ในช่วงปี พ.ศ. 2534 เรียกว่าเป็นปีทองของวงการบันเทิงในเมืองไทย เป็นปีที่มีการเติบโต และเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวและข่าวคราวต่อไปนี้ ที่น่าจะทำให้พวกเราทุก ๆ คนได้อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ และแปลกใจอย่างนึกไม่ถึง มาทบทวนกัน...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
1. “จินตหรา” ลุยจอแก้ว
หลังหมดสัญญากับค่ายหนัง “ไฟว์สตาร์” เพราะเล่นหนังจอเงินมามากเรื่องเสียนาน “แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์” ก็ตัดสินใจลงจอแก้วเป็นครั้งแรกด้วยงานแสดงละครโทรทัศน์ที่ออกอากาศในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 เรื่อง 2 ช่อง คือ “สี่แผ่นดิน” และ “เชลยศักดิ์” ทำให้แฟนละครจอแก้วจดจำเธอคนนี้มากยิ่งขึ้น และพิสูจน์แล้วว่าเธอเล่นละครได้ดีไม่แพ้ตอนเล่นหนัง และเธอก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จ คว้ารางวัลกลับมาอีกด้วย ซึ่งเราหวังว่าเธอยังคงเล่นละครควบคู่กับหนังอย่างต่อเนื่องต่อไป ตราบใดที่แฟนคลับของเธอยังศรัทธา
2. “สี่แผ่นดิน” ละครน้ำดีแห่งปี
จากวรรณกรรมชีวิตอิงประวัติศาสตร์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีการสร้างเป็นละครเวทีและละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง จนเมื่อช่อง 3 นำมาทำละครโทรทัศน์สมัยใหม่ ก็เป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะเป็นละครที่มีนักแสดงชั้นนำมาร่วมแสดงกันมากมาย แต่คนที่หนักหนาที่สุดก็เห็นจะเป็นมือใหม่จอแก้วอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ ที่ต้องรับบทเป็น “แม่พลอย” ในวัยสาวจนถึงวัยชรา ละครออกอากาศยาวจากเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคม และมีการเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้แฟนละครต้องผิดหวังกับผลงานชั้นเยี่ยมชิ้นนี้ เพราะเป็นละครที่ครบอรรถรสจริง ๆ ทั้งสุข ทั้งเศร้า ไม่มีฉากรบราฆ่าฟันเหมือนละครพีเรียดเรื่องอื่น ๆ อีกทั้งยังได้ข้อคิดดี ๆ ในทุก ๆ ตอนที่ละครออกอากาศไปด้วย
3. “วิถีคนกล้า” หนังไทยลงทุนสูงที่สุดแห่งปี
หลังจากที่ ยุทธนา มุกดาสนิท พับโปรเจ็กต์ 2482 นักโทษประหาร ซึ่งหมดสิทธิ์ฉาย เลยขอยกกองถ่ายไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อถ่ายทำหนังเรื่องใหม่เอี่ยมของเขา ที่ว่ากันว่าเป็นหนังที่สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการหนังไทยในรอบปีนี้ เพราะเป็นหนังที่ลงทุนสูงสุด ใช้ฟิล์มถ่ายทำเปลืองที่สุด ใช้เวลาถ่ายทำและตัดต่ออย่างพิถีพิถันนานร่วมปี โดยได้ดาราทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ทั้ง จรัล มโนเพ็ชร, นรินทร์ ทองคำ, พุฒิชัย อมาตยกุล, ณ หทัย พิจิตรา และ ธิศวรรณ สุวรรณโพธิ์ จนเรื่องนี้เป็นที่ถูกตาของเหล่านักวิจารณ์และกรรมการตัดสินผลรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ ผลก็คือได้รับรางวัลตุ๊กตาทองถึง 7 ตัว และรางวัลจากสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติเป็นครั้งแรกอีก 1 ตัว เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายจังที่ผลงานดี ๆ เรื่องนี้กลับไม่ได้รับความนิยมจากคอหนังเท่าที่ควร อ้างว่าวิถีนี้ดูยากไปสักหน่อย...555
4. “กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้” หนังไทยยอดฮิตแห่งปี
จากเรื่อง รักแรกอุ้ม และ พริกขี้หนูกับหมูแฮม ที่คอหนังประทับใจในความโรแมนติก สมจริง ศรีสุภาพ เจ้าของนิคเนม “คิง” ก็ลุยกำกับหนังเรื่องที่ 3 ของเขา ในชื่อที่ออกจะชวนเฮฮาตามประสาวัยรุ่น โดยนักแสดงของเรื่องเป็นหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทั้ง แท่ง ศักดิ์สิทธิ์, มอส ปฏิภาณ, หมอก ณัฐสิมา, ปิงปอง สะแกวัลย์, ปราโมทย์ แสงศร ฯลฯ ทำให้หนังเรื่องนี้ทำรายได้การฉายสูงสุดในรอบปี และเหล่านักแสดงที่กล่าวมาก็พลอยแจ้งเกิดไปด้วย จนมีหนังแนววัยรุ่นวัยเรียนที่จะตามมาอวดคอหนังอีกหลายเรื่องถึงกับเรียกว่าเป็นเทรนด์ฮิตของหนังสำหรับวัยรุ่นยุคนี้
5. ทีวี 24 ชม.
