การุณยฆาต: การประหารชีวิตทางการเแพทย์ (3)

ปฏิญญาแพทยสมาคมว่าด้วยการุณยฆาต (World Medical Association Declaration on Euthanasia) กำหนดให้
"การกระทำใดโดยตั้งใจที่จะทำลายชีวิตของผู้ป่วย แม้ว่าจะเป็นการทำตามคำร้องขอของผู้ป่วยหรือญาติสนิทก็ตามถือว่าผิดหลักจริยธรรม แต่ไม่รวมถึงการดูแลของแพทย์ที่เคารพต่อความปรารถนาของผู้ป่วยในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งประสงค์ที่จะเสียชีวิตตามธรรมชาติ"
ดังนั้นการกระทำใดๆที่เป็นการสังหารผู้ป่วย ไม่ว่าจะเกิดจากการร้องขอของผู้ป่วย หรือคนใกล้ชิดผู้ป่วยถือเป็นการทำการุณยฆาตทั้งสิ้น ยกเว้นผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตที่ไม่ประสงค์ขอรับการยื้อชีวิตด้วยวิธีทางการแพทย์เท่านั้น
ปัจจุบันไทยยังไม่มีกฎหมายรับรองการทำการุณยฆาต แต่ใน พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 12 ระบุให้ผู้ป่วยมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตจำนงไม่ขอรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้
ดังนั้นมาตรานี้จึงเป็นไปตามข้อยกเว้นของปฏิญญาแพทยสมาคมว่าด้วยการุณยฆาต โดยไม่ถือเป็นการทำการุณยฆาต
การทำการุณยฆาตที่เป็นที่ยอมรับของสังคมออกเป็น 2 ประเภทตามเจตจำนงคือ
1.การุณยฆาตแบบสมัครใจ (Voluntary Euthanasia) คือ กรณีที่ผู้ป่วยซึ่งเจ็บป่วยสาหัส หรือทรมานจากความเจ็บป่วยแสดงเจตจำนงให้แพทย์ทำการุณยฆาตตนเอง โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1.1 การุณยฆาตแบบสมัครใจโดยตรง (Voluntary and Direct Euthanasia) คือ กรณีที่ผู้ป่วยแสดงเจตจำนงโดยตรงให้แพทย์ทำการุณยฆาต
1.2 การุณยฆาตแบบสมัครใจโดยอ้อม (Voluntary and Indirect Euthanasia) คือ กรณีที่ผู้ป่วยแสดงเจตจำนงล่วงหน้าให้แพทย์ทำการุณยฆาต เช่น กรณีที่ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดสมองแสดงเจตจำนงล่วงหน้าให้แพทย์ทำการุณยฆาตหากการผ่าตัดไม่ประสบความสำเร็จ
2.การุณยฆาตแบบไม่สามารถแสดงความสมัครใจ (Non-voluntary Euthanasia) คือ กรณีที่ผู้ป่วยซึ่งเจ็บป่วยสาหัส หรือทรมานจากความเจ็บป่วยยังเป็นผู้เยาว์ เช่น ทารกในครรภ์ หรือเด็ก แต่ผู้แทนโดยชอบธรรม เช่น พ่อ-แม่, ผู้ปกครอง, ผู้อภิบาลตามกฎหมาย หรือศาลใช้อำนาจแสดงเจตจำนงให้แพทย์ทำการุณยฆาตแก่ผู้ป่วย
3.การุณยฆาตแบบไม่สมัครใจ (Involuntary Euthanasia) คือ กรณีที่ผู้ป่วยซึ่งเจ็บป่วยสาหัส หรือทรมานจากความเจ็บป่วยจนไม่สามารถแสดงเจตจำนงได้ เช่น ผู้ป่วยอยู่ในสภาพผัก แต่ผู้แทนโดยชอบธรรม เช่น ทายาท, ผู้ปกครอง, ผู้อภิบาลตามกฎหมาย หรือศาลใช้อำนาจแสดงเจตจำนงให้แพทย์ทำการุณยฆาตแก่ผู้ป่วย
การทำการุณยฆาตแบบไม่สามารถแสดงความสมัครใจ และการุณยฆาตแบบไม่สมัครใจยังเป็นที่ถกเถียงถึงความชอบธรรม เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้ป่วยต้องการให้ทำการุณยฆาตตนเองหรือไม่
ปัจจุบันวิธีการทำการุณยฆาตที่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์แบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ
1.การุณยฆาตเชิงรับ (Passive Euthanasia) คือ การทำการุณยฆาตด้วยการยุติการรักษาผู้ป่วย เช่น การไม่ช่วยปั้มหัวใจให้กับผู้ป่วยในวาระสุดท้ายหากหัวใจหยุดเต้น หรือการปล่อยให้ผู้ป่วยขาดยาจนเสียชีวิต
วิธีนี้เป็นที่ยอมรับมากที่สุด และบางกรณีไม่ถือเป็นการทำการุณยฆาตตามข้อยกเว้นของปฏิญญาแพทยสมาคมว่าด้วยการุณยฆาต
2.การุณยฆาตเชิงรุก (Active Euthanasia) คือ การทำการุณยฆาตด้วยการใช้วิธีพิเศษที่เร่งให้ผู้ป่วยเสียชีวิต โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ
2.1 การุณยฆาตเชิงสงบ (Non-aggressive Euthanasia) คือ การทำการุณยฆาตด้วยการหยุดให้ปัจจัยดำรงชีวิตแก่ผู้ป่วยจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เช่น การงดให้อาหาร หรือน้ำกับผู้ป่วย
2.2 การุณยฆาตเชิงรุนแรง (Aggressive Euthanasia) คือ การทำการุณยฆาตด้วยการให้สารหรือวัตถุใดๆที่เร่งให้ผู้ป่วยจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต เช่น การฉีดสารพิษให้กับผู้ป่วย
การทำการุณยฆาตเชิงรุกยังคงเป็นที่ถกเถียงถึงความทรมานของผู้ป่วย เนื่องจากบางวิธีอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความทรมานก่อนการเสียชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่