รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผมบนพันธุ์ทิพย์ ไงก็ติชมได้ไมต้องเกรงใจนะครับ
วันนี้ผมไปดูลมหายใจ เดอะมิวสิคัลกับคุณแม่ผมที่ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์มาครับ
ขอเกริ่นภูมิหลังของผมก่อนนะครับ ผมเคยดูละครเวทีที่นี่เรื่องเดียวคือ สี่แผ่นดินเวอร์ชั่นพ.ศ. 2557 ส่วนคุณแม่ผม แกดูสี่แผ่นดิน ลมหายใจ เดอะมิวสิคัลเวอร์ชั่นของมอส (2552) และอีกหลายๆเรื่อง
หลังจากดูจบขอชมการแสดงของนักแสดงหลักทุกคน โดยเฉพาะหนูนา ปาน ธนพร แสดงได้ดีมากๆ ผมอินสุดๆ ทั้งร้อง เล่น เต้นคือทำได้เก่งมากๆเลย
แต่ผมขอติเรื่องต่างๆเหล่านี้ของละครเวที
1.
กระบวนการทำ - ทางทีมงานไม่น่าเอาเพลงและตัวตนของบอย โกสิยพงษ์เป็นแกนหลักและให้ความสำคัญมาเป็นอับดับหนึ่ง น่าจะให้เนื้อเรื่องเป็นแกนหลัก แล้วเอาเพลงเป็นตัวเสริมเหมือนละครเวทีเรื่องอื่น คือผมรู้สึกว่าทีมงานตั้งธงก่อนเลยว่าจะเอาเพลงอะไรของบอยมาบ้าง แล้วค่อยเขียนเนื้อเรื่องอิงตามแทน ทำให้เนื้อเรื่องดูแปลกๆ แม่-งๆ และไม่อิน เหมือนทีมงานถูกตีกรอบโดยเพลงอย่างเห็นได้ชัด
2. เนื้อเรื่อง - ดูออกทันทีว่าอิงจากหนังเรื่อง Ghost (วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก) ที่เดมี่มัวร์แสดงนำ ผมไม่ว่าที่เอาหนังเรื่องนี้มาเป็นแรงบรรดาลใจ แต่ดูเหมือนเนื้อเรื่องของละครเวทีก็ยังไม่สามารถสร้างตัวตนของตัวเองได้มากเท่าที่ควร เหมือนพยายามจะหนีออกจากหนังเรื่องนี้แต่หนีไม่พ้น โดนดีดกลับไปที่หนังเรื่องนี้ในสภาพยับเยิน แล้วบางฉากควรจะมีดราม่าดาร์คๆกลับไม่มี และผมรู้สึกด้วยว่าเนื้อเรื่องอีกหลักศาสนาคริสต์ด้วยในเรื่องความรัก ทำให้ไม่สามารถทำให้เนื้อเรื่องไม่ดาร์คไปกว่าสีเทาอ่อนๆ(สีอ่อนนมากกกก) แล้วตัวเนื้อเรื่องดันไปอิงเพลงมากด้วย ทำให้บางฉากดูแล้วไม่อิน ไม่ซึ้ง ไม่สมเหตุสมผล
3. เพลง - มีการเลือกเพลง
ไม่ถูกฉาก คืออย่างฉากเรื่องความรักและคิดถึงของฝนที่มีต่อพัดแต่ดันเลือกเพลงแอบรัก ขนาดแม่ผมยังติเลยว่าเวอร์ชั่นมอสเพลงที่นำมาใช้ยังสอดคล้อง สมเหตุสมผลกับฉากมากกว่าของปีนี้เยอะ ทำให้ดูแล้วสนุกและอินมากกว่าของเวอร์ชั่นนี้
ไม่ถูกจังหวะ ดันให้นักแสดงร้องขึ้นมากลางการสนทนาทั้งที่ควรให้นักแสดงแสดงกันให้จบก่อนเพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูแล้วค่อยให้ร้องเพลงหลังสุดเพื่อเสริมให้คนดูซึ้งกับฉากนั้นอย่างเต็มที่
ไม่ถูกคนร้อง คือมีฉากหนึ่งที่พัดร้องเพลงให้ฝนตอนเจอกันอีกครั้ง ซึ่งเพลงนั้นผมเห็นว่าควรเป็นต่อร้องมากกว่าเพื่อขอบคุณที่ฝนรักเขาตอบซะที
