สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นอีกวันต้อนรับวันทำงานหลังจากหยุดยาววัน แม่ของปวงชนชาวไทยที่เคารพรักแล้วนั้น ก็เป็นวันที่เด็กๆน้องๆต่างเบือนหน้าหนี ก็คือวันเปิดเทอมนั่นเอง วันนี้บีตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะได้เดินทางไปทำงานให้ทัน 08:00 น. ปกติบีจะทำงานที่วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านสะพานใหม่ ค่ะ
วันนี้บีก็เห็นว่าอากาศดีมากๆแทบไม่อยากตื่นลุกขึ้นจากเตียงประมาณ 05:00 เพื่อที่จะได้เดินทางจากบ้านของบีเอง โดยเริ่มต้นจากบ้านกลางค่ะ บ้านบีอยู่ในซอยวัดศาลเจ้า ปทุมธานี บีออกมายืนรอรถสาย บางกะดี - รังสิต เพื่อที่จะไปลงป้ายรถเมล์ รัตนโกสินทร์ 200ปีเพื่อยิงยาวไปสะพานใหม่ค่ะ วันนี้ถนนโล่ง คนน้อย บีก็ติ่นเร็วกว่าปกติ "บีมั่นใจว่าไม่สายค่ะ"
ขณะนั้นด้วยความที่รีบ บีก็รอรถเมล์สาย 522/39/34/185/503 เพื่อจะไปสะพานใหม่ค่ะแต่แล้วเหมือนรถเมล์จะช้า คนรอยืนออเต็มป้ายรถเมล์บีเลยตั้งใจเรียกแท็กซี่ค่ะก็แจ้งเขาว่าไปลงสะพานใหม่ ซอยพหลโยธิน 52
ขณะนั่งรถบีอารมณ์ดีมากคนขับก็เล่าเรื่องการทำขนมไทยให้บีฟังค่ะ บีก็สนใจนะคะเพราะบีชอบทำขนม ระหว่างเดินทางบีดีใจมากรถมาถึงเซียร์ก็ไม่ติด พอมาถึงแยก คปอ. ทางเข้าสายไหม ก็ไม่ติด บียิ่งดีใจวันนี้บีไม่สายแน่นอน ให้ตายสิ
แต่แล้วพอบีนั่งมาถึง รพ.ภูมิพลฯ รถก็เริ่มอืด ขณะนั้นมันก็แค่ 06:45 ค่าแท็กซี่ อยู่ที่ 95 บาทค่ะ และแล้วความอัดอั้นตันใจก็เริ่มขึ้นเมื่อรถแท็กซี่จอดแช่เพราะการจราจรติดขัด มันก็เพิ่มนาทีละ 2 บาทค่ะ เพิ่มไป เพิ่มไป รถขยับไปได้ทีละนิดและไม่รู้อะไรต่อมิอะไรทำให้มิเตอร์มันมีราคาที่ 152 บาทค่ะ
และแล้วก็เป็นช่วงเวลาท้าทาย ว่าจะทำงานสายหรือไม่ บีเลยลุ้นแทบหายใจไม่ออกค่ะ ขณะนั้น 07:30 แล้ว แค่ ครึ่งชั่วโมงบีจะโดนหักค่าขยันแน่นอนบีเริ่มจะหมดความอดทนแล้วค่ะ และแล้วรถก็แช่อยู่ จนมาดูอีกที 213 บาท ตาเถร!!! เหลือเวลาอีก 10 นาที บีจึงบอกพี่แท็กซี่ว่า ตอนนี้บีขอลงแล้วค่ะบีรอไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะ แล้วให้พี่แท็กซี่ไปจาก 217 เป็น 250 ค่ะ ทราบว่าแค่นี้ไม่พอหรอกค่ะแต่ทำไงได้งานเราก็สำคัญ บีเดินทางเท้าค่ะ มาเรื่อยๆจนเจอ มอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงปากซอย พหลโยธิน 54/1 แล้วไม่ได้เข้างานก่อนนะคะ อยากทราบจริงๆว่าเพราะอะไรทำไมถึงติด ด้วยความสงสัยจึงบอกมอไซค์ว่า ไปวิทยาลัยเทคฯ แต่ไปเข้าซอยพหลโยธิน50 ครับ มอไซค์ก็แจ้งราคา ถ้า พหล52 20 บาท / พหล 50 ขอ 35 บาทนะครับ **ค่ะยินดี
------- เริ่มต้นสำรวจปัญหาค่ะ บีเจอปัญหาเสื่อมโทรมมากๆของความมักง่าย ของความเห็นแก่ตัว ของผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนดังนี้ค่ะ
