นั่งเก้าอี้ไม้ ดูทะเล หาไอเดียธุรกิจ ณ บ้านสมอเรียง (ใครมีไอเดียเพิ่มเติมแจ้งได้นะครับ)


ความเดิมจากคราวที่แล้ว (ลิ้งนี้เลยครับ http://www.oknation.net/blog/acesee/2016/08/15/entry-1 )

ต้องขอโทษที่มาช้านิดครับ หลังจากเดินๆ ลุยๆ และมันเหนื่อย พลังในการเขียนลดลงวูบวาบ เมื่อวานนี้หลังจากที่ได้ไปเดินที่ walking Street และก็กลับมาอย่างอิ่มครับ และหมดสภาพไปทันที (กรุณาอย่าถามว่าอาบน้ำไม้....เหมือนร่างกายชัทดาวน์ครับ)  เอาเป็นว่าตื่นมาตอนเช้าครับ เห็นไอ้เพื่อนนอนไม่ตื่นครับ ปลงไป 5 นาทีและเดินขึ้นไปดาดฟ้า หยิบคอมขึ้นมาเขียนเนี่ยะแหละครับ นั่งเขียนไปได้สัก 15 นาทีครับ เพื่อนมันก็ไลน์มาถามว่าอยู่ไหน ผมก็ตอบไปและมันบอกว่าเดี๋ยวอาบน้ำก่อนขึ้นไปหา เช้านี้มองออกไปบนดาดฟ้าเห็นเด็กประมาณ 20 คนนั่งอยู่ที่ท่าเรือครับ (แลเด็กน้อยสนุกมาก ก็คิดไปตอนวันเด็กครับ หลายครั้งลืมความรู้สึกนี้) คิดไปคิดมาก็เลยเดินลงไปไปเก็บคอมและเดินหยิบกล้องแทนไปว่าจะไปเก็บภาพความสนุกเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจอีกรูปแบบหนึ่ง


ภาพถ่ายใสได้แบบนี้ครับ (ไม่มีกล้องเทพนะครับได้มาเท่านี้ ใช้สุดความสามารถอันน้อยนิดที่มีและครับ...ขอแทรกเรื่องหัวเกรียนนิด เมื่อก่อนผมก็หัวเกรียนหลิมๆ แบบนี้แหละครับ)  
หลังจากนั่งดูเด็กเล่นนน้ำเพลินๆ เพื่อนก็โทรมาถามว่าอยู่ไหน (ลืมไปและว่านัดมันไว้ที่ดาดฟ้าครับ) ผมเลยบอกว่าลงมาที่ท่าเรือและเดี๋ยวกำลังเดินกลับไป แต่ในระหว่างที่ผมเดินมาผมเห็นเหมือนจะมีร้านข้าวเล็กๆ ร้านนึกครับ เลยบอกให้เพื่อผมลงมาเจอที่ร้าน ไหนไหนก็ไหนไหนและกินข้าวเช้าเลยละกัน จริงๆ ไม่ไม่มีแผนกินร้านนี้เลยครับ กะว่าจะหาคาเห่นั่งชิว แต่เห็นร้านนี้คนเยอะเหมือนกันแต่เป็นคนท้องถิ่นมากครับมากิน มันอยู่ใกล้โรงแรมที่ผมพักอ่ะครับ (JETTY HUA HIN) น่ะครับ สัก 20-30 ก้าวมั้งครับ
เพื่อผมและผมมาเจอกันที่หน้าร้านพอดีกันครับ (โดยด่านิดนึงว่าลืมมัน แต่ไม่เป็นไรครับเพื่อนกันเข้าใจ แต่ถ้าเป็นอารมณ์แฟนเนี่ยะ ผมน่าจะดับ 555) เอาเป็นว่าเราเข้าไปลองร้านนี้ครับ พอเริ่มสั่งเห็นราคาและเหวอเลยครับ (ยิ้มเอากำไรจากไหน) ผมสั่งข้าวต้มปลา เพื่อสั่งข้าวต้มหมู และเอาทอดมันมากินด้วยกันจานนึง น้ำเปล่า รวมและ 70 ครับ ชีวิตดี้ดี เพื่อผมว่าเของร้านคนนี้ คิดแต่ค่าของและบวกกำไร แต่ค่าแรง ค่าเสื่อม ค่าไฟ ค่าน้ำ และสารพัดค่าของมันที่มันว่าอ่ะเขาไม่ได้คิด (แต่ผมก็แอบเห็นด้วนนะครับ เพราะว่าคนเข้าร้านแกตลอดแต่ร้านแกก็ยังเก่า เห้มือนไม่ได้ดูแลมาก ประหนึ่งว่าไม่มีเงินเพียงพอสำหรับการลงทุนหรือตกแต่งใหญ่ๆ) มันก็เลยเป็นร้านเล็กๆ แบบนี้ พอได้กิน แต่ไม่ได้รวยมาก พอคิดแบบนี้เลยรู้สึกเหมือนเราเอาเปรียบ ‘ความไม่รู้’ ของเขาอยู่ ยังไงดีล่ะ พูดกะใครก็ไม่ได้บ่นไปในกระทู้นี่แหละ
รสชาติดีราคาดีงามมากเกินควร พอเราอิ่มแล้วเราก็เริ่มคิดครับว่าจะไปไหนต่อ และผมก็จำไครับว่าเจ้าของโรงแรมเขาบอกให้ไปลองเดินดูที่หัวหาด ซึ่งจะเป็นหาดที่ใหญ่ ทรายละเอียด และน้ำใสครับ ผมก็ว่าง่ายเดินไป ทุกย่างดีงามครับยกเว้นเตียงกะร่มครับ (อันนี้ขอบ่นอีกนิดครับ เข้าใจว่าหากินแต่หาดเป็นของทุกคน แต่เอาเตียงมาวาง ทำสกหรก รกๆ ผมระอาครับ หัวหินจะดีขึ้นครับถ้าไม่มีแบบนี้…บ่นจบและสัญญาจะไม่บ่นอีก)




เรายืนอยู่สักพัก ผมก็บอกเพื่อนว่ามันน่าพักผ่อนมาก ไปหาที่นั่งเหอะและผมก็เดินลิ่วๆ ไปหาต้นไม่วางงของและนั่งไปเลยครับ ไม่มีที่รอง ไม่สนับสนุนพวกผ้าใบ กางเกงเลอะก็ช่าง เพื่อผมก็นะ เอาโค้กมาเผื่อจากโรงแรมครับ เลยนั่งกินไปคุยกันไป เรานั่งคุยกันจนแดดแรงผมเลยบอกเพื่อว่าแฟเหอะ และเราก็ลุกเดินไปอย่างใจ (ข้อดีของการมีเพื่อนที่สนิทมาด้วยคือไม่เรื่องมาก ไม่ต้องแคร์มากแต่เครพกัน และก็รู้ว่าเราชอบหรือเขาชอบอะไร)
ตอนนี้ผมเดินผ่านร้านกาแฟครับ  ผมสังเกตว่าที่หัวหินมีร้านกาแฟดีดีมากมาย แต่ร้ายชอบดูเหมือนไม่เปิด เพื่อนผมมันหาร้านในเน็ตครับ และมันก็บอกผมว่าไปแถวสถานีรถไฟหัวหินเถอะเพราะตรงนั้นมีร้านกาแฟชิคๆ ร้านนึง (อันนี้ผมก็พอระลึกได้เหมือนกับว่าเครได้ดูรีวิวของคนอังกฤษคู่นึงกะหมาหนึ่งตัวที่เขาย้ายมาอยู่หัวหินครับ #eightmilesfromhome เขาก็มารีวิวร้านกาแฟร้านนี้ไว้ครับ (แต่ต้องขอโทษทีผมจำชื่อร้านไม่ได้ ร้านอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลยครับ ณ จุดนี้ผมก็สรุปกะเพื่อว่าได้ไอเดียอะไรบ้าง (อย่างที่บอกไปเมือกระทู้ก่อนครับว่าเพื่อนผมเขาจะประเมินได้ว่าควรทำหรือไม่ควรทำ และถ้าจะทำต้องเน้นตรงไหน) ผมก็ตอบเขาไปว่าเห็นธุรกิจห้องเย็น ธุรกิจแปรรูปอาหารทะเลโดยผมมองว่าเป็นไปได้ไม้เอาปูมาไม่มีเปลือกและขายเนื้อปู ผมทำแค่แกะกะน้ำจิ้ม ทำรถบัสรอบเมืองอารมณ์รถวนญี่ปุ่น หรือเห็นบางบ้านซื้อน้ำประปา รถส่งน้ำก็ดี ทุกอย่างที่ผมเล่าให้เพื่อฟังเพื่อนก็คิดและก็อธิบายว่าต้องดูไรบ้าง สรุปที่พูดมาทั้งหมดปิดไป 555 กว่าจะกินเสร็จ คุยเสร็จก็เกือบบ่านสอง ผมบอกเพื่อว่าขอกลับไปโรงแรมก่อนเพื่อจะไปเอายา (ผมมีโรคประจำตัวนิดหน่อยครับ เลยต้องกินยาประจำ) เราก็เดินกันกลับโรงแรมครับ มอเตอร์ไซต์เยอะนิดครับ แต่ก็เดินกลับมาที่โรงแรมได้ (เหมือนโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากจุสำคัญอ่ะครับ) พอมาถึงเขาเก็บห้องไว้ให้ก็เลยดีเลย ถ่ายมารีวิวให้ (ตอนวันแรกว่าจะถ่ายแต่ผมกระโจนลงเตียงไปก่อน เลยอายครับที่จะถ่ายมารีวิว) รูปก็แบบนี้ครับ







ถ่ายเสร็จกลิ้งครับ เพื่อบอกไปว่ายน้ำเขาตะเกียบกัน ผมบอกว่าของทำตัวขนานพื้นโลกแวบ (นอน) และผมก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาเพื่อนมันบอกว่าขี้เกียจรอตื่นมันเลยแยกไปคนเดยวครับ ผมก็นี่แหละครับมาเขียนสรุปว่าไปไหนเจอไรบ้างต่อไป
สักสี่โมงกว่าๆ เพื่อผมก็กลับมาตัวเขียวเลย (ยังไม่ตายนะครับ แค่ดำขึ้นเหมือนแดดมันแรง - มันไปว่ายน้ำมาครับ มันว่าที่นั่นมันชอบเพราะพ่อแม่เขาก็พอเขาลงเล่นที่นั่นประจำ ผมเลยว่าผมจะไปเล่นน้ำบ้างแต่คงไม่ไปไกลขนาดนั้นครับ หัวหาดก็เลนได้ (ว่าและผมก็ตะโกนบอกเพื่อว่าไปเล่นน้ำเดี๋ยวมาแวบ พลังกลับมาและ…ส่วนเพื่อนก็อาบน้ำต่อไปครับ
แป๊บเดียวไวเหมือนโกหก ผมขึ้นมาแบบหมดแรงครับ สนุกดีแต่เหงานิดว่ายคนเดียว ดำผุดดำว่ายไป โชคดีเอา Action cam มาเลยได้ลงไปถ่ายใต้น้ำบ้าง แต่เอาขึ้นมาทำไมมาดูและมันไม่เหมือนพวก Youtuber เลยที่ภาพออกมาเทพๆ ผมง่อยครับ (ขอไม่เผยแพร่) พออมาถึงเพื่อนลากไปหาพิซซ่ากิน (มาทะเลจะกินพิซซ่า) เราก็วนรถดูกันครับ มีหลายร้านครับ แต่ดูไม่เห็นว่าน่าจะทำพิซซ่าอร่อยกันครับ (ร้านดูเหมือนขายทุกอย่างอ่ะครับ พิซซ่ามี ข้าวผัดมี ส้มตำมีในร้านเดียวกันไรงี้ สรุปก็ข้าวผัดหมูในเมืองร้านนึงครับ (ผมปลอบตัวเองและคิดบวกครับ….ทริปนี้ไม่ใช่มาเที่ยวนะ หุหุหุ) หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมนอนครับ ครอกกกก
(พรุ่งนี้มาต่อตอนจบนะครับ)

หากสนใจอ่านทริปอื่นของผม ลิงค์ตามนี้ครับ
เที่ยวพม่าไม่ง้อไกด์ (ย่างกุ้ง-หงสาวดี – พระธาติอินแขวง – สิเรียม) http://travel.edunetglobal.com/Storytelling/Yangon.html
เที่ยวเวียดนามไม่ง้อไกด์ (โฮจิมิน-ดาลัด-มุยเน่) http://www.oknation.net/blog/acesee/2014/07/16/entry-1
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่