[CR] ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล : เรียนรู้การใช้ชีวิตผ่านบทเพลงของบอย โกสิยพงษ์ <SPOIL>

บทความนี้ผมขอเลี่ยงที่จะใช้คำว่ารีวิวนะครับ เพราะผมอยากจะพูดถึงละครเรื่องนี้ในแบบอิสระ หรือจะเรียกอีกอย่างว่ามั่วๆก็ได้555 อาจมีการวิเคราะห์ ตีความ วิจารณ์ ปะปนกันไป ตามแต่นิ้วมือจะพาไปเท่านั้นเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

+++ลมหายใจของพวกเขาและเธอ {พัด,พาย,ฉันท์,ต่อ,ฝน}

พัด(กัน นภัทร) หนุ่มอารมณ์ดีรักอิสระ ที่แม้จะมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังคงใช้ชีวิตเต็มที่ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวที่ขอให้ได้ใช้อย่างสนุกสุดเหวี่ยงที่สุด... บางทีพัดอาจจะกลัวว่าถ้าต้องแต่งงานมีครอบครัวเขาอาจจะหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงได้อีกต่อไป ดังนั้นหากวันนึงที่พัดจะแต่งงานพัดคิดว่าเขาจะต้องพร้อมทุกอย่างทั้งการเงิน การงาน และใจของเขาเอง

ชีวิตของพัดนั้นมีเพียง"พาย" (กวาง อาริศา) น้องสาวที่เป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ และพายเองก็เช่นกัน..สำหรับพายแล้วพัดจึงไม่ใช่แค่พี่ชาย แต่เปรียบเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอเลยทีเดียว โชคดีที่ชีวิตของพายห้อมล้อมไปด้วยความรักที่มอบให้กันและกันจากกลุ่มเพื่อนสนิทของพัดอย่างเจ๊ฉันท์(ปาน ธนพร) รุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัยและยังเป็นหุ้นส่วนของผับThree Seasons ,ต่อ(โต๋ ศักดิ์สิทธ์) เพื่อนสนิทของพัด และฝนที่พายรักเหมือนพี่สาวแท้ๆ จึงทำให้ชีวิตของพายนั้นเติบโตขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์


ฝน(หนูนา หนึ่งธิดา) แฟนสาวของพัดที่คบมา10ปี และเฝ้ารอว่าซักวันพัดจะขอเธอแต่งงาน แต่ดูเหมือนวันนั้นก็ยังไม่มาถึงซะที จนกระทั่งวันนึงที่ทุกอย่างดูจะพร้อมแล้วสำหรับการเริ่มต้นชีวตครอบครัว พัดขอฝนแต่งงานและสัญญาว่าหลังจากพัดกลับจากการทำงานที่ลอนดอน เขาและเธอจะเข้าพิธีแต่งงานกัน แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องพังทลายอีกครั้ง เพราะพัดเสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับมาหาฝนเพื่อเตรียมเข้าพิธีแต่งงานกับเธอ...


+++Three ...sons

หลังจบฉากการตายของพัด ละครเล่าเรื่องราวในอีก3ปีต่อมา ผ่านบทเพลงฤดูที่แตกต่าง และกลับมาที่ฉากร้านThree Seasons อีกครั้ง  3ปีผ่านไปร้านยังคงไว้ซึ่งความคึกคัก สนุกสนาน ครื้นเครง แต่ทุกอย่างกลับดูเหี่ยวแห้งไม่เหมือนเดิม เป็นความสนุกสนานที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา เจ๊ฉันท์ไม่ได้สดใสเหมือนตอนที่ยังมีพัดเป็นเพื่อนคู่คิด ถึงแม้เจ๊ฉันท์จะพยายามให้ทุกคนใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่กลับห้ามพนักงานทุกคนพูดคำว่า"พัด" เพราะมันจะทำให้ความทรงจำเก่าๆไหลย้อนกลับมา