-------> เคสที่ 1. บีแค่ขึ้นมอไซค์ก็พบปัญหาแรกเลยค่ะ ซ.พหลโยธิน 54/1 เป็นทางกลับรถ ปัจจุบันรถเหลือแค่ 2 ช่องทางจากการบีบแคบลงของการก่อสร้างรถไฟฟ้าค่ะ แต่คนที่ใจแคบคือ รถที่กำลังจะกลับและจะเข้าซอยตรงข้ามนี่สิคะ กินช่องขวามาเกือบครึ่งเลน ทำให้รถทางตรงไม่สามารถผ่านได้ต้องบีบตัวมาปาดเลนซ้ายทำให้ติดเพิ่มขึ้น และรถที่จะออกจากซอยก็แย่นิดนึงค่ะนึกจะออกก็เสียบหัวรถออกมา จ่อจนคันหลังออกไม่ได้เป็นการใช้รถใช้ถนนที่ควรปรับปรุงอย่างยิ่งยวด
-------> เคสที่ 2. พอรถกำลังลงสะพานข้ามคลองถนนค่ะจะเจอ ซ.พหลโยธิน54 ตรงนี้ถ้ามองผิวเผินก็ไม่ได้มีอะไร แต่ถ้ามองกันชัดๆโอ้พระเจ้าคิวรถตู้อยู่ข้างในค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนเท่าไหร่นะคะแต่สิ่งที่เดือดร้อนคือเส้นทางแบบเฉียงทำให้รถออกมาจากซอยได้โดยแค่แหย่หน้ารถตัดหน้าแล้วจ่อท้ายคนอื่นคันอื่นก็ตามมาได้กันอย่างสบายใจ จนลืมความปลอดภัยของรถที่มาก่อนอาจจะเบรคไม่ทันถ้าขับไว
------------------> เคสที่ 2.1 ตรงระยะทางบริเวณ พหลโยธิน 54 ก็จะมีแม่ค้าที่น่ารักค่ะ นำอาหารมาขายและบางท่านก็กำลังเก็บโดยจะมาจอดรถ วางขยะ จอดรถเข็นกินเลนไป เศษ 3/4 ของถนน 1 เลน(ทั้งหมด 2เลน) ทำให้รถต้องบีบตัวไปทางขวาและแล้วก็ทำให้รถติดค่ะ พอชิดซ้ายแม่ค้าต่างเดินเล่นบนถนน "เหมือนโลกนี้ไม่มีความตาย" อย่างสบายใจค่ะ
--------> เคสที่3. พอผ่านสะพานลอยมา ซ.ทำงานของดิฉันเองเจ้าค่ะคุณพระ ทางเข้าไม่ติดกำลังสองจิตสองใจจะเข้าดีไหม สรุป บอกพี่มอไซค์สุดหล่อ "ไม่ค่ะ" ไปพหล50 ทีเดียว เขาก็เถียงนะคะว่าอ้อม ดิฉันก็บอกว่า "อ้อมก็จ่ายค่ะคุณพี่" เขาก็ขำนะคะ อิอิ ค่ะเข้าเรื่อง ซ.พหลโยธิน52ขาเข้าไม่ติด ขาออกเนี่ยแย่งกันสุดฤทธิ์ แย่งออก จ่อตูด ตัดหน้า สวิงตัวเองออกมานี่เลยค่ะเลนสองแต่ไม่พ้น ทำไงคะ ก็โดนข้างหลังด่าเพิ่มรถติดอีกเป็นหลายเท่ารวมทั้งดิฉันด้วยค่ะ บริเวณนี้ขอขอบพระคุณแม่ค้า พ่อค้าคู่ขายทุกท่านนะคะ ระหว่างทางสะอาด พ่อค้าแม่ค้าไม่กินเลนถนน ดูปลอดภัยมากค่ะ
-------> เคสที่ 4. ครานี้ เพลานี้ จุดนี้ค่ะปัญหาสำคัญระดับชาติกันเลยทีเดียว "ป้ายรถเมล์ค่ะ" ถามว่าตลาดสะพานใหม่เนี่ย ยิ่งใหญ่ไพศาลจริงๆ แต่ขอถามอีกหน่อยค่ะฝั่งพหลขาเข้าเนี่ย
มีป้ายรถเมล์กี่ป้ายกันคะ สโรชินี อยากทราบสุดใจ
*เริ่มจากขอเรียกป้านยที่ตั้งชื่อเองนะคะ
A 1.นิติพลคลินิก
A 2ป้ายลอยหน้าร้านสังฆภัณฑ์ข้างๆเซเว่น
A 3.ป้ายลอยซอยโรงหนังเก่ากรุงสยามรามา
A 4.ป้ายลอยหน้าร้านเสริมสวย
A 5.ป้ายชั่วคราว(จอดรถจริง) หน้าร้านขายของใช่เครื่องครัว
ค่ะ เข้าเรื่องในเคสที่ 4 นะคะ เนื่องจากที่สะพานใหม่ขาเข้าติดเนี่ยสาเหตุหลักๆเลย "ผู้โดยสารมักง่าย" ค่ะ ถามมักง่ายอย่างไร นั่นสินะไปว่าเขาทำไม?
