ทั้ง 2 คดีนี้เป็นคดีที่ผมชอบมากและดูบ่อยมากกว่าคดีอื่นๆ อยู่ใน CSI Newyork season 7 episode 8 - 9 - 10 โดย 8 - 9 เป็นคดีเดียวกัน
โดยคดีแรกเป็นตอนที่ทีม CSI กำลังตรวจสอบศพสาวคนนึงซึ้งตายโดยการขาดอากาศหายใจในสวนสาธารณะ แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังตรวจสถานที่อยู่ แม๊คก็ดันบังเอิญไปพบกับผู้ชายคนนึงซึ้งกำลังขุดดินอยู่และตรงจุดนั้นเขาก็พบศพสาวอีกศพนึง ตอนแรกเขาเชื่อว่าศพที่ฝังดินเป็นคดีเดียวกันแต่พบว่าเขาตายตั้งแต่ปี 1995 แล้ว และพอตรวจสอบออกมาแล้วพบว่าเธอชื่อ รอนนี่ ปาร์คเกอร์ หรืออีกนามสกุลก่อนแต่งงานชื่อ คาเวอร์ เป็นน้องสาวของ เท็จด์ คาเวอร์ ซึ้งเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนของแมนฮัตตันด้วย พอสืบไปสืบมา แม๊คพบว่าคนที่ฆ่าเป็นเจย์หลานชายของเท็ดจ์เองและเขาก็สารภาพว่าสาเหตุที่เขาฆ่าเพราะแม่ของเขาเป็นโสเภณี ค้ากาม แถมหลายครั้งก็ถูกทำร้ายจนหลังลายอีกตังหากจนเขาเกรงว่าสักวันเธออาจจะฆ่าตัวเขาและน้องๆ ของเขาและเท็ดจ์เองก็รู้ด้วยว่าเจย์เป็นคนฆ่าแต่ปิดบังไว้ ตอนจบโจ แดนวิลล์ไปสำนักทนายประจำเมืองเพื่อไปทราบข้อกล่าวหาของคาเวอร์และแม๊คเองก็ทำใจไว้แล้วว่าเท็ดจ์ต้องถูกลงโทษแน่นอนทั้งการถูกไล่ออกและยึดเงินบำนาญด้วย แต่กลายเป็นว่าโจดันไปเกลี้ยกล่อมให้ไม่ตั้งข้อหากับคาเวอร์แบบไม่ได้ตั้งใจ และพอโจถามถึงคดีเจย์กับแม๊คว่าอยู่ข้างไหนซึ้งเขาก็เข้าใจถึงเหตุผลของเจย์ รอนนี่คิอปิศาจร้ายและเจย์คือเด็กแต่เขาก็ฆ่าแม่ของเขาแบบไตร่ตรองเขาจึงยังสับสนแต่พอโจบอกว่า สำนักทนายได้ฟังเรื่องน้องๆ ของเจย์และเห็นแผลแล้ว ทนายประจำเมืองได้ตัดสินใจว่าจะไม่เอาความกับเจย์และได้ตัดสินว่าเจย์ฆ่าคนโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่ติดคุก ซึ้งแม๊คก็ได้ตอบโจว่า " ผมจะคิดยังไงไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ เท็ดจ์ คาเวอร์ เป็นคนสร้างเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้นมาและ ทำมันทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นสิ่งที่พิเศษ "
https://docs.google.com/file/d/0B8pVAHu_rhyMakp0NExpQ1pmUEk/edit?pref=2&pli=1
คดีที่ 2
โจพานักสืบแม๊คไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าสโตนด์ฟิลล์เนื่องในเทศกาลวันหยุดฤดูหนาวและดันไปพบโจรล้วงกระเป๋าเข้าระหว่างรอเข้าห้าง แต่เมื่อแม๊คจับโจรคนนั้นได้กลับต้องไปเจอคดีที่ใหญ่กว่าคือพบศพในตู้โชว์แสดงสินค้าเสียอย่างงั้น ( ช่างเลือเวลาได้เหมาะเจาะจริงๆ ) โดยศพคนนี้ชื่อ ริชาร์ด กรอสแมน เป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างซึ้งไม่เป็นที่ชื่นชอบของพนักงานขายของสักเท่าไรเพราะห้างนี้มีปัญหาทางด้านการเงินพอดีพนักงานจึงถูกสั่งให้ทำงานหนักมากขึ้นแถมเป็นพวกบ้ากามอีกตังหาก ( 2 คดีแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้เนี้ย ) เมื่อตรวจสอบภายในห้างพบเลือดของคนร้ายในกล่องสำลีโซนเครื่องสำอางแถมยังพบหลักฐานในห้องน้ำอีกด้วย เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าโจรที่แม๊คจับได้ก่อนหน้าเคยขโมยของจากคนร้ายด้วย และเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่โจพบระหว่างเดินทางไปห้างพอดี ( เหมาะเจาะอีกแล้ว ) เธอชื่อเอเลน่า เมลบรู๊ค ทำงานอยู่ในฝ่ายการเงินของห้าง และเมื่อแดนนี่ตรวจสอบไปที่หัว USB ที่พบในที่เกิดเหตุก็พบว่ามาจากกล้องวิดีโอซึ้งเป็นรุ่นเดียวกับที่โจรนักล้วงคนนั้นใช้เมื่อตรวจสอบพบว่าภาพที่ออกมาเป็นภาพที่เอเลน่ากำลังยักยอกเงินในเคาท์เตอร์อยู่และเนื่องด้วยห้างขนาดใหญ่จะมีสิ่งที่เรียกว่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ถ้าในบัญชีแตกต่างไม่เกิน 10 เหรียญถือว่ารับได้และเมื่อตรวจเช็คเคาท์เตอร์ที่เธอได้ตรวจไว้ 112 เครื่องและยักยอกเครื่องละ 7 เหรียญ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือนจะขโมยได้มากกว่า 250,000 เหรียญเลยทีเดียว ตอนแรกแม๊คจะออกหมายจับแต่เมื่อลินเซย์มาทักท้วงว่าเธอใกล้ตายแล้วด้วยโรคลูคิเมียถึงจะหนีก็ไปไม่ได้ไกลเมื่อโจไปถามกับเอเลน่าแบบลับๆ เธอไม่ได้ยักยอกเงินเพื่อต่ออายุ แต่เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่กำลังจะถูกห้างไล่ออกแบบไม่รู้ล่วงหน้าแลบเพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยไม่มีโบนัสและผลประโยชน์ซึ้งไม่มีทางที่จะหางานได้ทันหลังวันหยุด แต่ผู้ตายทราบเรื่องนี้จึงเอามาขู่และลวนลามเธอซึ้งตอนแรกเธอคิดว่าครั้งเดียวจบแต่ไม่ใช้มันรุนแรงขึ้นจึงได้ฆ่าเขาในวันเกิดเหตุ ตอนจบโจ แดนวิลล์ โยนภาระหน้าที่นี้ให้แผนกโจรกรรมเป็นผู้รับผิดชอบรวมทั้งแม๊คก็บอกว่าเมื่อพวกเขาเริ่มสืบเธอก็น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีทางสืบเจอ
https://docs.google.com/file/d/0B8pVAHu_rhyMTXFKaXZibFE5Slk/edit?pref=2&pli=1
ผมจะไม่ขอตอบว่าอยู่ฝ่ายไหนเพราะบอกตรงๆ ผมก็หนักใจมากว่าจะเลือกฝ่ายไหน แล้วแฟน CSI ล่ะครับเลือกฝ่ายไหน
ถ้าคุณเป็น Mac Taylor จะตัดสินยังไงกับคดีนี้ครับ
โดยคดีแรกเป็นตอนที่ทีม CSI กำลังตรวจสอบศพสาวคนนึงซึ้งตายโดยการขาดอากาศหายใจในสวนสาธารณะ แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังตรวจสถานที่อยู่ แม๊คก็ดันบังเอิญไปพบกับผู้ชายคนนึงซึ้งกำลังขุดดินอยู่และตรงจุดนั้นเขาก็พบศพสาวอีกศพนึง ตอนแรกเขาเชื่อว่าศพที่ฝังดินเป็นคดีเดียวกันแต่พบว่าเขาตายตั้งแต่ปี 1995 แล้ว และพอตรวจสอบออกมาแล้วพบว่าเธอชื่อ รอนนี่ ปาร์คเกอร์ หรืออีกนามสกุลก่อนแต่งงานชื่อ คาเวอร์ เป็นน้องสาวของ เท็จด์ คาเวอร์ ซึ้งเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนของแมนฮัตตันด้วย พอสืบไปสืบมา แม๊คพบว่าคนที่ฆ่าเป็นเจย์หลานชายของเท็ดจ์เองและเขาก็สารภาพว่าสาเหตุที่เขาฆ่าเพราะแม่ของเขาเป็นโสเภณี ค้ากาม แถมหลายครั้งก็ถูกทำร้ายจนหลังลายอีกตังหากจนเขาเกรงว่าสักวันเธออาจจะฆ่าตัวเขาและน้องๆ ของเขาและเท็ดจ์เองก็รู้ด้วยว่าเจย์เป็นคนฆ่าแต่ปิดบังไว้ ตอนจบโจ แดนวิลล์ไปสำนักทนายประจำเมืองเพื่อไปทราบข้อกล่าวหาของคาเวอร์และแม๊คเองก็ทำใจไว้แล้วว่าเท็ดจ์ต้องถูกลงโทษแน่นอนทั้งการถูกไล่ออกและยึดเงินบำนาญด้วย แต่กลายเป็นว่าโจดันไปเกลี้ยกล่อมให้ไม่ตั้งข้อหากับคาเวอร์แบบไม่ได้ตั้งใจ และพอโจถามถึงคดีเจย์กับแม๊คว่าอยู่ข้างไหนซึ้งเขาก็เข้าใจถึงเหตุผลของเจย์ รอนนี่คิอปิศาจร้ายและเจย์คือเด็กแต่เขาก็ฆ่าแม่ของเขาแบบไตร่ตรองเขาจึงยังสับสนแต่พอโจบอกว่า สำนักทนายได้ฟังเรื่องน้องๆ ของเจย์และเห็นแผลแล้ว ทนายประจำเมืองได้ตัดสินใจว่าจะไม่เอาความกับเจย์และได้ตัดสินว่าเจย์ฆ่าคนโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่ติดคุก ซึ้งแม๊คก็ได้ตอบโจว่า " ผมจะคิดยังไงไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ เท็ดจ์ คาเวอร์ เป็นคนสร้างเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้นมาและ ทำมันทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นสิ่งที่พิเศษ "
