เมื่อ 2 สาวเฟรชชี่ไปเที่ยวหัวหิน+อุทยานเขาสามร้อยยอด+ตลาดน้ำกันเอง 2 คน ภายใน2วัน1คืนไม่มีรถ เที่ยวอะไรยังไงไปดู"รูปเยอะ

จุดหมายปลายทางไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุด การเดินทางที่สนุกถึงแม้จะมีอะไรผิดพลาดบ้าง แต่ระหว่างทางนี่แหละที่ทำให้เราโต ทำให้เราเรียนรู้ ห้มีประสบการณ์ที่ไม่มีใครเคยบอกไว้ในห้องเรียนจริงๆ 

เรื่องมันมีอยู่ว่า...
เราและรูมเมทที่เจอกันจากการสุ่มอยู่หอใน มีความปรารถนาเดียวกันนั่นคือ การแบกเป้เที่ยว!! 

ทริปแรกของพวกเราก็คือการไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อนที่ชลบุรี แวะบางแสน แสนสุข สามมุกลือนาม ข้าวหลามหนองมน ประชาชนสามัคคี ประเพณีวันไหล...
ส่วนทริปหัวหินนี้ ถึงจะเป็นแค่ทริปสั้นๆ ๒วัน แต่แน่นไปด้วยโปรแกรมเที่ยว(หรอ) ประสบการณ์ และผู้คนที่ไร้คำบรรยาย... คือ ดีอะ อยากรู้เป็นไง ก็ตามมา...

​​

 
          เริ่มแรก... นัดเจอกันที่หัวลำโพงเพื่อนั่งรถไฟตามกระแส slow life กินลมชมวิวมีเวลาให้กับตัวเอง นั่งคิดทบทวนสิ่งต่างๆในชีวิต ถึงเวลาจะน้อยลง แต่เราเชื่อนะว่ามันได้อะไรกลับมาแน่ๆ อย่างน้อยก็รู้จักตัวเองขึ้นมาระดับนึงอะ ลองคิดดูดีๆดิ วันๆนึง พวกเราให้เวลาตัวเองมากแค่ไหน ใช้เวลากับเรื่องส่วนตัวคนอื่นในเฟสมากแค่ไหน ใช้เวลากับการส่องไอจีดารามากแค่ไหน ถามใจดู คำตอบคงไม่ต่างกับเรามาก เราเลยอยากจะลอง... สักครั้งไม่เปิดเน็ต! เอ้า ลอง!

รถไฟออก ๐๙.๒๐ น. ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัว เป้ใส่เสื้อผ้า ๒ ชุด กับหนังสือ ๑ เล่ม บวกครีมนิดนึง ไป พร้อมลุย สู้ทุกสถานการณ์ แม้ว่าถนนจะรถติดแค่ไหน...
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ... ๑ชั่วโมงผ่านไป ...Cheer! เก้าโมงสิบนาทียังติดอยู่เลย ก็เลยโทรหาเมท เมทยังไม่ถึงเหมือนกัน เมทมาโดยรถไฟ ในที่สุด ...
.
.
ตกรถไฟ
.
.
เห้อ... ชีวิต ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนจริงๆ

แผน ๒ จึงผุดขึ้นมาในหัว นั่งรถไปอนุเสาวรีย์ไปนั่งรถตู้ไปหัวหินก็ได้ โอเค๊ โชคชะตาคงอยากให้เราอยู่กับตัวเอง ๒ ชั่วโมงพอ เราโอเคนะ เมทก็คงโอเค
ก่อนไปหัวใจพวกเราพร้อม แต่ท้องคัดค้าน จึงแวะกินข้าวมันไก่และเกาเหลาเลือดหมูที่เกาะพหล ร้านที่มีขายหลายๆอย่าง โอเคเลยนะเรื่องรสชาติ ราคาคนละ ๔๒ บาท มันมีข้าวขาหมูด้วย ก๊วยเตี๋ยวก็มี ลองดูนะคะ

ท้องพร้อมก็ไปขึ้นรถตู้ที่เกาะราชวิถี คนละ ๑๘๐ บาท มาไม่ทัน (อีกแล้ว) รถออกพอดี รอคันต่อไป 
นั่นไง รถมาแล้ว รถขับมาด้วยความมั่นใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของเราและเมทเผยออก แสดงถึงความปลื้มปิติ
รถตู้มุ่งตรง ตรงมา ตรงมาสู่ฟุตบาท พุ่งชนเบาๆ ไป ๑ ที 

------- ค่ะ ชนเบาๆ ๑ ที พวกเราต้องไปรถคันนี้กัน ... "จะถึงหัวหินใช่มั้ย" เสียงความคิดนี้ดังก้องในหัวเรา 

