ในอดีต หลายคนมีสมุดจดเล่มเล็กๆ ไว้จดเบอร์โทรศัพท์ จดบันทึกจิปาถะ หรือบางท่านอาจจะมี Diary เล่มนึง จดบันทึกสิ่งที่พบเจอประจำวัน จดบันทึกงาน วาดรูปยามว่าง ... จนกระทั่ง '
Galaxy Note' เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรม User นอกจากจะทำหน้าที่เป็นสมาร์ทโฟน Android หน้าจอขนาดใหญ่ ยังมาพร้อมกับ S-Pen มีความสามารถเขียน - สัมผัสบนหน้าจอ ให้สัมผัสเหมือนใช้งานปากกาจริง, S-Note (ปัจจุบันคือ Samsung Note) มีเครื่องมือสำหรับจดบันทึก / วาดภาพมากมาย แถม Sync & Share บน Social, Cloud ได้ตามต้องการ ทำให้ 'Galaxy Note' มีความน่าสนใจตลอดเวลา แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 5 ปี (Galaxy Note รุ่นแรกเปิดตัวปลายปี 2011) แถมเป็นอะไรที่เลียนแบบยากซะด้วย
ล่าสุด Samsung ได้นำเสนอ Galaxy Note รุ่นที่ 6 ของตระกูลกับ '
Galaxy Note 7' ยานแม่ลงทั้งที ต้องมีอะไรอัพเกรดเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน (Note 5) โดยมีคุณสมบัติสเปคเด่นๆ ดังนี้ครับ
- รองรับ 2 ซิมการ์ด (Hybrid-Tray) | 4G + 3G โดย Samsung จะอัพเกรด FW Modem ตามภายหลัง
- หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ชนิด Super-AMOLED, กระจกพาเนล (Gorilla Glass 5) แบบโค้ง 2 ด้าน
- รองรับการ Input ด้วยปากกา S-Pen
- เมมโมรีภายใน 64GB (UFS 2.0), เพิ่ม MicroSD สูงสุด 256GB
- ชิพประมวลผล Samsung Exynos 8890 + แรม 4GB (LPDDR4)
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (TouchWiz UX 2016)
- กล้องความละเอียด 12MP (Dual Pixel, F/1.7 OIS), กล้องหน้าความละเอียด 5MP (F/1.7) บันทึกวิดิโอความละเอียดสูงสุด 4K (UHD)
- ระบบ Biometric (สแกนลายนิ้วมือ, สแกนม่านตา (Irises))
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh (รองรับ Fast-Charging)
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
Design
เกิดมาเป็น Galaxy Note ทั้งที ย่อมมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า ส่วนตัวมองว่า Galaxy Note 7 เป็นการผสมผสานจุดเด่นของ 2 รุ่นได้อย่างลงตัว (Galaxy S7 Edge + Galaxy Note 5) ขนาดบอดี้พอดีมือ เล็กกว่า Note 5 นิดนึง หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว กระจกพาเนลแบบโค้ง เป็นความโค้งที่ดีงาม ลงตัว ไม่กระทบกับการใช้งานปกติ (ไม่ลั่น) กล้องหน้าอยู่ด้านบน เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์ + IR (สแกนม่านตา) และปุ่ม Home / Back - Menu ยังมีเหมือนเดิม ใช้ง่ายดีครับ
เฟรมบอดี้เป็นโลหะเหมือน Galaxy Note 5 ครับ จากความโค้งของกระจกด้านหน้า-หลัง ทำให้เนื้อโลหะลดลง (ทำให้เครื่องดูบางลงด้วย) พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ตำแหน่งยังคงเดิมทุกประการ โดย Galaxy Note 7 เป็นรุ่นแรกที่ใช้พอร์ต USB Type-C ด้วย รองรับการถ่ายโอนข้อมูล / ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในอนาคตดอีกด้วย
(
หมายเหตุ : Samsung แถมหัวแปลง Type-C และ USB OTG ในกล่องมาให้ หรือซื้อตัวแปลงของรุ่นอื่น เช่น Nexus ก็ใช้งานได้เหมือนกัน)
