ผมคบกับแฟนมาประมาณ 2 ปี แฟนอายุมากกว่า ผม 28 แฟน 35 ผมไม่ได้ซีเรียสที่แฟนอายุมากกว่าหรอก แต่เป็นเรื่องการใช้เงิน เพราะแฟนผมเงินเดือน 35K แต่ด้วยภาระผ่อนคอนโดที่เพิ่งซื้อ ผ่อนบ้านให้พ่อแม่ หักแล้วเหลือให้ใช้จริงประมาณหมื่นต้นๆ ก็เอาไว้กินไว้ใช้ แต่ก็ไม่ประหยัด ไม่เก็บเงิน กินหรูประจำ เครื่องสำอางค์ก็ซื้อใหม่ทั้งที่ของเก่ายังไม่หมด บอกว่าอยากมีหลายๆอย่างไว้เปลี่ยนบ้าง ค่าจุกจิกหลายอย่าง รูดบัตรเครดิต บางเดือนเกือบหมื่น สรุปแล้วใช้เดือนชนเดือน บางเดือนไม่พอก็มายืมผมที่เงินเดือนน้อยกว่า พอผมเตือนว่าให้ประหยัดหน่อยก็ดราม่าใส่ เช่นตอนไปเที่ยวกัน ผมก็เสนอว่ากินถูกๆก็ได้ แต่แฟนจะกินในห้าง บุฟเฟ่ต์แพงๆ คือตัวผมเองก็มีเงินเก็บพอควร เรื่องกินหรูก็ไม่เป็นปัญหาหรอก เพราะแม้เงินเดือนน้อย แต่ก็ไม่มีภาระผ่อนอะไรเลย
ทีนี้ ด้วยความที่แฟน 35 แล้ว ถือว่าอยู่ในช่วงรถไฟขบวนท้ายๆที่จะแต่งงาน ทางบ้านแฟนก็เริ่มถามๆว่าเมื่อไหร่จะมาขอ เรียกสินสอดไม่แพงหรอก อ้อ ผมลืมบอกไปว่า ทางบ้านแฟนก็ค่อนข้างขัดสนเหมือนกัน เงินไม่พอใช้ มันเลยทำให้ผมคิดว่าถ้าแต่งตอนนี้ ผมจ่ายฝ่ายเดียวแน่ๆ ไหนจะค่าจัดงาน ค่าสินสอด ถามว่าผมมีเงินพอมั้ย ก็พอแหละ ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ผมด้วย แต่เงินเก็บคงร่อยหรอแน่ แล้วแต่งไปถ้าทางบ้านแฟนร้อนเงิน ผมก็ต้องช่วยรึเปล่า เลยรู้สึกเหมือนว่า ทำไมเราต้องจ่ายฝ่ายเดียว ผมก็อยากเก็บเผื่อพ่อแม่ผมเหมือนกัน ตามความคิดผมแล้ว ค่าจัดงานควรจะหารสองช่วยกันจ่ายอะไรแบบนี้
ส่วนเรื่องอื่น ผมกับแฟนก็เข้ากันได้ดี รักกันดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมกังวลว่าถ้าแฟนยังเดือนชนเดือนแบบนี้ แต่งงานไป อนาคตซักวันต้องมีปัญหาแน่ และผมก็คงต้องช่วย ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาก็โอเคอยู่หรอก ถ้ามีเมื่อไหร่ผมเองก็ไม่รู้จะไหวมั้ย ผมเลยพยายามพูดเตือนทุกครั้งที่ใช้เงินกับเรื่องไม่จำเป็น แต่ก็ดราม่าใส่ตลอด บางทีแฟนถึงกับร้องไห้ จนผมไม่อยากจะพูดแล้ว อยากถามทุกท่านว่า ถ้าแฟนเปลี่ยนความคิดไม่ได้ และตัวผมก็อยากเลิก จะดูโหดร้ายกับแฟนมั้ย เห็นแก่ตัวไปมั้ย เพราะแฟนยังไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่ผมมองว่าอนาคตลำบากแน่ แต่จะเลิกทั้งที่ยังรักกันคงเป็นอะไรที่ทรมานน่าดู แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาในอนาคตที่อาจจะหนักกว่ายอมตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้
กังวลอนาคตชีวิตคู่ ไม่รู้เอาไงดี
ทีนี้ ด้วยความที่แฟน 35 แล้ว ถือว่าอยู่ในช่วงรถไฟขบวนท้ายๆที่จะแต่งงาน ทางบ้านแฟนก็เริ่มถามๆว่าเมื่อไหร่จะมาขอ เรียกสินสอดไม่แพงหรอก อ้อ ผมลืมบอกไปว่า ทางบ้านแฟนก็ค่อนข้างขัดสนเหมือนกัน เงินไม่พอใช้ มันเลยทำให้ผมคิดว่าถ้าแต่งตอนนี้ ผมจ่ายฝ่ายเดียวแน่ๆ ไหนจะค่าจัดงาน ค่าสินสอด ถามว่าผมมีเงินพอมั้ย ก็พอแหละ ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ผมด้วย แต่เงินเก็บคงร่อยหรอแน่ แล้วแต่งไปถ้าทางบ้านแฟนร้อนเงิน ผมก็ต้องช่วยรึเปล่า เลยรู้สึกเหมือนว่า ทำไมเราต้องจ่ายฝ่ายเดียว ผมก็อยากเก็บเผื่อพ่อแม่ผมเหมือนกัน ตามความคิดผมแล้ว ค่าจัดงานควรจะหารสองช่วยกันจ่ายอะไรแบบนี้
ส่วนเรื่องอื่น ผมกับแฟนก็เข้ากันได้ดี รักกันดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมกังวลว่าถ้าแฟนยังเดือนชนเดือนแบบนี้ แต่งงานไป อนาคตซักวันต้องมีปัญหาแน่ และผมก็คงต้องช่วย ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาก็โอเคอยู่หรอก ถ้ามีเมื่อไหร่ผมเองก็ไม่รู้จะไหวมั้ย ผมเลยพยายามพูดเตือนทุกครั้งที่ใช้เงินกับเรื่องไม่จำเป็น แต่ก็ดราม่าใส่ตลอด บางทีแฟนถึงกับร้องไห้ จนผมไม่อยากจะพูดแล้ว อยากถามทุกท่านว่า ถ้าแฟนเปลี่ยนความคิดไม่ได้ และตัวผมก็อยากเลิก จะดูโหดร้ายกับแฟนมั้ย เห็นแก่ตัวไปมั้ย เพราะแฟนยังไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแต่ผมมองว่าอนาคตลำบากแน่ แต่จะเลิกทั้งที่ยังรักกันคงเป็นอะไรที่ทรมานน่าดู แต่ก็ไม่อยากมีปัญหาในอนาคตที่อาจจะหนักกว่ายอมตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ก็ได้