เรียกว่าเป็นการปลดแอกครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโทรทัศน์ไทย หลังจากที่อัดอั้นอยู่นานหลายปี เมื่อคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) มีมติอนุมัติให้สถานีฟรีทีวีทุกช่อง (3, 5, 7, 9, 11) ขยายเวลาเปิด-ปิดหรือเพิ่มเวลาการออกอากาศของทางสถานีตามนโยบายเสรี “ทีวี 24 ชั่วโมง” ไม่ใช่เปิดตอนเย็นแล้วเลิกตอนเที่ยงคืนเช่นแต่ก่อนแล้ว ทำให้ผู้จัดรายการและสตูดิโอต่าง ๆ มากมายตื่นตัวเข้ามาผลิตรายการและเช่าเวลาในช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นของทางสถานี ซึ่งประชาชนก็จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้ตลอดทั้งวันเลย
6. กำเนิด “3 หนุ่ม 3 มุม”
นับเป็นละครจบในตอนของค่ายเพลงแกรมมี่ที่นำ “กบ ทรงสิทธิ์”, “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” และ “มอส ปฏิภาณ” มาแสดงเป็นตัวนำเรื่องร่วมกัน เรื่องราวสนุก ๆ ดูวุ่น ๆ แต่จบที่ความเข้าใจของสามพี่น้องที่อาศัยในบ้านหลังเดียวกัน จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนคลับของนักแสดงนำและผู้ที่ชื่นชอบละครแนวใหม่ ทำให้ทุกช่วงเย็นวันเสาร์ ที่ช่อง 7 สี เป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นอีกช่วงหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครเดินผ่านไปไหนก็เป็นต้องเจอ 3 หนุ่ม 3 มุม ได้สนิทใจแน่นอน
7. “แสงระวี” ฟีเวอร์
คงไม่มีผู้หญิงคนใดที่มาแรงสุดขีดได้เท่า “จุ๋ม-แสงระวี อัศวรักษ์” แน่นอน จากนางงาม นักบัลเล่ต์ มาเข้าสู่วงการบันเทิง ผ่านทั้งงานละครโทรทัศน์ ละครเวที โฆษณา มาสู่แวดวงเสียงดนตรี ทำให้เสียงเพลง “แมงมุม” จากเธอคนนี้ขยุ้มหัวใจคนนับสิบล้านได้สำเร็จ ภาพลักษณ์ในฐานะนักร้องจึงออกมาเป็นสาวเซ็กซี่ ที่เป็นที่กล่าวขานมากกว่าในแง่คุณภาพของเสียงร้อง เรียกว่าเอาจริง แรงจริง เป็นสุดยอดความเซ็กซี่แห่งปีที่ยังไม่มีใครทาบได้เท่ากับเธอคนนี้
8. “แม่เบี้ย” ละครแรงแห่งปี...แรงจนต้องย้ายเวลาดึกขึ้น
อาณาจักรบันเทิงอย่าง “กันตนา” เคยหยิบเรื่อง “แม่เบี้ย” มาสร้างเป็นหนังใหญ่ เรียกความนิยมได้พอสมควร แต่เมื่อกันตนาอีกเช่นกันหยิบเรื่องเดียวกันมาสร้างเป็นละครจอแก้วในอีก 2 ปีถัดมา ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นกลางอากาศระหว่างที่ละครกำลังฉายอยู่ทางช่อง 7 สี เพราะละครเรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อน จนชื่อเสียงของผู้ที่มาเป็นเมขลา อย่าง แสงระวี อัศวรักษ์ ในฐานะนักแสดงนั้นดังกระเดื่องไม่แพ้ในฐานะนักร้องออกเทป จนทาง กบว. มีมติให้ย้ายวันเวลาออกอากาศ จากปกติในวันพุธ และวันพฤหัสบดี ตอน 3 ทุ่ม ไปเป็นในคืนวันอังคาร เวลา 4 ทุ่มครึ่งจนละครอวสาน แม้อาจจะดึกไปหน่อยสำหรับคนที่พยายามชม แต่ภาพแรง ๆ จากละครเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ติดตาชั่วนิรันดร์
