เป็นมือใหม่หัดรีวิวนะคะ ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยค่ะ
เราเที่ยวไม่เจาะลึกนะคะ เนื่องจาก ผู้ร่วมเดินทางมี 5 คน ค่ะ เป็นผู้สูงอายุมาก 3 ท่าน (73-75 ปี) เดินเยอะไม่ได้, เข้าห้องน้ำบ่อย, กินอาหารต้องตรงเวลา ...
อย่างบางสถานที่ๆเคยไปแล้วเราก็ไม่เข้าซ้ำ (ประหยัดตังค์ค่ะ) เช่น นูเริมเบริก, พระราชวังเชินบรุนน์....
- เดินทางวันที่ 29 เมษายน เครื่องออกประมาณ 00.05น. ถึงที่ Frankfurt ประมาณ 7.00 น เพื่อนร่วมทางเต็มลำค่ะ เพราะเป็นช่วงหยุดยาว (ลางานน้อยได้วันหยุดเยอะ)

Day 1 Frankfurt (เดินเล่นในเมือง)
เครื่องลงประมาณ 7.00 น. ออกมาแล้วเอากระเป๋าเข้า รร. แถวสนามบิน กว่าจะเสร็จก็ประมาณ 9.30 น. จากนั้นลงไปที่สถานีรถไฟในสนามบิน เพื่อซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง ไปลงสถานี Hauptwache จากนั้นก็เดินเที่ยวในเมืองไปเรื่อยๆ จนถึงสถานี Hauptbahnhof นั่งรถไปกลับมาที่สนามบินเพื่อกลับ รร.
** 1. ถ้ามาหลายๆคน (ไม่เกิน 5 คน อย่าลืมซื้อตั๋วกรุ๊ปนะคะ)
2. มี Supermarket ใต้ รร. Sheraton airport ราคาดีใช้ได้เลยค่ะ มีผัก ผลไม้ด้วย
ที่เราเลือก รร. แถวสนามบิน เพราะเรานัดรับรถที่สนามบินค่ะ

ตอนเช้าเดินไปเอารถที่สนามบินค่ะ เราใช้บริการของ Sixt อย่าลืมเอาใบขับขี่สากล (ทำที่ขนส่ง) และใบขับขี่ไทยด้วยนะคะ *ห้าม! ลืมเด็ดขาด เพราะถ้าไม่มีเราจะเช่ารถไม่ได้ค่ะ (จะเป็นแบบเก่าหรือใหม่ อย่างไรเขาไม่สนใจนะคะ ภาษาไทยทั้งหมดเลยก็ไม่สนใจค่ะ) เราไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นใบขับขี่ เพราะมีแต่ภาษาไทย
เราใช้ Ford S max (Sixt เขาจะแบ่งเป็นโซนค่ะ ถ้าไปบางประเทศ จะเอา Mercedess หรือ Volk ไปไม่ได้ค่ะ)
Day 2 Frankfurt-Regensburg ระยะทาง 327 km.
ออกจากรร. สนามบิน ไปเอารถ แวะ shopping ที่ Wertheim outlet มีร้านอะไรบ้างดูได้ในเว็บไซด์ เสียหายหลายอยู่ค่ะ สำหรับที่นี่ จากนั้นมุ่งตรงสู่ Regensburg เลยค่ะ เนื่องจากเราช็อปเพลิดเพลินไปหน่อย เลยไม่ได้แวะ Nuremburg ค่ะ เดินชมเมือง Regensburg เสียดายช่วงที่ไปสะพาน Stone Bridge ปิดซ่อมพอดี ประมาณทุ่มนึงก็เข้าที่พัก เราออกมาพักนอกเมืองนิดนึงค่ะ
** รถคันนี้อาจจะแคบไปสักหน่อยแต่เราไม่กล้าขับรถที่คันใหญ่กว่านี้ค่ะ ห้ามเอากระเป๋าใบโตๆไปนะคะวางไม่พอค่ะ

Day 3 Regensburg-Vienna ระยะทาง 397 km.