​​

 
แต่จริงๆแล้วพี่คนขับขับดีนะคะ
พวกเราขึ้นรถตู้ ๑๑ โมงนิดๆ นั่งมาเรื่อยๆ พี่คนขับที่ทำให้เรามั่นใจได้ตั้งแต่วินาทีแรก ก็แวะปั๊มที่ ปากท่อ จังหวัด เพชรบุรี ตอนเที่ยง 
นั่งหลับๆตื่นๆ จนในที่สุด ถึงหัวหินลงจากรถตู้ที่ซอย ๕๗ แล้วเดินหามดเกสต์เฮาส์ ที่พักที่เราจองกันพร้อมโปรโมชั่น ๙๙๙ บาท ห้องแอร์พร้อมมอเตอร์ไซค์ ๑ คัน พวกเราก็เดินถามทางไปเรื่อย เถียงกันไปเรื่อยเลี้ยวซ้าย หรือขวา 

ในที่สุด มดเกสต์เฮาส์ ก็อยู่ข้างหน้าพวกเรา ที่มีการต้อนรับด้วยพนักงานที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา น่ารักค่ะ พวกเขาให้กุญแจห้อง A7 หรือห้องไฮโซ (ชื่อห้อง)  ไม่รีรอ พวกเราเดินตรงไปห้องพัก ห้องพักค่อนข้างเล็ก แต่ทำเลดีนะ ใกล้ตลาดกลางคืน 
พวกเราวางเป้ และออกสำรวจที่พัก วิวดีมากเลย คือทีพักมันเหมือนยื่นออกไปในทะเลนิดนึง ตามรูป

​​

 

มาหัวหินถิ่นมีหอย จะมานั่งแค่นี้ไม่ได้ดิ ออกเที่ยว 
ก็ขี่มอไซค์กันไปหาที่เที่ยว บอกเลยค่ะ แม้จะมาหัวหินหลายรอบแล้ว ก็ยัง หลง! 
หาที่เที่ยวไม่เจอจริงๆ จะไป For Art's sake ถ่ายรูป หาไม่เจอ ไปดูค่ายมวยก็ไม่มีไร
ก็เลยเปลี่ยนแผนไปหารถตู้ไปอุทยานเขาสามร้อยยอด พรุ่งนี้แทน ได้ความว่า เหมารถตู้ไปนั้น ๑,๕๐๐ บาท ไปกันสองคน แพงอะ หาคนมาแชร์ค่ารถดีกว่า แวะเดินตลาดกลางคืน เดินเข้าไปในตลาดฉัตรศิลา เจอพี่บริษัททัวร์(ชื่อ huaren tour ของจีน)ท่าทางใจดี ก็เลยข้าไปถามราคารถตู้ ราคาไม่แตกต่างเลยค่ะ เศร้า เค้าบอกว่าถ้ามีลูกค้าสนใจด้วย อาจแชร์รถกันไปได้ หมดหวังละ ไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ คืนนี้ก็หาที่เที่ยวใหม่

แต่พอประมาณเวลาสี่ทุ่ม พี่คนนั้นติดต่อกลับมา หาคนแชร์รถได้ ๒ คนค่ะ ได้ราคาคนละ ๓๐๐และ ๔๐๐ บาท ฝรั่ง ๑ คนไทย๑ สามีภรรยาชัวร์เลย ไม่ผิดตามการคาดการณ์ของเมท
ฝรั่งชาวเดนมาร์ค และสาวไทย คู่นี้น่ารักมากเลยค่ะ พวกเราก็แชร์ค่ารถ ค่าเรือ ไปกลับด้วยกัน ตอนแรกนั่งนิ่งๆ ทักทายนิดหน่อย เค้าคิดว่าเรากับเมทเป็นคนจีน ไม่ก็ญี่ปุ่นเกาหลี ไปๆมาๆ นั่งเมาท์มอยกันไม่หยุดเกี่ยวกับประเทศเดนมาร์ก ผู้ชาย การเรียน สื่อออนไลน์ ชีวิตต่างๆนานา โอ้โห เหมือนอ่านชีวประวัติพี่เค้าอะค่ะ

​​

 นี่คือ อาหารเช้าของทางมดเกสต์เฮาส์ค่ะ หิวอะดิ ขนมปังทาเนยชุ่มๆ แล้วเค้าก็จะให้เราเลือก กาแฟหรือโอวัลติน


มาๆ จะรีวิว อุทยานเขาสามร้อยยอดจริงๆละ 
เรื่องมันมีอยู่ว่าไปถึง เสียค่าเข้าถ้ำพระยานคร ๔๐ บาท อันนี้คือราคาคนไทยนะคะ ต่างชาติแพงกว่า บวกค่านั่งเรือข้ามไป ๔๐๐ บาท พวกเราสี่คน คนละ ๑๐๐ พอดี วิวสวย อากาศดี พาแม่มาอยู่ที่นี่เลยดีกว่า 

