สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อน เราเป็นคนนึงที่ชอบเรื่องสกินแคร์มากม๊ากกกก คือแบบอยู่ด้วยได้ทั้งวัน
เนื่องจากเราเป็นคนพื้นฐานผิวไม่ได้ดีค่ะ กลางๆ เห็นคนหน้าใสๆแล้วมีความอิจฉาเบราๆ ว่าถ้าฉันผิวดีขึ้น มันคงดีกว่านี้
เราเริ่มจากการหาข้อมูลค่ะ ซึ่ง เวปไทยส่วนใหญ่มีแต่ข้อมูลจากเวปขายของ เราต้องการอะไรที่เป็น Fact กว่านั้น
เลยลองศึกษา Study และเวปบอร์ดของฝรั่งดู วันนี้ว่างๆเลยอยากมาแชร์เป็นตัวเลือกในการเลือกสกินแคร์มาใช้
ซึ่งเราหวังว่ากระทู้ของเราจะมีประโยชน์กับใครบ้างนะคะ
หลังจากการศึกษาเราค้นพบว่า สิว มาจากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน การล้างหน้าไม่สะอาด หรือผิวที่ไม่แข็งแรง
มาเริ่มจากการปฏิบัติตัวก่อนค่ะ ทุกๆวันเวลาเราไปทำงานและแต่งหน้า เราจะต้องล้างเครื่องสำอางค์ออกให้สะอาดหมดจด
ซึ่งคลีนซิ่งที่เราใช้ มีทั้งแบบเป็นน้ำมันธรรมชาติ และ ไม่ใช่น้ำมันค่ะ
ขั้นตอนที่1 ล้างเครื่องสำอางค์
ในส่วนของน้ำมันธรรมชาติ เราใช้ JOJOBA OIL ซึ่งตัวนี้มีราคาแพงค่อนข้างมาก และเกาะติดผิวหนังพอสมควร ดังนั้นต้องล้างให้สะอาดค่ะ
เวลาใช้เราจะเทใส่มือประมาณเหริยญบาทสองเหรียญ ๕๕๕ พอกะกันได้ไหมคะ จากนั้นใช้นิ้วมือเรานี่แหละค่ะ นวดวนไปอย่างเบามือนะคะ
เน้นไปยังจุดที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำมันจะกลายเป็นน้ำนมโดยธรรมชาติ โดยเราเดาเอาว่าในตัวโจโจ้บาน่าจะมีสารอิมัลซิไฟเออร์จากธรรมชาติทำให้มันเข้ากับน้ำค่ะเลยกลายเป็นน้ำสีขาวๆ และจากนั้นเราเอาสำลีเช็ด หลังจากล้างน้ำเปล่า ๑ รอบ เพื่อลดความมัน
และตามด้วยการล้างหน้า ซึ่งเราจะพูดถึงเป็นเรื่องต่อไป
คลีนซิ่งอีกแบบที่เราใช้คือ แบบที่เป็นเจลค่ะ เราใช้ของ Softymo Speedy Cleansing Liquid ตั้งแต่ใช้มาเราว่าอันนี้ดีสุดแล้วค่ะ ถูกด้วย
นวดๆๆให้ทั่วแล้วใช้ทิชชู่เช็ดหน้าเช็ด แล้วตามด้วย สำลี หยดเบบี้ออยล์เช็ดรอบดวงตาและปาก และตามด้วยการล้างหน้า
ขั้นตอนที่ 2 การล้างหน้า
เราติดการใช้โฟม ยี่ห้อต่างๆอยู่นานเลยค่ะ จนได้มาเจอหนังสือเล่มนึง ชื่อ ผิวสวยใส ไม่ต้องพึ่งครีมบำรุง เนื้อหาในเล่มก็เป็นการดำรงชีวิตแบบไม่ใช้สกินแคร์ เพื่อผิวที่ดี แต่ แต่แต่ เราไปสะดุดอยู่หัวข้อหนึ่งค่ะ คือสบู่ที่เรียกว่า PURE SOAP คนไทยอาจจะยังไม่รู้จักกันมาก แต่มีการทำแบรนด์ออกมาจริงจังนานแล้วที่ญี่ปุ่น เพียวโซป เนี่ยก้อตรงตัวเลยค่ะ คือสบู่ที่ผ่านการทำเป็นสบู่ คือเอาน้ำมันไปผสมกับด่าง โดยไม่ใส่อะไรเพิ่มเลย สี น้ำหอม สารสกัด