วันนี้เดินทางไกลสักหน่อย เนื่องจากจริงๆ เมื่อวานจะมาให้ได้ไกลกว่า Regensburg แต่กลัวว่าหจะขับไม่ไหวเนื่องจากเป็นการขับรถวันแรก วันนี้เลยวิ่งยาวตรงถึง Vienna เลย ไม่ได้แวะที่เมื่องอื่นเลย เนื่องจากทุกคนในทริปเคยไปกันมาแล้ว (Salzburg, Innsbruck, Hallstatt, Obertraun…) ก็เลยขับตรงเลยค่ะ ระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำตามปั๊ม ค่าเข้าประมาณ 0.50-0.70 ยูโร แต่จะได้เป็นคูปองออกมาใช้ไปซื้อของที่ supermarket ในปั๊มได้ค่ะของกินก็กินไปเรื่อยๆ ตามปั๊มค่ะ
ถึงเวียนนาตอนบ่ายๆ เดินเล่นในเมือง ประมาณ 1 ทุ่มเข้าที่พักค่ะ วันนี้แย่หน่อยเนื่องจากเป็นวันหยุดร้านค้าจะไม่ค่อยเปิด ที่เปิดส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารค่ะ
** 1.ที่จอดรถเมืองนี้หายากค่ะ
2. เราไปตรงกับวันหยุด(วันแรงงาน) Supermarket ปิดหมดค่ะ
3. ก่อนเข้า Austria ต้องซื้อ สติกเก้อ (toll ticket ) ภาษาเขาคือ (Vignette วิงเง็ต) ด้วยนะคะ ราคา ประมาณ 9 ยูโร สำหรับ 10 วัน เป็นจำนวนวันต่ำสุดที่มีค่ะ จำเป๊ะๆ ไม่ได้ค่ะ ซื้อได้ที่ปั๊มน้ำมันที่ชายแดนเยอรมัน ก่อนเข้า Austria ค่ะ

Day 4 Vienna-Bratislava-Budapest (80+201 km)
ออกจากที่พักประมาณ 8.15 น. ไป Bratislava (ความเห็นส่วนตัวเรานะ ไม่ต้องแวะก็ได้ถ้ารีบ) เข้า สโลวาเกีย ก็ต้องเสียค่า ผ่านทางอีก อันนี้ ต้องลงไปซื้อ เป็นตู้ขายที่ชายแดนเลค่ะ หรือจะซื้อ ออนไลน์ มาก็ได้นะคะ ไม่ได้มีขายตามปั๊ม เหมือน เยอรมัน-ออสเตรีย นะคะ ต่อคิวนานอยู่ ที่สำคัญคือ ต้องใช้บัตรเครดิต แล้วบัตรของเราใช้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องมาเรียก ออกจากแถวไปทำให้
ประมาณ 11.00 ออกจาก Bratislava มุ่งตรงสู่ Budapest ถึง Budapest บ่ายๆ เรารีบขับขึ้นไปที่ Fishman’s Bastion ก่อนเพื่อเห็น Parliament จากมุมสูง เลยจากนั้นก็ค่อยเดินลงมาที่ Buda Castle ให้ผู้ที่แข็งแรงกลับขึ้นมาเอารถ แล้ววนมารับ ไปเดินเล่นในเมือง (Heroes’ square) ไปแวะ Tesco ซื้อของกิน เป็นห้างที่ใหญ่มาก จากนั้นก็เข้าที่พัก ทำไรกินกัน ออกมาเดินเล่นนิดหน่อย
** ตอนเรามาถึง Budapest เจ้าหน้าที่ๆที่พัก ตกใจมากที่เห็นรถเราเป็นทะเบียนเยอรมัน เขาบอกว่าเรามาใกล้มาก และคนเยอรมันไม่ค่อยมาที่นี่
** ค่าใช้จ่าย ที่พัก ของกิน ในประเทศฮังการี ถูกชัดเจนค่ะ คือถูกเมื่อเที่ยบกับ เยอรมัน ออสเตรีย นะคะ
**เราไปแลกเงิน Hungary ที่โน่นค่ะ ใช้ไม่เยอะค่ะ เหลือเท่าไหร่ เอาไปเดิมน้ำมันหมดค่ะ

Day 5 Budapest-Zagreb (Croatia) 343 km.