9. “เบิร์ด” ส่งท้ายแฟน ๆ ก่อนลาพัก กับ “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด”
หลังจากเข็นอัลบั้ม “พริกขี้หนู” ออกมาให้แฟน ๆ ได้ครื้นเครงมาหลายเดือน ก็ถึงเวลาที่ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” เปิดแสดงคอนเสิร์ต แบบ เบิร์ด เบิร์ด ครั้งใหม่ในชื่อตอน “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ซึ่งครั้งนี้เรียกเสียงกรี๊ดที่ไม่สิ้นสุดแน่นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยกันตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ถึง 15 ก.ย. พร้อมความหลากหลายทั้งการแสดงและแขกรับเชิญที่แฟนเพลงจะต้องประทับใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพี่เบิร์ดของแฟน ๆ จะเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนลัดฟ้าไปพักผ่อนที่ต่างแดนชั่วคราว ซึ่งในการนี้เขายังได้ฝากบทเพลงที่มีชื่อเดียวกับคอนเสิร์ต โดยเอาชื่อบทเพลงต่าง ๆ ที่ผ่านมาของเขามาร้อยเรียงอยู่ในบทเพลง เป็นการทิ้งท้ายไว้ให้แฟนเพลงได้ระลึกถึงและซาบซึ้งไปกับบทเพลงจากเขาคนนี้
(ยังมีต่อ)
25 ข่าวและปรากฏการณ์ในรอบปี '34...ปีแห่งความรุ่งโรจน์ของวงการบันเทิงไทย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
1. “จินตหรา” ลุยจอแก้ว
หลังหมดสัญญากับค่ายหนัง “ไฟว์สตาร์” เพราะเล่นหนังจอเงินมามากเรื่องเสียนาน “แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์” ก็ตัดสินใจลงจอแก้วเป็นครั้งแรกด้วยงานแสดงละครโทรทัศน์ที่ออกอากาศในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 เรื่อง 2 ช่อง คือ “สี่แผ่นดิน” และ “เชลยศักดิ์” ทำให้แฟนละครจอแก้วจดจำเธอคนนี้มากยิ่งขึ้น และพิสูจน์แล้วว่าเธอเล่นละครได้ดีไม่แพ้ตอนเล่นหนัง และเธอก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จ คว้ารางวัลกลับมาอีกด้วย ซึ่งเราหวังว่าเธอยังคงเล่นละครควบคู่กับหนังอย่างต่อเนื่องต่อไป ตราบใดที่แฟนคลับของเธอยังศรัทธา
2. “สี่แผ่นดิน” ละครน้ำดีแห่งปี