​​

 
​​

 ในที่สุดก็ถึง
พี่ๆ ๒ คนนั้นพอถึงก็มุ่งตรงสู่ทางเข้าถ้ำแต่พวกเราก็ถ่ายรูปรีวิวมาให้ค่ะ (จริงๆหารูปเปลี่ยนโปรไฟล์เฟสบุค) 
และแล้วการเดินปีนเขาก็มาถึง แล้วเราอะ ลืมคิดไง ปีนเขา หนีบแตะมาคู่เดียว ก็สนุกสนานกันไป หินค่อนข้างลื่นค่ะ เดินระวังกันด้วย ใครสนใจหนีบแตะปีนหาประสบการณ์ใหม่แบบเราก็โอเคนะ ถ้าเธอไม่ลองทำตามหัวใจ จะรู้ได้ไงว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไหร่... ดูรูปดีกว่าเนอะ

​​

 ภาพบัตรนั่งเรือข้ามฟาก ราคาคนละ ๑๐๐ บาท หารกัน ๔ คนค่ะ

​​


​​

 ภาพเรือที่โดยสารไป

ภาพภายในถ้ำ

​​

 
​​

 
​​

 ​

ปีนเขาเสร็จ ลงมากินชเวปส์ และนั่งเรือกลับไปหาพี่โชเฟอร์ ไปตลาดน้ำสามพันนาม ที่เขาเขียนในป้ายว่า The biggest floating market in Asia!!
ไปถึงวันอังคาร ค่อนข้างใหญ่ค่ะ คนไทยเข้าฟรีแต่ถ้านั่งเรือชมต้องเสียตังค์ ในขณะที่ฝรั่งเสียค่าเข้า แต่นั่งเรือชมฟรี
     คิดว่าพวกเรานั่งเรือมั้ย ส่งคำตอบมาได้ที่อีเมลเรานะคะ เค้าล้อเล่น 

ภาพตลาดน้ำสามพันนาม
​​

​​

 
 




 มีรถไฟวิ่งไปมาในตลาดด้วย อารมณ์วินเทจสุดๆ

​​

 ๒ คนหน้านี้คือคนที่แชร์รถไปกับพวกเราเองแหละ 


ความกิน
​​

 ผัดไทที่ตลาดโต้รุ่ง โอเคค่ะ แต่สำหรับเรา มันมันไปนิดนึง

​​

 ไอศกรีมป้าณิ #อร่อยบอกต่อ ยิ้ม



นอกจากเดินทางแล้ว ยังได้รูปโปรไฟล์ใหมาด้วย ก็ถือว่าคุ้มค่ะ แล้วพวกเราก็กลับมาที่หัวหิน และรถตู้กลับสู่อนุเสาวรีย์โดยสวัสดิภาพ 
*ทิ้งท้าย*
จุดหมายปลายทางไม่ใช่สิ่งที่มีค่าที่สุด การเดินทางที่สนุกถึงแม้จะมีอะไรผิดพลาดบ้าง แต่ระหว่างทางนี่แหละที่ทำให้เราโต ทำให้เราเรียนรู้ ห้มีประสบการณ์ที่ไม่มีใครเคยบอกไว้ในห้องเรียนจริงๆ เอ้า.. รออะไร ไปเก็บของแล้วแบกเป้เที่ยวสิคะ

รูปภาพเพิ่มเติม



​​

เจอตัวนี้ที่หาดตอนเรากับเมท กลับจากการเดินช้อปที่ตลาดโต้รุ่ง Huahin night market  เมทเราไปเหยียบหางมัน ดีที่ไม่คัน

​​

 
ตัวนี้เจอที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งย่านหัวหิน ตามองตา ก็รู้ใจ เป็นนายแบบที่น่าร้ากกกก

​​

 ต้นนี้คือต้นอะไร สวยจัง เจอที่ปั๊มที่ปากท่อค่ะ
 

เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ จากเว็บไซต์กระปุกค่ะ
- ศาลาที่เป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร นั่นก็คือ "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2433 เป็นฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าขจรจรัสวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในกรุงเทพฯ แล้วส่งมาประกอบทีหลัง โดยให้พระยาชลยุทธโยธินเป็นนายงานก่อสร้าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมายกช่อฟ้าด้วยพระองค์เอง
- ภายในยังมีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา อย่างไรก็ตาม พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์นับเป็นจุดเด่นของถ้ำพระยานคร และเป็นตราประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบันอีกด้วย



for more information : http://panassayampl.wixsite.com/panas

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่