.....วันนี้ คือวันเกิดครบรอบ 28 ปี ของผมครับ ตอนนี้ครอบครัวของผมเหลือแค่ผมคนเดียว
คุณพ่อ คุณแม่ และก็คุณยาย ทุกคนจากผมไปหมดแล้ว
วันนี้วันที่ 17 เดือนสิงหาคม ปี2559 (หึ!!!!!!!! วันนี้วันสารทจีน)
เป็นวันที่ผมเหนื่อยมากวันนึงเลยทีเดียว
ตั้งแต่ตื่นนอนมาผมต้องรีบตั้งของไหว้บรรพชน (ก็มันตรงกับสารทจีนหนิครับ)
เพราะว่าผมยังคิดถึงพวกเค้าจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้ก็คือสิ่งนี้แหล่ะ
เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ แม่กับคุณยายผมมักเคี่ยวเข็นให้ผมตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรพระ
เย็นกลับบ้านมาก็จะล้อมวงทานข้าวกัน
คุณยายอวยพรวันเกิดให้ทุกๆปี สวมกอด แล้วก็สวดมนตร์ก่อนเข้านอน
ผมมีความสุขในแบบเรียบง่ายของผมอย่างนี้
แต่ทุกวันนี้...แม้เสียงที่ลอยมาตามลม ก็ยังไม่มีเลย...
.......................... ผ ม เ ห ง า ................................
นี่คือสิ่งที่ผมรู้ตัวเองมาได้สักพักครับ ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจรับสะภาพนะ
เอาเข้าจริงๆ วันเกิดของผมในทุกๆปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้จัดงานหรือได้รับของขวัญอะไรหรอก
ผมไม่ได้ต้องการของขวัญจากใคร ผมต้องการก็เพียงอาหารเย็นมื้อเล็กๆกับคนที่ผมรัก
แต่มันก็มองไม่เห็นใครเลยจริงๆ ผมไม่ชอบการปาร์ตี้วันเกิดกับเพื่อนๆนะครับ
ผมว่ามันไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับสิ่งที่แม่ผมพยายามอยากให้ผมเกิดมา
ผมว่าอาการนี้มันออกจะดูงี่เง่าเมื่อเทียบกับอายุ แต่ให้ทำไงได้หล่ะครับ
บางทีที่ผมทุกข์ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปเล่าให้ใครฟังเลย
ในเมื่อคนที่ผมไว้ใจและพร้อมจะเข้าใจผมทุกคน วันนี้เค้าจากผมไปหมดแล้ว
ถามผมว่า...ตัวผมเองมีความสุขมั้ย "มันก็มีนะครับ แต่มันรู้สึกเดียวดาย"
ผมพยายามไม่อยู่คนเดียว ทำตัวให้ยุ่งกับงานที่สุด ออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง
แต่ไม่ว่าจะพยายามทำอะไรเท่าไหร่ แต่สิ่งนึงที่ผมกลับมาเจอที่บ้านทุกวันคือความเงียบเหงา
สุดท้ายผมก็หนีไม่พ้น " ... ความเหงา ... " ที่มันเยอะมากๆในใจ
ผมมีแฟนเหมือนกันนะครับ แต่เค้าไม่ค่อยว่างเท่าไหร่
ผมไม่อยากว่าแฟนผมไม่สนใจหรอกนะครับ เพราะเราต่างก็มีหน้าที่ที่ต่างกัน
ผมก็รักแฟนผมแหล่ะ แต่ผมไม่อยากทำตัวงี่เง่า เอาแต่ใจ ให้เค้าคอยมาเอาใจใส่ตลอด
ผมเลยไม่กล้าพูดว่า ผมเหงา ผมไม่โอเค ผมคิดถึง ผมอยากกอด ผมอีกสาระพัดผม...
ก็นั่นแหล่ะครับ...เอาเป็นว่าถ้าใครมีวิธีคิดหรืออะไรที่ทำแล้วมันหายเหงาไปบ้างก็เอามาแบ่งปันกันนะครับ
เผื่อว่าทำแล้วดีจะได้บอกต่อ
ปล.ผมลองเข้าวัดสวดมนตร์แล้ว มันไม่ได้ช่วยให้ลืม มันทำให้ยอมรับได้ ซึ่งผมเองยอมรับได้ แต่มันไม่หายเหงา
ฝากด้วยนะครับ... :3 :3 :3
วันเกิด...ที่ต้องอยู่คนเดียวลำพังนี่มันอยู่กันยังไงหรอครับ?