https://docs.google.com/file/d/0B8pVAHu_rhyMakp0NExpQ1pmUEk/edit?pref=2&pli=1
คดีที่ 2
โจพานักสืบแม๊คไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าสโตนด์ฟิลล์เนื่องในเทศกาลวันหยุดฤดูหนาวและดันไปพบโจรล้วงกระเป๋าเข้าระหว่างรอเข้าห้าง แต่เมื่อแม๊คจับโจรคนนั้นได้กลับต้องไปเจอคดีที่ใหญ่กว่าคือพบศพในตู้โชว์แสดงสินค้าเสียอย่างงั้น ( ช่างเลือเวลาได้เหมาะเจาะจริงๆ ) โดยศพคนนี้ชื่อ ริชาร์ด กรอสแมน เป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างซึ้งไม่เป็นที่ชื่นชอบของพนักงานขายของสักเท่าไรเพราะห้างนี้มีปัญหาทางด้านการเงินพอดีพนักงานจึงถูกสั่งให้ทำงานหนักมากขึ้นแถมเป็นพวกบ้ากามอีกตังหาก ( 2 คดีแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้เนี้ย ) เมื่อตรวจสอบภายในห้างพบเลือดของคนร้ายในกล่องสำลีโซนเครื่องสำอางแถมยังพบหลักฐานในห้องน้ำอีกด้วย เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่าโจรที่แม๊คจับได้ก่อนหน้าเคยขโมยของจากคนร้ายด้วย และเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่โจพบระหว่างเดินทางไปห้างพอดี ( เหมาะเจาะอีกแล้ว ) เธอชื่อเอเลน่า เมลบรู๊ค ทำงานอยู่ในฝ่ายการเงินของห้าง และเมื่อแดนนี่ตรวจสอบไปที่หัว USB ที่พบในที่เกิดเหตุก็พบว่ามาจากกล้องวิดีโอซึ้งเป็นรุ่นเดียวกับที่โจรนักล้วงคนนั้นใช้เมื่อตรวจสอบพบว่าภาพที่ออกมาเป็นภาพที่เอเลน่ากำลังยักยอกเงินในเคาท์เตอร์อยู่และเนื่องด้วยห้างขนาดใหญ่จะมีสิ่งที่เรียกว่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ถ้าในบัญชีแตกต่างไม่เกิน 10 เหรียญถือว่ารับได้และเมื่อตรวจเช็คเคาท์เตอร์ที่เธอได้ตรวจไว้ 112 เครื่องและยักยอกเครื่องละ 7 เหรียญ 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือนจะขโมยได้มากกว่า 250,000 เหรียญเลยทีเดียว ตอนแรกแม๊คจะออกหมายจับแต่เมื่อลินเซย์มาทักท้วงว่าเธอใกล้ตายแล้วด้วยโรคลูคิเมียถึงจะหนีก็ไปไม่ได้ไกลเมื่อโจไปถามกับเอเลน่าแบบลับๆ เธอไม่ได้ยักยอกเงินเพื่อต่ออายุ แต่เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่กำลังจะถูกห้างไล่ออกแบบไม่รู้ล่วงหน้าแลบเพื่อลดค่าใช้จ่ายโดยไม่มีโบนัสและผลประโยชน์ซึ้งไม่มีทางที่จะหางานได้ทันหลังวันหยุด แต่ผู้ตายทราบเรื่องนี้จึงเอามาขู่และลวนลามเธอซึ้งตอนแรกเธอคิดว่าครั้งเดียวจบแต่ไม่ใช้มันรุนแรงขึ้นจึงได้ฆ่าเขาในวันเกิดเหตุ ตอนจบโจ แดนวิลล์ โยนภาระหน้าที่นี้ให้แผนกโจรกรรมเป็นผู้รับผิดชอบรวมทั้งแม๊คก็บอกว่าเมื่อพวกเขาเริ่มสืบเธอก็น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีทางสืบเจอ
https://docs.google.com/file/d/0B8pVAHu_rhyMTXFKaXZibFE5Slk/edit?pref=2&pli=1
ผมจะไม่ขอตอบว่าอยู่ฝ่ายไหนเพราะบอกตรงๆ ผมก็หนักใจมากว่าจะเลือกฝ่ายไหน แล้วแฟน CSI ล่ะครับเลือกฝ่ายไหน