'__' หลังจากที่เอาเเต่อ่านกระทู้ในพันทิปมานาน คราวนี้คงถึงคราวที่ต้องมาตั้งเองเเล้วค่ะ ถ้าใช้ภาษา พิมพ์ยืดเยื้อ เวิ่นเว้อ ขออภัยด้วยนะคะ
ไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ ตอนเเรกก็ไม่เครียดค่ะ เเต่พอคิดไปคิดมาเครียดเลย...
ขออณุญาตกล่าวถึงตัวเราเองนะคะ ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 เป็นคนเฟรนลี่ เเต่ว่าไม่ค่อยพบปะสังสรรกับเครือญาติ เพราะว่าติดเพื่อนค่ะ เเล้วก็ชอบการเล่นเกมออนไลน์มากๆ มีผู้ชายที่ชอบ เเล้วก็กำลังดูใจกันอยู่ค่ะ เราเป็นคนน้ำหนักตัวเยอะ (สูง 164 หนัก 70) ผิวขาวค่ะ เพราะว่ามีเชื้อจีนครึ่งหนึ่ง
ชีวิต ม.ปลายของเราไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว พ่อเเม่เราทะเลาะกันบ่อย ตั้งเเต่เราอยู่ ม.4 จน ม.6 ช่วงรับตรง พ่อเเม่เราทะเลาะกันทุกวันเเม้กระทั่งวันที่เราอ่านหนังสือเตรียมสอบ สอบติดมหาลัย จนในที่สุดก็เลิกกัน เรากับน้องสาวอยู่กับเเม่ค่ะ เเม่เราก็เลี้ยงเดี่ยว ส่วนคุณพ่อก็ส่งเงินมาให้เป็นระยะ เพื่อนมีอิทธิพลกับเรามากๆค่ะ เเละเพื่อนสนิทกลุ่มเราเป็นเกย์เเละกระเทย มีหญิงเเท้บ้าง เเต่โดยรวมไม่ค่อยได้เข้าใกล้ผู้ชายค่ะ เนื่องจากสาขาที่เราเรียน มีผู้หญิง 98 เปอร์เซ็น(อีก 2 เปอร์เซ็นคืออีตุ๊ดเพื่อนสนิทของเราค่ะ)
ชีวิตมหาลัย เกือบ 1 ปีของเรา คือ เพื่อน เรียน เกม เพื่อน เรียน เกม เพื่อน เรียน เกม วนไปค่ะ อยู่เเบบนี้ ซึ่งอย่างที่บอกค่ะ ไม่ได้เข้าสังคมกับพวกผู้ใหญ่ ไม่ได้เข้าหาญาติ ไม่ได้เจอญาติๆเลย
งานเชงเม้ง งานบวช งานศพ งานเเต่ง เราไม่โผล่หัวไปเลยค่ะ เพราะเป็นคนไม่สนิทกับญาติฝั่งเเม่ ส่วนญาติๆฝั่งพ่อก็อยู่ทางใต้ เป็นนักธุรกิจค้าขาย ส่งลูกเรียนต่างประเทศ ชีวิตเเฮปปี้ ไม่มีอะไรที่เราต้องโผล่ไปประเจ๋อ มีพูดคุยทางเฟซบุ๊คกันบ้าง
ง่ายๆคือ เราไม่ค่อยได้พบเจอญาติค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เรามักจะซ้อน มอไซด์ไปกับเพื่อนเกย์ที่น่ารักของเราไปเล่นเกมเสมอ ทุกๆวันหยุด ตีตั้งเเต่ 4 ทุ่มถึงเช้า เเล้วก็ ออกไปกินข้าวกับผู้ชายที่ชอบบ้าง หรือไม่ก็กลับไปดูทีวีอยู่บ้าน ทำกับข้าวกินเอง ประมานนั้น เเล้ววันนึง เเม่เราก็เรียกเราค่ะ บอกว่ามีอะไรจะคุยด้วย
เเม่ : มีเรื่องเเย่ๆเกิดขึ้นล่ะ สัญญานะ ว่าฟังเเล้วจะไม่ใช้อารมณ์
เรา : เเน่นอนค่ะ (เราเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ชอบทำอะไรใครก่อน เเต่ถ้ามีคนอยากบวกก็พร้อมบวก)
เเม่ : มีคนรู้จักมาเล่าให้ฟังล่ะ ว่าตอนนี้เขาโจษจันกันไปทั่วจังหวัดXXX เเล้ว เกี่ยวกับเรา เรื่องไม่ดีของเราล่ะ
เรา : (Dag จุด) เเม่ หนูไม่ใช่เน็ตไอดอล หนูไม่เล่นกีฬา หนูไม่มีอะไรให้คนพูดถึงเลยนะเเม่ ทั้งจังหวัดเลยหรอ เวอร์ไปไหม?