เจ้าของห้องที่ Budapest ทำท่าตกใจมากเมื่อรู้ว่าเราจะไป Zagreb อารมณ์ว่าจะไปทำไม ออกจาก Budapest 8.30 ไปตลาด Farmer market ก่อน อารมณ์ ประมาณตลาดสดใหญ่ๆสะอาดๆ บ้านเรา วันนี้เป็นวันนึงที่เรากังวลมาก เพราะว่าต้องข้ามแดนเข้า Croatia ขับไปเรื่อยๆ รถน้อยลงเรื่อยๆ เหมือนถนนร้างเลย ร้างมากจริงๆ พอถึงด่าน เมืองนี้ไม่ต้องซื้อ Toll Tickets ต้องตรวจ Passport และสมุดคู่ทะเบียน ไม่ต้องลงจากรถนะคะ เป็นเหมือนด่านทางด่วน เป็นช่องๆ แต่ไม่มีรถเลยยจริงๆ พอเราส่ง Passport ให้ไป เขาก็ดูๆแล้วขอเอกสารเพิ่ม ใบขับขี่ , ใบแสดงการเป็นเจ้าของรถ (รถเช่าเขาใส่ไว้ให้ในลิ้นชักหน้ารถค่ะ), ใบเสร็จเช่ารถค่ะ แต่ไม่ได้ตรวจท้ายรถตรวจของอะไรเลยนะคะ แล้วก็นเรียกเพื่อนมาดู Passport กันค่ะ สักพักก็ Stamp ให้ ไม่ต้องลงจากรถเลยค่ะ
ประเทศนี้ใช้จ่ายค่าทางด่วน เป็นด่านๆ ไปค่ะ
เข้าเมือง Zagreb (เมืองนี้ของกิน ผลไม้ ราคาถูกนะคะ ของที่เอาไป เอาไว้ไปกินที่เมืองอื่นนะคะ เพื่อที่นี่ถูกมากแล้วเมือเทียบกับ เยอรมัน ออสเตรีย) วันนี้ไปเข้าที่พักก่อนเลยค่ะ กลัวหาไม่เจอเลยหาแต่เนิ่นๆ ก่อน ลิฟท์ ที่นี่แปลดีนะคะ PR แปลว่า ชั้น G ค่ะ แล้วจะมี PS อีก ไม่รู้ว่าย่อมาจากอะไร ได้ที่พักอยู่ใน Square กลางเมืองเลย ลำบากหน่อยเรื่องที่จอดรถ ที่จอดไกลมาก ต้องเอาของลงก่อนค่ะ ประเทศแถวนี้แปลกดี ห้องพักดีมาก แต่ลิฟท์ แย่มากๆๆ ตั้งแต่ Vienna Budapest Zagreb ลิฟท์ แย่มาก จริงๆ
เดินเล่นในเมือง ขึ้นรถรางไปดูโบสถ์ กินผลไม้ สตอเบรี่ เชอรี่ ควรกินนะคะ ที่นี่ร้านรองเท้าเยอะมากแต่ราคาไม่เร้าใจเลยค่ะ เข้าที่พัก ทำไรกินกัน
** เงินไม่ต้องเตรียมไป ไปแลกที่โน่นค่ะ ในเมืองก็ได้ แต่ถ้าเป็นด่านแรกที่เข้าไปเขาเป็นเจ้าหน้าที่ให้จ่ายเป็นยูโร ได้

Day 6 Zagreb-Plivice-Zadar
ตอนเช้าเดินตลาดเช้าที่ Zagreb ใกล้ๆ ที่พัก (ตรง Square พอดีค่ะ) ซื้อผลไม้เตรียมเดินทาง รีบออกไป Plivice เมื่อถึง Plivice เราเลือกทางเข้า 2 ค่ะ ดูจากแผนที่มาแล้วว่า เดินน้อยสุด เสียดายที่ฝนตก เจ้าหน้าที่บอกว่า ตกมาเป็นเดือนแล้ว และพยากรณ์ อากาศว่ายังตกต่อไป อีกหลายวัน บางเส้นทางเดินไม่ได้ค่ะ แต่ที่โกรธคือ ไม่ได้บอกว่าเส้นทางเราเดินไม่ได้ นะคะ พอไปถึงน้ำท่วมทางเนื่องจากน้ำเยอะมาก จึงต้องเดินอ้อม ซึ่งอ้อมไกลและสูงมาก พ่อ แม่ เราเกือบ ไม่ไหว ค่ะ เล่นเอาแย่เหมือนกัน อาหารบนนั้น หลักๆ ก็เป็นไก่ นะคะ ก็พอได้อยู่
ออกมาบ่าย 3 รีบ ซิ่งต่อไป Zadar ที่พักที่นี่ติดทะเลเลยค่ะ อากาศดีมาก ไม่น่าเชื่อว่าออกมา ร้อยกว่าโล อากาศจะ ปป ขนาดนี้ เหมือนภูเขาที่ Plivitce จะเก็บ เมฆฝนไว้เลยค่ะ
**ผู้คนที่เราเจอพูดภาษาอังกฤษ ได้แย่ระดับแย่มาก ต้องใช้ภาษาใบ้กัน แต่เป็นมิตรดีนะคะ พยายามสื่อสารมาก เหมือนไปญี่ปุ่นเลย
Day 7 Zadar-Split (night cruise to Ancona Italy)