เขาให้เหตุผลว่าการใส่สิ่งอื่นลงไปทำให้ลดประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของสบู่ค่ะ เราอยากได้มากก เลยไปเรียนเลยค่ะ สบู่ทำมือ 5555 เรียนกับมือหนึ่งของเมืองไทยเลย ดีใจมาก ตอนนี้เลยทำใช้เองค่ะ ใช้น้ำมันมะกอก ผสมมะพร้าว แค่สองอย่าง วิธีการทำลองหาได้ตามเวปบอร์ดนะคะ พิมพ์เยอะเดี๋ยวจะนอกประเด็นค่ะ ๕๕๕ ซึ่งมันทำให้ผิวเราดีขึ้นมากจริงๆ เนื่องจากสบู่ทำมือจะมีกลีเซอรีนจากธรรมชาติ ซึ่งถูกสกัดออกไปขายจากสบู่ก้อนทั่วไปค่ะ ทำให้ตัวนี้ล้างแล้วผิวชุ่มชื้นกว่า และ ดีกับผิวมากกว่า
ขั้นตอนที่ 3 มาถึงในเรื่องของสกินแคร์ค่ะ พื้นฐานคือ ผิวเราต้องแข็งแรงก่อนถึงจะรับการดูแลได้ดีนะคะ ตรงนี้เราไม่ขอพูดถึงเพราะเรา DIY เองอีกแล้วค่ะ
มาพูดถึงในเรื่องสารสกัดที่เราศึกษามา ว่าสามารถใช้ทดแทนยา ได้บางส่วนกันดีกว่า เผื่อใครเบื่อการใช้ยาค่ะ
ตัวแรก BHA (Beta Hydroxy Acid) อันนี้หลายๆคนคงรู้จักกันดีจากแบรนด์ของป้าพอลล่า ซึ่งบีเอชเอมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว แบบทะลุรูขุมขน ทำให้ช่วยลดสิวอุดตัน อะไรแบบนี้ได้ค่ะ แต่ ข้อเสียของมันคือ ความสเถียรของมันค่อนข้างต่ำ ทำให้บางทีใช้แล้วมีอาการผิวลอก อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีพัฒนาเสมอ ได้ยินว่าตอนนี้ป้าพอลล่าก็ใช้ BHA Encapsulated หรือ นำมาห่อหุ้มด้วยแคปซูล ซึ่งแคปซูลมีความเข้ากับผิวมากกว่า และ ช่วยปลดปล่อยการออกฤทธิ์ทีละน้อย ลดการระคายเคืองได้ค่ะ
ตัวที่ 2 Tea Tree Oil ตัวฮิตตัวฮอตอีกแล้วววว เนื่องจากมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ และ ลดรอยแดงในตัวเดียวกัน เราเคยอ่านเจอว่า 5% Tea Tree Oil = 5% BP (ฺเบนโซอิลเพอร็อกไซด์) อย่างไรก็ตามเราคิดว่าตัวนี้ไม่ควรใช้เพียวๆนะคะ เนื่องจากการเกิดการระคายเคืองค่อนข้างสูง แล้วเรากะไม่ได้ว่าเท่าไหนคือ 5% แถมตัวนี้ถ้าทาแล้วไปโดนแดดนี่ ไหม้จ้า และห้ามนำมากินโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นพิษ ดังนั้น เลือกใช้กันอย่างระมัดระวังนะคะ
ตัวที่ 3 Vitamim B3 หรือ ไนอาซินาไมด์ อ่านเจอมาว่า Niacinamide 4% = Clindamycin 1% แถมยังช่วยให้ขาว และ รักษาความชุ่มชื้นบนผิวหนังด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ควรซื้อมาทาเพียวอีกแล้ว นอกจากการกะปริมาณที่ค่อนข้างยาก ตัวนี้แบบเพียว มักมีสารกันบูดผสมมาอยู่แล้ว เมื่อนำมาผสมครีมหรือทาบนหน้าตรงๆ เราว่ามันไม่โอ เลือกสกินแคร์ที่มีตัวนี้อยู่ในปริมาณนึงน่าจะโอเคกว่า และตัวนี้นะ สำคัญมาก ห้ามใส่ในครีมที่มีฤทธิ์เป็นกรด เนื่องจากมันจะทำปฏิกิริยากัน ทำให้เสื่อมสภาพกลายเป็น ไนอะซิน มีพิษนะเธอว์ พวกที่เป็นกรด เช่น วิตามินซี เอเอชเอ และ ชื่อที่ลงท้ายด้วย Acid ดังนั้นถ้าโบกบีเอชเอพอลล่าไปแล้ว จะทาสกินแคร์ที่มีตัวนี้ทับ รบกวนรออย่างต่ำ 15 นาทีนาจา
ตัวที่ 3 สารสกัดขิง Zingiber offinale root ใครจะรู้ว่าขิงบ้านเรามันสามารถเอามาลดสิวได้ด้วย เนื่องจากมันจะช่วยในเรื่องของ การหมุนเวียนเลือด การฆ่าเชื้อ และ ลดการอักเสบอีกด้วย
ตัวที่ 4 ใบบัวบก ตัวนี้สำหรับเราถ้าเอามาทาลดสิวเพียวๆมันก้อยังไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่พวกผื่นแพ้ โอมากๆ ใครเปนผดคันๆ เราว่าน่าจะเหมาะกับครีมที่มีสารสกัดของใบบัวบกเลย
ตัวที่ 5 ดอกคาร์โมมายล์ รู้จักคามิโลซานใช่ป่าว ที่เอามาพ่นคอเวลาเจ็บคอ ตัวเดียวกันจ้า เนื่องจากมันสามารถฆ่าเชื้อและแน่นอนว่าลดสิวได้ เนื่องจาก P.acne เป็นแบคทีเรียชนิดนึง
น่าจะหมดแล้ว หวังว่าสิ่งที่เราหามาจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆในการเลือกซื้อของไม่มากก็น้อย ในการฉลาดเลือกฉลาดซื้อเนอะ
ถ้ากระแสดีวันหลังเจออะไรดีๆจิมาใหม่ อิอิ ขอบคุณที่อ่านจนจบคร่า
จากประสบการณ์ว่ากันด้วยเรื่องสิวๆ และ สารสกัดธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องสิวได้เทียบเท่ายา
เนื่องจากเราเป็นคนพื้นฐานผิวไม่ได้ดีค่ะ กลางๆ เห็นคนหน้าใสๆแล้วมีความอิจฉาเบราๆ ว่าถ้าฉันผิวดีขึ้น มันคงดีกว่านี้
เราเริ่มจากการหาข้อมูลค่ะ ซึ่ง เวปไทยส่วนใหญ่มีแต่ข้อมูลจากเวปขายของ เราต้องการอะไรที่เป็น Fact กว่านั้น
เลยลองศึกษา Study และเวปบอร์ดของฝรั่งดู วันนี้ว่างๆเลยอยากมาแชร์เป็นตัวเลือกในการเลือกสกินแคร์มาใช้
ซึ่งเราหวังว่ากระทู้ของเราจะมีประโยชน์กับใครบ้างนะคะ
หลังจากการศึกษาเราค้นพบว่า สิว มาจากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน การล้างหน้าไม่สะอาด หรือผิวที่ไม่แข็งแรง
มาเริ่มจากการปฏิบัติตัวก่อนค่ะ ทุกๆวันเวลาเราไปทำงานและแต่งหน้า เราจะต้องล้างเครื่องสำอางค์ออกให้สะอาดหมดจด
ซึ่งคลีนซิ่งที่เราใช้ มีทั้งแบบเป็นน้ำมันธรรมชาติ และ ไม่ใช่น้ำมันค่ะ
ขั้นตอนที่1 ล้างเครื่องสำอางค์
ในส่วนของน้ำมันธรรมชาติ เราใช้ JOJOBA OIL ซึ่งตัวนี้มีราคาแพงค่อนข้างมาก และเกาะติดผิวหนังพอสมควร ดังนั้นต้องล้างให้สะอาดค่ะ
เวลาใช้เราจะเทใส่มือประมาณเหริยญบาทสองเหรียญ ๕๕๕ พอกะกันได้ไหมคะ จากนั้นใช้นิ้วมือเรานี่แหละค่ะ นวดวนไปอย่างเบามือนะคะ
