หลายคนตามเชียร์นักกอล์ฟไทย โดยเฉพาะโปร เม แต่อาจจะงงๆว่า
แต่บางคนที่ไม่ได้ เล่น และ ไม่ได้ดดูกอล์ฟ ประจำ อาจจะงงกติกา ว่าเค้าตัดสินแพ้ชนะ กันอย่างไร
การแข่งขันกอล์ฟทั่วไป แบบทัวร์นาเม้นต์ รวมทั้งในโอลิมปิก เกมส์คราวนี้
จะแข่งกัน 4 วัน วันล่ะ 18 หลุม
แล้ว จะนับคะแนนรวม สี่วัน ใครตีได้จำนวนครั้งน้อยสุด เป็นผู้ชนะ
แต่ เวลาให้คะแนน เค้าจะไม่ได้รายงาน ออกมาเป็นตัวเลขจำนวนครั้งที่ตี เพราะว่า ตัวเลขจะเยอะดูวุ่นวาย แต่เค้าจะรายงานออกมาเป็น ค่าคะแนนที่เรา ตีมากกว่า หรือน้อยกว่า ค่าที่กำหนดไว้ ของสนาม
ดังนั้นคนที่ได้คะแนน ติดลบมากๆๆ (ตีจำนวนครั้งน้อยกว่า ที่สนามกำหนดไว้ได้มากกว่า) เรียกว่า ได้ อันเด้อร์สนาม
หรือ ถ้าไม่ติดลบ แต่คะแนน มีค่าเป็นบวกน้อยกว่า (ตีเกินกว่าจำนวนที่ สนามกำหนดไว้น้อยกว่า ) คือผู้ชนะ
ปกติ หลุมกอล์ฟแต่ล่ะหลุม จะกำหนดจำนวนครั้ง ที่ต้องตีให้ลงหลุมไว้ เรียกว่า พาร์ (Par)
มีตั้ง แต่ พาร์ 3 พาร์ 4 และ พาร์ 5
ถ้าตี ได้จำนวนครั้ง เท่ากับที่เค้ากำหนดไว้ พอดี เช่นหลุม พาร์ 3 ตีสามครั้งลงหลุม ก็เรียกว่าได้ พาร์ ไม่มีคะแนน ทั้งบวก และ ลบ
ถ้าใครตีได้จำนวนน้อยกว่า ที่สนามกำหนดไว้ หรือ ตี ได้ (Under) ก็ได้คะแนนเป็นลบ ซึ่ง ชื่อเรียก ต่างๆกันไป คือ
ถ้าตีได้ น้อยกว่าที่สนามกำหนดไว้ 1 ครั้ง เช่น พาร์ 3 ตีสองครั้งลง พาร์4 ตีสามครั้งลง หรือ พาร์ 5 ตี 4 ครั้งลง
ก็ได้ คะแนน -1 เรียกว่า ได้ birdy (นกเล็ก)
ถ้าตี ได้น้อยกว่าที่หลุมกำหนดไว้ 2 ครั้ง เช่น หลุม พาร์ 3 ตีครั้งเดียวลงหลุมเลย หรือ พาร์ 4 ตี 2 ครั้งลงหลุม หรือ พาร์ 5 ตี สามครั้ง ลงหลุม อันนี้
ได้ -2 เรียกว่าได้ Eagle (เหยี่ยวใหญ่)
สำหรับพวกพาร์ 3 ที่ตี ทีเดียวลงหลุมเลย ค่อนข้างยากมากๆ เรียกพิเศษให้ว่า Hole In One บางสนามกำหนดรางวัลพิเศษให้เป็นรถ หรือเงินรางวัลใหญ่ๆเลย ต้องทั้งเก่ง และเฮงประกอบกัน
ถ้าตีได้ น้อยกว่าที่สนามกำหนดไว้ 3 ครั้ง
เช่น หลุมพาร์ 4 ที่ไม่ไกลมากนัก แต่ปาฏิหารย์ Par 4 ตีถึง และ ตีทีเดียว ลงหลุมเลย ก็เป็น Hole In One ในหลุมพาร์ 4 หรือ หลุม หลุม พาร์ 5 ที่ตี แค่ 2 ครั้งลงหลุมเลย อันนี้
ได้ -3 เรียกว่า Double Eagle หรือ อัลบราทรอส (Albatross) (อินทรีย์ทะเล นกยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก)