คุณพ่อ คุณแม่ และก็คุณยาย ทุกคนจากผมไปหมดแล้ว
วันนี้วันที่ 17 เดือนสิงหาคม ปี2559 (หึ!!!!!!!! วันนี้วันสารทจีน)
เป็นวันที่ผมเหนื่อยมากวันนึงเลยทีเดียว
ตั้งแต่ตื่นนอนมาผมต้องรีบตั้งของไหว้บรรพชน (ก็มันตรงกับสารทจีนหนิครับ)
เพราะว่าผมยังคิดถึงพวกเค้าจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้ก็คือสิ่งนี้แหล่ะ
เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ แม่กับคุณยายผมมักเคี่ยวเข็นให้ผมตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรพระ
เย็นกลับบ้านมาก็จะล้อมวงทานข้าวกัน
คุณยายอวยพรวันเกิดให้ทุกๆปี สวมกอด แล้วก็สวดมนตร์ก่อนเข้านอน
ผมมีความสุขในแบบเรียบง่ายของผมอย่างนี้
แต่ทุกวันนี้...แม้เสียงที่ลอยมาตามลม ก็ยังไม่มีเลย...
.......................... ผ ม เ ห ง า ................................
นี่คือสิ่งที่ผมรู้ตัวเองมาได้สักพักครับ ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจรับสะภาพนะ
เอาเข้าจริงๆ วันเกิดของผมในทุกๆปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้จัดงานหรือได้รับของขวัญอะไรหรอก
ผมไม่ได้ต้องการของขวัญจากใคร ผมต้องการก็เพียงอาหารเย็นมื้อเล็กๆกับคนที่ผมรัก
แต่มันก็มองไม่เห็นใครเลยจริงๆ ผมไม่ชอบการปาร์ตี้วันเกิดกับเพื่อนๆนะครับ
ผมว่ามันไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับสิ่งที่แม่ผมพยายามอยากให้ผมเกิดมา
ผมว่าอาการนี้มันออกจะดูงี่เง่าเมื่อเทียบกับอายุ แต่ให้ทำไงได้หล่ะครับ
บางทีที่ผมทุกข์ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปเล่าให้ใครฟังเลย
ในเมื่อคนที่ผมไว้ใจและพร้อมจะเข้าใจผมทุกคน วันนี้เค้าจากผมไปหมดแล้ว
ถามผมว่า...ตัวผมเองมีความสุขมั้ย "มันก็มีนะครับ แต่มันรู้สึกเดียวดาย"
ผมพยายามไม่อยู่คนเดียว ทำตัวให้ยุ่งกับงานที่สุด ออกกำลังกายวันละหลายชั่วโมง
แต่ไม่ว่าจะพยายามทำอะไรเท่าไหร่ แต่สิ่งนึงที่ผมกลับมาเจอที่บ้านทุกวันคือความเงียบเหงา
สุดท้ายผมก็หนีไม่พ้น " ... ความเหงา ... " ที่มันเยอะมากๆในใจ
ผมมีแฟนเหมือนกันนะครับ แต่เค้าไม่ค่อยว่างเท่าไหร่
ผมไม่อยากว่าแฟนผมไม่สนใจหรอกนะครับ เพราะเราต่างก็มีหน้าที่ที่ต่างกัน
ผมก็รักแฟนผมแหล่ะ แต่ผมไม่อยากทำตัวงี่เง่า เอาแต่ใจ ให้เค้าคอยมาเอาใจใส่ตลอด
ผมเลยไม่กล้าพูดว่า ผมเหงา ผมไม่โอเค ผมคิดถึง ผมอยากกอด ผมอีกสาระพัดผม...
ก็นั่นแหล่ะครับ...เอาเป็นว่าถ้าใครมีวิธีคิดหรืออะไรที่ทำแล้วมันหายเหงาไปบ้างก็เอามาแบ่งปันกันนะครับ
เผื่อว่าทำแล้วดีจะได้บอกต่อ
ปล.ผมลองเข้าวัดสวดมนตร์แล้ว มันไม่ได้ช่วยให้ลืม มันทำให้ยอมรับได้ ซึ่งผมเองยอมรับได้ แต่มันไม่หายเหงา
ฝากด้วยนะครับ... :3 :3 :3