จากวรรณกรรมชีวิตอิงประวัติศาสตร์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีการสร้างเป็นละครเวทีและละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง จนเมื่อช่อง 3 นำมาทำละครโทรทัศน์สมัยใหม่ ก็เป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะเป็นละครที่มีนักแสดงชั้นนำมาร่วมแสดงกันมากมาย แต่คนที่หนักหนาที่สุดก็เห็นจะเป็นมือใหม่จอแก้วอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ ที่ต้องรับบทเป็น “แม่พลอย” ในวัยสาวจนถึงวัยชรา ละครออกอากาศยาวจากเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคม และมีการเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้แฟนละครต้องผิดหวังกับผลงานชั้นเยี่ยมชิ้นนี้ เพราะเป็นละครที่ครบอรรถรสจริง ๆ ทั้งสุข ทั้งเศร้า ไม่มีฉากรบราฆ่าฟันเหมือนละครพีเรียดเรื่องอื่น ๆ อีกทั้งยังได้ข้อคิดดี ๆ ในทุก ๆ ตอนที่ละครออกอากาศไปด้วย
3. “วิถีคนกล้า” หนังไทยลงทุนสูงที่สุดแห่งปี
หลังจากที่ ยุทธนา มุกดาสนิท พับโปรเจ็กต์ 2482 นักโทษประหาร ซึ่งหมดสิทธิ์ฉาย เลยขอยกกองถ่ายไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อถ่ายทำหนังเรื่องใหม่เอี่ยมของเขา ที่ว่ากันว่าเป็นหนังที่สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการหนังไทยในรอบปีนี้ เพราะเป็นหนังที่ลงทุนสูงสุด ใช้ฟิล์มถ่ายทำเปลืองที่สุด ใช้เวลาถ่ายทำและตัดต่ออย่างพิถีพิถันนานร่วมปี โดยได้ดาราทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ทั้ง จรัล มโนเพ็ชร, นรินทร์ ทองคำ, พุฒิชัย อมาตยกุล, ณ หทัย พิจิตรา และ ธิศวรรณ สุวรรณโพธิ์ จนเรื่องนี้เป็นที่ถูกตาของเหล่านักวิจารณ์และกรรมการตัดสินผลรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ ผลก็คือได้รับรางวัลตุ๊กตาทองถึง 7 ตัว และรางวัลจากสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติเป็นครั้งแรกอีก 1 ตัว เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายจังที่ผลงานดี ๆ เรื่องนี้กลับไม่ได้รับความนิยมจากคอหนังเท่าที่ควร อ้างว่าวิถีนี้ดูยากไปสักหน่อย...555
4. “กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้” หนังไทยยอดฮิตแห่งปี
จากเรื่อง รักแรกอุ้ม และ พริกขี้หนูกับหมูแฮม ที่คอหนังประทับใจในความโรแมนติก สมจริง ศรีสุภาพ เจ้าของนิคเนม “คิง” ก็ลุยกำกับหนังเรื่องที่ 3 ของเขา ในชื่อที่ออกจะชวนเฮฮาตามประสาวัยรุ่น โดยนักแสดงของเรื่องเป็นหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทั้ง แท่ง ศักดิ์สิทธิ์, มอส ปฏิภาณ, หมอก ณัฐสิมา, ปิงปอง สะแกวัลย์, ปราโมทย์ แสงศร ฯลฯ ทำให้หนังเรื่องนี้ทำรายได้การฉายสูงสุดในรอบปี และเหล่านักแสดงที่กล่าวมาก็พลอยแจ้งเกิดไปด้วย จนมีหนังแนววัยรุ่นวัยเรียนที่จะตามมาอวดคอหนังอีกหลายเรื่องถึงกับเรียกว่าเป็นเทรนด์ฮิตของหนังสำหรับวัยรุ่นยุคนี้
5. ทีวี 24 ชม.