ไม่ถูกกับลักษณะตัวละคร ฉากที่เห็นได้ชัดคือฉากที่พัดร้องเพลงหยุดของ Grove Rider ที่ท่อนที่ร้องสื่อว่าคนร้องเป็นคนเจ้าชู้ที่มีแฟนมาหลายคนเพื่อหาคนที่ดีที่สุด แต่ตัวละครพัดเขารักและคบกับฝนมาตลอด 10 ปี เพลงที่ร้องเลยไม่เหมาะเอามากๆ
4. ของประกอบฉาก - อย่างแรกคือตำแหน่งเปียนโน ที่ดูเหมือนคนเขียนบทไม่รู้จะเขียนบทยังไงเพื่อให้เปียโนสามารถย้ายขึ้นไปชั้นบนได้อย่างสมเหตุสมผลในฉากหลังพัดตาย ตอนแรกผมนึกว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงานที่ลืมเข็นออกจากฉากไปหลังตัวละครขึ้นไปชั้นบน แต่กลับกลายเป็นว่าเอาไปใช้กลับฉากซึ้งๆระหว่างฝนกับต่อหลังกลับมาหาฉันท์และน้องพัดเฉยเลย ทั้งที่น่าจะเปลี่ยนเครื่องดนตรีที่บาร์ไปจากเปียโน เป็น saxophone หรือ ทรัมเปต ก่อน อย่างที่สองคือฉากบนเครื่องบิน ที่ไม่ลงทุนเอามากๆ มีแต่เก้าอี้ที่เอามาจากห้องสอบ คืออย่างน้อยก็ควรมีฉากหลังเป็นหน้าต่างเครื่องบินก็ได้เหมือนงบหมดหรือไงไม่ทราบถึงไม่ทำมาประกอบฉาก คืออย่างน้อยน่าจะเปลี่ยนเป็นส่องสปอตไลท์ไปที่ตัวของพัดกับฝนอย่างเดียวแทนก็ได้
5. เสื้อผ้า - เป็นฝรั่งเกินไป หรือไม่ก็แฟชั่นเกินกว่าจะมาเดินใส่ตามท้องถนนทั่วไป
จบสำหรับการรีวิวของผมครับ
[CR] รีวิว ลมหายใจ เดอะมิวสิคัล (สปอยล์นิดหน่อย)
วันนี้ผมไปดูลมหายใจ เดอะมิวสิคัลกับคุณแม่ผมที่ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์มาครับ
ขอเกริ่นภูมิหลังของผมก่อนนะครับ ผมเคยดูละครเวทีที่นี่เรื่องเดียวคือ สี่แผ่นดินเวอร์ชั่นพ.ศ. 2557 ส่วนคุณแม่ผม แกดูสี่แผ่นดิน ลมหายใจ เดอะมิวสิคัลเวอร์ชั่นของมอส (2552) และอีกหลายๆเรื่อง
หลังจากดูจบขอชมการแสดงของนักแสดงหลักทุกคน โดยเฉพาะหนูนา ปาน ธนพร แสดงได้ดีมากๆ ผมอินสุดๆ ทั้งร้อง เล่น เต้นคือทำได้เก่งมากๆเลย
แต่ผมขอติเรื่องต่างๆเหล่านี้ของละครเวที
1.กระบวนการทำ - ทางทีมงานไม่น่าเอาเพลงและตัวตนของบอย โกสิยพงษ์เป็นแกนหลักและให้ความสำคัญมาเป็นอับดับหนึ่ง น่าจะให้เนื้อเรื่องเป็นแกนหลัก แล้วเอาเพลงเป็นตัวเสริมเหมือนละครเวทีเรื่องอื่น คือผมรู้สึกว่าทีมงานตั้งธงก่อนเลยว่าจะเอาเพลงอะไรของบอยมาบ้าง แล้วค่อยเขียนเนื้อเรื่องอิงตามแทน ทำให้เนื้อเรื่องดูแปลกๆ แม่-งๆ และไม่อิน เหมือนทีมงานถูกตีกรอบโดยเพลงอย่างเห็นได้ชัด
2. เนื้อเรื่อง - ดูออกทันทีว่าอิงจากหนังเรื่อง Ghost (วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก) ที่เดมี่มัวร์แสดงนำ ผมไม่ว่าที่เอาหนังเรื่องนี้มาเป็นแรงบรรดาลใจ แต่ดูเหมือนเนื้อเรื่องของละครเวทีก็ยังไม่สามารถสร้างตัวตนของตัวเองได้มากเท่าที่ควร เหมือนพยายามจะหนีออกจากหนังเรื่องนี้แต่หนีไม่พ้น โดนดีดกลับไปที่หนังเรื่องนี้ในสภาพยับเยิน แล้วบางฉากควรจะมีดราม่าดาร์คๆกลับไม่มี และผมรู้สึกด้วยว่าเนื้อเรื่องอีกหลักศาสนาคริสต์ด้วยในเรื่องความรัก ทำให้ไม่สามารถทำให้เนื้อเรื่องไม่ดาร์คไปกว่าสีเทาอ่อนๆ(สีอ่อนนมากกกก) แล้วตัวเนื้อเรื่องดันไปอิงเพลงมากด้วย ทำให้บางฉากดูแล้วไม่อิน ไม่ซึ้ง ไม่สมเหตุสมผล
3. เพลง - มีการเลือกเพลง
ไม่ถูกฉาก คืออย่างฉากเรื่องความรักและคิดถึงของฝนที่มีต่อพัดแต่ดันเลือกเพลงแอบรัก ขนาดแม่ผมยังติเลยว่าเวอร์ชั่นมอสเพลงที่นำมาใช้ยังสอดคล้อง สมเหตุสมผลกับฉากมากกว่าของปีนี้เยอะ ทำให้ดูแล้วสนุกและอินมากกว่าของเวอร์ชั่นนี้
ไม่ถูกจังหวะ ดันให้นักแสดงร้องขึ้นมากลางการสนทนาทั้งที่ควรให้นักแสดงแสดงกันให้จบก่อนเพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูแล้วค่อยให้ร้องเพลงหลังสุดเพื่อเสริมให้คนดูซึ้งกับฉากนั้นอย่างเต็มที่
ไม่ถูกคนร้อง คือมีฉากหนึ่งที่พัดร้องเพลงให้ฝนตอนเจอกันอีกครั้ง ซึ่งเพลงนั้นผมเห็นว่าควรเป็นต่อร้องมากกว่าเพื่อขอบคุณที่ฝนรักเขาตอบซะที
ไม่ถูกกับลักษณะตัวละคร ฉากที่เห็นได้ชัดคือฉากที่พัดร้องเพลงหยุดของ Grove Rider ที่ท่อนที่ร้องสื่อว่าคนร้องเป็นคนเจ้าชู้ที่มีแฟนมาหลายคนเพื่อหาคนที่ดีที่สุด แต่ตัวละครพัดเขารักและคบกับฝนมาตลอด 10 ปี เพลงที่ร้องเลยไม่เหมาะเอามากๆ
4. ของประกอบฉาก - อย่างแรกคือตำแหน่งเปียนโน ที่ดูเหมือนคนเขียนบทไม่รู้จะเขียนบทยังไงเพื่อให้เปียโนสามารถย้ายขึ้นไปชั้นบนได้อย่างสมเหตุสมผลในฉากหลังพัดตาย ตอนแรกผมนึกว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงานที่ลืมเข็นออกจากฉากไปหลังตัวละครขึ้นไปชั้นบน แต่กลับกลายเป็นว่าเอาไปใช้กลับฉากซึ้งๆระหว่างฝนกับต่อหลังกลับมาหาฉันท์และน้องพัดเฉยเลย ทั้งที่น่าจะเปลี่ยนเครื่องดนตรีที่บาร์ไปจากเปียโน เป็น saxophone หรือ ทรัมเปต ก่อน อย่างที่สองคือฉากบนเครื่องบิน ที่ไม่ลงทุนเอามากๆ มีแต่เก้าอี้ที่เอามาจากห้องสอบ คืออย่างน้อยก็ควรมีฉากหลังเป็นหน้าต่างเครื่องบินก็ได้เหมือนงบหมดหรือไงไม่ทราบถึงไม่ทำมาประกอบฉาก คืออย่างน้อยน่าจะเปลี่ยนเป็นส่องสปอตไลท์ไปที่ตัวของพัดกับฝนอย่างเดียวแทนก็ได้
5. เสื้อผ้า - เป็นฝรั่งเกินไป หรือไม่ก็แฟชั่นเกินกว่าจะมาเดินใส่ตามท้องถนนทั่วไป
จบสำหรับการรีวิวของผมครับ