'| Cool girls & Cute island 👭 ผู้หญิงน่ารักกับเกาะน่าเลิฟ |'


แน่นอนว่าวันหยุดที่ผ่านมา ถ้าเรานอนอยู่บ้านการเดินทางและเรื่องราวต่างๆคงไม่เกิดขึ้นยิ้ม  เก็บกระเป๋า แบกเป้ แล้วโกทูอนุสาวรีย์กันดีกว่า 😎😎


วันที่หนึ่ง : กรุงเทพ-เกาะสีชัง
นัดเจอกับเพื่อนตอน  8 โมงที่คิวรถตู้  วันนี้บรรยากาศตอนเช้าอุ่นหนาฝาคั่ง ไปด้วยผู้คน ซึ่งเราก็แอบคิดในใจว่าเค้าคงไม่ได้ไปเกาะสีชังกันหรอกนะ  😅😅  ซื้อตั๋วที่คิวรถตู้ข้างเซนจูรี่ไปศรีราชา ราคา 100 บาท คนขายตั๋วบอกว่าให้ไปลงที่โรบินสันศรีราชา เพื่อต่อรถสองแถวไปยังท่าเรือข้ามไปเกาะสีชัง  ประมาณ 9 โมงครึ่ง รถตู้ก็ออกจากอนุสาวรีย์มุ่งหน้าสู่ศรีราชา นั่งไปหลับไปไม่นานรถตู้ก็จอดที่โรบินสันศรีราชา เรากับเพื่อนเดินลงมาทำหน้างงๆ แล้วพยายามมองหารถสองแถว ไม่เห็นมีไปเกาะลอยเลยนี่นา พี่รถตุ๊กๆถามจะไปไหน เราบอกจะไปเกาะลอย  เค้าบอกว่าตอนนี้สะพานที่เกาะลอยพัง เปลี่ยนท่าเรือแล้ว เด่วพี่พาไป 80 บาท เรากับเพื่อนเลยยักหน้าไปกับพี่ตุ๊กๆ

ไปถึงท่าเรือซื้อตั๋วแล้วลงเรือเลย ราคาตั๋ว 50 บาท


นั่งเรือไปประมาณครึ่งชั่วโมง  ก็ถึงเกาะสีชังแล้ว วันนี้ท้องฟ้าช่างแจ่มใสซะจริงๆ มาชาอัลลอฮฺ ☺️🌞



เมื่อกระโดดขึ้นฝั่ง เราก็เปิดแผนที่ในโทรศัพท์ดูทางไปที่พัก ด้วยความที่เฟอะฟะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วดันไปเดินชนรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง  คนขับพูดกับเราว่า  อ่าวอย่ามัวแต่จับโปแกมอนครับ   คือ  นู๋หาทางไปที่พักค่ะ ไม่ได้จับโปแกมอนนะคะ 😂  ระหว่างทางตรงท่าเรือก็มีทั้งรถสกายแลป รถสองแถว  รถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า แต่เราไม่ได้สนใจหรอก มัวแต่มองดูแผนที่แล้วเดินไปเรื่อย  จนเพื่อนเราทักว่าแกทำไมไม่เช่ามอเตอร์ไซค์ตรงท่าเรือ  อ่าวมีหรอ ไม่ทันมอง เราเลยตัดสินใจเดินหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ต่อไป จนเจอร้านหนึ่ง ป้าเจ้าของร้านใจดีมาก และรถใหม่มากด้วย


แอบสงสัยเหมือนกันว่าบนเกาะสีชังนี่เป็นแฟน Liverpool กันเยอะแน่เลยเพราะเห็นมีแต่สกูปปี้ Liverpool ขนาดรถสกายแลปบางคันยังแปะสติ๊กเกอร์  Liverpool ด้วยเลย 😅   เอาล่ะหยุดสงสัยแป๊บบ  หาที่พักเราต่อ เราจองที่พักที่ Unseen Resort  เอาไว้ซึ่งดูจากแผนที่แล้วเราก็ขับมั่วไป  จนชักไม่แน่ใจ เจออู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง เราเลยจอดรถถาม พี่เจ้าของอู่บอกว่า "ผมรู้จัก พอดีผมเคยรับเหมาโครงการนี้ เดี๋ยวโทรเรียกคนมารับดีกว่า"  (อัลฮัมดุลิลละฮฺ) พี่เค้าใจดีจัง  ในที่สุดก็มีคนขับรถมารับและพาไปยังรีสอร์ท  และนี่คือที่พักของเรา มาชาอัลลอฮฺ  สวยมาก ฟินมาก ชิลมากกกกก  เรากับเพื่อนกระตู้ฮู้กันใหญ่ ☺️



