ตอนที่ 2 Journey through JAPAN #1 ครั้งแรกกับญี่ปุ่นสุดฟิน ตอนที่ 2 ขึ้นไปดูหิมะแรกกัน!!!
http://pantip.com/topic/35534676

ปล. ทำยังไงให้ลดขนาดภาพได้ครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกคน หลังจากที่ผมได้ซุ่มอ่านรีวิวของทุกท่านมานาน วันนี้ก็ได้โอกาส + มีเวลาได้ลองรีวิวกับเค้าบ้างซักที จริงๆแล้วทริปนี้จบลงไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2015) แต่กว่าจะรวบควมเรื่องราวและหาเวลามานั่งพิมพ์ได้ก็ล่วงมาจนปัจจุบันนี้แหละครับ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่อัพเดทไปแล้ว หรือมีความผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยและขอคำชี้แนะมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
เริ่มเข้าเรื่องกันเลยละกัน ขอสมมุติชื่อผมและแฟนผมว่า P1 และ P2 นะครับ ^ ^
(ขออนุญาตใช้ภาษาพูดในการพิมพ์สื่อสารร่วมด้วยนะครับ)
เช้าวันหนึ่งในเดือนมีนาคม 2015 หลังจาก P1 ลืมตาตื่นมาพร้อมกับความคิดในหัวที่ลั่น ปิ๊ง!!! ขึ้นมาว่า "ไปญี่ปุ่นกันเถอะ"
"ไปญี่ปุ่นกันน้าาาาาา" P1 หันไปปลุก P2 ที่นอนอยู่ข้างๆขึ้นมา
P2 ที่สะลึมสะลือทำหน้างง "อื้ม ก็ด้ะ" หันมาตอบแบบมึนๆ แล้วถามต่อแบบกวนๆ "แล้วจะไปตอนไหนล่ะ พรุ่งเลยดีนี้มั๊ย?"
"...ตลกละ" P1 คิดในใจก่อนที่จะหันไปตอบกับ P2 "ซักปลายปีดีมั๊ย ช่วง พ.ย. - ธ.ค. ไง กำลังดีเลย"
จริงๆแล้ว P1 พอจะวางแผนในหัวไว้บ้างแล้วเกี่ยวกับทริปที่จะพา P2 ไปฉลองครบรอบ 3 ปี ที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เคยได้คิดจริงจังซักที เนื่องด้วยเวลาที่ไม่ค่อยจะมีกันทั้งคู่ เงินก็เช่นกัน (เป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากกันทั้งคู่เกี่ยวกับเรื่องการซื้อและตกแต่งบ้านและคอนโดพอดี เรียกว่าช่วงแห่งความกรอบกันเลยทีเดียว)
ต่อนะครับ ^ ^
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ด้วยความจริงจังมาก(ที่อยู่ดีๆก็มาจากไหนก็ไม่รู้) P1 เลยนั่งขะมักเขม่นเปิดแอพ Jet Radar Expedia Skyscanner และ Cheapflights เรียกว่ามีกี่แอพที่หาเที่ยวบินได้ ก็เปิดหามันทุกอัน (ทั้งๆที่แพลนว่าจะไปปลายปี) สุดท้ายภายในไม่เกิน 30 นาที ไม่รู้ด้วยความโชคดี หรือ ความตะกละตะกลาม ในที่สุดก็ได้เที่ยวบินที่ถูกใจจาก Expedia (แต่ไม่รู้ถูกราคาที่สุดหรือยัง แต่พอใจละครับ 555) แล้วก็จัดการจองและจ่ายเงินเรียบร้อย พร้อมกับหันไปบอกกับ P2 ว่า "พี่จองตั๋วละนะครับ เรียบร้อยยยย!!!"
P2 ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำถึงกับผงะเล็กน้อย และถามด้วยความสงสัยว่า "สรุปเดินทางพรุ่งนี้หรอ ถึงรีบขนาดนี้"
ครับ ราวกับว่าจะเดินทางพรุ่งนี้ ผมจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ตั๋วที่เรา 2 คนได้ คือสายการบิน Cathey Pacific เที่ยวบินไป-กลับ ในราคารวม 2 คน 28,040 บาท (14,020 บาท ต่อคน รวมภาษีเรียบร้อย) แต่ทั้งเที่ยวบินขาไปและขากลับจะต้องแวะ Transfer เครื่องที่สนามบินฮ่องกงครับ
ทริปของเราใช้เวลาทั้งสิ้น 13 วัน ครับ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 27 พ.ย. ถึง 9 ธ.ค. โชคดีที่ P2 สามารถลาได้ ส่วนผมไม่ต้องห่วง สบายมาก T T
หลังจากนี้ เราก็เริ่มแบ่งงานกันอย่างลงตัวครับ ช่วยๆกัน ในส่วนของผมนั้นก็เริ่มจองที่พัก วางแผนทำ Schedule มีการมาตั้งกระทู้ถามหาข้อมูลในนี้บ้าง (ต้องของคุณชาวบลูฯมากๆครับที่ให้ข้อมูลเยอะมาก) และที่สำคัญทที่สุดในส่วนหน้าที่ของผมคือ เก็บเงิน!!!
ส่วน P2 นั้น รับหน้าที่สำคัญยิ่ง คือ วางแผนว่าจะไปช็อปปิ้งที่ไหนดี T T
สำหรับ Schedule คร่าวๆ ก็มีตามนี้ครับ (รายละเอียด Schedule ที่ผมทำไว้ อยู่ในไฟล์ PDF ซึ่งขออนุญาตแชร์ให้ทุกท่านเผื่อเป็นประโยชน์และโทษนะครับ ^ ^
https://www.scribd.com/document/321197167/Japantrip-No-1)
ทริปนี้เราจะเดินทางทั้งในคันไซ แล้วพุ่งขึ้นไปฮอกไกโด แล้วลงมาปิดท้ายด้วยโตเกียวครับ และเพื่อความประหยัด (หรือเปล่าก็ไม่รู้) เราใช้ JR Pass แบบ 14 วัน ตอนนั้นราคาอยู่ที่ 12,xxx ตามอัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าทุกคนได้ตามอ่านไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะคิดว่าคุ้มมากเหมือนที่ผมคิด 555+
27 พ.ย. เดินทางจากสุวรรณภูมิ - ฮาเนดะ (เปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงประมาณ 3 ช.ม.) ถึงโตเกียวบ่ายกว่าๆ จากนั้นเดินทางด้วยชินคันเซ็นต่ไปโอซากา ถึงโอซากาประมาณ 2 ทุ่ม เดินเล่นย่านกลางเมือง
28 พ.ย. คันไซ - โอซากา
29 พ.ย. คันไซ - นาระ
30 พ.ย. คันไซ - เกียวโต
01 ธ.ค. ฮอกไกโด - ฮาโกดาเตะ
02 ธ.ค. ฮอกไกโด - ซัปโปโร
03 ธ.ค. ฮอกไกโด - อาซาฮิกาว่า - (ฟุราโนะ - บิเอะ นั่งรถไฟผ่านชมวิวครับ)
04 ธ.ค. ฮอกไกโด - โอตารุ
05 ธ.ค. โตเกียว - โตเกียวทาวเวอร์และรอบๆ
06 ธ.ค. ฮาโกเน่ - ฟูจิซัง ทะเลสาบอาชิ
07 ธ.ค. โตเกียว - อาซากุสะ อูอิโนะ สกายทรี โอไดบะ
08 ธ.ค. โตเกียว - นากะเมกุโระ ไดกันยามะ ชิบูยา ฮาราจูกุ ชินจูกุ จิยูงะโอกะ
09 ธ.ค. เดินทางกลับ จากนาริตะ ถึง สุวรรณภูมิ (แวะเปลี่ยนเครื่องฮ่องกง 8 ช.ม. ตั้งใจจะออกไปเดินเล่นช็อปปิ้งแถวอ่าว) ถึงกรุงเทพฯ 5 ทุ่มครึ่ง
มาเริ่มกันเลยครับ
วันที่ 27 พ.ย.