เรียกว่าเป็นการปลดแอกครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโทรทัศน์ไทย หลังจากที่อัดอั้นอยู่นานหลายปี เมื่อคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) มีมติอนุมัติให้สถานีฟรีทีวีทุกช่อง (3, 5, 7, 9, 11) ขยายเวลาเปิด-ปิดหรือเพิ่มเวลาการออกอากาศของทางสถานีตามนโยบายเสรี “ทีวี 24 ชั่วโมง” ไม่ใช่เปิดตอนเย็นแล้วเลิกตอนเที่ยงคืนเช่นแต่ก่อนแล้ว ทำให้ผู้จัดรายการและสตูดิโอต่าง ๆ มากมายตื่นตัวเข้ามาผลิตรายการและเช่าเวลาในช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นของทางสถานี ซึ่งประชาชนก็จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้ตลอดทั้งวันเลย
6. กำเนิด “3 หนุ่ม 3 มุม”
นับเป็นละครจบในตอนของค่ายเพลงแกรมมี่ที่นำ “กบ ทรงสิทธิ์”, “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” และ “มอส ปฏิภาณ” มาแสดงเป็นตัวนำเรื่องร่วมกัน เรื่องราวสนุก ๆ ดูวุ่น ๆ แต่จบที่ความเข้าใจของสามพี่น้องที่อาศัยในบ้านหลังเดียวกัน จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนคลับของนักแสดงนำและผู้ที่ชื่นชอบละครแนวใหม่ ทำให้ทุกช่วงเย็นวันเสาร์ ที่ช่อง 7 สี เป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นอีกช่วงหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครเดินผ่านไปไหนก็เป็นต้องเจอ 3 หนุ่ม 3 มุม ได้สนิทใจแน่นอน
7. “แสงระวี” ฟีเวอร์
คงไม่มีผู้หญิงคนใดที่มาแรงสุดขีดได้เท่า “จุ๋ม-แสงระวี อัศวรักษ์” แน่นอน จากนางงาม นักบัลเล่ต์ มาเข้าสู่วงการบันเทิง ผ่านทั้งงานละครโทรทัศน์ ละครเวที โฆษณา มาสู่แวดวงเสียงดนตรี ทำให้เสียงเพลง “แมงมุม” จากเธอคนนี้ขยุ้มหัวใจคนนับสิบล้านได้สำเร็จ ภาพลักษณ์ในฐานะนักร้องจึงออกมาเป็นสาวเซ็กซี่ ที่เป็นที่กล่าวขานมากกว่าในแง่คุณภาพของเสียงร้อง เรียกว่าเอาจริง แรงจริง เป็นสุดยอดความเซ็กซี่แห่งปีที่ยังไม่มีใครทาบได้เท่ากับเธอคนนี้
8. “แม่เบี้ย” ละครแรงแห่งปี...แรงจนต้องย้ายเวลาดึกขึ้น
อาณาจักรบันเทิงอย่าง “กันตนา” เคยหยิบเรื่อง “แม่เบี้ย” มาสร้างเป็นหนังใหญ่ เรียกความนิยมได้พอสมควร แต่เมื่อกันตนาอีกเช่นกันหยิบเรื่องเดียวกันมาสร้างเป็นละครจอแก้วในอีก 2 ปีถัดมา ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นกลางอากาศระหว่างที่ละครกำลังฉายอยู่ทางช่อง 7 สี เพราะละครเรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อน จนชื่อเสียงของผู้ที่มาเป็นเมขลา อย่าง แสงระวี อัศวรักษ์ ในฐานะนักแสดงนั้นดังกระเดื่องไม่แพ้ในฐานะนักร้องออกเทป จนทาง กบว. มีมติให้ย้ายวันเวลาออกอากาศ จากปกติในวันพุธ และวันพฤหัสบดี ตอน 3 ทุ่ม ไปเป็นในคืนวันอังคาร เวลา 4 ทุ่มครึ่งจนละครอวสาน แม้อาจจะดึกไปหน่อยสำหรับคนที่พยายามชม แต่ภาพแรง ๆ จากละครเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ติดตาชั่วนิรันดร์
9. “เบิร์ด” ส่งท้ายแฟน ๆ ก่อนลาพัก กับ “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด”
หลังจากเข็นอัลบั้ม “พริกขี้หนู” ออกมาให้แฟน ๆ ได้ครื้นเครงมาหลายเดือน ก็ถึงเวลาที่ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” เปิดแสดงคอนเสิร์ต แบบ เบิร์ด เบิร์ด ครั้งใหม่ในชื่อตอน “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ซึ่งครั้งนี้เรียกเสียงกรี๊ดที่ไม่สิ้นสุดแน่นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยกันตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ถึง 15 ก.ย. พร้อมความหลากหลายทั้งการแสดงและแขกรับเชิญที่แฟนเพลงจะต้องประทับใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพี่เบิร์ดของแฟน ๆ จะเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนลัดฟ้าไปพักผ่อนที่ต่างแดนชั่วคราว ซึ่งในการนี้เขายังได้ฝากบทเพลงที่มีชื่อเดียวกับคอนเสิร์ต โดยเอาชื่อบทเพลงต่าง ๆ ที่ผ่านมาของเขามาร้อยเรียงอยู่ในบทเพลง เป็นการทิ้งท้ายไว้ให้แฟนเพลงได้ระลึกถึงและซาบซึ้งไปกับบทเพลงจากเขาคนนี้
(ยังมีต่อ)