เน้นไปยังจุดที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำมันจะกลายเป็นน้ำนมโดยธรรมชาติ โดยเราเดาเอาว่าในตัวโจโจ้บาน่าจะมีสารอิมัลซิไฟเออร์จากธรรมชาติทำให้มันเข้ากับน้ำค่ะเลยกลายเป็นน้ำสีขาวๆ และจากนั้นเราเอาสำลีเช็ด หลังจากล้างน้ำเปล่า ๑ รอบ เพื่อลดความมัน
และตามด้วยการล้างหน้า ซึ่งเราจะพูดถึงเป็นเรื่องต่อไป
คลีนซิ่งอีกแบบที่เราใช้คือ แบบที่เป็นเจลค่ะ เราใช้ของ Softymo Speedy Cleansing Liquid ตั้งแต่ใช้มาเราว่าอันนี้ดีสุดแล้วค่ะ ถูกด้วย
นวดๆๆให้ทั่วแล้วใช้ทิชชู่เช็ดหน้าเช็ด แล้วตามด้วย สำลี หยดเบบี้ออยล์เช็ดรอบดวงตาและปาก และตามด้วยการล้างหน้า
ขั้นตอนที่ 2 การล้างหน้า
เราติดการใช้โฟม ยี่ห้อต่างๆอยู่นานเลยค่ะ จนได้มาเจอหนังสือเล่มนึง ชื่อ ผิวสวยใส ไม่ต้องพึ่งครีมบำรุง เนื้อหาในเล่มก็เป็นการดำรงชีวิตแบบไม่ใช้สกินแคร์ เพื่อผิวที่ดี แต่ แต่แต่ เราไปสะดุดอยู่หัวข้อหนึ่งค่ะ คือสบู่ที่เรียกว่า PURE SOAP คนไทยอาจจะยังไม่รู้จักกันมาก แต่มีการทำแบรนด์ออกมาจริงจังนานแล้วที่ญี่ปุ่น เพียวโซป เนี่ยก้อตรงตัวเลยค่ะ คือสบู่ที่ผ่านการทำเป็นสบู่ คือเอาน้ำมันไปผสมกับด่าง โดยไม่ใส่อะไรเพิ่มเลย สี น้ำหอม สารสกัด
เขาให้เหตุผลว่าการใส่สิ่งอื่นลงไปทำให้ลดประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของสบู่ค่ะ เราอยากได้มากก เลยไปเรียนเลยค่ะ สบู่ทำมือ 5555 เรียนกับมือหนึ่งของเมืองไทยเลย ดีใจมาก ตอนนี้เลยทำใช้เองค่ะ ใช้น้ำมันมะกอก ผสมมะพร้าว แค่สองอย่าง วิธีการทำลองหาได้ตามเวปบอร์ดนะคะ พิมพ์เยอะเดี๋ยวจะนอกประเด็นค่ะ ๕๕๕ ซึ่งมันทำให้ผิวเราดีขึ้นมากจริงๆ เนื่องจากสบู่ทำมือจะมีกลีเซอรีนจากธรรมชาติ ซึ่งถูกสกัดออกไปขายจากสบู่ก้อนทั่วไปค่ะ ทำให้ตัวนี้ล้างแล้วผิวชุ่มชื้นกว่า และ ดีกับผิวมากกว่า
ขั้นตอนที่ 3 มาถึงในเรื่องของสกินแคร์ค่ะ พื้นฐานคือ ผิวเราต้องแข็งแรงก่อนถึงจะรับการดูแลได้ดีนะคะ ตรงนี้เราไม่ขอพูดถึงเพราะเรา DIY เองอีกแล้วค่ะ
มาพูดถึงในเรื่องสารสกัดที่เราศึกษามา ว่าสามารถใช้ทดแทนยา ได้บางส่วนกันดีกว่า เผื่อใครเบื่อการใช้ยาค่ะ
ตัวแรก BHA (Beta Hydroxy Acid) อันนี้หลายๆคนคงรู้จักกันดีจากแบรนด์ของป้าพอลล่า ซึ่งบีเอชเอมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว แบบทะลุรูขุมขน ทำให้ช่วยลดสิวอุดตัน อะไรแบบนี้ได้ค่ะ แต่ ข้อเสียของมันคือ ความสเถียรของมันค่อนข้างต่ำ ทำให้บางทีใช้แล้วมีอาการผิวลอก อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีพัฒนาเสมอ ได้ยินว่าตอนนี้ป้าพอลล่าก็ใช้ BHA Encapsulated หรือ นำมาห่อหุ้มด้วยแคปซูล ซึ่งแคปซูลมีความเข้ากับผิวมากกว่า และ ช่วยปลดปล่อยการออกฤทธิ์ทีละน้อย ลดการระคายเคืองได้ค่ะ