แต่ Hold In One หรือ อัลบราทอซ ในหลุม พาร์ 4 (อภิมหายากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราว่า ทั้งไกล และต้องฟลุ้ค ) ส่วน พาร์ 5 เลิกหวังได้ เพราะว่า ระยะหลุมพาร์ 5 มันตีไม้เดียวไม่ถึงแน่นอน
ในด้านการเสียแต้ม
ถ้าตีเกินกว่าพาร์ ในแต่ละหลุม ก็จะเสียแต้ม ขึ้น คะแนน เป็น +
เช่น
ตีเกินไป +1 เรียกว่า เสียโบกี้
ตี
เกินไป +2 เรียกว่า เสีย ดับเบิ้ลโบกี้
ตี
เกินไป +3 เรียกสว่า เสีย ทริปเปิ้ลโบกี้
ถ้าเกินไปมากกว่านั้น ก็ + XXX เพิ่มเข้าไป
นอกจากการนับจำนวนครั้ง จากการตีแล้ว คะแนน ก็จะยังมีจากพวกโทษปรับต่างๆ ที่นำมาบวก หักคะแนน รวมเข้าไปด้วย
ในการแข่งขัน กอล์ฟ ทัวร์นาเม้นต์ ทั่วไป ก็แข่ง สี่วัน วันล่ะ 18 หลุม
แต่ล่ะวัน เล่นสนามเดิม หลุมเดิม แต่มีการปักธง ย้ายตำแหน่งให้ยากง่ายต่างกันออกไป
สองวันแรก จะเป็นการคัดเลือก ตัดตัว และ แบ่งกลุ่ม ผู้เล่นจะถูกจัดกลุ่มให้เล่น ด้วยกัน เป็นกลุ่ม ออกเช้ากลุ่มนึง ออกบ่ายกลุ่มนึง
พอวันที่ 2 ก็สลับกัน กลุ่มที่เคยออกเช้า เปลี่ยนไปออกบ่าย กลุ่มออกบ่าย ย้ายมาออกเช้าบ้าง(เหมือนกลุ่มโปรเม ที่วันแรก ออกทีหลัง วันนี้ วันที่สอง จะย้ยมาออกก่อนบ้าง)
ในการแข่งขันทั่วไป หลังผ่านสองวันแรกจะมีการตัดตัวเอาผู้เล่นที่เล่นได้ดี ประมาณครึ่งนึง (ราวๆ 60-70 คน ไปเล่นในวันที่ 3 และ 4 ต่อ คนที่คะแนน ไม่ดี ก็จะถูกตัดตัวออกไป
ส่วนในวันที่ 3 และ 4 เมื่อผ่านเข้ามาแล้ว จะไม่มีตัดตัวแล้ว เล่นต่อไปจนจบ ครบ 4 วัน โดยลำดับการออกก่อนหลัง จะเรียงคนที่คะแนนน้อยสุดออกก่อน และคะแนนมากสุด ออกหลัง และจับกลุ่ม กันวันต่อวันโดยคะแนน เช่น จบวันที่สอง แล้ว วันที่ 3 คนที่ได้ อันดับ 1-2-3 จะออกด้วยกันเป็น กลุ่มสุดท้าย (ถ้าวันที่ สามคะแนนเปลี่ยน วันที่ 4 ก็จัดกลุ่ม ตามอันดับใหม่)
แต่สำหรับ โอลิมปิค นั้น จำนวนนักกอล์ฟ คัดมาแข่งกัน 60 กว่าคน และไม่มีการตัดตัวใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนได้เล่นจนครบ 4 วัน แต่การจัด ลำดับก่อนหลัง ใช้หลักการเช่นเดียวกับทัวร์นาเม้นต์ทั่วไป
เย็นนี้โปรเม ออกก่อน ขอให้ทำคะแนนหนีห่าง ไปเยอะๆ แล้ว วันที่ 3-4 ออกเป็นกลุ่มสุดท้ายนะครับ ดึกหน่อย ผมยอม อดนอนเชียร์