วันนี้ออกสายหน่อยเนื่องจากเหนื่อยกันมาหลายวัน ออกจากที่พักประมาณ 10.00 น. ค่ะ เนื่องจากโดนคนจอดรถปิดหน้าไว้ด้วยค่ะ ตอนแรกว่าจะแวะ Sebenik, Trogir แต่พอเอาเข้าจริงๆ แวะได้แค่ Sibenik เท่านั้นเอง เพราะเวลาไม่พอ กว่าจะถึง Sibenik ก็ เที่ยงกว่าๆ แล้วค่ะ แวะกินข้าง แล้วตรงเข้า Split เดินชมเมือง Split อากาศดีมาก ออกจะร้อนสักหน่อยด้วยค่ะ ไปนั่งที่ร้านกาแฟ คนเสริฟถามว่าเป็นคนไทย ใช่มั๊ย (ถามเป็นภาษาอังกฤษนะ) เราตอบไปว่าทำไมรู้ เพราะเราคิดว่าหน้าเราเหมือนคนจีน 555 เขาตอบมาว่าที่นี่ไม่มีคนจีน มีแต่เกาหลีเป็นส่วนมาก ญี่ปุ่นนิดนึง แล้วก็คนไทย เราเลยมาสังเกตุดูว่าจริงๆด้วยที่นี่ไม่มีคนจีน555
เดินเล่นสักพักก็ขับรถไปที่ท่าเรือใกล้กับเมืองมากๆ เราว่าเดินได้เลยแต่พอดีวันนี้เราต้องเอารถขึ้นเรือไปด้วย
เราซื้อตั๋วเรือยี่ห้อ SNAV มาจากประเทศไทย เราจอง 2 ห้อง สำหรับ 5 คน (ห้อง 4คน กับห้อง 2คน) แบบมีหน้าต่าง กับรถอีก 1 คัน ราคาประมาณ 460 ยูโร พอถึงท่าเรือเราก็วิ่งไปหาเค้าเตอร์ เช็คอิน ของ SNAV ค่ะ (เราแอบชอบเรือของอีกยี่ห้อนึงมากกว่า jadrolinija ถูกกว่าด้วยตอนที่เราจะจอง แต่เรากลัวก็เลยซื้อราคาแพง) เข้าไปเช็คอินขอดู Passport ทุกคน และใบทะเบียนรถค่ะ บริษัทรถเช่าใส่ไว้ให้ด้านหน้าลิ้นชักค่ะ (ไม่ต้องแสดงตัวทุกคนค่ะ) แล้วก็แจ้งว่าใครเป็นคนขับ แล้วเขาก็จะให้ boarding pass แบบขึ้นเครื่องบินเลย แต่คนขับจะมี 2 ใบค่ะ ตอนส่ง Passport ไปให้เจ้าหน้าที่ SNAV เขาเรียนเพื่อนมาดูกันใหญ่เลย แบบว่าไม่ได้สนใจว่าเรารออยู่ ตอนหลังถึงมาบอกว่าเพื่อนเขากำลังจะมาที่ประเทศไทยค่ะ ขอดีของ SNAV คือ เรือลำใหญ่กว่า Jadrolinija ค่ะ แต่เราว่าถ้าจะซื้อ ซื้อ Jadro เถอะค่ะ เค้าเต้อร์ เช็คอิน ก็ไฮโซกว่า มีที่นั่งรอด้วย (ประมาณ Lounge)
พอได้ Boarding pass มาก็กลับมาที่รถที่ต่อคิวอยู่เพื่อขึ้นเรือค่ะ เรือ ออก 20.00 เขาให้รถเริ่มขึ้นเรือประมาณ 17.20 ค่ะ ก่อนรถจะขึ้นเรือต้องตรวจคนออกเมืองค่ะ ตรวจกันในรถเลย ตม. นั่งอยู่ในตู้เหมือนช่องเก็บเงินทางด่วน แล้วตรวจพวกเรานานมากๆ ประมาณ 10 นาทีได้ จนเจ้าหน้าที่ท่านอื่น เรียกรถที่ต่อหลังเราให้ไปต่อแถวอื่นค่ะ พอเสร็จก็ปั๊มให้เป็นรูปเรือว่าเดินทางออกจาก Split ในเรือมี 9 ชั้นค่ะ เราได้ห้องพักวางของเสร็จก็ออกไปชมวิวที่ดาดฟ้าก่อน ในเรือไม่ค่อยมีอะไรให้นะคะ เราเตรียมอาหารมากิน แล้วไปนั่งกินเครื่องดื่มที่บาร์ค่ะ
** ตอนจองเรือเขาให้เรากรอก ทะเบียนรถไปแต่เราเป็นรถเช่า เราก็เลยกรอกในช่องที่ให้ใส่ทะเบียนว่า Rental car ค่ะ ระบบก็ให้ผ่านนะคะ ส่วนรุ่นรถเราใส่รุ่นรถที่เช่าไป (ตอนได้รถได้คนละรุ่น แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ)
[CR] เที่ยวยุโรปเวลาน้อย เยอรมัน ออสเตรีย สโลวาเกีย ฮังการี โครเอเชีย อิตาลี ซานมาริโน สวิส 11 วัน ตอนแรก
เราเที่ยวไม่เจาะลึกนะคะ เนื่องจาก ผู้ร่วมเดินทางมี 5 คน ค่ะ เป็นผู้สูงอายุมาก 3 ท่าน (73-75 ปี) เดินเยอะไม่ได้, เข้าห้องน้ำบ่อย, กินอาหารต้องตรงเวลา ...