ทุกคนจะใช้ชีวิตตามปกติด้วยการลืมอดีตที่แสนเศร้าได้จริงหรือ?
ในฉากนี้ละครได้ใส่ Symbolic สำคัญเอาไว้ นั่นคือป้ายร้านThree Seasons ที่ชำรุดทรุดโทรม ไฟที่คำว่าSeaนั้น ดับไปหลังจากที่พัดตาย และสิ่งที่เจ๊ฉันท์ทำก็คือปล่อยให้มันดับไปไม่คิดจะซ่อมแซม เสมือนว่าไม่มีคำว่าSeaมาตั้งแต่แรก  เฉกเช่นเดียวกับพัด ที่เจ๊ฉันท์พยายามลบทิ้งออกจากความทรงจำเพราะเชื่อว่าจะทำให้เจ๊ฉันท์ลืมความเศร้าได้


+++ชีวิตต้องก้าวต่อไป?
ฝนพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ เพราะชีวิตต้องก้าวต่อไป หลังพัดตายฝนจึงเริ่มหันมามองคนรอบข้าง และพบว่าฝนมีต่ออยู่เคียงข้างเสมอ เธอตัดสินใจคบหากับต่อและเตรียมแต่งงานกัน และนั่นทำให้พายไม่พอใจอย่างมาก เพราะพายคิดตามประสาเด็กว่าพี่ฝนนั้นลืมพี่พัดของพายเสียแล้ว ส่วนเจ๊ฉันท์กลับเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี หนำซ้ำงานแต่งงานของฝนและต่อ จึงเสมือนการหลุดพ้นจากการจมดิ่งในความเศร้าของทั้งฝนและเจ๊ฉันท์ด้วย ฉันท์จึงสนับสนุนเต็มที่  แต่ดูเหมือนการคัดค้านของพายกลับทำให้ฝนจมดิ่งลงไปอีกครั้ง ฝนปฏิเสธการแต่งงานกลางพิธี และวิ่งหนีออกมาท่ามกลางความตกใจของแขกที่มาร่วมงาน สร้างความเสียใจให้ต่ออย่างรุนแรง

ดูเหมือน3ปีที่ผ่านมาฝนอาจยังไม่ได้หลุดพ้นจากความเศร้าในอดีตจริงๆ เธอเพียงแค่ทำเป็นลืมเรื่องราวทั้งหมดเพื่อให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปตามสัญญา แต่สุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้ มีฉากหนึ่งที่ฝนระเบิดอารมณ์และหลุดปากออกมาว่า "คนรักกันมา10ปี จะให้ลืมกันง่ายๆได้อย่างไร" อันที่จริงเจ๊ฉันท์กับฝนล้วนตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ไม่ต่างกัน

หลังการเสียชีวิตของพัดโลกยังคงหมุนรอบตัวเองเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ในโลกของฝน พาย เจ๊ฉันท์ และต่อ ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง พวกเขาและเธอล้วนได้รับผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องกันไปเป็นโยงใยจากการจากไปของพัด แม้ทุกคนจะพยายามทำทุกอย่างให้ปกติ แต่ก็ปิดบังความจริงบางอย่างไม่ได้ว่าชีวิตของทั้ง5คนนั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเสียแล้ว

ในโลกหลังความตาย พัดได้อ้อนวอน"ท่าน" ให้เขาได้กลับไปเจอเพื่อนรัก แฟน และน้องสาวของเขาอีกซักครั้ง เพื่อเขาจะได้ส่งแมสเสจหาทุกคนให้เดินหน้าต่อไป อย่าได้จมอยู่กับอดีต และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าและมีความสุข

และแมสเสจที่พัดต้องการบอกทุกคน ก็คือหัวใจของละครเรื่องนี้ บทละครเขียนขึ้นมาโดยคุมแมสเสจนี้ได้อย่างหนักแน่นและไม่หลุดลอย นำมาใช้เป็นส่วนที่สร้างConflict และเป็นตัวช่วยคลีคลายเรื่องราวให้จบลงอย่างสมบูรณ์ ผ่านบทเพลงของบอย โกสิยพงษ์ ที่มีความไพเราะจับใจเมื่อนำมาร้องในแบบมิวสิคัล อาจมีบ้างที่ไม่ค่อยกลมกลืนไปกับเรื่องราวและบางฉากก็เหมือนเขียนขึ้นมาเพื่อยัดบางเพลงลงไป แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับละครเวทีแนว jukebox

ความแปลกประหลาดอย่างหนึ่งในการดำเนินเรื่องของละครเวทีเรื่องนี้ที่ผมไม่ค่อยได้พบเจอจากการดูภาพยนตร์คือการพลิกอารมณ์จากสุขเป็นเศร้าอย่างฉับพลัน หรือการสร้างสถานการณ์ให้การกระทำของตัวละครหนึ่งสร้างปมขัดแย้งให้ตัวละครอีกตัวอย่างฉับพลัน ซึ่งยอมรับว่าสร้างความช็อคและเร้าอารมณ์ผู้ชมได้อย่างดี แต่สำหรับผมที่ยังติดอยู่กับความRealistic จะรู้สึกติดขัดนิดหน่อยเพราะตัวละครไม่ได้ถูกเล่าถึงพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่ส่งผลต่อการกระทำในฉากนั้นๆ แต่อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์พลิกผันทั้งหลายละครไม่ได้ทิ้งคนดูอย่างผมต้องค้างเติ่ง เพราะละครเดินหน้าขยี้อารมณ์และบรรยายความรู้สึกของตัวละครต่อเนื่องทันที ยกตัวอย่างเช่นฉากที่ฝนหนีการแต่งงานที่ผมรู้สึกขัดมากๆว่าละครไม่เคยบอกผู้ชมเลยว่าฝนยังจมกับความเศร้าถึงขนาดนี้ แต่เลือกที่จะบรรยายความรู้สึกของฝนในฉากถัดไป ผ่านบทเพลง"รักเธอทั้งหมดของหัวใจ" ที่ต้องยอมรับเลยว่าทั้งบทเพลง ฉาก แสงสี เสียงร้อง และการแสดงของทั้งหนูนา ปาน และกวางในฉากนี้เอาอยู่ และขยี้อารมณ์ชนิดที่ให้ผู้ชมต้องตายคาโรงละคร ผมเห็นหลายคนหยิบทิชชู่ซับน้ำตากันหลายคนเลย


ความดีอีกส่วนนึงที่ไม่พูดไม่ได้คือการออกแบบโชว์ ทั้งฉากเปิดตัวด้วยบรรยากาศของร้าน Three Seasons  ที่ดึงอารมณ์ผู้ชมให้เอ็นจอยและมีส่วนร่วมกับละครได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการบิวให้คนดูทุกคนร่วมตบมือตามจังหวะเสียงเพลง ต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวละครเจ๊ฉันท์และพาย ที่กำลังวุ่นวายกับงานเซอร์ไพส์ขอแต่งงานของพัดและฝน ,อีกฉากที่ชอบมากๆคือเพลงเหมือนเคย ที่เล่าเหตุการณ์3ปีที่ฝนกับต่อคบหากัน ที่ออกแบบโชว์ได้น่ารักมากๆ โดยเล่นกับฤดูกาลต่างๆ หรือแม่กระทั่งฉากที่ไม่ได้มีการเต้นรำก็ทำได้อย่างสร้างสรรค์ทุกฉาก เช่นฉากที่พัดคุยกับ"ท่าน" หรือฉากในโรงพยาบาลที่ไม่มีโชว์อะไรหวือหวา แต่อิมแพคในความรู้สึกมากๆ ละครสามารถใช้แสงสีเสียงช่วยเรื่องอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งฉากที่พัดกับฝนได้กลับมาเจอกันอีกครั้งและมีการเล่าความทรงจำในอดีตตั้งแต่สมัยเรียน ฉากนี้มูฟเม้นท์ในการโชว์ไหลลืนมากๆ การใช้คน ชุด และอุปกรณ์เดิมเกือบทั้งหมดกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไปทำได้อย่างดีจนน่าทึ่ง

ฉากละครถือว่ามีน้อยแต่ก็สวยงามทุกฉาก และในความน้อยนั้นกลับใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และให้ผลลัพท์ที่ยอดเยี่ยม และที่ชอบมากๆคือความไม่มักง่ายละครไม่มีใช้การฉายภาพเข้าฉากหลังเหมือนที่ละครเวทียุคหลังๆนิยมกันซักฉากเดียว ทั้งๆที่มีหลายฉากเปิดโอกาสให้ทำได้ แต่ก็เลือกที่จะใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษคือการเปลี่ยนฉากทำได้ดีมากๆ มันดูไหลลื่นไปหมดจนร้องตะโกนในใจว่าโคตรเจ๋ง ซึ่งทั้งการออกแบบโชว์ การลำดับเรื่องราว การเชื่อมต่อของซีนและว่าด้วยเรื่องการออกแบบฉากต้องยกความดีความชอบให้ทีมงานทุกคนรวมผู้กำกับสันติ ต่อวิวรรธน์ ที่คุมทุกอย่างจนทำให้ลมหายใจ เดอะมิลสิคัลสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้

ว่าด้วยเรื่องของการแสดงทุกคนต่างรับผิดชอบบทบาทได้ดีเยี่ยมโดยเฉพาะกัน หนูนา และปาน ที่ต้องบอกเลยว่าเอาอยู่ที่ฉากทุกอารมณ์เศร้าคือเศร้าจริง บีบหัวใจกันไป ตอนสุขก็ดูธรรมชาติไปหมดทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ กันแสดงเป็นหนุ่มทะเล้นรักสนุกได้อย่างสมบทบาท ,หนูนา ต้องรับหน้าที่แบกบทที่บังคับให้ตัวละครอย่างฝนมีการสวิทช์อารมณ์บ่อยมาก ซึ่งหนูนาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนฉากอารมณ์และฉากตลกทุกฉากที่เขียนให้ปาน ก็ตลกจริงจังฮาทุกฉาก ,โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ร้องและแสดงได้ดีแต่อาจมีพูดติดขัดอยู่บ้าง และบางฉากโดยเฉพาะฉากเศร้าที่ต้องระเบิดอารมณ์ดูแล้วยังไม่ค่อยอินตาม ส่วนกวางก็ทำได้ดีแต่บทบาทจะดูน้อยกว่าตัวละครอื่นๆจนโดนรุ่นพี่แย่งซีนไปได้ในหลายๆฉาก ส่วนอองซอมทุกคนโดดเด่น ไม่ได้เป็นแค่สีสันของเรื่องทั่วๆไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของละครชนิดที่ตัดออกไม่ได้ ถ้าตัดออกก็คือกระทบกับการเดินเรื่องอยู่พอสมควรเลย เรียกได้ว่าบทใช้ประโยชน์จากนักแสดงสมทบได้อย่างยอดเยี่ยม และที่เซอไพรซ์คือสิงโต เดอะสตาร์ก็เป็นหนึ่งในอองซอมด้วย (ผมไม่ได้อ่านรายละเอียดของละครก่อนไปดูเลย)

น่าเสียดายอยู่นิดหน่อยที่ฉากจบดูห้วนๆไปซักนิด เพราะหลังจากพัดได้เจอกับทุกคนครบแล้วละครก็รวบรัดไปสู่ฉากการแต่งงานของต่อและฝนทันทีซึ่งจะว่าไปฉากนี้เป็นแค่การคลีคลายบาดแผลของแค่ฝนและต่อเท่านั้น ทั้งๆที่ตัวละครอย่างฉันท์และพายก็เป็นตัวละครที่ฟื้นตัวจากบาดแผลในอดีตด้วยเช่นกัน ในบทเพลงPass the love forward  ที่เป็นฉากจบจึงควรเพิ่มเรื่องราวของเจ๊ฉันท์และพายอีกซักนิด อย่างน้อยก็เน้นกันชัดๆว่าป้ายชื่อร้านThree Season ที่เคยชำรุด ได้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง คงจะเป็นฉากจบที่งดงามและชวนขนลุกกว่าเดิมอีก10เท่าเลยทีเดียว
ชื่อสินค้า:   ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่