เมื่อต้นปี 2015 ที่ผ่านมา สมาคแบดมินตันมาเลเซียได้ตัดสินใจดึงตัวหนึ่งในตำนานของวงการแบดมินตันชาวเดนมาร์กมารับตำแหน่งผู้อำนวยการทางเทคนิค(Technical Director) ด้วยค่าจ้างที่แพงเป็นประวัติการณ์ของวงการแบดมินตันมาเลเซีย โดยหน้าที่หลักคือการเสาะหาตัวแทนของLee Chong Wei และสร้างนักแบดมินตันรุ่นใหม่ขึ้นมาในทุกประเภท
           Frost ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินทางทั่วประเทศมาเลเซียครบทั้ง 14 รัฐ และทำการวางแผนการฝึกซ้อมและพัฒนาเยาวชน รวมถึงการยกระดับของโค้ชแบดมินตันทั้วประเทศ ถ้าใครได้ติดตามการแข่งขันแบดมินตันอย่างใกล้ชิด จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา มาเลเซียมีนักแบดมินตันเข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น การพัฒนาที่เห็นได้ชัดของนักกีฬาประเภทหญิงคู่และคู่ผสม ที่ค่อยๆสร้างชื่อขึ้นมาด้วยการปราบมือวางอันดับต้นๆของโลกในการแข่งขันระดับซุปเปอร์ซีรีส์ จากที่ก่อนหน้านั้นเคยเป็นเพียงตัวประกอบในการแข่งขัน รวมถึงสาวน้อยGoh Jin Wei ที่หลังๆสามารถสร้างความยากลำบากให้กับนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือต้นๆของโลกหลายครั้งในการแข่งขันระดับซุปเปอร์ซีรีส์
          แม้ว่าตอนนี้ Morten Frostยังไม่สามารถหาหรือสร้างทายาทของLee Chong Weiได้ แต่ความสำเร็จในริโอ โดยการเข้าชิงแน่ๆแล้ว 2 ประเภท (ณ เวลานี้) เขาได้พิสูจน์แล้วว่า ค่าจ้างที่แพงมหาศาลที่สมาคมแบดมินตันมาเลเซียจ่ายให้เขานั้นคุ้มค่าทุกริงกิต
          
ปล. ผมไม่แน่ใจว่าเงินเดือนของFrostจริงๆแล้วเท่าไหร่ แต่เคยอ่านข่าวว่าตอนที่สมาคมแบดมินตันของมาเลเซียติดต่อเขาไป เขาขอที่เดือนละ 100,000 ริงกิต หรือเกือบๆ 9 แสนบาท