ลำดับการสวดของเราคือ
- บทกราบพระรัตนตรัย
- บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
- บทไตรสรณคมน์
- บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
- บทพุทธชัยมงคลคาถา
- บทชัยปริตร (มหากาฯ)
- บทสัพพมงคลคาถา
- พระคาถาชินบัญชร 9 จบ
- แผ่เมตตาให้ตัวเอง
- แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
- บทอุทิศส่วนกุศล ( ให้แม่พ่อ ญาติ ครูบาอาจารย์ เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์)
- คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ใช้เวลาสวดทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เราสวดเวลา 19.00 น.ค่ะ
วันที่ 1 - 2 เราค่อนข้างตะกุกตะกัก และช้ามาก แต่กำลังใจมาเต็ม รู้สึกดี
วันที่ 3 - 4 ยอมรับว่า เริ่มท้อ ไม่อยากสวด แต่คิดว่าไหนๆ ก็สวดมา 2 วันละ บอกตัวเองว่าพยายามอีกนิด
วันที่ 5 - 9 เริ่มเฉยๆ กับการสวด ไม่ได้รู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกฝืน
ขณะสวด
เรารู้สึกว่าสมาธิของเรามุ่งไปที่ตัวหนังสือ แต่ในใจบางทีก็ถูกรบกวนด้วยเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต
ยิ่งในช่วงเวลาที่เราอธิษฐานอโหสิกรรมให้กับแฟนเก่า เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมการให้อภัยทานถึงเป็นทานที่ให้ได้ง่ายและยากในเวลาเดียวกัน
การให้อภัย ง่ายเพราะไม่ต้องใช้สิ่งของอะไรเลย ไม่ต้องออกแรงทางกายใด
การให้อภัย ยากเพราะต้องตัดใจข่มใจพอสมควร (หมายถึงตัวเราเอง) ที่จะให้อภัยในเรื่องร้ายๆ ที่แฟนเก่าทำกับเรา
แต่พอเรากล่าวบทนี้ออกไป ก็รู้สึกเหมือนกับว่าใจรู้สึกได้ว่า มันเบา มันวางและปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างลง
ในชีวิตประจำวัน
เรากลายเป็นคนโกรธคนอื่นยากมากขึ้น เข้าใจได้ในสิ่งที่คนอื่นทำกับเรา ใจเย็นมากขึ้น ทั้งๆ ที่งานที่เราทำมันชวนให้โกรธ โมโหได้บ่อยๆ
ส่งท้าย
1. เราขอไม่พูดว่ามีหรือไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะสิ่งที่ต้องการแชร์คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและเห็นอย่างชัดเจนเท่านั้นนะคะ
2. ย้ำนะคะว่าเป็นการ "แชร์ประสบการณ์"
แชร์ประสบการณ์ สวดชินบัญชรวันละ 9 จบ ครบ 9 วัน
- บทกราบพระรัตนตรัย
- บทนอบน้อมพระพุทธเจ้า
- บทไตรสรณคมน์
- บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
- บทพุทธชัยมงคลคาถา
- บทชัยปริตร (มหากาฯ)
- บทสัพพมงคลคาถา
- พระคาถาชินบัญชร 9 จบ
- แผ่เมตตาให้ตัวเอง
- แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
- บทอุทิศส่วนกุศล ( ให้แม่พ่อ ญาติ ครูบาอาจารย์ เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์)
- คำอธิษฐานอโหสิกรรม
ใช้เวลาสวดทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เราสวดเวลา 19.00 น.ค่ะ
วันที่ 1 - 2 เราค่อนข้างตะกุกตะกัก และช้ามาก แต่กำลังใจมาเต็ม รู้สึกดี
วันที่ 3 - 4 ยอมรับว่า เริ่มท้อ ไม่อยากสวด แต่คิดว่าไหนๆ ก็สวดมา 2 วันละ บอกตัวเองว่าพยายามอีกนิด
วันที่ 5 - 9 เริ่มเฉยๆ กับการสวด ไม่ได้รู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกฝืน
ขณะสวด
เรารู้สึกว่าสมาธิของเรามุ่งไปที่ตัวหนังสือ แต่ในใจบางทีก็ถูกรบกวนด้วยเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต
ยิ่งในช่วงเวลาที่เราอธิษฐานอโหสิกรรมให้กับแฟนเก่า เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมการให้อภัยทานถึงเป็นทานที่ให้ได้ง่ายและยากในเวลาเดียวกัน
การให้อภัย ง่ายเพราะไม่ต้องใช้สิ่งของอะไรเลย ไม่ต้องออกแรงทางกายใด
การให้อภัย ยากเพราะต้องตัดใจข่มใจพอสมควร (หมายถึงตัวเราเอง) ที่จะให้อภัยในเรื่องร้ายๆ ที่แฟนเก่าทำกับเรา
แต่พอเรากล่าวบทนี้ออกไป ก็รู้สึกเหมือนกับว่าใจรู้สึกได้ว่า มันเบา มันวางและปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างลง
ในชีวิตประจำวัน
เรากลายเป็นคนโกรธคนอื่นยากมากขึ้น เข้าใจได้ในสิ่งที่คนอื่นทำกับเรา ใจเย็นมากขึ้น ทั้งๆ ที่งานที่เราทำมันชวนให้โกรธ โมโหได้บ่อยๆ
ส่งท้าย
1. เราขอไม่พูดว่ามีหรือไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะสิ่งที่ต้องการแชร์คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและเห็นอย่างชัดเจนเท่านั้นนะคะ
2. ย้ำนะคะว่าเป็นการ "แชร์ประสบการณ์"