่มีรสเปรี้ยวทานกับเนื้อแกะ กลิ่นไม่แรงหอมนุ่มอร่อย เต็มปากเต็มคำค่ะ
จริงๆต้องบอกว่าที่ชมว่าอาหารทุกจานของเราอร่อย เพราะว่าอร่อยจริงๆนะคะ ไม่ได้อวย
ซึ่งคนทำอาหารของที่ Vogue Lounge แห่งนี้เป็นเชฟ มิชลินสตรา 3 ดาวค่ะ
และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ก็ต้องเป็น House Selection of Cold Cuts นั่นเอง
เหมาะสำหรับเอาไว้แกล้มเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ มาในถาดใหญ่เบ้อเร้อเลย
ทานเคียงคู่กับ Cheese Board กินชีสกันได้เพลินๆเลยค่ะ
มี Cold Cuts แล้วเราก็ต้องหาเครื่องดื่มมาแกล้มกันด้วยสินะคะ
มาที่เครื่องดื่มอย่างต่อไปกันเลยกับ Spice me up ความรู้สึกแรกหลังจากดูด
เข้าไปรู้สึกถึงน้ำผลไม้บางอย่างแต่ก็แอบเอนเอียงไปทางชา Earl grey และรู้สึกได้ถึง
Chocolate ค่ะ ทางพ่อมดก็ได้ให้ลองทาย ว่า เขาผสมอะไรไปบ้าง
ก็ถูกไป 2 – 3 อย่างค่ะ มี น้ำแอ๊บเปิ้ล และช๊อคโกแลตจริงๆด้วย
อีกทั้งยังมี ชินนามอนและสไปซี่รัมค่ะ เป็นที่มาของชื่อ Spice me up สินะ
อ๋อแล้วก็มี เสาวรสด้วยค่ะ ทุกอย่างลงตัวกันได้เป็นอย่างดีเลย
แอลกฮอล์ก็แรงเช่นเคยแต่ดื่มง่ายรสชาตนุ่มนวล
เท่าที่เราดื่มมา กินไปแล้ว แบบตาโตที่สุดก็เห็นจะเป็น Vogue Emerald นี่ละคะ
แรงมากก ฮืออ คุณผู้ชายน่าจะชอบกัน แรงแต่ก็ยังรสชาติดีนะคะ หอมกลิ่นใบไทม์อย่างที่บอกไปด้วย
ต่อไปมาถึงแก้วสุดท้ายกันจริงๆแล้วกับ Bon Bon Espresso (Espresso Vodka amaretto Kahlua)
ดูภาชนะและการเสิร์ฟของเขามาแต่ละอย่างสิ มันดูดีมากๆเลยเนอะตัวนี้เป็นเหล้า Kahlua ผสมกาแฟ
หอมมาก และดูแล้วน่าจะเข้มข้นมาก แต่ว่าเราไม่ดื่มกาแฟตัวนี้เลยได้สัมผัสแต่สายตาและสูดดม
แต่ก็รับรู้ได้เลยถึงความเข้มข้นและน่าจะอร่อย
ซึ่งเขาได้เสริ์ฟเครื่องดื่มอันนี้มาพร้อมกับ Apple Tatin Tart, Bourbon Vanilla Ice Cream
หน้าตาดูดีมากเลยทีเดียว และแอบแปลกใจว่าขนมชิ้นนี้แอบชิ้นใหญ่เลยแหละ
เป็นแอปเปิ้ลทาร์ต และไอศครีมวนิลา อร่อยเลยทีเดียวละคะ
แต่แนะนำให้ทานทุกอย่างในคำเดียวกันพร้อมๆกัน แล้วจะได้รสชาติครบรสเลย
ซึ่งขนมจานนี้ราคา 180 บาทถือว่าไม่แพงเลยนะคะ และยังมีของหวานอีกหลายอย่างเลยนะ
ลองดูในเมนูกันได้เลย
และก็ปิดท้ายกันไปแบบฟินๆ คืนนี้เป็นคืนที่ดีและสนุกมากจริงๆค่ะ ประทับใจในทุกๆอย่างทั้งรสชาติ
บรรยากาศ และเครื่องดื่ม อาหารก็ทำได้ดี สถานที่ก็เดินทางสะดวก
ส่วนราคาของค๊อกเทลนั่นจริงๆเรามองว่าก็ พอๆกับ Rooftop ร้านอื่นๆนะคะ
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 250++ ไปจนถึง 500++ แต่แบบ 500
กว่าบาทนั้นจะเป็นแบบแก้วใหญ่หรือโถที่สามารถเอามาแชร์กันได้
พอดีไม่ได้ดื่มในรูปแบบนั้นเลยถ่ายจากเมนูมาให้ดูกันนะคะ และสำหรับตัวเมนูของที่ Vogue Lounge
นี้เขาจะเปลี่ยนทุก 3 เดือนสำหรับเมนูรอบนี้จะหมดที่สิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะ
และ Vogue lounge ก็มักจะมีกิจกรรมหรืออีเว้นต์สนุกๆ ให้เพื่อนได้ไป Hang out
แบบมีตีมกันอยู่เรื่อย และสำหรับใครที่จะไปจัดวันเกิดเขามีแพคเกจอยู่นะคะ
และสำหรับเมนูข้างต้นนี้ทางร้านได้ Create มาเป็นพิเศษหากใครไปแล้วอยากสั่ง
สามารถแจ้งชื่อหรือโชว์ภาพให้ดูได้เลยนะคะ
ราคาต่อหัวไม่แพงเลยประมาน 1000 บาท จะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มอยู่ในแพคด้วยค่ะ
หากใครสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ใครไปมาแล้วประทับใจยังไงก็มาแชร์กันบ้างเนอะ สำหรับเราแล้วมีไปครั้งต่อๆไปอีกแน่นอนค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น