บรั่นดีไม่ใช่วิสกี้อย่าเหมารวมนาจา

กระทู้สนทนา

วันก่อนไปเที่ยวร้านนั่งเล่นหลังจากที่ไม่ได้กลับไปเที่ยวมาเกือบสิบปี คนน้อยลงไม่เหมือนเมื่อ สิบปีก่อนที่คนทะลักออกมานอกร้าน ในร้านดูมีนักดื่มหน้าอ่อนเหมือนครั้งที่ผมเริ่มหัดเที่ยวก็อายุ ประมาณนี้หนะครับ พอดีผมได้ยินเด็กหนุ่มๆ เค้าคุยอวดสาวที่มาด้วยกันเรื่องบรั่นดีว่า “บรั่นดีคือ เหล้าวิสกี้ระดับหรู เพียงแต่เหล้าวิสกี้ผลิตจากสกอตแลนด์ ส่วนบรั่นดีจะผลิตจากฝรั่งเศส” ฟัง แล้วรู้สึกว่าที่เราอ่านมาตามฉลากข้างขวดมันไม่ใช่นะ จะเดินไปออกตัวแรงบอกว่า “น้องครับ เข้าใจผิดแล้วครับ” เราก็กลัวเด็กมันแหกหน้ากลับมา เลยต้องกลับมาหาข้อมูลแล้วจะได้โพสฝาก ถึงน้องที่คุยอวดสาวในร้านนั่งเล่นเมื่อวันก่อนได้ถูกต้อง

บรั่นดี Brandy หรือเดิมเรียกว่า BrandyWine (Branntwein เรียกแบบยุโรปโบราณ ศตวรรษที่12) เป็นเครื่องดื่มที่ต้องนำผลไม้มาหมักให้เป็นไวน์ก่อนแล้วค่อยมากลั่น หลังจากนั้นจึงนำไปเก็บ หมักบ่มไว้ในถังไม้ตามกรรมวิธีเดียวกับเหล้า (Whisky) โดยบรั่นดีผมขอแยกออกเป็น 3 กลุ่ม ครับ  

1.) กลุ่มแรก บรั่นดีที่ผลิตในประเทศไทย (หรือของคนไทย) มี 2 เจ้าดังๆ คือ Meridian และ Regency (เรียงตามลำดับตัวอักษร) ซึ่งรสชาติของทั้งสองเจ้าต่างกันชัดเจนครับ

Regency อยู่ในไทยมานาน ครองใจนักดื่มเหล้าวัย 2499 (มุกตลก 55555) Regency เปิดตัว อย่างเป็นทางการในปี 2525 หรือเป็นปีที่เฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินต์ 200ปี ซึ่ง Brandy ของ Regency ใน Lot นั้น ถือว่าเป็นรุ่นในตำนานเพราะว่าแทบจะบ่มมาน้องๆ XO เลยครับ แต่รุ่น หลังๆ ก็กลับเข้าสู่รสทั่วไป ไม่ได้ อร่อยจนน่าจดจำ โดยส่วนตัวผมว่า Regency ตัวปัจจุบันรส คล้าย Whisky แรงๆ ที่มาพร้อมกับกลิ่น โบราณๆ แบบไทยมากจนเกินไป หรือเค้าอาจจะปรุง รสมาให้ดื่มแล้วนึกถึงกินรีไทยโบราณตามโฆษณา มั้งครับ  (555555)

ส่วนทาง Meridian น้องใหม่ (แต่ไม่มาก) รสคล้ายกับ Hennessy และ บรั่นดีนอกส่วนใหญ่ใน ตลาดนะครับ รสออก Fruity ชัดเจน ตามแบบฉบับ Brandy ซึ่งโดยความ เห็นส่วนตัวของผม ผมชอบ Meridian มากกว่า Regency เนื่องจากมีรสชาติความเป็น Brandy มากกว่า หนะครับ

2.) กลุ่มที่สอง บรั่นดีนำเข้า แน่นอนว่าเจ้าที่รู้จักกันเป็นวงกว้างคือ Hennessy ที่ถูกเรียกว่าเป็น เหล้า Cognac (ไม่ได้เรียกว่า  Brandy) แต่จริงๆ แล้ว Brandy และ Cognac เป็นเหล้าชนิดเดียว กัน ก็ว่าได้นะ ครับ เพราะว่า  Cognac คือ Brandy ที่ผลิตในแคว้น Cognac ประเทศฝรั่งเศส และ วัตถุดิบอย่างเช่นองุ่น ที่ใช้ จะใช้พันธุ์ Ugni Blanc ครับ



3.) กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มนำเข้าเหมือนกลุ่มที่สองครับ แต่เป็นกลุ่มที่เป็น Brandy/Cognac ที่พิเศษ และ แพงมากๆ หาซื้อไม่ได้ง่ายในตลาด ต้องประมูลหรือหาแหล่งเฉพาะ อย่างเช่น  Remi Martin Louis Xiii Rare Cask 42.6 หรือ A. Hardy Le Printemps Lalique ที่ราคาประมูลในตลาดเริ่ม ที่ขวดละ 5แสน บาทครับ โดย Brandy ราคาแพงส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่ง Cognac เพราะว่ามี การบ่มนานกว่า 20ปี อาจจะ เป็นด้วยศักดิ์ศรีของคนฝรั่งเศส ที่ให้คุณค่ากับการเก็บรักษาไวน์ จึงทำให้มีความอดทนในการบ่มนานกว่า ที่อื่นๆ มั้งครับ ถ้าจะให้แบ่งระดับง่ายๆ อาจจะแบ่งได้ แบบนี้ครับ Brandy สำหรับ Commercial/Fashion/Social Drink ส่วน Cognac สำหรับ Appreciated/Social Drink ครับ



ส่วนอักษรย่อที่เขียนว่า V.S. / V.S.O.P / X.O. ใต้ชื่อยี่ห้อ หลายคนอาจจะสงสัยว่าคืออะไร จำเป็น มั้ยที่ต้องมี ผมบอกเลย ตรงนี้ก็สำคัญเพราะเป็นตัวบ่งระดับของ Brandy ที่เราดื่มกันว่ามีการหมัก บ่มกันนานเท่าไหรครับ อย่าง
V.S. – Very Special อายุในการบ่มตั้งแต่ 2ปีขึ้นไป แต่เนื่องจากเหตุผลทางการตลาด พอครบ 2ปี ก็เอามา บรรจุขายกันแล้วหละครับ
V.S.O.P. – Very Special Old Pale ที่อายุในการบ่มขั้นต่ำคือ 4ปีครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 6ปี มีการใช้อักษรย่อนี้ครั้งแรกในปี 1817
X.O. – Extra Old เป็นบรั่นดีที่มีอายุในการบ่มอย่างต่ำคือ 10ครับ ซึ่งพวก Brandy หรือ Cognac ที่แพงมากๆ จะบ่มลากยาวมากกว่า 20ปีเลยหละครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Cognac ครับ มีการ ใช้งานอักษรย่อนี้ครั้งแรกในปี 1870
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่