ฝาหลังของ Galaxy Note 7 เป็นกระจก Gorilla Glass 5 ขอบโค้งมน (เหมือน S7, S7 Edge) ให้ความรู้สึกสัมผัสเหมือนกันคือ มันสวยย แต่เป็นรอยง่ายไปหน่อย สำหรับสีสัน / การเล่นลาย เหมือน Galaxy S7 ทุกประการ ส่วนตัวชอบสี Onyx Black, Titanium Silver ตรงกลางเป็นกล้องความละเอียด 12MP พร้อมแฟลช LED / เซ็นเซอร์ต่างๆ และแบตเตอรี่ 3500 mAh เป็นแบบบิ้วท์อินเหมือนเดิม ถ้าจะเปลี่ยนต้องพึ่งพาศูนย์เท่านั้น
Software
เรื่องของ TouchWiz UX แค่หลับตาก็นึกภาพออกแล้ว แต่สำหรับบน Galaxy Note 7 มีความเปลี่ยนแปลง ‘บางส่วน’ แม้ภาพรวมหน้าตายังเหมือนเดิม แต่คลีนมากขึ้น / ปรับแต่งได้มากขึ้น (Theme, Icon, Grid, Transition Effect) , Always-on Display มีรูปแบบนาฬิกาให้เลือกมากขึ้น, Quick Panel ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น + Bluelight Filter, เมนู Settings ปรับหน้าตา - วางหมวดหมู่ใหม่ ฯลฯ
เมนู
Edge Screen จาก Galaxy S7 Edge มาครบเลยครับทั้ง Task Edge วางเมนูลัดแอพฯ / รายชื่อติดต่อ, Feeds ตั้งค่าแสดงผลข่าวสาร / เวลา / แจ้งเตือนเป็นรูปแบบฟีดเลื่อน, Edge Lighting แถบแสงกระพริบขณะมีสายเข้า + วางเครื่องคว่ำไว้ ตรงนี้สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามต้องการ
อีกส่วนนึงที่ชอบมากคือระบบ ‘
Power Saving’ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับความละเอียดการแสดงผล (FHD, HD) ประหยัดพลังงานได้เล็กน้อย, ตั้งค่าการใช้งาน Data / ลดความเร็ว Processor ลง ฯลฯ นอกจากนี้ยังตั้งค่า Background Apps, ดูว่าแอพฯ ไหนซดแบตมากน้อยแค่ไหนได้ด้วย
S-Pen & Samsung Note
- หัวปากกามี
ขนาด 0.7 มิลลิเมตร นั่นคือเทียบเท่าปากกาลูกลื่นทั่วไปแล้ว (อนาคตอาจทำได้ถึง 0.5 มิลลิเมตร)
- ทำมาจาก Elastomer (พอลิเมอร์พิเศษ มีคุณสมบัติคล้ายยาง)
- รองรับแรงกดสูงสุด
4096 ระดับ (ใช้วาดรูป / ลงสีจะเห็นความต่างชัดเจน)
- เทคโนโลยี EMR (เหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า) ระหว่างขดลวดในปากกา กับ Digitizer ทำให้สามารถใช้ในน้ำได้ พัฒนาโดย Wacom
- ตัวปากกากันน้ำด้วย ซีลด้วยวัสดุคล้ายยาง ออกแบบให้ส่วนประกอบ / แกนด้านในมีช่องว่างน้อยที่สุด
-
Animate GIF ใช้ Smart Select ครอบวิดิโอเป็นไฟล์ GIF
-
Translate แปลภาษาแบบเรียลไทม์ (ใช้ข้อมูลจาก Google Trans.) โดยจ่อ S-Pen เหนือคำที่ต้องการแปล
-
Magnifier ใช้ S-Pen จ่อเป็นแว่นขยาย
-
Glance ย่อแอพฯ ไว้มุมหน้าจอ เมื่อนำปากกาไปจ่อจะกลับมาเต็มจอเหมือนเดิม
S-Note ถูกปรับปรุงใหม่เป็น ‘
Samsung Note’ แบ่งหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มี 5 รูปแบบให้เลือกใช้งาน (Text, Pen, Brush, Pic และ Voice) ทั้งหมดนี้สามารถรวมใน Note เดียว และ Share ในรูปแบบ PDF/JPG./PNG ตามต้องการเหมือน S-Note เดิม
แต่ที่ว้าวสุดเลยคงไม่พ้นโหมด ‘
Brush’ เปรียบเสมือนกระดานวาดรูปแบบ Advance มีเครื่องมือให้ใช้งานมากมาย จะเป็นดินสอสี / สเปรย์ / แปรง ฯลฯ และ …
Effect สีน้ำ อันนี้สุดยอด ไม่ต้องลงแอพฯ อะไรเพิ่มเลย ตรงนี้จะทำให้ Artist ลงสีได้สมจริงขึ้นไปอีก ด้วยแรงกดปากกา 4096 ระดับ ผมเชื่อว่า ‘
Galaxy Note 7’ เกิดมาเพื่อนักวาดภาพอย่างแท้จริง (ไม่ลองไม่รู้ ^^)
Iris Security
- สแกนครั้งแรก แว่นตา คอนแทคเลนส์ ต้องถอดให้หมด แต่การใช้งานจริงใส่ได้ปกติ
- ระยะห่าง ~30-35 cm.
- ใช้งานคู่กับ Pattern หรือ Password ที่ตั้งค่าพร้อมกัน
- ทำงานเร็วมาก ในที่มืดสนิทก็ใช้ Iris ได้ แต่อ่านช้าหน่อย (ต้องเล็งให้เป๊ะ)
- ไม่เหมาะกับคนตาตี่ ต้องถ่างตามากกว่าปกติ
- หาก Restart เครื่อง ต้องปลด Pattern ก่อน ถึงจะใช้งาน Iris ในครั้งถัดไป
- โฟลเดอร์ลับ อันนี้เด็ดมาก เหมือนแอคลับ มีความ

ชนิดไม่อยากให้ใครเห็น โยนเข้ามาเลยจ่ะ
- อนาคตพัฒนาให้ใช้กับ Banking / Payment ได้ อันนี้เป็นเรื่องดี
ปกติสแกนม่านตาจะเห็นในภาพยนตร์สายลับ หรือหนังวิทยาศาสตร์บ่อยๆ แต่ปัจจุบันมีให้ใช้งานบนมือถือแล้ว ! ซึ่งทาง Samsung หยิบมาเป็นจุดขายหลัก โดยการตรวจจับม่านตา เป็นเทคโนโลยีผสมระหว่างฮาร์ดแวร์ + ระบบประมวลผลภายใน (จดสิทธิบัตรไว้) การใช้งานไม่ยากครับ แค่มองไฟกระพริบ IR เล็งให้ตรงช่องกลมๆ ก็ปลดล็อคได้แล้ว แต่มีข้อจำกัดคือ ในจุดแสงน้อยปลดล็อคช้า, ไม่สะดวกใช้งานในบางสถานการณ์, ช้ากว่าสแกนนิ้ว ส่วนตัวผมว่าเหมาะกับใช้ร่วมกับ Secure Folder หรือระบบธุรกรรมอื่นๆ ในอนาคตมากกว่า
Secure Folder
อันที่จริงไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นกระเป๋าลับอัพเกรดให้ดีขึ้น ตัวนี้เปรียบเสมือน ‘
ห้องแห่งความลับ’ เข้าได้เฉพาะคุณเท่านั้น การเข้าถึง Secure Folder ทำได้ 2 ทางคือ
สแกนม่านตา หรือใช้รหัสผ่าน โดยทุกอย่างใน Secure Folder จะนับ 1 ใหม่ทั้งหมด รวมถึงข้อมูลต่างๆ (ภาพถ่าย, Chat Log ฯลฯ) เหมาะกับใช้สลับราง ไม่เอามาปนกับ Account หลักในโหมดปกติ ส่วนจะใช้งานแบบไหนอยู่ที่คุณแล้วล่ะ
Camera
กล้องบน Galaxy Note 7 ภาพรวมใช้ฮาร์ดแวร์เดิมจาก Galaxy S7 ความละเอียด 12MP ค่า F/1.7 พร้อมเทคโนโลยี Dual-Pixel โฟกัสไวมาก, ระบบ OIS ป้องกันภาพสั่นไหว สิ่งที่เปลี่ยนคืออินเตอร์เฟสกล้องครับ ออกแบบให้คลีนขึ้นตาม UX ใช้การ Swipe เพื่อเปลี่ยนโหมด ปาดซ้ายจะพบโหมดกล้อง, ปาดขวาเป็น Filter Effect ต่างๆ สำหรับโหมด Pro (ปรับ ISO, Shutter Speed ฯลฯ) มีให้ใช้เหมือนเดิม แน่นอนครับ ถ่ายภาพเก็บเป็นไฟล์ RAW เอาไว้ปรับแต่งภายหลังได้ด้วย
ด้านวิดิโอบันทึกความละเอียดสูงสุด UHD (3840x2160) ขณะที่ใช้งานระบบ OIS สูงสุดที่ความละเอียด FHD (60 Fps) ไม่ต่างจากบน Galaxy S7 ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 5MP รอบนี้คิดว่า Samsung คงแก้ปัญหามาแล้ว แต่ด้วยระบบโฟกัสเป็นแบบ Fixed ระยะ ดังนั้นควรถ่ายในระยะเหมาะสมดีกว่า
[SR] 【 รีวิว 】: Samsung Galaxy Note 7 - สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ ๗
ล่าสุด Samsung ได้นำเสนอ Galaxy Note รุ่นที่ 6 ของตระกูลกับ 'Galaxy Note 7' ยานแม่ลงทั้งที ต้องมีอะไรอัพเกรดเพิ่มเติมจากรุ่นก่อน (Note 5) โดยมีคุณสมบัติสเปคเด่นๆ ดังนี้ครับ
- รองรับ 2 ซิมการ์ด (Hybrid-Tray) | 4G + 3G โดย Samsung จะอัพเกรด FW Modem ตามภายหลัง
- หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ชนิด Super-AMOLED, กระจกพาเนล (Gorilla Glass 5) แบบโค้ง 2 ด้าน
- รองรับการ Input ด้วยปากกา S-Pen
- เมมโมรีภายใน 64GB (UFS 2.0), เพิ่ม MicroSD สูงสุด 256GB
- ชิพประมวลผล Samsung Exynos 8890 + แรม 4GB (LPDDR4)
- ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (TouchWiz UX 2016)
- กล้องความละเอียด 12MP (Dual Pixel, F/1.7 OIS), กล้องหน้าความละเอียด 5MP (F/1.7) บันทึกวิดิโอความละเอียดสูงสุด 4K (UHD)
- ระบบ Biometric (สแกนลายนิ้วมือ, สแกนม่านตา (Irises))
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh (รองรับ Fast-Charging)
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
Design
เกิดมาเป็น Galaxy Note ทั้งที ย่อมมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า ส่วนตัวมองว่า Galaxy Note 7 เป็นการผสมผสานจุดเด่นของ 2 รุ่นได้อย่างลงตัว (Galaxy S7 Edge + Galaxy Note 5) ขนาดบอดี้พอดีมือ เล็กกว่า Note 5 นิดนึง หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว กระจกพาเนลแบบโค้ง เป็นความโค้งที่ดีงาม ลงตัว ไม่กระทบกับการใช้งานปกติ (ไม่ลั่น) กล้องหน้าอยู่ด้านบน เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์ + IR (สแกนม่านตา) และปุ่ม Home / Back - Menu ยังมีเหมือนเดิม ใช้ง่ายดีครับ
เฟรมบอดี้เป็นโลหะเหมือน Galaxy Note 5 ครับ จากความโค้งของกระจกด้านหน้า-หลัง ทำให้เนื้อโลหะลดลง (ทำให้เครื่องดูบางลงด้วย) พอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ตำแหน่งยังคงเดิมทุกประการ โดย Galaxy Note 7 เป็นรุ่นแรกที่ใช้พอร์ต USB Type-C ด้วย รองรับการถ่ายโอนข้อมูล / ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในอนาคตดอีกด้วย
(หมายเหตุ : Samsung แถมหัวแปลง Type-C และ USB OTG ในกล่องมาให้ หรือซื้อตัวแปลงของรุ่นอื่น เช่น Nexus ก็ใช้งานได้เหมือนกัน)
ฝาหลังของ Galaxy Note 7 เป็นกระจก Gorilla Glass 5 ขอบโค้งมน (เหมือน S7, S7 Edge) ให้ความรู้สึกสัมผัสเหมือนกันคือ มันสวยย แต่เป็นรอยง่ายไปหน่อย สำหรับสีสัน / การเล่นลาย เหมือน Galaxy S7 ทุกประการ ส่วนตัวชอบสี Onyx Black, Titanium Silver ตรงกลางเป็นกล้องความละเอียด 12MP พร้อมแฟลช LED / เซ็นเซอร์ต่างๆ และแบตเตอรี่ 3500 mAh เป็นแบบบิ้วท์อินเหมือนเดิม ถ้าจะเปลี่ยนต้องพึ่งพาศูนย์เท่านั้น
Software
เรื่องของ TouchWiz UX แค่หลับตาก็นึกภาพออกแล้ว แต่สำหรับบน Galaxy Note 7 มีความเปลี่ยนแปลง ‘บางส่วน’ แม้ภาพรวมหน้าตายังเหมือนเดิม แต่คลีนมากขึ้น / ปรับแต่งได้มากขึ้น (Theme, Icon, Grid, Transition Effect) , Always-on Display มีรูปแบบนาฬิกาให้เลือกมากขึ้น, Quick Panel ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น + Bluelight Filter, เมนู Settings ปรับหน้าตา - วางหมวดหมู่ใหม่ ฯลฯ
เมนู Edge Screen จาก Galaxy S7 Edge มาครบเลยครับทั้ง Task Edge วางเมนูลัดแอพฯ / รายชื่อติดต่อ, Feeds ตั้งค่าแสดงผลข่าวสาร / เวลา / แจ้งเตือนเป็นรูปแบบฟีดเลื่อน, Edge Lighting แถบแสงกระพริบขณะมีสายเข้า + วางเครื่องคว่ำไว้ ตรงนี้สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามต้องการ
อีกส่วนนึงที่ชอบมากคือระบบ ‘Power Saving’ มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับความละเอียดการแสดงผล (FHD, HD) ประหยัดพลังงานได้เล็กน้อย, ตั้งค่าการใช้งาน Data / ลดความเร็ว Processor ลง ฯลฯ นอกจากนี้ยังตั้งค่า Background Apps, ดูว่าแอพฯ ไหนซดแบตมากน้อยแค่ไหนได้ด้วย
S-Pen & Samsung Note
- หัวปากกามีขนาด 0.7 มิลลิเมตร นั่นคือเทียบเท่าปากกาลูกลื่นทั่วไปแล้ว (อนาคตอาจทำได้ถึง 0.5 มิลลิเมตร)
- ทำมาจาก Elastomer (พอลิเมอร์พิเศษ มีคุณสมบัติคล้ายยาง)
- รองรับแรงกดสูงสุด 4096 ระดับ (ใช้วาดรูป / ลงสีจะเห็นความต่างชัดเจน)
- เทคโนโลยี EMR (เหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า) ระหว่างขดลวดในปากกา กับ Digitizer ทำให้สามารถใช้ในน้ำได้ พัฒนาโดย Wacom
- ตัวปากกากันน้ำด้วย ซีลด้วยวัสดุคล้ายยาง ออกแบบให้ส่วนประกอบ / แกนด้านในมีช่องว่างน้อยที่สุด
- Animate GIF ใช้ Smart Select ครอบวิดิโอเป็นไฟล์ GIF
- Translate แปลภาษาแบบเรียลไทม์ (ใช้ข้อมูลจาก Google Trans.) โดยจ่อ S-Pen เหนือคำที่ต้องการแปล
- Magnifier ใช้ S-Pen จ่อเป็นแว่นขยาย
- Glance ย่อแอพฯ ไว้มุมหน้าจอ เมื่อนำปากกาไปจ่อจะกลับมาเต็มจอเหมือนเดิม
S-Note ถูกปรับปรุงใหม่เป็น ‘Samsung Note’ แบ่งหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้น มี 5 รูปแบบให้เลือกใช้งาน (Text, Pen, Brush, Pic และ Voice) ทั้งหมดนี้สามารถรวมใน Note เดียว และ Share ในรูปแบบ PDF/JPG./PNG ตามต้องการเหมือน S-Note เดิม
แต่ที่ว้าวสุดเลยคงไม่พ้นโหมด ‘Brush’ เปรียบเสมือนกระดานวาดรูปแบบ Advance มีเครื่องมือให้ใช้งานมากมาย จะเป็นดินสอสี / สเปรย์ / แปรง ฯลฯ และ … Effect สีน้ำ อันนี้สุดยอด ไม่ต้องลงแอพฯ อะไรเพิ่มเลย ตรงนี้จะทำให้ Artist ลงสีได้สมจริงขึ้นไปอีก ด้วยแรงกดปากกา 4096 ระดับ ผมเชื่อว่า ‘Galaxy Note 7’ เกิดมาเพื่อนักวาดภาพอย่างแท้จริง (ไม่ลองไม่รู้ ^^)
Iris Security
- สแกนครั้งแรก แว่นตา คอนแทคเลนส์ ต้องถอดให้หมด แต่การใช้งานจริงใส่ได้ปกติ
- ระยะห่าง ~30-35 cm.
- ใช้งานคู่กับ Pattern หรือ Password ที่ตั้งค่าพร้อมกัน
- ทำงานเร็วมาก ในที่มืดสนิทก็ใช้ Iris ได้ แต่อ่านช้าหน่อย (ต้องเล็งให้เป๊ะ)
- ไม่เหมาะกับคนตาตี่ ต้องถ่างตามากกว่าปกติ
- หาก Restart เครื่อง ต้องปลด Pattern ก่อน ถึงจะใช้งาน Iris ในครั้งถัดไป
- โฟลเดอร์ลับ อันนี้เด็ดมาก เหมือนแอคลับ มีความ
- อนาคตพัฒนาให้ใช้กับ Banking / Payment ได้ อันนี้เป็นเรื่องดี
ปกติสแกนม่านตาจะเห็นในภาพยนตร์สายลับ หรือหนังวิทยาศาสตร์บ่อยๆ แต่ปัจจุบันมีให้ใช้งานบนมือถือแล้ว ! ซึ่งทาง Samsung หยิบมาเป็นจุดขายหลัก โดยการตรวจจับม่านตา เป็นเทคโนโลยีผสมระหว่างฮาร์ดแวร์ + ระบบประมวลผลภายใน (จดสิทธิบัตรไว้) การใช้งานไม่ยากครับ แค่มองไฟกระพริบ IR เล็งให้ตรงช่องกลมๆ ก็ปลดล็อคได้แล้ว แต่มีข้อจำกัดคือ ในจุดแสงน้อยปลดล็อคช้า, ไม่สะดวกใช้งานในบางสถานการณ์, ช้ากว่าสแกนนิ้ว ส่วนตัวผมว่าเหมาะกับใช้ร่วมกับ Secure Folder หรือระบบธุรกรรมอื่นๆ ในอนาคตมากกว่า
Secure Folder
อันที่จริงไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นกระเป๋าลับอัพเกรดให้ดีขึ้น ตัวนี้เปรียบเสมือน ‘ห้องแห่งความลับ’ เข้าได้เฉพาะคุณเท่านั้น การเข้าถึง Secure Folder ทำได้ 2 ทางคือ สแกนม่านตา หรือใช้รหัสผ่าน โดยทุกอย่างใน Secure Folder จะนับ 1 ใหม่ทั้งหมด รวมถึงข้อมูลต่างๆ (ภาพถ่าย, Chat Log ฯลฯ) เหมาะกับใช้สลับราง ไม่เอามาปนกับ Account หลักในโหมดปกติ ส่วนจะใช้งานแบบไหนอยู่ที่คุณแล้วล่ะ
Camera
กล้องบน Galaxy Note 7 ภาพรวมใช้ฮาร์ดแวร์เดิมจาก Galaxy S7 ความละเอียด 12MP ค่า F/1.7 พร้อมเทคโนโลยี Dual-Pixel โฟกัสไวมาก, ระบบ OIS ป้องกันภาพสั่นไหว สิ่งที่เปลี่ยนคืออินเตอร์เฟสกล้องครับ ออกแบบให้คลีนขึ้นตาม UX ใช้การ Swipe เพื่อเปลี่ยนโหมด ปาดซ้ายจะพบโหมดกล้อง, ปาดขวาเป็น Filter Effect ต่างๆ สำหรับโหมด Pro (ปรับ ISO, Shutter Speed ฯลฯ) มีให้ใช้เหมือนเดิม แน่นอนครับ ถ่ายภาพเก็บเป็นไฟล์ RAW เอาไว้ปรับแต่งภายหลังได้ด้วย
ด้านวิดิโอบันทึกความละเอียดสูงสุด UHD (3840x2160) ขณะที่ใช้งานระบบ OIS สูงสุดที่ความละเอียด FHD (60 Fps) ไม่ต่างจากบน Galaxy S7 ส่วนกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด 5MP รอบนี้คิดว่า Samsung คงแก้ปัญหามาแล้ว แต่ด้วยระบบโฟกัสเป็นแบบ Fixed ระยะ ดังนั้นควรถ่ายในระยะเหมาะสมดีกว่า