เก็บของนั่งฟินกับบรรยากาศสักพักหนึ่ง เรากับเพื่อนก็ออกเดินทางไปหาของกินเพิ่มพลังกันก่อน ขับรถไปทางท่าเรือ ผ่านตลาด แล้วก็เจอร้านส้มตำมุสลิมอยู่ตรงข้ามกับบาแลเกาะสีชัง(สถานที่ละหมาด) มื้อแรกของพวกเราก็จัดหนักกันเลยจ่ะ

อิ่มหนำสำราญตามอัธยาศัยแล้วเราก็ลุยกันต่อ ที่แรกที่จะไปก็คงไม่พ้นจุดท็อปฮิตที่สุดของเกาะสีชัง นั่นก็คือ สะพานอัษฎางค์








ที่เกาะสีชังมีต้นลีลาวดีเยอะมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สามารถเห็นได้ทุกที่ เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสีชังอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้  เราถ่ายรูปไปนั่งเล่นกับเพื่อนไป  เผลอแพร๊พเดียวก็ 5 โมงครึ่งล่ะ  เมนูอาหารเย็นลอยมาในหัว เพื่อนเราแอบถามป้าร้านส้มตำเรื่องของทะเลเผาก่อนออกมา ป้าเค้าก็แนะนำร้านป้าหน่อย ซึ่งอยู่ใกล้ๆทางไปสะพานอัษฎางค์  เรากับเพื่อนซื้อ กุ้ง ปลาหมึก  หอยแมลงภู่ มาอย่างล่ะครึ่งกิโล  แล้วกลับไปเตรียมดินเนอร์ที่ห้องพักรอดูพระอาทิตย์ตก ฟินอย่าบอกใครเลย ดินเนอร์สุดชิลฟังเสียงคลื่น มองทะเล สงบดีจัง มันเป็นบรรยากาศที่ดีจริงๆ



วันที่สอง : เกาะสีชัง
เรากับเพื่อนคุยกันไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานอัษฎางค์ตอนเช้า ตื่นมาตีสี่คิดอีกทีเค้าจะเปิดรึยังนะ  เลยตกลงกันว่าไปกันสัก 6 โมงล่ะกัน แล้วไปหาอะไรกินที่ตลาดกันต่อ และนี่คือ สะพานอัษฎางค์ในตอนเช้า




แอบมองป้ายเวลาเปิด-ปิด  ตรงทางเข้า ที่นี่เปิด 06.00-18.00 น. เรากับเพื่อนถ่ายรูปกันสักพัก กระเพาะอาหารก็ร้องหาอาหารเช้า 😁😁  เลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปตลาด ซื้อขนมครก แล้วก็แวะเซนเว่นซื้อขนมปัง โบโล่น่าไก่  แล้วก็ไข่ต้ม กลับมาที่พักจัดเตรียมมื้อเช้าแล้วนั่งชิลชมวิวที่ระเบียงเช่นเดิม


เป็นมื้อที่แสนเรียบง่ายแต่อิ่มเว่อ 😅 เรากับเพื่อนแพลนกันต่อว่าอยากขับรถไปดูปาริฮัท อยากรู้ว่าบรรยากาศที่นั่นจะเป็นอย่างไร เลยแยกย้ายกันทำภารกิจ แล้วเริ่มต้นการเดินทางด้วย Google map 😏😌 คือเอาจริงๆก็ไม่ค่อยอยากไปตามการนำทางของนางสักเท่าไหร่นะ  แต่ในตอนนั้นก็อยากลองดู และเชื่อใจนางอักสักครั้ง  😏😏  การนำทางของ  Google map ได้นำพาเราไปสู่เส้นทางถนนดินทรายเนินเขาหิน ซึ่งมันสวยงามแต่ก็ทำให้เราเสียหลักต้องลงไปนอนแอ้งแม้งในโพรงหญ้า  😌😌


อัลฮัมดุลิลละฮฺ ที่เรากับเพื่อนไม่เป็นอะไรมากก็แค่ฟกชำดำเขียว แต่น้องนู๋ลิเวอร์พลูนี่สิ กระจกมองข้างขวาเบี้ยวไปเลย  หน้าป้าผู้ใจดีร้านเช่ารถก็ลอยมา  นู๋ขอโทษจริงๆนะคะป้า😭😭😂😅 เพื่อนเสนอว่าเอารถไปซ่อมที่อู่เมื่อวานสิ  อัลฮัมดุลิลละฮฺ  จริงด้วย ถ้าเมื่อวานไม่ขับหลงไป ก็คงไม่รู้ว่ามีอู่ซ่อมรถตรงไหน  ทุกๆการกำหนดสภาวการณ์ของอัลลอฮฺมีฮิกมะฮฺซ่อนอยู่ ซุบฮานัลลอฮฺ 😊  แต่ก่อนที่เราจะเอารถไปซ่อมเราก็แวะไปนั่งชิลที่แหลมงูที่อยู่ใกล้ๆกันก่อนสักพักหนึ่ง แหลมงู เป็นจุดที่ค่อนข้างเงียบสงบไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว อาจเพราะมันไม่ใช่ชายหาดสำหรับลงเล่นน้ำล่ะมั้ง





นั่งฟังเสียงคลื่นสักพักหนึ่งเรากับเพื่อนก็สตาร์ทรถขับไปกลับไปที่อู่ซ่อมรถแต่ก็แวะกินมอคค่าสมูทตี้ที่ร้าน Flower Blue ต่ออีกแปบนึง

เอาล่ะพาน้องลิเวอร์พลูไปซ่อมกันเถอะ พี่ที่อู่ซ่อมรถใจดีเช่นเคย คิดค่าซ่อมแค่ 20 บาทเอง อัลฮัมดุลิลละฮฺ เจอแต่คนใจดี ☺️ หลังจากนั้นเรากับเพื่อนก็ขับรถกลับที่พัก ความจริงก็เริ่มระบมปวดที่ขาแล้วล่ะจากที่ไปหกขะเมนตีลังกานอนแอ้งแม้งมาตะกี้  เราเอนกายแล้วก็เผลองีบหลับไป  ตื่นมาอีกที ก็ 3 โมงครึ่งล่ะ  เพื่อนเราบอกว่าแกไป ช่องเขาขาด กันพร้อมส่งรูปให้ดู  โอเคไปต่อกันค่ะ  😁😁 ระหว่างทางบนเกาะสีชัง มันช่างน่ารักกุ๊กกิ๊กยิ่งนัก มีต้นลีลาวดีอยู่ตลอดสองข้างทาง ชอบอ่ะเย็นด้วย  อยากให้ถนนในกรุงเทพเป็นอย่างงี้

ไม่นานก็ถึง ช่องเขาขาด คนมักจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่นี่  ใช่!  แน่นอนเราไม่ใช่คนกลุ่มนั้น  😆😂😝






เผลอแพร๊พเดียว 5 โมงครึ่งแล้ว มื้อเย็นอีกแล้วสินะ  ฮ่าาาา ร้านป้าหน่อยเหมือนเดิม แต่วันนี้เรากินปลาเผากัน  😁 ระหว่างทางไปร้านป้าหน่อยเราก็ขับรถเวียนไปตามถนน แวะถ่ายบรรยากาศในเมืองนิดหน่อยก่อนไปซื้อปลาเผาแล้วกลับที่พัก






วันที่สาม  : เกาะสีชัง - กรุงเทพ
วันสุดท้ายแล้วสินะ อาหารเช้าคือแซนวิสไข่ต้มที่ยังมีเหลืออยู่จากเมื่อวาน 😁 เอามานั่งกินที่ระเบียงเหมือนเดิม คงไม่ได้เห็นวิวแบบนี้อีกนาน เฮ้อ

เก็บกระเป๋า  แบกเป้ คืนกุญแจห้องเสร็จ เรากับเพื่อนแพลนกันว่าจะไป หาดถ้ำพัง ตรงอ่าวอัษฎางค์ก่อนกลับ








หาดจะสวยมากนะถ้าไม่มีขยะลอยเกลื่อนกลาด  รู้สึกเศร้าใจ ช่วยกันรักษาหาดกันด้วยนะคะ สงสารน้องปลา สงสารธรรมชาติ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่