เเม่ : เพื่อนเเม่มาถามว่า หนูท้องจริงหรอ?
เรา : WTF
เรื่องมันก็เริ่มจากตรงนี้ค่ะ เเม่บอกว่า มีคนเห็นเราไปอี๋อ๋อกับผู้ชายค่ะ (อาจจะพี่ที่กำลังดูใจเเล้วไปกินข้าวด้วยกัน ไม่งั้นก็เพื่อนเกย์เเอ๊บเเมน) เเล้วก็บอกว่าสรีระเราเปลี่ยนไป ดูอวบๆขึ้นกว่าเดิม เหมือนคนท้อง เขาเลยเอาไปพูดค่ะ ว่าเราท้อง(ไม่ได้บอกว่าสงสัยว่าท้องนะคะ ไปเล่าต่อเลย ว่าเราท้อง)
ทั้งๆที่ปิดเทอมปี 1(เราเพิ่งเปิดเทอมปี 2 วันที่ 1 สิงหาคม) 2 เดือน เราไปทำงานพาร์ทไทม์ เงินไม่มีจะสะเเตก จนน้ำหนักลดฮวบๆ เพื่อนๆตกใจ ทักว่าไปทำอะไรมาผอมลงมาก (จาก 70 เหลือ 59) กระดูกไหปลาร้า เเละเอ็นร้อยหวายชัดขึ้น เเล้วอะไรมันทำให้มนุษย์ป้านั่นมันบอกว่าชั้นอ้วนขึ้นฟระ!
เพราะว่าเราไม่ได้เจอกับเค้าเลยไง
เราถามเเม่ว่าใครพูด เเม่ก็บอกว่า เค้าไปเม้าท์เพลิน จนไปจุดไต้ตำตอ เข้าหูเพื่อนสนิทเเม่ เพื่อนเเม่เลยมาฟ้อง เเม่รู้ชื่อมนุษย์ป้าค่ะ เเล้วก็บอกเราว่า เเม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครนะลูก
หนูก็ไม่รู้เหมือนกันเเม่ หนูเคยไหว้เขาไหม?
เเม่เราบอกว่า ก็ไม่นะ
เเล้วมันรู้จักตูได้ไงฟะ!
นางรู้จักเราได้ไงไม่รู้ค่ะ (ก็นะ ถึงขนาดที่ว่ามโนว่าเราอ้วนขึ้นเลยคิดดู) ตอนเเรกเเค่เคืองๆค่ะ เเต่คิดว่า เอาเถอะ มันไม่ใช่เรื่องจริง ใครจะว่ายังไง อีก 9 เดือนไม่มีอะไรโผล่มา คนก็รู้กันหมดเเหละว่านางอิมเมจิ้นฟีเวอร์
เเต่มันไม่จบเเค่นั้นค่ะ เพราะหลังจากนั้น ก็มีคนไลน์ทักเรามาสามคน
คนเเรกเป็นญาติฝั่งเเม่ค่ะ เป็นคนที่เราเคารพมาก เป็นคุณหมอ ทักมาด้วยความตกใจว่า เม(สมมตินะ) ท้องหรอลูก... หนูเรียนจบเเล้วหรอ..
เราบอกว่าเปล่าค่ะ เเล้วเขาก็เงียบไป
คนที่สอง เป็นคนที่เป็นเพื่อนเเม่ค่ะ ตามเดิม เราก็บอกว่า ไม่ค่ะ
คนสุดท้ายนี่เเม่มพีค นั่งพิมอยู่นี่เส้นเลือดกระตุกยิกๆ เขาเป็นเเฟนเก่าของคุณลุงของเราค่ะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือดเลย ซึ่ง ญาติฝั่งเราไม่ชอบเค้า ไม่ญาติดี ไม่คุยด้วยค่ะ เค้าทักเรามา ถามว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม คุณเเม่เป็นไง เราก็คุยปกติค่ะ เเล้วเค้าก็ยิงคำถามที่เค้าอยากรู้ใส่เราเลย
เมท้องกี่เดือนเเล้ว
ท้องตอนไหน
ท้องกับใคร
เออค่ะ ขอบคุณมาก ร้อยวันพันปี ไม่เคยทักมาหา ไม่เคยอวยพรวันเกิด ยามลำบากไม่เคยนึกถึง พอเรื่องนี้เข้าหู ถามตูไม่กลัวกูเสียใจเลยเนอะ olo
ถ้าเราท้องจริงๆ เจอคำถามนี้เราคงเศร้าใจมากๆค่ะ ถามเเบบ ไม่มีอ้อมค้อม ไม่มีความห่วงใย ไม่มีอะไรเเฝงในประโยคเลย ความขี้เสืoกล้วนๆ
เเต่อย่างน้อยเค้าก็มาถามเราจากปากเค้าเองเนอะ...ไม่ได้ดีเเต่เผือก เราเลยพยายามคุมอารมณ์ตอบกลับไปไม่ให้เหวี่ยงเค้า บอกว่าเราไม่มีข่าวดีตอนนี้นะ ขอเรียนจบก่อน เเฟนยังไม่มีเลย(เเต่มีคนที่ชอบล่ะนะ -///-)
เเล้วฟีดเเบ็คของเค้าก็เป็นไปตามคาดค่ะ เค้าตอบเรามาว่า จ้าๆ ดีเเล้ว...(เเค่นี้?์ ตกลงนางเชื่อเราไหม?)
เราถามเค้าด้วยนะคะว่าไปฟังมาจากใคร เค้าก็ทิ้งระเบิดมาว่า เพื่อนเมนั่นเเหละ..
ทานโทษนะ.. คนละวงสังคมกันเลย เพื่อนไหนล่ะ เพื่อนสมัยมัธยมเราก็ไปเรียนไกลบ้านกันหมดเเล้ว มันจะรู้จักเจ๊ได้ไง
สุดท้ายเค้าก็หย่อนไว้ตามประสาคนที่ฟังขี้ปากชาวบ้านต่อๆมา ว่าเค้าฟัง "ต่อมาอีกที"
เราไปนอนคิดค่ะ ว่าคนๆนี้ อยู่ไกลจากวงจรชีวิตเรามาก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้รู้จักมาจากญาติเรา เค้าก็ต้องรุ้มาจากวงอื่นเเน่นอน
เรารู้สึกเเย่ค่ะ กับคนต้นเรื่อง(เเม่เรารู้ค่ะ เเต่ไม่ยอมบอก เเม่เรากลัวเราบุกไปถล่มเค้า เเล้วเราก็สัญญากับเเม่ว่าจะใจเย็นๆ) คือเค้าต้องการอะไรกับเราหรอ ถึงเล่าไปทั่วจนมันกว้างขนาดนี้? เราไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลยนะคะ(ญาติฝั่งเเม่ เพื่อนเเม่ เป็นตำรวจ ทหารยศสูง นักการเมือง อยู่จังหวัด X เยอะค่ะ เค้าโพนทะนาไปทั่วเลย คาวฉาวไกลสุดๆ ) ไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า ไม่เคยทำอะไรให้เค้าเดือดร้อน ทำไมเค้าถึงเอาไปพูด? เเถมฟันธงฟันทิ้ง เล่าไปจริงๆเลยว่า เราท้องเเล้ว มีตบท้ายด้วยว่า เเม่เราเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกไม่ดี จนลูกสาวใจเเตก ไปเอากับผู้ชายเเล้วท้องโย้กลับมา
ว่าตูอ้วนก็เคือง

เเล้ว เมิงยังด่าเเม่ตูอีกหรอ
เคืองค่ะ เคืองมากๆ ถามเพื่อนที่เรียนนิติสุโขทัยว่าอยากฟ้องหมิ่นเอาค่าขนมมากๆ พยานบุคคลพร้อม นางก็บอกว่า อายุไม่ถึง 20 ฟ้องไม่ได้นะ ถ้าพ่อเเม่ไม่ไปด้วย
เห้อ...
ควรทำยังไงดีค่ะ
(เครียด)เเค่อ้วน เเต่ถูกป่าวประกาศว่าท้องในวัยเรียนทำอย่างไรดี?
ไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ ตอนเเรกก็ไม่เครียดค่ะ เเต่พอคิดไปคิดมาเครียดเลย...
ขออณุญาตกล่าวถึงตัวเราเองนะคะ ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 เป็นคนเฟรนลี่ เเต่ว่าไม่ค่อยพบปะสังสรรกับเครือญาติ เพราะว่าติดเพื่อนค่ะ เเล้วก็ชอบการเล่นเกมออนไลน์มากๆ มีผู้ชายที่ชอบ เเล้วก็กำลังดูใจกันอยู่ค่ะ เราเป็นคนน้ำหนักตัวเยอะ (สูง 164 หนัก 70) ผิวขาวค่ะ เพราะว่ามีเชื้อจีนครึ่งหนึ่ง
ชีวิต ม.ปลายของเราไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว พ่อเเม่เราทะเลาะกันบ่อย ตั้งเเต่เราอยู่ ม.4 จน ม.6 ช่วงรับตรง พ่อเเม่เราทะเลาะกันทุกวันเเม้กระทั่งวันที่เราอ่านหนังสือเตรียมสอบ สอบติดมหาลัย จนในที่สุดก็เลิกกัน เรากับน้องสาวอยู่กับเเม่ค่ะ เเม่เราก็เลี้ยงเดี่ยว ส่วนคุณพ่อก็ส่งเงินมาให้เป็นระยะ เพื่อนมีอิทธิพลกับเรามากๆค่ะ เเละเพื่อนสนิทกลุ่มเราเป็นเกย์เเละกระเทย มีหญิงเเท้บ้าง เเต่โดยรวมไม่ค่อยได้เข้าใกล้ผู้ชายค่ะ เนื่องจากสาขาที่เราเรียน มีผู้หญิง 98 เปอร์เซ็น(อีก 2 เปอร์เซ็นคืออีตุ๊ดเพื่อนสนิทของเราค่ะ)
ชีวิตมหาลัย เกือบ 1 ปีของเรา คือ เพื่อน เรียน เกม เพื่อน เรียน เกม เพื่อน เรียน เกม วนไปค่ะ อยู่เเบบนี้ ซึ่งอย่างที่บอกค่ะ ไม่ได้เข้าสังคมกับพวกผู้ใหญ่ ไม่ได้เข้าหาญาติ ไม่ได้เจอญาติๆเลย
งานเชงเม้ง งานบวช งานศพ งานเเต่ง เราไม่โผล่หัวไปเลยค่ะ เพราะเป็นคนไม่สนิทกับญาติฝั่งเเม่ ส่วนญาติๆฝั่งพ่อก็อยู่ทางใต้ เป็นนักธุรกิจค้าขาย ส่งลูกเรียนต่างประเทศ ชีวิตเเฮปปี้ ไม่มีอะไรที่เราต้องโผล่ไปประเจ๋อ มีพูดคุยทางเฟซบุ๊คกันบ้าง
ง่ายๆคือ เราไม่ค่อยได้พบเจอญาติค่ะ
เรื่องของเรื่องคือ เรามักจะซ้อน มอไซด์ไปกับเพื่อนเกย์ที่น่ารักของเราไปเล่นเกมเสมอ ทุกๆวันหยุด ตีตั้งเเต่ 4 ทุ่มถึงเช้า เเล้วก็ ออกไปกินข้าวกับผู้ชายที่ชอบบ้าง หรือไม่ก็กลับไปดูทีวีอยู่บ้าน ทำกับข้าวกินเอง ประมานนั้น เเล้ววันนึง เเม่เราก็เรียกเราค่ะ บอกว่ามีอะไรจะคุยด้วย
เเม่ : มีเรื่องเเย่ๆเกิดขึ้นล่ะ สัญญานะ ว่าฟังเเล้วจะไม่ใช้อารมณ์
เรา : เเน่นอนค่ะ (เราเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ชอบทำอะไรใครก่อน เเต่ถ้ามีคนอยากบวกก็พร้อมบวก)
เเม่ : มีคนรู้จักมาเล่าให้ฟังล่ะ ว่าตอนนี้เขาโจษจันกันไปทั่วจังหวัดXXX เเล้ว เกี่ยวกับเรา เรื่องไม่ดีของเราล่ะ
เรา : (Dag จุด) เเม่ หนูไม่ใช่เน็ตไอดอล หนูไม่เล่นกีฬา หนูไม่มีอะไรให้คนพูดถึงเลยนะเเม่ ทั้งจังหวัดเลยหรอ เวอร์ไปไหม?
เเม่ : เพื่อนเเม่มาถามว่า หนูท้องจริงหรอ?
เรา : WTF
เรื่องมันก็เริ่มจากตรงนี้ค่ะ เเม่บอกว่า มีคนเห็นเราไปอี๋อ๋อกับผู้ชายค่ะ (อาจจะพี่ที่กำลังดูใจเเล้วไปกินข้าวด้วยกัน ไม่งั้นก็เพื่อนเกย์เเอ๊บเเมน) เเล้วก็บอกว่าสรีระเราเปลี่ยนไป ดูอวบๆขึ้นกว่าเดิม เหมือนคนท้อง เขาเลยเอาไปพูดค่ะ ว่าเราท้อง(ไม่ได้บอกว่าสงสัยว่าท้องนะคะ ไปเล่าต่อเลย ว่าเราท้อง)
ทั้งๆที่ปิดเทอมปี 1(เราเพิ่งเปิดเทอมปี 2 วันที่ 1 สิงหาคม) 2 เดือน เราไปทำงานพาร์ทไทม์ เงินไม่มีจะสะเเตก จนน้ำหนักลดฮวบๆ เพื่อนๆตกใจ ทักว่าไปทำอะไรมาผอมลงมาก (จาก 70 เหลือ 59) กระดูกไหปลาร้า เเละเอ็นร้อยหวายชัดขึ้น เเล้วอะไรมันทำให้มนุษย์ป้านั่นมันบอกว่าชั้นอ้วนขึ้นฟระ!
เพราะว่าเราไม่ได้เจอกับเค้าเลยไง
เราถามเเม่ว่าใครพูด เเม่ก็บอกว่า เค้าไปเม้าท์เพลิน จนไปจุดไต้ตำตอ เข้าหูเพื่อนสนิทเเม่ เพื่อนเเม่เลยมาฟ้อง เเม่รู้ชื่อมนุษย์ป้าค่ะ เเล้วก็บอกเราว่า เเม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครนะลูก
หนูก็ไม่รู้เหมือนกันเเม่ หนูเคยไหว้เขาไหม?
เเม่เราบอกว่า ก็ไม่นะ
เเล้วมันรู้จักตูได้ไงฟะ!
นางรู้จักเราได้ไงไม่รู้ค่ะ (ก็นะ ถึงขนาดที่ว่ามโนว่าเราอ้วนขึ้นเลยคิดดู) ตอนเเรกเเค่เคืองๆค่ะ เเต่คิดว่า เอาเถอะ มันไม่ใช่เรื่องจริง ใครจะว่ายังไง อีก 9 เดือนไม่มีอะไรโผล่มา คนก็รู้กันหมดเเหละว่านางอิมเมจิ้นฟีเวอร์
เเต่มันไม่จบเเค่นั้นค่ะ เพราะหลังจากนั้น ก็มีคนไลน์ทักเรามาสามคน
คนเเรกเป็นญาติฝั่งเเม่ค่ะ เป็นคนที่เราเคารพมาก เป็นคุณหมอ ทักมาด้วยความตกใจว่า เม(สมมตินะ) ท้องหรอลูก... หนูเรียนจบเเล้วหรอ..
เราบอกว่าเปล่าค่ะ เเล้วเขาก็เงียบไป
คนที่สอง เป็นคนที่เป็นเพื่อนเเม่ค่ะ ตามเดิม เราก็บอกว่า ไม่ค่ะ
คนสุดท้ายนี่เเม่มพีค นั่งพิมอยู่นี่เส้นเลือดกระตุกยิกๆ เขาเป็นเเฟนเก่าของคุณลุงของเราค่ะ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือดเลย ซึ่ง ญาติฝั่งเราไม่ชอบเค้า ไม่ญาติดี ไม่คุยด้วยค่ะ เค้าทักเรามา ถามว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม คุณเเม่เป็นไง เราก็คุยปกติค่ะ เเล้วเค้าก็ยิงคำถามที่เค้าอยากรู้ใส่เราเลย
เมท้องกี่เดือนเเล้ว
ท้องตอนไหน
ท้องกับใคร
เออค่ะ ขอบคุณมาก ร้อยวันพันปี ไม่เคยทักมาหา ไม่เคยอวยพรวันเกิด ยามลำบากไม่เคยนึกถึง พอเรื่องนี้เข้าหู ถามตูไม่กลัวกูเสียใจเลยเนอะ olo
ถ้าเราท้องจริงๆ เจอคำถามนี้เราคงเศร้าใจมากๆค่ะ ถามเเบบ ไม่มีอ้อมค้อม ไม่มีความห่วงใย ไม่มีอะไรเเฝงในประโยคเลย ความขี้เสืoกล้วนๆ
เเต่อย่างน้อยเค้าก็มาถามเราจากปากเค้าเองเนอะ...ไม่ได้ดีเเต่เผือก เราเลยพยายามคุมอารมณ์ตอบกลับไปไม่ให้เหวี่ยงเค้า บอกว่าเราไม่มีข่าวดีตอนนี้นะ ขอเรียนจบก่อน เเฟนยังไม่มีเลย(เเต่มีคนที่ชอบล่ะนะ -///-)
เเล้วฟีดเเบ็คของเค้าก็เป็นไปตามคาดค่ะ เค้าตอบเรามาว่า จ้าๆ ดีเเล้ว...(เเค่นี้?์ ตกลงนางเชื่อเราไหม?)
เราถามเค้าด้วยนะคะว่าไปฟังมาจากใคร เค้าก็ทิ้งระเบิดมาว่า เพื่อนเมนั่นเเหละ..
ทานโทษนะ.. คนละวงสังคมกันเลย เพื่อนไหนล่ะ เพื่อนสมัยมัธยมเราก็ไปเรียนไกลบ้านกันหมดเเล้ว มันจะรู้จักเจ๊ได้ไง
สุดท้ายเค้าก็หย่อนไว้ตามประสาคนที่ฟังขี้ปากชาวบ้านต่อๆมา ว่าเค้าฟัง "ต่อมาอีกที"
เราไปนอนคิดค่ะ ว่าคนๆนี้ อยู่ไกลจากวงจรชีวิตเรามาก เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้รู้จักมาจากญาติเรา เค้าก็ต้องรุ้มาจากวงอื่นเเน่นอน
เรารู้สึกเเย่ค่ะ กับคนต้นเรื่อง(เเม่เรารู้ค่ะ เเต่ไม่ยอมบอก เเม่เรากลัวเราบุกไปถล่มเค้า เเล้วเราก็สัญญากับเเม่ว่าจะใจเย็นๆ) คือเค้าต้องการอะไรกับเราหรอ ถึงเล่าไปทั่วจนมันกว้างขนาดนี้? เราไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลยนะคะ(ญาติฝั่งเเม่ เพื่อนเเม่ เป็นตำรวจ ทหารยศสูง นักการเมือง อยู่จังหวัด X เยอะค่ะ เค้าโพนทะนาไปทั่วเลย คาวฉาวไกลสุดๆ ) ไม่ได้เป็นอะไรกับเค้า ไม่เคยทำอะไรให้เค้าเดือดร้อน ทำไมเค้าถึงเอาไปพูด? เเถมฟันธงฟันทิ้ง เล่าไปจริงๆเลยว่า เราท้องเเล้ว มีตบท้ายด้วยว่า เเม่เราเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกไม่ดี จนลูกสาวใจเเตก ไปเอากับผู้ชายเเล้วท้องโย้กลับมา
ว่าตูอ้วนก็เคือง
เคืองค่ะ เคืองมากๆ ถามเพื่อนที่เรียนนิติสุโขทัยว่าอยากฟ้องหมิ่นเอาค่าขนมมากๆ พยานบุคคลพร้อม นางก็บอกว่า อายุไม่ถึง 20 ฟ้องไม่ได้นะ ถ้าพ่อเเม่ไม่ไปด้วย
เห้อ...
ควรทำยังไงดีค่ะ