=== เกล็ดเล็กน้อย เกี่ยว กับกติกา กอล์ฟเอามาฝาก จะได้ ลุ้นโปร เม กันสนุกๆ ขึ้น ==
แต่บางคนที่ไม่ได้ เล่น และ ไม่ได้ดดูกอล์ฟ ประจำ อาจจะงงกติกา ว่าเค้าตัดสินแพ้ชนะ กันอย่างไร
การแข่งขันกอล์ฟทั่วไป แบบทัวร์นาเม้นต์ รวมทั้งในโอลิมปิก เกมส์คราวนี้
จะแข่งกัน 4 วัน วันล่ะ 18 หลุม
แล้ว จะนับคะแนนรวม สี่วัน ใครตีได้จำนวนครั้งน้อยสุด เป็นผู้ชนะ
แต่ เวลาให้คะแนน เค้าจะไม่ได้รายงาน ออกมาเป็นตัวเลขจำนวนครั้งที่ตี เพราะว่า ตัวเลขจะเยอะดูวุ่นวาย แต่เค้าจะรายงานออกมาเป็น ค่าคะแนนที่เรา ตีมากกว่า หรือน้อยกว่า ค่าที่กำหนดไว้ ของสนาม
ดังนั้นคนที่ได้คะแนน ติดลบมากๆๆ (ตีจำนวนครั้งน้อยกว่า ที่สนามกำหนดไว้ได้มากกว่า) เรียกว่า ได้ อันเด้อร์สนาม
หรือ ถ้าไม่ติดลบ แต่คะแนน มีค่าเป็นบวกน้อยกว่า (ตีเกินกว่าจำนวนที่ สนามกำหนดไว้น้อยกว่า ) คือผู้ชนะ
ปกติ หลุมกอล์ฟแต่ล่ะหลุม จะกำหนดจำนวนครั้ง ที่ต้องตีให้ลงหลุมไว้ เรียกว่า พาร์ (Par)
มีตั้ง แต่ พาร์ 3 พาร์ 4 และ พาร์ 5
ถ้าตี ได้จำนวนครั้ง เท่ากับที่เค้ากำหนดไว้ พอดี เช่นหลุม พาร์ 3 ตีสามครั้งลงหลุม ก็เรียกว่าได้ พาร์ ไม่มีคะแนน ทั้งบวก และ ลบ
ถ้าใครตีได้จำนวนน้อยกว่า ที่สนามกำหนดไว้ หรือ ตี ได้ (Under) ก็ได้คะแนนเป็นลบ ซึ่ง ชื่อเรียก ต่างๆกันไป คือ
ถ้าตีได้ น้อยกว่าที่สนามกำหนดไว้ 1 ครั้ง เช่น พาร์ 3 ตีสองครั้งลง พาร์4 ตีสามครั้งลง หรือ พาร์ 5 ตี 4 ครั้งลง ก็ได้ คะแนน -1 เรียกว่า ได้ birdy (นกเล็ก)
ถ้าตี ได้น้อยกว่าที่หลุมกำหนดไว้ 2 ครั้ง เช่น หลุม พาร์ 3 ตีครั้งเดียวลงหลุมเลย หรือ พาร์ 4 ตี 2 ครั้งลงหลุม หรือ พาร์ 5 ตี สามครั้ง ลงหลุม อันนี้ ได้ -2 เรียกว่าได้ Eagle (เหยี่ยวใหญ่)
สำหรับพวกพาร์ 3 ที่ตี ทีเดียวลงหลุมเลย ค่อนข้างยากมากๆ เรียกพิเศษให้ว่า Hole In One บางสนามกำหนดรางวัลพิเศษให้เป็นรถ หรือเงินรางวัลใหญ่ๆเลย ต้องทั้งเก่ง และเฮงประกอบกัน
ถ้าตีได้ น้อยกว่าที่สนามกำหนดไว้ 3 ครั้ง
เช่น หลุมพาร์ 4 ที่ไม่ไกลมากนัก แต่ปาฏิหารย์ Par 4 ตีถึง และ ตีทีเดียว ลงหลุมเลย ก็เป็น Hole In One ในหลุมพาร์ 4 หรือ หลุม หลุม พาร์ 5 ที่ตี แค่ 2 ครั้งลงหลุมเลย อันนี้ ได้ -3 เรียกว่า Double Eagle หรือ อัลบราทรอส (Albatross) (อินทรีย์ทะเล นกยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก)
แต่ Hold In One หรือ อัลบราทอซ ในหลุม พาร์ 4 (อภิมหายากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราว่า ทั้งไกล และต้องฟลุ้ค ) ส่วน พาร์ 5 เลิกหวังได้ เพราะว่า ระยะหลุมพาร์ 5 มันตีไม้เดียวไม่ถึงแน่นอน
ในด้านการเสียแต้ม
ถ้าตีเกินกว่าพาร์ ในแต่ละหลุม ก็จะเสียแต้ม ขึ้น คะแนน เป็น +
เช่น ตีเกินไป +1 เรียกว่า เสียโบกี้
ตีเกินไป +2 เรียกว่า เสีย ดับเบิ้ลโบกี้
ตีเกินไป +3 เรียกสว่า เสีย ทริปเปิ้ลโบกี้
ถ้าเกินไปมากกว่านั้น ก็ + XXX เพิ่มเข้าไป
นอกจากการนับจำนวนครั้ง จากการตีแล้ว คะแนน ก็จะยังมีจากพวกโทษปรับต่างๆ ที่นำมาบวก หักคะแนน รวมเข้าไปด้วย
ในการแข่งขัน กอล์ฟ ทัวร์นาเม้นต์ ทั่วไป ก็แข่ง สี่วัน วันล่ะ 18 หลุม
แต่ล่ะวัน เล่นสนามเดิม หลุมเดิม แต่มีการปักธง ย้ายตำแหน่งให้ยากง่ายต่างกันออกไป
สองวันแรก จะเป็นการคัดเลือก ตัดตัว และ แบ่งกลุ่ม ผู้เล่นจะถูกจัดกลุ่มให้เล่น ด้วยกัน เป็นกลุ่ม ออกเช้ากลุ่มนึง ออกบ่ายกลุ่มนึง
พอวันที่ 2 ก็สลับกัน กลุ่มที่เคยออกเช้า เปลี่ยนไปออกบ่าย กลุ่มออกบ่าย ย้ายมาออกเช้าบ้าง(เหมือนกลุ่มโปรเม ที่วันแรก ออกทีหลัง วันนี้ วันที่สอง จะย้ยมาออกก่อนบ้าง)
ในการแข่งขันทั่วไป หลังผ่านสองวันแรกจะมีการตัดตัวเอาผู้เล่นที่เล่นได้ดี ประมาณครึ่งนึง (ราวๆ 60-70 คน ไปเล่นในวันที่ 3 และ 4 ต่อ คนที่คะแนน ไม่ดี ก็จะถูกตัดตัวออกไป
ส่วนในวันที่ 3 และ 4 เมื่อผ่านเข้ามาแล้ว จะไม่มีตัดตัวแล้ว เล่นต่อไปจนจบ ครบ 4 วัน โดยลำดับการออกก่อนหลัง จะเรียงคนที่คะแนนน้อยสุดออกก่อน และคะแนนมากสุด ออกหลัง และจับกลุ่ม กันวันต่อวันโดยคะแนน เช่น จบวันที่สอง แล้ว วันที่ 3 คนที่ได้ อันดับ 1-2-3 จะออกด้วยกันเป็น กลุ่มสุดท้าย (ถ้าวันที่ สามคะแนนเปลี่ยน วันที่ 4 ก็จัดกลุ่ม ตามอันดับใหม่)
แต่สำหรับ โอลิมปิค นั้น จำนวนนักกอล์ฟ คัดมาแข่งกัน 60 กว่าคน และไม่มีการตัดตัวใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนได้เล่นจนครบ 4 วัน แต่การจัด ลำดับก่อนหลัง ใช้หลักการเช่นเดียวกับทัวร์นาเม้นต์ทั่วไป
เย็นนี้โปรเม ออกก่อน ขอให้ทำคะแนนหนีห่าง ไปเยอะๆ แล้ว วันที่ 3-4 ออกเป็นกลุ่มสุดท้ายนะครับ ดึกหน่อย ผมยอม อดนอนเชียร์