ตัวที่ 2 Tea Tree Oil ตัวฮิตตัวฮอตอีกแล้วววว เนื่องจากมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ และ ลดรอยแดงในตัวเดียวกัน เราเคยอ่านเจอว่า 5% Tea Tree Oil = 5% BP (ฺเบนโซอิลเพอร็อกไซด์) อย่างไรก็ตามเราคิดว่าตัวนี้ไม่ควรใช้เพียวๆนะคะ เนื่องจากการเกิดการระคายเคืองค่อนข้างสูง แล้วเรากะไม่ได้ว่าเท่าไหนคือ 5% แถมตัวนี้ถ้าทาแล้วไปโดนแดดนี่ ไหม้จ้า และห้ามนำมากินโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นพิษ ดังนั้น เลือกใช้กันอย่างระมัดระวังนะคะ
ตัวที่ 3 Vitamim B3 หรือ ไนอาซินาไมด์ อ่านเจอมาว่า Niacinamide 4% = Clindamycin 1% แถมยังช่วยให้ขาว และ รักษาความชุ่มชื้นบนผิวหนังด้วย
อย่างไรก็ตามไม่ควรซื้อมาทาเพียวอีกแล้ว นอกจากการกะปริมาณที่ค่อนข้างยาก ตัวนี้แบบเพียว มักมีสารกันบูดผสมมาอยู่แล้ว เมื่อนำมาผสมครีมหรือทาบนหน้าตรงๆ เราว่ามันไม่โอ เลือกสกินแคร์ที่มีตัวนี้อยู่ในปริมาณนึงน่าจะโอเคกว่า และตัวนี้นะ สำคัญมาก ห้ามใส่ในครีมที่มีฤทธิ์เป็นกรด เนื่องจากมันจะทำปฏิกิริยากัน ทำให้เสื่อมสภาพกลายเป็น ไนอะซิน มีพิษนะเธอว์ พวกที่เป็นกรด เช่น วิตามินซี เอเอชเอ และ ชื่อที่ลงท้ายด้วย Acid ดังนั้นถ้าโบกบีเอชเอพอลล่าไปแล้ว จะทาสกินแคร์ที่มีตัวนี้ทับ รบกวนรออย่างต่ำ 15 นาทีนาจา
ตัวที่ 3 สารสกัดขิง Zingiber offinale root ใครจะรู้ว่าขิงบ้านเรามันสามารถเอามาลดสิวได้ด้วย เนื่องจากมันจะช่วยในเรื่องของ การหมุนเวียนเลือด การฆ่าเชื้อ และ ลดการอักเสบอีกด้วย
ตัวที่ 4 ใบบัวบก ตัวนี้สำหรับเราถ้าเอามาทาลดสิวเพียวๆมันก้อยังไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่พวกผื่นแพ้ โอมากๆ ใครเปนผดคันๆ เราว่าน่าจะเหมาะกับครีมที่มีสารสกัดของใบบัวบกเลย
ตัวที่ 5 ดอกคาร์โมมายล์ รู้จักคามิโลซานใช่ป่าว ที่เอามาพ่นคอเวลาเจ็บคอ ตัวเดียวกันจ้า เนื่องจากมันสามารถฆ่าเชื้อและแน่นอนว่าลดสิวได้ เนื่องจาก P.acne เป็นแบคทีเรียชนิดนึง
น่าจะหมดแล้ว หวังว่าสิ่งที่เราหามาจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆในการเลือกซื้อของไม่มากก็น้อย ในการฉลาดเลือกฉลาดซื้อเนอะ
ถ้ากระแสดีวันหลังเจออะไรดีๆจิมาใหม่ อิอิ ขอบคุณที่อ่านจนจบคร่า