อย่างบางสถานที่ๆเคยไปแล้วเราก็ไม่เข้าซ้ำ (ประหยัดตังค์ค่ะ) เช่น นูเริมเบริก, พระราชวังเชินบรุนน์....
- เดินทางวันที่ 29 เมษายน เครื่องออกประมาณ 00.05น. ถึงที่ Frankfurt ประมาณ 7.00 น เพื่อนร่วมทางเต็มลำค่ะ เพราะเป็นช่วงหยุดยาว (ลางานน้อยได้วันหยุดเยอะ)
Day 1 Frankfurt (เดินเล่นในเมือง)
เครื่องลงประมาณ 7.00 น. ออกมาแล้วเอากระเป๋าเข้า รร. แถวสนามบิน กว่าจะเสร็จก็ประมาณ 9.30 น. จากนั้นลงไปที่สถานีรถไฟในสนามบิน เพื่อซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง ไปลงสถานี Hauptwache จากนั้นก็เดินเที่ยวในเมืองไปเรื่อยๆ จนถึงสถานี Hauptbahnhof นั่งรถไปกลับมาที่สนามบินเพื่อกลับ รร.
** 1. ถ้ามาหลายๆคน (ไม่เกิน 5 คน อย่าลืมซื้อตั๋วกรุ๊ปนะคะ)
2. มี Supermarket ใต้ รร. Sheraton airport ราคาดีใช้ได้เลยค่ะ มีผัก ผลไม้ด้วย
ที่เราเลือก รร. แถวสนามบิน เพราะเรานัดรับรถที่สนามบินค่ะ
ตอนเช้าเดินไปเอารถที่สนามบินค่ะ เราใช้บริการของ Sixt อย่าลืมเอาใบขับขี่สากล (ทำที่ขนส่ง) และใบขับขี่ไทยด้วยนะคะ *ห้าม! ลืมเด็ดขาด เพราะถ้าไม่มีเราจะเช่ารถไม่ได้ค่ะ (จะเป็นแบบเก่าหรือใหม่ อย่างไรเขาไม่สนใจนะคะ ภาษาไทยทั้งหมดเลยก็ไม่สนใจค่ะ) เราไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นใบขับขี่ เพราะมีแต่ภาษาไทย
เราใช้ Ford S max (Sixt เขาจะแบ่งเป็นโซนค่ะ ถ้าไปบางประเทศ จะเอา Mercedess หรือ Volk ไปไม่ได้ค่ะ)
Day 2 Frankfurt-Regensburg ระยะทาง 327 km.
ออกจากรร. สนามบิน ไปเอารถ แวะ shopping ที่ Wertheim outlet มีร้านอะไรบ้างดูได้ในเว็บไซด์ เสียหายหลายอยู่ค่ะ สำหรับที่นี่ จากนั้นมุ่งตรงสู่ Regensburg เลยค่ะ เนื่องจากเราช็อปเพลิดเพลินไปหน่อย เลยไม่ได้แวะ Nuremburg ค่ะ เดินชมเมือง Regensburg เสียดายช่วงที่ไปสะพาน Stone Bridge ปิดซ่อมพอดี ประมาณทุ่มนึงก็เข้าที่พัก เราออกมาพักนอกเมืองนิดนึงค่ะ
** รถคันนี้อาจจะแคบไปสักหน่อยแต่เราไม่กล้าขับรถที่คันใหญ่กว่านี้ค่ะ ห้ามเอากระเป๋าใบโตๆไปนะคะวางไม่พอค่ะ
Day 3 Regensburg-Vienna ระยะทาง 397 km.