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ค่ำวัน พฤ. เราเตรียมตัวออกเดินทาง เก็บกระเป๋าและของใช้ที่จำเป็นครับ เราออกเดินทางจากบ้านไปสนามบินเกือบๆ 4 ทุ่ม แล้วจัดแจงโหลดกระเป๋า โชคดีที่เราเช็คอินน์ผ่านมือถือมาล่วงหน้าแล้ว แถมเลือกที่นั่งเรียบร้อย จิงไม่ต้องไปเข้าคิว (วันนั้นทราฟฟิคคนแน่นมากครับ) ไปถึงเคาน์เตอร์ กราวน์ก็โหลดกระเป๋าให้เรียบร้อยก็เดินเข้าไปรอข้างในเลยดีกว่า แต่ไม่รู้ผมคิดผิดหรือคิดถูก เพราะการเข้าไปก่อนเวลามากๆก็ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวคนเยอะเวลาใกล้ไฟลท์ออก แต่ข้อเสียคือ สวรรค์ของ P2 เค้าหล่ะ ก่อนขึ้นเครื่องเงินบาทค้างกระเป๋าก็เสร็จคิงส์ พาวเวอร์ไปตามระแบียบ
พวกเราขึ้นเครื่อง 0135 น. ซึ่งก็คือเช้าวันใหม่ของวัน ศ. ที่ 27 นั่นเอง หลังจากเครื่อง take off ได้จนแตะเพดานบิน แอร์สาวสวยก็เริ่มเสริฟอาหาร มื้อแรกบนคาเธย์มื้อนี้ครับ
เรามาถึงสนามบินฮ่องกงประมาณตี 5 ครับ แล้วก็รอเปลียนเครื่องอีก 3 ชั่วโมง
ในที่สุดก็มาถึงฮาเนดะครับ เรารีบรับกระเป๋า ผ่าน ต.ม. (ทีแรกก็แอบหวั่นๆครับ แต่ ต.ม. ยิ้มให้เลยสบายใจขึ้นครับ)
ผมรับไปแลก JR Pass ที่เคาน์เตอร์ JR แล้วรีบเข้าเมืองครับ
จากฮาเนดะเรานั่ง Tokyo Monorail ไปยัง Shimbashi และต่อ Yamanote ไปยัง Shinagawa เพื่อต่อชินคันเซ็นไปโอซากา ครับ
เมื่อมาถึงสถานี Shinagawa ปรากฎว่าเราก็พลาดจนได้ เรารีบวิ่งขึ้นชานชลาเนื่องจากว่าเวลาที่ระบุใน Reserved นั้นนค่อนข้างกระชั้นชิดมาก ปรากฎว่าที่ชานชลามีรถไฟจอดอยู่แล้ว เราจึงรีบขึ้นและไปหาที่นั่งตามที่ระบุ ปรากฎว่าที่นั่งนั้นมีคุณลุงคุณป้านั่งอยู่แล้ว ก็งงสิครับ เราเลยเดินเข้าไปถาม ซึ่งคุณลุงคุณป้าแกก็งงด้วยครับ เพราะแกก็ Reserved ไว้เหมือนกัน คุณป้าแกก็ช่วยดูให้ แล้วก็ก็บอกว่าเดี๋ยวจะถามพนักงานให้ครับ แกจะลุกให้เราไปนั่งแล้วแกจะย้ายที่ให้ ทั้งๆที่เลขที่นั่งก็ระบุไว้ชัดเจน จนพนักงานตรวจตั๋วเดินมาแกจึงถามให้ ปรากฎว่า ผมขึ้นผิดขบวนครับ ขบวนนี้เป็น Kodama ไปไม่ถึง Osaka แต่ขวบนที่ผม Reserved เป็น Hikari พนักงานจึงบอกให้เราเปลี่ยนขบวนที่ Yokohama เราจึงรีบของคุณคุณลุงคุณป้าและพนักงานอย่างรวดเร็ว
หลังจากลงจากขบวน Kodama ที่ Yokohama เราจึงซื้อข้าวกล่องเบนโตะขึ้นมากินขนรถ รอไม่ถึง 3 นาที Hikari ก็เทียบชานชลา
นั่งมาได้ซักพักใหญ่ๆ ฟูจิซัง ก็โผล่หน้ามาทักทายท้อนรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา เป็นภาพที่ประทับใจมากครับ ผมรัวกดถ่ายรูปใหญ่เลย
และแล้ว เราก็มาถึงโอซากา ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง เรารีบขึ้นรถไฟจาก Shin-Osaka เพื่อที่จะมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศค่ำคืนย่านอูเมดะซักหน่อย
จากนั้นหาอะไรกิน อาหารมือแรกที่โอซากาครับ (เหมือนกินโอโตยะ 555)
จากนั้นเดินเล่นไปรอบๆครับ ช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายปี เลยมีไฟให้ดูเยอะเลยครับ
เราเดินไปเรื่อย และปิดท้ายค่ำคืนแรกนี้ด้วยการขึ้นไปดูวิวบนยอดตึก Umeda Sky Building
ขอพรก่อนกลับครับ บนยอดตึกมีคล้ายๆที่ขอพร ให้สั่งกระดิ่ง คนญี่ปุ่นที่อยู่ข้างๆบอกว่า ขอเรื่องความรักแล้วจะสมหวังครับ
ปล. ขออภัยล่วงหน้านะครับ ผมจะรีบเล่าต่อให้จบนะครับ อาจจะช้านิดนึง เพราะไม่ต้องลดขนาดรูปด้วยครับ ยังไม่ค่อยเ
[CR] Journey through JAPAN #1 ครั้งแรกกับญี่ปุ่นสุดฟิน
ปล. ทำยังไงให้ลดขนาดภาพได้ครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกคน หลังจากที่ผมได้ซุ่มอ่านรีวิวของทุกท่านมานาน วันนี้ก็ได้โอกาส + มีเวลาได้ลองรีวิวกับเค้าบ้างซักที จริงๆแล้วทริปนี้จบลงไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2015) แต่กว่าจะรวบควมเรื่องราวและหาเวลามานั่งพิมพ์ได้ก็ล่วงมาจนปัจจุบันนี้แหละครับ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่อัพเดทไปแล้ว หรือมีความผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยและขอคำชี้แนะมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
เริ่มเข้าเรื่องกันเลยละกัน ขอสมมุติชื่อผมและแฟนผมว่า P1 และ P2 นะครับ ^ ^ (ขออนุญาตใช้ภาษาพูดในการพิมพ์สื่อสารร่วมด้วยนะครับ)
เช้าวันหนึ่งในเดือนมีนาคม 2015 หลังจาก P1 ลืมตาตื่นมาพร้อมกับความคิดในหัวที่ลั่น ปิ๊ง!!! ขึ้นมาว่า "ไปญี่ปุ่นกันเถอะ"
"ไปญี่ปุ่นกันน้าาาาาา" P1 หันไปปลุก P2 ที่นอนอยู่ข้างๆขึ้นมา
P2 ที่สะลึมสะลือทำหน้างง "อื้ม ก็ด้ะ" หันมาตอบแบบมึนๆ แล้วถามต่อแบบกวนๆ "แล้วจะไปตอนไหนล่ะ พรุ่งเลยดีนี้มั๊ย?"
"...ตลกละ" P1 คิดในใจก่อนที่จะหันไปตอบกับ P2 "ซักปลายปีดีมั๊ย ช่วง พ.ย. - ธ.ค. ไง กำลังดีเลย"
จริงๆแล้ว P1 พอจะวางแผนในหัวไว้บ้างแล้วเกี่ยวกับทริปที่จะพา P2 ไปฉลองครบรอบ 3 ปี ที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เคยได้คิดจริงจังซักที เนื่องด้วยเวลาที่ไม่ค่อยจะมีกันทั้งคู่ เงินก็เช่นกัน (เป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากกันทั้งคู่เกี่ยวกับเรื่องการซื้อและตกแต่งบ้านและคอนโดพอดี เรียกว่าช่วงแห่งความกรอบกันเลยทีเดียว)
ต่อนะครับ ^ ^
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ด้วยความจริงจังมาก(ที่อยู่ดีๆก็มาจากไหนก็ไม่รู้) P1 เลยนั่งขะมักเขม่นเปิดแอพ Jet Radar Expedia Skyscanner และ Cheapflights เรียกว่ามีกี่แอพที่หาเที่ยวบินได้ ก็เปิดหามันทุกอัน (ทั้งๆที่แพลนว่าจะไปปลายปี) สุดท้ายภายในไม่เกิน 30 นาที ไม่รู้ด้วยความโชคดี หรือ ความตะกละตะกลาม ในที่สุดก็ได้เที่ยวบินที่ถูกใจจาก Expedia (แต่ไม่รู้ถูกราคาที่สุดหรือยัง แต่พอใจละครับ 555) แล้วก็จัดการจองและจ่ายเงินเรียบร้อย พร้อมกับหันไปบอกกับ P2 ว่า "พี่จองตั๋วละนะครับ เรียบร้อยยยย!!!"
P2 ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำถึงกับผงะเล็กน้อย และถามด้วยความสงสัยว่า "สรุปเดินทางพรุ่งนี้หรอ ถึงรีบขนาดนี้"
ครับ ราวกับว่าจะเดินทางพรุ่งนี้ ผมจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ตั๋วที่เรา 2 คนได้ คือสายการบิน Cathey Pacific เที่ยวบินไป-กลับ ในราคารวม 2 คน 28,040 บาท (14,020 บาท ต่อคน รวมภาษีเรียบร้อย) แต่ทั้งเที่ยวบินขาไปและขากลับจะต้องแวะ Transfer เครื่องที่สนามบินฮ่องกงครับ
ทริปของเราใช้เวลาทั้งสิ้น 13 วัน ครับ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 27 พ.ย. ถึง 9 ธ.ค. โชคดีที่ P2 สามารถลาได้ ส่วนผมไม่ต้องห่วง สบายมาก T T
หลังจากนี้ เราก็เริ่มแบ่งงานกันอย่างลงตัวครับ ช่วยๆกัน ในส่วนของผมนั้นก็เริ่มจองที่พัก วางแผนทำ Schedule มีการมาตั้งกระทู้ถามหาข้อมูลในนี้บ้าง (ต้องของคุณชาวบลูฯมากๆครับที่ให้ข้อมูลเยอะมาก) และที่สำคัญทที่สุดในส่วนหน้าที่ของผมคือ เก็บเงิน!!!
ส่วน P2 นั้น รับหน้าที่สำคัญยิ่ง คือ วางแผนว่าจะไปช็อปปิ้งที่ไหนดี T T
สำหรับ Schedule คร่าวๆ ก็มีตามนี้ครับ (รายละเอียด Schedule ที่ผมทำไว้ อยู่ในไฟล์ PDF ซึ่งขออนุญาตแชร์ให้ทุกท่านเผื่อเป็นประโยชน์และโทษนะครับ ^ ^ https://www.scribd.com/document/321197167/Japantrip-No-1)
ทริปนี้เราจะเดินทางทั้งในคันไซ แล้วพุ่งขึ้นไปฮอกไกโด แล้วลงมาปิดท้ายด้วยโตเกียวครับ และเพื่อความประหยัด (หรือเปล่าก็ไม่รู้) เราใช้ JR Pass แบบ 14 วัน ตอนนั้นราคาอยู่ที่ 12,xxx ตามอัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าทุกคนได้ตามอ่านไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะคิดว่าคุ้มมากเหมือนที่ผมคิด 555+
27 พ.ย. เดินทางจากสุวรรณภูมิ - ฮาเนดะ (เปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกงประมาณ 3 ช.ม.) ถึงโตเกียวบ่ายกว่าๆ จากนั้นเดินทางด้วยชินคันเซ็นต่ไปโอซากา ถึงโอซากาประมาณ 2 ทุ่ม เดินเล่นย่านกลางเมือง
28 พ.ย. คันไซ - โอซากา
29 พ.ย. คันไซ - นาระ
30 พ.ย. คันไซ - เกียวโต
01 ธ.ค. ฮอกไกโด - ฮาโกดาเตะ
02 ธ.ค. ฮอกไกโด - ซัปโปโร
03 ธ.ค. ฮอกไกโด - อาซาฮิกาว่า - (ฟุราโนะ - บิเอะ นั่งรถไฟผ่านชมวิวครับ)
04 ธ.ค. ฮอกไกโด - โอตารุ
05 ธ.ค. โตเกียว - โตเกียวทาวเวอร์และรอบๆ
06 ธ.ค. ฮาโกเน่ - ฟูจิซัง ทะเลสาบอาชิ
07 ธ.ค. โตเกียว - อาซากุสะ อูอิโนะ สกายทรี โอไดบะ
08 ธ.ค. โตเกียว - นากะเมกุโระ ไดกันยามะ ชิบูยา ฮาราจูกุ ชินจูกุ จิยูงะโอกะ
09 ธ.ค. เดินทางกลับ จากนาริตะ ถึง สุวรรณภูมิ (แวะเปลี่ยนเครื่องฮ่องกง 8 ช.ม. ตั้งใจจะออกไปเดินเล่นช็อปปิ้งแถวอ่าว) ถึงกรุงเทพฯ 5 ทุ่มครึ่ง
มาเริ่มกันเลยครับ
วันที่ 27 พ.ย.
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ค่ำวัน พฤ. เราเตรียมตัวออกเดินทาง เก็บกระเป๋าและของใช้ที่จำเป็นครับ เราออกเดินทางจากบ้านไปสนามบินเกือบๆ 4 ทุ่ม แล้วจัดแจงโหลดกระเป๋า โชคดีที่เราเช็คอินน์ผ่านมือถือมาล่วงหน้าแล้ว แถมเลือกที่นั่งเรียบร้อย จิงไม่ต้องไปเข้าคิว (วันนั้นทราฟฟิคคนแน่นมากครับ) ไปถึงเคาน์เตอร์ กราวน์ก็โหลดกระเป๋าให้เรียบร้อยก็เดินเข้าไปรอข้างในเลยดีกว่า แต่ไม่รู้ผมคิดผิดหรือคิดถูก เพราะการเข้าไปก่อนเวลามากๆก็ดีตรงที่ไม่ต้องกลัวคนเยอะเวลาใกล้ไฟลท์ออก แต่ข้อเสียคือ สวรรค์ของ P2 เค้าหล่ะ ก่อนขึ้นเครื่องเงินบาทค้างกระเป๋าก็เสร็จคิงส์ พาวเวอร์ไปตามระแบียบ
พวกเราขึ้นเครื่อง 0135 น. ซึ่งก็คือเช้าวันใหม่ของวัน ศ. ที่ 27 นั่นเอง หลังจากเครื่อง take off ได้จนแตะเพดานบิน แอร์สาวสวยก็เริ่มเสริฟอาหาร มื้อแรกบนคาเธย์มื้อนี้ครับ
เรามาถึงสนามบินฮ่องกงประมาณตี 5 ครับ แล้วก็รอเปลียนเครื่องอีก 3 ชั่วโมง
ในที่สุดก็มาถึงฮาเนดะครับ เรารีบรับกระเป๋า ผ่าน ต.ม. (ทีแรกก็แอบหวั่นๆครับ แต่ ต.ม. ยิ้มให้เลยสบายใจขึ้นครับ)
ผมรับไปแลก JR Pass ที่เคาน์เตอร์ JR แล้วรีบเข้าเมืองครับ
จากฮาเนดะเรานั่ง Tokyo Monorail ไปยัง Shimbashi และต่อ Yamanote ไปยัง Shinagawa เพื่อต่อชินคันเซ็นไปโอซากา ครับ
เมื่อมาถึงสถานี Shinagawa ปรากฎว่าเราก็พลาดจนได้ เรารีบวิ่งขึ้นชานชลาเนื่องจากว่าเวลาที่ระบุใน Reserved นั้นนค่อนข้างกระชั้นชิดมาก ปรากฎว่าที่ชานชลามีรถไฟจอดอยู่แล้ว เราจึงรีบขึ้นและไปหาที่นั่งตามที่ระบุ ปรากฎว่าที่นั่งนั้นมีคุณลุงคุณป้านั่งอยู่แล้ว ก็งงสิครับ เราเลยเดินเข้าไปถาม ซึ่งคุณลุงคุณป้าแกก็งงด้วยครับ เพราะแกก็ Reserved ไว้เหมือนกัน คุณป้าแกก็ช่วยดูให้ แล้วก็ก็บอกว่าเดี๋ยวจะถามพนักงานให้ครับ แกจะลุกให้เราไปนั่งแล้วแกจะย้ายที่ให้ ทั้งๆที่เลขที่นั่งก็ระบุไว้ชัดเจน จนพนักงานตรวจตั๋วเดินมาแกจึงถามให้ ปรากฎว่า ผมขึ้นผิดขบวนครับ ขบวนนี้เป็น Kodama ไปไม่ถึง Osaka แต่ขวบนที่ผม Reserved เป็น Hikari พนักงานจึงบอกให้เราเปลี่ยนขบวนที่ Yokohama เราจึงรีบของคุณคุณลุงคุณป้าและพนักงานอย่างรวดเร็ว
หลังจากลงจากขบวน Kodama ที่ Yokohama เราจึงซื้อข้าวกล่องเบนโตะขึ้นมากินขนรถ รอไม่ถึง 3 นาที Hikari ก็เทียบชานชลา
นั่งมาได้ซักพักใหญ่ๆ ฟูจิซัง ก็โผล่หน้ามาทักทายท้อนรับการมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา เป็นภาพที่ประทับใจมากครับ ผมรัวกดถ่ายรูปใหญ่เลย
และแล้ว เราก็มาถึงโอซากา ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง เรารีบขึ้นรถไฟจาก Shin-Osaka เพื่อที่จะมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศค่ำคืนย่านอูเมดะซักหน่อย
จากนั้นหาอะไรกิน อาหารมือแรกที่โอซากาครับ (เหมือนกินโอโตยะ 555)
จากนั้นเดินเล่นไปรอบๆครับ ช่วงที่ไปเป็นช่วงปลายปี เลยมีไฟให้ดูเยอะเลยครับ
เราเดินไปเรื่อย และปิดท้ายค่ำคืนแรกนี้ด้วยการขึ้นไปดูวิวบนยอดตึก Umeda Sky Building
ขอพรก่อนกลับครับ บนยอดตึกมีคล้ายๆที่ขอพร ให้สั่งกระดิ่ง คนญี่ปุ่นที่อยู่ข้างๆบอกว่า ขอเรื่องความรักแล้วจะสมหวังครับ
ปล. ขออภัยล่วงหน้านะครับ ผมจะรีบเล่าต่อให้จบนะครับ อาจจะช้านิดนึง เพราะไม่ต้องลดขนาดรูปด้วยครับ ยังไม่ค่อยเ