มาฟังกันเลยค่ะ เดิมตรงบริเวณหน้าร้านสังฆภัณฑ์จะเป็นป้ายรถเมล์ประจำได้ถูกถอดถอนเพื่อความสะดวกในการระบายการจราจรไปไว้ที่ หน้าร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะเพราะบริเวณนั้นกว้างกว่าและไม่ติดกับทางคนข้ามชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นค่ะ ถามว่าถ้าทุกคนเนี่ยทำตามกฎระเบียบจะดีไหม ตอบได้ค่ะ ช่วยได้เยอะเลย เยอะจริงๆแต่ที่ดิฉันเจอนะคะ มันแย่มากมายก่ายกองมโหราฬ เริ่มจากป้ายแรก A1*เมื่อมีคนยืนรอ พี่รถตู้ผู้ใจบุญก็มาจอดรับค่ะถามว่าขึ้นจนเต็มคันไหมคะ ตอบว่าไม่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นรู้ไหมคะ "ก็จอดแช่นะสิคะ" เมื่อเช้าจอดบริเวณนี้ 2 คนรถเมล์คันนึงเห็นท่าไม่ดีคงโมโหมั้ง บีบบบ แตรใส่จนทนไม่ไหวก็ต้องไป ถามว่าไปไหนคะ สถานีถัดไปมีระยะห่างไกลมากถึง 30 กว่าเมตร ป้าย A2* ค่ะ รอบนี้จอดกันเหมือนเดิม 2 คันและตรงนี้จะมีรถตู้มาจอดรับแบบพิเศษด้วยนะคะ(ขอไม่พูดถึง) และรถเมล์สาย ป.1009 ไม่เข้าใจค่ะ ทำไมไม่ไปจอดป้าย บีงง
ป้ายถัดไปอีกนะคะ A3* ก้ยังมาเออ ออ ยืนรอรถ รถ ขสมก. บอกเลยรถเมล์ไม่จอด มีมนุษย์ป้าคนนึงสบถออกมาว่า"ไอ้ "ที่นี่" ขับได้ ที่นี่มากทำไมไม่จอดวะ" เสียงคนด่ารถเมล์ที่ไม่จอดผมหันไปมองก็รู้สึกสงสารที่เขา"ไม่รู้ระเบียบกฎจราจร" แต่รถตู้ก็มาเออ ออ เหมือนเดิมค่ะ ถัดไปป้าย A4* หน้าร้านเสริมสวยเป็นจุดที่คนยืนรอเยอที่สุดเหตุผลเพราะคนส่วนมากทำความเข้าใจแล้วว่าตรงนี้เหมาะสม รถเมล์ก็จอดตรงนี้เพราะเห็นว่าคนเยอะ มี จนท.ชุดขาวจาก ขสมก มายืนคอยให้บริการค่ะแต่ถามว่าที่มาเนี่ยเสียเวลามากค่ะไม่เป็นประโยชน์ ดูเหมือนเขามีอำนาจในตนเองไม่พอในการจัดระเบียบป้ายรถค่ะ ถามว่ายังไง? หรอคะ รถตู้จอดแช่ก็ไม่ไปไล่ รถแท็กซี่จอดเลนรถเมล์ก็ไม่ไล่ เอาอะไรไม่รู้คะโบกๆรถเมล์ แค่นั้น ซึ่งถามว่าเกิดอะไรคะ รถตู้ไป BTS อนาถค่ะแช่สองสามคัน แต่รถสายอื่นไม่ค่อยแช่ค่ะเพราะส่วนใหญ่เต็มแล้วทั้งนั้นรถตู้บังช่องซ้าย แท็กซี่จ่อตูดรถตู้ รถเมล์จึงจำเป็นต้องกินเลนขวา จอดรับส่งผู้โดยสาร รถส่วนบุคคลนะเหรอ บอกเลย ทน ทน ทน ค่ะ และทนต่อไป (นำเจ้าหน้าที่ไปไว้ที่สำนักงานเถอะค่ะไม่มีประโยชน์) และป้ายสุดท้ายเป็นป้ายจริงๆที่ถูกจัดตั้งไว้ ก็คือป้าย A5*ไม่มีคนใช้ค่ะเพราะขยับไปใช้ป้ายตรงร้านเสริมสวย แต่ขอบอกค่ะทางเดินมีป้ายติดแล้วว่างดใช้ป้ายเดิมไปใช้ตรงไหนๆแต่ทำไม คนไทยเราไม่อ่านเลยคะ ยังทนยืนและด่ารถเมล์ทั้งๆที่เขาก็ทำถูกต้อง แต่เข้าใจนะคะว่าทำไมป้ายจริงถึงขยับมาไว้ที่หน้าร้านเสริมสวย
"เพราะความเห็นแก่ตัว" ของร้านขายของใช้ในครัวเรือน นำถังแก๊ส เตาแก๊สตั้งโชว์มาวางไว้บนฟุตบาทตรงเกือบขอบถนนค่ะ ตรงหน้าร้านก็มีแผงชั้นวางตั้งโชว์เตาแก๊สเลยมาหน้าร้านในบางวัน
จากนั้นถัดมาอีกก้จะเจอบิ๊กซีสะพานใหม่ค่ะ พหล 50 ถามว่าตรงนี้ติดอะไรหรอคะ บอกเลย ไฟแดงไงคะ รถมาจากสายไหม วัชรพล รามอินทราเป็นร้อยคันมาเพื่ออะไรไม่รู้รู้แค่ว่าเพื่อกลับรถตรงซอยสายหยุด พหลโยธิน48 ค่ะและรถจากสายไหมมาทางนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรจากแยก คปอ. ตรงนี้จะติดอนาถมากค่ะเพราะรถออกมาก้ซ้ายผ่านตลอดพอไฟเขียวถามสิคะรถทางขวางไปไม่ได้เลยคะเพราะต้องมารอรถจากทางขวา ส่วนรถที่จะเขาเลี้ยงซ้ายน้อยมากเลยค่ะ แทบจะไม่มี และบีก็เข้าซอยนี้ค่ะเพื่อลัดเข้าพหล52 ไปขับเคลื่อนงานให้กับที่ทำงานในโอกาสต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปการเดินทางครั้งนี้
1. ควรมีหน่วยงานมาปรับปรุงระบบจราจรบ้างนะคะ โดยเฉพาะทางแนกที่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเนี่ยควรปรับปรุง "เลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟ" เพื่อเอื้อเฟื้อให้ทุกฝ่ายได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
2.รถตู้โดยสารสาธารณะ ควรเลิกพฤติกรรมจอดแช่ได้แล้ว และควรจัดระเบียบนำมาอบรมและควรมีข้อกฎหมายมาควบคุมเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะมิเช่นนั้นความมักง่ายของคนครอบงำเมื่อไหร่ สิ่งแย่ๆจะเกิดขึ้นเมื่อนั้น
3.อบรมพนักงานที่มาดูแลตรงป้ายรถค่ะ อันดับแรกๆเลยไม่ได้มายืนโบกรถให้ผู้โดยสารนะคะ คุณมีอำนาจในมือใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ ให้ผู้ขับรถจอดแช่มักง่ายไล่ไปสิคะ ต้องกล้าพอค่ะ มันคือหน้าที่ (รวมทั้งจราจรที่มายืนด้วยนะคะควรทำ) ไม่ใช่พอรถตู้เปิดกระจกแล้วเอากระดาษแผ่นนึงให้ดูแล้วรีบถอยเนี่ยไม่เอานะคะ มันไม่มีศักดิ์ color อุ้ย(ลั่นพิมพ์ผิดขออภัย)
4.ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรมีน้ำใจด้วยค่ะ ไม่ใช่จะปาดไปปาดมา ป้าๆย่ายายตามมาเค้าก็ชะงักสิคะ ไปไม่ได้ จะกลับรถก้ออกมาเลนแรกก่อนไปเลนสองได้ไม่สร้างปัญหาก็ไป ไปไม่ได้อดทนไปกลับข้างหน้าสักนิดก็ปลอดภัยไกลหน่อยแต่ไม่สร้างภาระบนท้องถนนนะคะ ฝากไว้ด้วยเลย
5.คุณคู่ค้า คู่ขาย มีน้ำใจสักนิดนะคะ วางของไว้บนฟุตบาทก็เกินทนสำหรับคนเดินแล้ว บนถนนก็เก็บกวาดวางขยงขยะให้เป็นที่ก็เพียงพอแล้วรถหาที่จอดดีๆไม่กีดขวางก็น่าจะเพียงพอแล้วนะคะ
**********เห็นใจทุกคนเลยนะคะ ทั้งคนที่มีภาระขายของ คนที่มีภาระต้องทำงานเลี้ยงดุครอบครัว ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่ต้องทำเวลาทำยอด และผู้โดยสารส่วนตัวที่ต้องมีภาระรีบเร่ง อยากให้สร้างวัฒนธรรมน้ำใจที่ดีต่อกัน แบ่งปันกัน ถึงไม่ได้ช่วยให้รถหายติด แต่ก็บรรเทาไปได้บ้าง
และฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ อะไรทำได้ก็ทำ อย่ารีรอค่ะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ การเว้นวรรค และภาษาอาจผิดไปตักเตือนได้ค่ะ ขอบพระคุณมากๆ
ปัญหารถติดสะพานใหม่ (ขอระบายหน่อยนะคะ)
วันนี้บีก็เห็นว่าอากาศดีมากๆแทบไม่อยากตื่นลุกขึ้นจากเตียงประมาณ 05:00 เพื่อที่จะได้เดินทางจากบ้านของบีเอง โดยเริ่มต้นจากบ้านกลางค่ะ บ้านบีอยู่ในซอยวัดศาลเจ้า ปทุมธานี บีออกมายืนรอรถสาย บางกะดี - รังสิต เพื่อที่จะไปลงป้ายรถเมล์ รัตนโกสินทร์ 200ปีเพื่อยิงยาวไปสะพานใหม่ค่ะ วันนี้ถนนโล่ง คนน้อย บีก็ติ่นเร็วกว่าปกติ "บีมั่นใจว่าไม่สายค่ะ"
ขณะนั้นด้วยความที่รีบ บีก็รอรถเมล์สาย 522/39/34/185/503 เพื่อจะไปสะพานใหม่ค่ะแต่แล้วเหมือนรถเมล์จะช้า คนรอยืนออเต็มป้ายรถเมล์บีเลยตั้งใจเรียกแท็กซี่ค่ะก็แจ้งเขาว่าไปลงสะพานใหม่ ซอยพหลโยธิน 52
ขณะนั่งรถบีอารมณ์ดีมากคนขับก็เล่าเรื่องการทำขนมไทยให้บีฟังค่ะ บีก็สนใจนะคะเพราะบีชอบทำขนม ระหว่างเดินทางบีดีใจมากรถมาถึงเซียร์ก็ไม่ติด พอมาถึงแยก คปอ. ทางเข้าสายไหม ก็ไม่ติด บียิ่งดีใจวันนี้บีไม่สายแน่นอน ให้ตายสิ
แต่แล้วพอบีนั่งมาถึง รพ.ภูมิพลฯ รถก็เริ่มอืด ขณะนั้นมันก็แค่ 06:45 ค่าแท็กซี่ อยู่ที่ 95 บาทค่ะ และแล้วความอัดอั้นตันใจก็เริ่มขึ้นเมื่อรถแท็กซี่จอดแช่เพราะการจราจรติดขัด มันก็เพิ่มนาทีละ 2 บาทค่ะ เพิ่มไป เพิ่มไป รถขยับไปได้ทีละนิดและไม่รู้อะไรต่อมิอะไรทำให้มิเตอร์มันมีราคาที่ 152 บาทค่ะ
และแล้วก็เป็นช่วงเวลาท้าทาย ว่าจะทำงานสายหรือไม่ บีเลยลุ้นแทบหายใจไม่ออกค่ะ ขณะนั้น 07:30 แล้ว แค่ ครึ่งชั่วโมงบีจะโดนหักค่าขยันแน่นอนบีเริ่มจะหมดความอดทนแล้วค่ะ และแล้วรถก็แช่อยู่ จนมาดูอีกที 213 บาท ตาเถร!!! เหลือเวลาอีก 10 นาที บีจึงบอกพี่แท็กซี่ว่า ตอนนี้บีขอลงแล้วค่ะบีรอไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะคะ แล้วให้พี่แท็กซี่ไปจาก 217 เป็น 250 ค่ะ ทราบว่าแค่นี้ไม่พอหรอกค่ะแต่ทำไงได้งานเราก็สำคัญ บีเดินทางเท้าค่ะ มาเรื่อยๆจนเจอ มอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงปากซอย พหลโยธิน 54/1 แล้วไม่ได้เข้างานก่อนนะคะ อยากทราบจริงๆว่าเพราะอะไรทำไมถึงติด ด้วยความสงสัยจึงบอกมอไซค์ว่า ไปวิทยาลัยเทคฯ แต่ไปเข้าซอยพหลโยธิน50 ครับ มอไซค์ก็แจ้งราคา ถ้า พหล52 20 บาท / พหล 50 ขอ 35 บาทนะครับ **ค่ะยินดี
------- เริ่มต้นสำรวจปัญหาค่ะ บีเจอปัญหาเสื่อมโทรมมากๆของความมักง่าย ของความเห็นแก่ตัว ของผู้ใช้รถใช้ถนนบางคนดังนี้ค่ะ
-------> เคสที่ 1. บีแค่ขึ้นมอไซค์ก็พบปัญหาแรกเลยค่ะ ซ.พหลโยธิน 54/1 เป็นทางกลับรถ ปัจจุบันรถเหลือแค่ 2 ช่องทางจากการบีบแคบลงของการก่อสร้างรถไฟฟ้าค่ะ แต่คนที่ใจแคบคือ รถที่กำลังจะกลับและจะเข้าซอยตรงข้ามนี่สิคะ กินช่องขวามาเกือบครึ่งเลน ทำให้รถทางตรงไม่สามารถผ่านได้ต้องบีบตัวมาปาดเลนซ้ายทำให้ติดเพิ่มขึ้น และรถที่จะออกจากซอยก็แย่นิดนึงค่ะนึกจะออกก็เสียบหัวรถออกมา จ่อจนคันหลังออกไม่ได้เป็นการใช้รถใช้ถนนที่ควรปรับปรุงอย่างยิ่งยวด
-------> เคสที่ 2. พอรถกำลังลงสะพานข้ามคลองถนนค่ะจะเจอ ซ.พหลโยธิน54 ตรงนี้ถ้ามองผิวเผินก็ไม่ได้มีอะไร แต่ถ้ามองกันชัดๆโอ้พระเจ้าคิวรถตู้อยู่ข้างในค่ะ แต่เขาก็ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนเท่าไหร่นะคะแต่สิ่งที่เดือดร้อนคือเส้นทางแบบเฉียงทำให้รถออกมาจากซอยได้โดยแค่แหย่หน้ารถตัดหน้าแล้วจ่อท้ายคนอื่นคันอื่นก็ตามมาได้กันอย่างสบายใจ จนลืมความปลอดภัยของรถที่มาก่อนอาจจะเบรคไม่ทันถ้าขับไว
------------------> เคสที่ 2.1 ตรงระยะทางบริเวณ พหลโยธิน 54 ก็จะมีแม่ค้าที่น่ารักค่ะ นำอาหารมาขายและบางท่านก็กำลังเก็บโดยจะมาจอดรถ วางขยะ จอดรถเข็นกินเลนไป เศษ 3/4 ของถนน 1 เลน(ทั้งหมด 2เลน) ทำให้รถต้องบีบตัวไปทางขวาและแล้วก็ทำให้รถติดค่ะ พอชิดซ้ายแม่ค้าต่างเดินเล่นบนถนน "เหมือนโลกนี้ไม่มีความตาย" อย่างสบายใจค่ะ
--------> เคสที่3. พอผ่านสะพานลอยมา ซ.ทำงานของดิฉันเองเจ้าค่ะคุณพระ ทางเข้าไม่ติดกำลังสองจิตสองใจจะเข้าดีไหม สรุป บอกพี่มอไซค์สุดหล่อ "ไม่ค่ะ" ไปพหล50 ทีเดียว เขาก็เถียงนะคะว่าอ้อม ดิฉันก็บอกว่า "อ้อมก็จ่ายค่ะคุณพี่" เขาก็ขำนะคะ อิอิ ค่ะเข้าเรื่อง ซ.พหลโยธิน52ขาเข้าไม่ติด ขาออกเนี่ยแย่งกันสุดฤทธิ์ แย่งออก จ่อตูด ตัดหน้า สวิงตัวเองออกมานี่เลยค่ะเลนสองแต่ไม่พ้น ทำไงคะ ก็โดนข้างหลังด่าเพิ่มรถติดอีกเป็นหลายเท่ารวมทั้งดิฉันด้วยค่ะ บริเวณนี้ขอขอบพระคุณแม่ค้า พ่อค้าคู่ขายทุกท่านนะคะ ระหว่างทางสะอาด พ่อค้าแม่ค้าไม่กินเลนถนน ดูปลอดภัยมากค่ะ
-------> เคสที่ 4. ครานี้ เพลานี้ จุดนี้ค่ะปัญหาสำคัญระดับชาติกันเลยทีเดียว "ป้ายรถเมล์ค่ะ" ถามว่าตลาดสะพานใหม่เนี่ย ยิ่งใหญ่ไพศาลจริงๆ แต่ขอถามอีกหน่อยค่ะฝั่งพหลขาเข้าเนี่ย
*เริ่มจากขอเรียกป้านยที่ตั้งชื่อเองนะคะ
A 1.นิติพลคลินิก
A 2ป้ายลอยหน้าร้านสังฆภัณฑ์ข้างๆเซเว่น
A 3.ป้ายลอยซอยโรงหนังเก่ากรุงสยามรามา
A 4.ป้ายลอยหน้าร้านเสริมสวย
A 5.ป้ายชั่วคราว(จอดรถจริง) หน้าร้านขายของใช่เครื่องครัว
ค่ะ เข้าเรื่องในเคสที่ 4 นะคะ เนื่องจากที่สะพานใหม่ขาเข้าติดเนี่ยสาเหตุหลักๆเลย "ผู้โดยสารมักง่าย" ค่ะ ถามมักง่ายอย่างไร นั่นสินะไปว่าเขาทำไม?
มาฟังกันเลยค่ะ เดิมตรงบริเวณหน้าร้านสังฆภัณฑ์จะเป็นป้ายรถเมล์ประจำได้ถูกถอดถอนเพื่อความสะดวกในการระบายการจราจรไปไว้ที่ หน้าร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะเพราะบริเวณนั้นกว้างกว่าและไม่ติดกับทางคนข้ามชั่วคราวเพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นค่ะ ถามว่าถ้าทุกคนเนี่ยทำตามกฎระเบียบจะดีไหม ตอบได้ค่ะ ช่วยได้เยอะเลย เยอะจริงๆแต่ที่ดิฉันเจอนะคะ มันแย่มากมายก่ายกองมโหราฬ เริ่มจากป้ายแรก A1*เมื่อมีคนยืนรอ พี่รถตู้ผู้ใจบุญก็มาจอดรับค่ะถามว่าขึ้นจนเต็มคันไหมคะ ตอบว่าไม่ค่ะ เกิดอะไรขึ้นรู้ไหมคะ "ก็จอดแช่นะสิคะ" เมื่อเช้าจอดบริเวณนี้ 2 คนรถเมล์คันนึงเห็นท่าไม่ดีคงโมโหมั้ง บีบบบ แตรใส่จนทนไม่ไหวก็ต้องไป ถามว่าไปไหนคะ สถานีถัดไปมีระยะห่างไกลมากถึง 30 กว่าเมตร ป้าย A2* ค่ะ รอบนี้จอดกันเหมือนเดิม 2 คันและตรงนี้จะมีรถตู้มาจอดรับแบบพิเศษด้วยนะคะ(ขอไม่พูดถึง) และรถเมล์สาย ป.1009 ไม่เข้าใจค่ะ ทำไมไม่ไปจอดป้าย บีงง
ป้ายถัดไปอีกนะคะ A3* ก้ยังมาเออ ออ ยืนรอรถ รถ ขสมก. บอกเลยรถเมล์ไม่จอด มีมนุษย์ป้าคนนึงสบถออกมาว่า"ไอ้ "ที่นี่" ขับได้ ที่นี่มากทำไมไม่จอดวะ" เสียงคนด่ารถเมล์ที่ไม่จอดผมหันไปมองก็รู้สึกสงสารที่เขา"ไม่รู้ระเบียบกฎจราจร" แต่รถตู้ก็มาเออ ออ เหมือนเดิมค่ะ ถัดไปป้าย A4* หน้าร้านเสริมสวยเป็นจุดที่คนยืนรอเยอที่สุดเหตุผลเพราะคนส่วนมากทำความเข้าใจแล้วว่าตรงนี้เหมาะสม รถเมล์ก็จอดตรงนี้เพราะเห็นว่าคนเยอะ มี จนท.ชุดขาวจาก ขสมก มายืนคอยให้บริการค่ะแต่ถามว่าที่มาเนี่ยเสียเวลามากค่ะไม่เป็นประโยชน์ ดูเหมือนเขามีอำนาจในตนเองไม่พอในการจัดระเบียบป้ายรถค่ะ ถามว่ายังไง? หรอคะ รถตู้จอดแช่ก็ไม่ไปไล่ รถแท็กซี่จอดเลนรถเมล์ก็ไม่ไล่ เอาอะไรไม่รู้คะโบกๆรถเมล์ แค่นั้น ซึ่งถามว่าเกิดอะไรคะ รถตู้ไป BTS อนาถค่ะแช่สองสามคัน แต่รถสายอื่นไม่ค่อยแช่ค่ะเพราะส่วนใหญ่เต็มแล้วทั้งนั้นรถตู้บังช่องซ้าย แท็กซี่จ่อตูดรถตู้ รถเมล์จึงจำเป็นต้องกินเลนขวา จอดรับส่งผู้โดยสาร รถส่วนบุคคลนะเหรอ บอกเลย ทน ทน ทน ค่ะ และทนต่อไป (นำเจ้าหน้าที่ไปไว้ที่สำนักงานเถอะค่ะไม่มีประโยชน์) และป้ายสุดท้ายเป็นป้ายจริงๆที่ถูกจัดตั้งไว้ ก็คือป้าย A5*ไม่มีคนใช้ค่ะเพราะขยับไปใช้ป้ายตรงร้านเสริมสวย แต่ขอบอกค่ะทางเดินมีป้ายติดแล้วว่างดใช้ป้ายเดิมไปใช้ตรงไหนๆแต่ทำไม คนไทยเราไม่อ่านเลยคะ ยังทนยืนและด่ารถเมล์ทั้งๆที่เขาก็ทำถูกต้อง แต่เข้าใจนะคะว่าทำไมป้ายจริงถึงขยับมาไว้ที่หน้าร้านเสริมสวย
"เพราะความเห็นแก่ตัว" ของร้านขายของใช้ในครัวเรือน นำถังแก๊ส เตาแก๊สตั้งโชว์มาวางไว้บนฟุตบาทตรงเกือบขอบถนนค่ะ ตรงหน้าร้านก็มีแผงชั้นวางตั้งโชว์เตาแก๊สเลยมาหน้าร้านในบางวัน
จากนั้นถัดมาอีกก้จะเจอบิ๊กซีสะพานใหม่ค่ะ พหล 50 ถามว่าตรงนี้ติดอะไรหรอคะ บอกเลย ไฟแดงไงคะ รถมาจากสายไหม วัชรพล รามอินทราเป็นร้อยคันมาเพื่ออะไรไม่รู้รู้แค่ว่าเพื่อกลับรถตรงซอยสายหยุด พหลโยธิน48 ค่ะและรถจากสายไหมมาทางนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรจากแยก คปอ. ตรงนี้จะติดอนาถมากค่ะเพราะรถออกมาก้ซ้ายผ่านตลอดพอไฟเขียวถามสิคะรถทางขวางไปไม่ได้เลยคะเพราะต้องมารอรถจากทางขวา ส่วนรถที่จะเขาเลี้ยงซ้ายน้อยมากเลยค่ะ แทบจะไม่มี และบีก็เข้าซอยนี้ค่ะเพื่อลัดเข้าพหล52 ไปขับเคลื่อนงานให้กับที่ทำงานในโอกาสต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปการเดินทางครั้งนี้
1. ควรมีหน่วยงานมาปรับปรุงระบบจราจรบ้างนะคะ โดยเฉพาะทางแนกที่มีเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเนี่ยควรปรับปรุง "เลี้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟ" เพื่อเอื้อเฟื้อให้ทุกฝ่ายได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
2.รถตู้โดยสารสาธารณะ ควรเลิกพฤติกรรมจอดแช่ได้แล้ว และควรจัดระเบียบนำมาอบรมและควรมีข้อกฎหมายมาควบคุมเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะมิเช่นนั้นความมักง่ายของคนครอบงำเมื่อไหร่ สิ่งแย่ๆจะเกิดขึ้นเมื่อนั้น
3.อบรมพนักงานที่มาดูแลตรงป้ายรถค่ะ อันดับแรกๆเลยไม่ได้มายืนโบกรถให้ผู้โดยสารนะคะ คุณมีอำนาจในมือใช้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ ให้ผู้ขับรถจอดแช่มักง่ายไล่ไปสิคะ ต้องกล้าพอค่ะ มันคือหน้าที่ (รวมทั้งจราจรที่มายืนด้วยนะคะควรทำ) ไม่ใช่พอรถตู้เปิดกระจกแล้วเอากระดาษแผ่นนึงให้ดูแล้วรีบถอยเนี่ยไม่เอานะคะ มันไม่มีศักดิ์ color อุ้ย(ลั่นพิมพ์ผิดขออภัย)
4.ผู้ใช้รถใช้ถนนก็ควรมีน้ำใจด้วยค่ะ ไม่ใช่จะปาดไปปาดมา ป้าๆย่ายายตามมาเค้าก็ชะงักสิคะ ไปไม่ได้ จะกลับรถก้ออกมาเลนแรกก่อนไปเลนสองได้ไม่สร้างปัญหาก็ไป ไปไม่ได้อดทนไปกลับข้างหน้าสักนิดก็ปลอดภัยไกลหน่อยแต่ไม่สร้างภาระบนท้องถนนนะคะ ฝากไว้ด้วยเลย
5.คุณคู่ค้า คู่ขาย มีน้ำใจสักนิดนะคะ วางของไว้บนฟุตบาทก็เกินทนสำหรับคนเดินแล้ว บนถนนก็เก็บกวาดวางขยงขยะให้เป็นที่ก็เพียงพอแล้วรถหาที่จอดดีๆไม่กีดขวางก็น่าจะเพียงพอแล้วนะคะ
**********เห็นใจทุกคนเลยนะคะ ทั้งคนที่มีภาระขายของ คนที่มีภาระต้องทำงานเลี้ยงดุครอบครัว ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะที่ต้องทำเวลาทำยอด และผู้โดยสารส่วนตัวที่ต้องมีภาระรีบเร่ง อยากให้สร้างวัฒนธรรมน้ำใจที่ดีต่อกัน แบ่งปันกัน ถึงไม่ได้ช่วยให้รถหายติด แต่ก็บรรเทาไปได้บ้าง
และฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ อะไรทำได้ก็ทำ อย่ารีรอค่ะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ การเว้นวรรค และภาษาอาจผิดไปตักเตือนได้ค่ะ ขอบพระคุณมากๆ