วันนี้เดินทางไกลสักหน่อย เนื่องจากจริงๆ เมื่อวานจะมาให้ได้ไกลกว่า Regensburg แต่กลัวว่าหจะขับไม่ไหวเนื่องจากเป็นการขับรถวันแรก วันนี้เลยวิ่งยาวตรงถึง Vienna เลย ไม่ได้แวะที่เมื่องอื่นเลย เนื่องจากทุกคนในทริปเคยไปกันมาแล้ว (Salzburg, Innsbruck, Hallstatt, Obertraun…) ก็เลยขับตรงเลยค่ะ ระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำตามปั๊ม ค่าเข้าประมาณ 0.50-0.70 ยูโร แต่จะได้เป็นคูปองออกมาใช้ไปซื้อของที่ supermarket ในปั๊มได้ค่ะของกินก็กินไปเรื่อยๆ ตามปั๊มค่ะ
ถึงเวียนนาตอนบ่ายๆ เดินเล่นในเมือง ประมาณ 1 ทุ่มเข้าที่พักค่ะ วันนี้แย่หน่อยเนื่องจากเป็นวันหยุดร้านค้าจะไม่ค่อยเปิด ที่เปิดส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารค่ะ
** 1.ที่จอดรถเมืองนี้หายากค่ะ
2. เราไปตรงกับวันหยุด(วันแรงงาน) Supermarket ปิดหมดค่ะ
3. ก่อนเข้า Austria ต้องซื้อ สติกเก้อ (toll ticket ) ภาษาเขาคือ (Vignette วิงเง็ต) ด้วยนะคะ ราคา ประมาณ 9 ยูโร สำหรับ 10 วัน เป็นจำนวนวันต่ำสุดที่มีค่ะ จำเป๊ะๆ ไม่ได้ค่ะ ซื้อได้ที่ปั๊มน้ำมันที่ชายแดนเยอรมัน ก่อนเข้า Austria ค่ะ
Day 4 Vienna-Bratislava-Budapest (80+201 km)
ออกจากที่พักประมาณ 8.15 น. ไป Bratislava (ความเห็นส่วนตัวเรานะ ไม่ต้องแวะก็ได้ถ้ารีบ) เข้า สโลวาเกีย ก็ต้องเสียค่า ผ่านทางอีก อันนี้ ต้องลงไปซื้อ เป็นตู้ขายที่ชายแดนเลค่ะ หรือจะซื้อ ออนไลน์ มาก็ได้นะคะ ไม่ได้มีขายตามปั๊ม เหมือน เยอรมัน-ออสเตรีย นะคะ ต่อคิวนานอยู่ ที่สำคัญคือ ต้องใช้บัตรเครดิต แล้วบัตรของเราใช้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องมาเรียก ออกจากแถวไปทำให้
ประมาณ 11.00 ออกจาก Bratislava มุ่งตรงสู่ Budapest ถึง Budapest บ่ายๆ เรารีบขับขึ้นไปที่ Fishman’s Bastion ก่อนเพื่อเห็น Parliament จากมุมสูง เลยจากนั้นก็ค่อยเดินลงมาที่ Buda Castle ให้ผู้ที่แข็งแรงกลับขึ้นมาเอารถ แล้ววนมารับ ไปเดินเล่นในเมือง (Heroes’ square) ไปแวะ Tesco ซื้อของกิน เป็นห้างที่ใหญ่มาก จากนั้นก็เข้าที่พัก ทำไรกินกัน ออกมาเดินเล่นนิดหน่อย
** ตอนเรามาถึง Budapest เจ้าหน้าที่ๆที่พัก ตกใจมากที่เห็นรถเราเป็นทะเบียนเยอรมัน เขาบอกว่าเรามาใกล้มาก และคนเยอรมันไม่ค่อยมาที่นี่
** ค่าใช้จ่าย ที่พัก ของกิน ในประเทศฮังการี ถูกชัดเจนค่ะ คือถูกเมื่อเที่ยบกับ เยอรมัน ออสเตรีย นะคะ
**เราไปแลกเงิน Hungary ที่โน่นค่ะ ใช้ไม่เยอะค่ะ เหลือเท่าไหร่ เอาไปเดิมน้ำมันหมดค่ะ
Day 5 Budapest-Zagreb (Croatia) 343 km.
เจ้าของห้องที่ Budapest ทำท่าตกใจมากเมื่อรู้ว่าเราจะไป Zagreb อารมณ์ว่าจะไปทำไม ออกจาก Budapest 8.30 ไปตลาด Farmer market ก่อน อารมณ์ ประมาณตลาดสดใหญ่ๆสะอาดๆ บ้านเรา วันนี้เป็นวันนึงที่เรากังวลมาก เพราะว่าต้องข้ามแดนเข้า Croatia ขับไปเรื่อยๆ รถน้อยลงเรื่อยๆ เหมือนถนนร้างเลย ร้างมากจริงๆ พอถึงด่าน เมืองนี้ไม่ต้องซื้อ Toll Tickets ต้องตรวจ Passport และสมุดคู่ทะเบียน ไม่ต้องลงจากรถนะคะ เป็นเหมือนด่านทางด่วน เป็นช่องๆ แต่ไม่มีรถเลยยจริงๆ พอเราส่ง Passport ให้ไป เขาก็ดูๆแล้วขอเอกสารเพิ่ม ใบขับขี่ , ใบแสดงการเป็นเจ้าของรถ (รถเช่าเขาใส่ไว้ให้ในลิ้นชักหน้ารถค่ะ), ใบเสร็จเช่ารถค่ะ แต่ไม่ได้ตรวจท้ายรถตรวจของอะไรเลยนะคะ แล้วก็นเรียกเพื่อนมาดู Passport กันค่ะ สักพักก็ Stamp ให้ ไม่ต้องลงจากรถเลยค่ะ
ประเทศนี้ใช้จ่ายค่าทางด่วน เป็นด่านๆ ไปค่ะ
เข้าเมือง Zagreb (เมืองนี้ของกิน ผลไม้ ราคาถูกนะคะ ของที่เอาไป เอาไว้ไปกินที่เมืองอื่นนะคะ เพื่อที่นี่ถูกมากแล้วเมือเทียบกับ เยอรมัน ออสเตรีย) วันนี้ไปเข้าที่พักก่อนเลยค่ะ กลัวหาไม่เจอเลยหาแต่เนิ่นๆ ก่อน ลิฟท์ ที่นี่แปลดีนะคะ PR แปลว่า ชั้น G ค่ะ แล้วจะมี PS อีก ไม่รู้ว่าย่อมาจากอะไร ได้ที่พักอยู่ใน Square กลางเมืองเลย ลำบากหน่อยเรื่องที่จอดรถ ที่จอดไกลมาก ต้องเอาของลงก่อนค่ะ ประเทศแถวนี้แปลกดี ห้องพักดีมาก แต่ลิฟท์ แย่มากๆๆ ตั้งแต่ Vienna Budapest Zagreb ลิฟท์ แย่มาก จริงๆ
เดินเล่นในเมือง ขึ้นรถรางไปดูโบสถ์ กินผลไม้ สตอเบรี่ เชอรี่ ควรกินนะคะ ที่นี่ร้านรองเท้าเยอะมากแต่ราคาไม่เร้าใจเลยค่ะ เข้าที่พัก ทำไรกินกัน
** เงินไม่ต้องเตรียมไป ไปแลกที่โน่นค่ะ ในเมืองก็ได้ แต่ถ้าเป็นด่านแรกที่เข้าไปเขาเป็นเจ้าหน้าที่ให้จ่ายเป็นยูโร ได้
Day 6 Zagreb-Plivice-Zadar
ตอนเช้าเดินตลาดเช้าที่ Zagreb ใกล้ๆ ที่พัก (ตรง Square พอดีค่ะ) ซื้อผลไม้เตรียมเดินทาง รีบออกไป Plivice เมื่อถึง Plivice เราเลือกทางเข้า 2 ค่ะ ดูจากแผนที่มาแล้วว่า เดินน้อยสุด เสียดายที่ฝนตก เจ้าหน้าที่บอกว่า ตกมาเป็นเดือนแล้ว และพยากรณ์ อากาศว่ายังตกต่อไป อีกหลายวัน บางเส้นทางเดินไม่ได้ค่ะ แต่ที่โกรธคือ ไม่ได้บอกว่าเส้นทางเราเดินไม่ได้ นะคะ พอไปถึงน้ำท่วมทางเนื่องจากน้ำเยอะมาก จึงต้องเดินอ้อม ซึ่งอ้อมไกลและสูงมาก พ่อ แม่ เราเกือบ ไม่ไหว ค่ะ เล่นเอาแย่เหมือนกัน อาหารบนนั้น หลักๆ ก็เป็นไก่ นะคะ ก็พอได้อยู่
ออกมาบ่าย 3 รีบ ซิ่งต่อไป Zadar ที่พักที่นี่ติดทะเลเลยค่ะ อากาศดีมาก ไม่น่าเชื่อว่าออกมา ร้อยกว่าโล อากาศจะ ปป ขนาดนี้ เหมือนภูเขาที่ Plivitce จะเก็บ เมฆฝนไว้เลยค่ะ
**ผู้คนที่เราเจอพูดภาษาอังกฤษ ได้แย่ระดับแย่มาก ต้องใช้ภาษาใบ้กัน แต่เป็นมิตรดีนะคะ พยายามสื่อสารมาก เหมือนไปญี่ปุ่นเลย
Day 7 Zadar-Split (night cruise to Ancona Italy)
วันนี้ออกสายหน่อยเนื่องจากเหนื่อยกันมาหลายวัน ออกจากที่พักประมาณ 10.00 น. ค่ะ เนื่องจากโดนคนจอดรถปิดหน้าไว้ด้วยค่ะ ตอนแรกว่าจะแวะ Sebenik, Trogir แต่พอเอาเข้าจริงๆ แวะได้แค่ Sibenik เท่านั้นเอง เพราะเวลาไม่พอ กว่าจะถึง Sibenik ก็ เที่ยงกว่าๆ แล้วค่ะ แวะกินข้าง แล้วตรงเข้า Split เดินชมเมือง Split อากาศดีมาก ออกจะร้อนสักหน่อยด้วยค่ะ ไปนั่งที่ร้านกาแฟ คนเสริฟถามว่าเป็นคนไทย ใช่มั๊ย (ถามเป็นภาษาอังกฤษนะ) เราตอบไปว่าทำไมรู้ เพราะเราคิดว่าหน้าเราเหมือนคนจีน 555 เขาตอบมาว่าที่นี่ไม่มีคนจีน มีแต่เกาหลีเป็นส่วนมาก ญี่ปุ่นนิดนึง แล้วก็คนไทย เราเลยมาสังเกตุดูว่าจริงๆด้วยที่นี่ไม่มีคนจีน555
เดินเล่นสักพักก็ขับรถไปที่ท่าเรือใกล้กับเมืองมากๆ เราว่าเดินได้เลยแต่พอดีวันนี้เราต้องเอารถขึ้นเรือไปด้วย
เราซื้อตั๋วเรือยี่ห้อ SNAV มาจากประเทศไทย เราจอง 2 ห้อง สำหรับ 5 คน (ห้อง 4คน กับห้อง 2คน) แบบมีหน้าต่าง กับรถอีก 1 คัน ราคาประมาณ 460 ยูโร พอถึงท่าเรือเราก็วิ่งไปหาเค้าเตอร์ เช็คอิน ของ SNAV ค่ะ (เราแอบชอบเรือของอีกยี่ห้อนึงมากกว่า jadrolinija ถูกกว่าด้วยตอนที่เราจะจอง แต่เรากลัวก็เลยซื้อราคาแพง) เข้าไปเช็คอินขอดู Passport ทุกคน และใบทะเบียนรถค่ะ บริษัทรถเช่าใส่ไว้ให้ด้านหน้าลิ้นชักค่ะ (ไม่ต้องแสดงตัวทุกคนค่ะ) แล้วก็แจ้งว่าใครเป็นคนขับ แล้วเขาก็จะให้ boarding pass แบบขึ้นเครื่องบินเลย แต่คนขับจะมี 2 ใบค่ะ ตอนส่ง Passport ไปให้เจ้าหน้าที่ SNAV เขาเรียนเพื่อนมาดูกันใหญ่เลย แบบว่าไม่ได้สนใจว่าเรารออยู่ ตอนหลังถึงมาบอกว่าเพื่อนเขากำลังจะมาที่ประเทศไทยค่ะ ขอดีของ SNAV คือ เรือลำใหญ่กว่า Jadrolinija ค่ะ แต่เราว่าถ้าจะซื้อ ซื้อ Jadro เถอะค่ะ เค้าเต้อร์ เช็คอิน ก็ไฮโซกว่า มีที่นั่งรอด้วย (ประมาณ Lounge)
พอได้ Boarding pass มาก็กลับมาที่รถที่ต่อคิวอยู่เพื่อขึ้นเรือค่ะ เรือ ออก 20.00 เขาให้รถเริ่มขึ้นเรือประมาณ 17.20 ค่ะ ก่อนรถจะขึ้นเรือต้องตรวจคนออกเมืองค่ะ ตรวจกันในรถเลย ตม. นั่งอยู่ในตู้เหมือนช่องเก็บเงินทางด่วน แล้วตรวจพวกเรานานมากๆ ประมาณ 10 นาทีได้ จนเจ้าหน้าที่ท่านอื่น เรียกรถที่ต่อหลังเราให้ไปต่อแถวอื่นค่ะ พอเสร็จก็ปั๊มให้เป็นรูปเรือว่าเดินทางออกจาก Split ในเรือมี 9 ชั้นค่ะ เราได้ห้องพักวางของเสร็จก็ออกไปชมวิวที่ดาดฟ้าก่อน ในเรือไม่ค่อยมีอะไรให้นะคะ เราเตรียมอาหารมากิน แล้วไปนั่งกินเครื่องดื่มที่บาร์ค่ะ
** ตอนจองเรือเขาให้เรากรอก ทะเบียนรถไปแต่เราเป็นรถเช่า เราก็เลยกรอกในช่องที่ให้ใส่ทะเบียนว่า Rental car ค่ะ ระบบก็ให้ผ่านนะคะ ส่วนรุ่นรถเราใส่รุ่นรถที่เช่าไป (ตอนได้รถได้คนละรุ่น แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ)