จบตามหนังสือพิมพิ์เลย ซึ่งก็ดีไปอีก คือจบในขณะที่ปู่บอกรักปัทมา ซึ่งตลอดเวลาปัทมาต้องการได้ยินคำว่า " รัก " เสมอมา เพราะปัทมาคิดเสมอว่าปู่ไม่รัก ปู่เกลียดตน แต่สุดท้ายคำที่ปัทมาต้องการจะได้ยินมากที่สุดก็ได้ยิน (ปู่รักแกนะยายปัท) ซึ่งเป็นฉากจบของเรื่องพอดี จบแบบนี่ได้แง่คิดหลายอย่างเลยครับ
1. บางคนตอนมีโอกาสบอกรัก แต่ไม่ได้บอก แต่พอมีโอกาสบอก ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ หรือ อย่างปัทมา จะรับรู้ได้ แต่มันก็รับรู้ไม่ได้เหมือนดังคนปกติแล้ว แง่คิดจากเรื่องนี้บอกให้รู้ว่าเมื่อมีโอกาส เราควรแสดงความรักกับคนที่เรารัก เพราะในใจลึกๆแล้ว ทุกคนต่างก็รอคอยความรักจากคนที่เรารักเช่นกัน แค่การคำว่ารัก สำหรับบางคนถือว่ายิ่งใหญ่มากนะครับ มีโอกาสก็ทำให้คนที่เรารักเถอะครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ หรือแก้ไขอะไรภายหลัง ซึ่งเราอาจจะไม่มีโอกาสแก้ไขอะไรได้อีกเลยก็ได้ครับ
2 บางสิ่งบางอย่างอาจยังคงติดค้างอยู่ในใจ แต่ด้วยความรักก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นเรื่องที่ดีได้ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างมี คือ ความคิด และอคติในใจ เมื่อที่เราสามารถข้ามผ่านสิ่งนั่นได้ อาจเพราะทำเพื่อคนที่เรารัก เมื่อนั้นเราจะข้ามผ่านคำว่า ตราบาปทางความคิดได้ และเราจะพบแนวคิดใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้น เมื่อนั่นเราก็จะพบสัจธรรมของชีวิต
เรื่องนี้ยังสอดแทรกแง่คิดต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลักประชาธิปไตยในครอบครัว รวมถึงสิทธิของสตรีที่ในเรื่องจะเห็นว่า การตัดสินใจต่างๆ หรือกระทำเรื่องสำคัญๆจะเป็นหน้าที่ของผู้ชาย หากใครรับชมแล้วนำมาคิดต่อ ก็จะได้แง่คิดดีๆมากมายที่สอดแทรกในแต่ละตอน เราขอพูดรวมๆ ว่าองค์ประกอบของเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ในหลายๆด้าน นักแสดงหลัก อย่างกรีนก็สามารถตีโจทย์ ทำการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม คนดูอย่างผมสามารถสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของกรีน ประทับใจกรีนจากเรื่องนี้มากครับ นักแสดงอีกท่านคือคุณสันติสุข ท่านสามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในบทของท่านพระยานั่นมีมิติดีครับ มีทั้งบทรัก ทั้งบทเกลียด ซึ่งในเรื่องจะต้องแฝงไปด้วยความอคติในใจในหลายๆเรื่อง รวมถึงการฝังใจจากในอดีต จนส่งผลถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นบทที่ค่อยข้างยาก แต่คุณสันติสุขสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมากครับ ยิ่งตอนจบตราตรึง น้ำตาไหลตามเลยครับ ส่วนอาๆ ทำได้ดีทุกคนเช่นกัน โดยเฉพาะพี่นุ๊ก กลับมาคราวนี้ยังแสดงได้ดีเหมือนเดิมครับ ส่วนมุกดา นักแสดงหน้าใหม่แต่เรื่องนี้ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย เชื่อว่าจะดียิ่งๆขึ่นไปในเรื่องต่อๆไป ส่วนแบงค์ อาทิตย์ ในบทพูดที่พูดยาวมาก แต่แบงค์สามารถทำได้ดี พูดชัดถ้อยชัดคำดีครับ พูดควบกล้ำได้ชัดเจน โดยรวมแล้วนักแสดงทุกคนทำได้ดีมากครับ ขอชื่นชมจากใจครับ
ขอบคุณอย่างยิ่ง สำหรับช่อง 7 ที่สามารถแคสติ้งตัวละครทุกตัวละครได้ดีเหลือเกิน ชื่นชมผู้เขียนบทที่สามารถเขียนทุกตัวละครได้มีมิติ รวมถึงการสอดแทรกแง่คิดในทุกตัวละคร และขอขอบคุณพอดีคำที่ตั้งใจและทุ่มเท ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ทำผลงานคุณภาพให้เราได้ชมกัน
ท้ายสุดนี้ขอยกละครขมิ้นกับปูนเวอร์ชั่นนี้ให้อยู่ในทำเนียบละครในดวงใจอีกเรื่อง ที่สมบูรณ์แบบในหลายมิติ ผมเชื่อว่าคำว่ายอดเยี่ยมในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่สำหรับผมละครเรื่องนี้คือ ละครที่ยอดเยี่ยม และเป็นละครที่สมบูรณ์แบบอีกเรื่องหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป
จบอย่างสวยงาม และเก๋ไปอีก " ขมิ้นกับปูน "
1. บางคนตอนมีโอกาสบอกรัก แต่ไม่ได้บอก แต่พอมีโอกาสบอก ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ หรือ อย่างปัทมา จะรับรู้ได้ แต่มันก็รับรู้ไม่ได้เหมือนดังคนปกติแล้ว แง่คิดจากเรื่องนี้บอกให้รู้ว่าเมื่อมีโอกาส เราควรแสดงความรักกับคนที่เรารัก เพราะในใจลึกๆแล้ว ทุกคนต่างก็รอคอยความรักจากคนที่เรารักเช่นกัน แค่การคำว่ารัก สำหรับบางคนถือว่ายิ่งใหญ่มากนะครับ มีโอกาสก็ทำให้คนที่เรารักเถอะครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ หรือแก้ไขอะไรภายหลัง ซึ่งเราอาจจะไม่มีโอกาสแก้ไขอะไรได้อีกเลยก็ได้ครับ
2 บางสิ่งบางอย่างอาจยังคงติดค้างอยู่ในใจ แต่ด้วยความรักก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นเรื่องที่ดีได้ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างมี คือ ความคิด และอคติในใจ เมื่อที่เราสามารถข้ามผ่านสิ่งนั่นได้ อาจเพราะทำเพื่อคนที่เรารัก เมื่อนั้นเราจะข้ามผ่านคำว่า ตราบาปทางความคิดได้ และเราจะพบแนวคิดใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้น เมื่อนั่นเราก็จะพบสัจธรรมของชีวิต
เรื่องนี้ยังสอดแทรกแง่คิดต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลักประชาธิปไตยในครอบครัว รวมถึงสิทธิของสตรีที่ในเรื่องจะเห็นว่า การตัดสินใจต่างๆ หรือกระทำเรื่องสำคัญๆจะเป็นหน้าที่ของผู้ชาย หากใครรับชมแล้วนำมาคิดต่อ ก็จะได้แง่คิดดีๆมากมายที่สอดแทรกในแต่ละตอน เราขอพูดรวมๆ ว่าองค์ประกอบของเรื่องนี้มีความสมบูรณ์ในหลายๆด้าน นักแสดงหลัก อย่างกรีนก็สามารถตีโจทย์ ทำการแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม คนดูอย่างผมสามารถสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของกรีน ประทับใจกรีนจากเรื่องนี้มากครับ นักแสดงอีกท่านคือคุณสันติสุข ท่านสามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในบทของท่านพระยานั่นมีมิติดีครับ มีทั้งบทรัก ทั้งบทเกลียด ซึ่งในเรื่องจะต้องแฝงไปด้วยความอคติในใจในหลายๆเรื่อง รวมถึงการฝังใจจากในอดีต จนส่งผลถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นบทที่ค่อยข้างยาก แต่คุณสันติสุขสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมากครับ ยิ่งตอนจบตราตรึง น้ำตาไหลตามเลยครับ ส่วนอาๆ ทำได้ดีทุกคนเช่นกัน โดยเฉพาะพี่นุ๊ก กลับมาคราวนี้ยังแสดงได้ดีเหมือนเดิมครับ ส่วนมุกดา นักแสดงหน้าใหม่แต่เรื่องนี้ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย เชื่อว่าจะดียิ่งๆขึ่นไปในเรื่องต่อๆไป ส่วนแบงค์ อาทิตย์ ในบทพูดที่พูดยาวมาก แต่แบงค์สามารถทำได้ดี พูดชัดถ้อยชัดคำดีครับ พูดควบกล้ำได้ชัดเจน โดยรวมแล้วนักแสดงทุกคนทำได้ดีมากครับ ขอชื่นชมจากใจครับ
ขอบคุณอย่างยิ่ง สำหรับช่อง 7 ที่สามารถแคสติ้งตัวละครทุกตัวละครได้ดีเหลือเกิน ชื่นชมผู้เขียนบทที่สามารถเขียนทุกตัวละครได้มีมิติ รวมถึงการสอดแทรกแง่คิดในทุกตัวละคร และขอขอบคุณพอดีคำที่ตั้งใจและทุ่มเท ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ทำผลงานคุณภาพให้เราได้ชมกัน
ท้ายสุดนี้ขอยกละครขมิ้นกับปูนเวอร์ชั่นนี้ให้อยู่ในทำเนียบละครในดวงใจอีกเรื่อง ที่สมบูรณ์แบบในหลายมิติ ผมเชื่อว่าคำว่ายอดเยี่ยมในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่สำหรับผมละครเรื่องนี้คือ ละครที่ยอดเยี่ยม และเป็นละครที่สมบูรณ์แบบอีกเรื่องหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป